ด้วยความชอบทาน "หมี่เย็น" เป็นชีวิตจิตใจ และเสียเงินให้กับร้านบะหมี่หมายเลข 8 อยู่ทุกอาทิตย์ จนรู้สึกว่าไม่ได้การล่ะ แบงค์ร้อยของฉันปลิวออกจากกระเป๋าสตางค์มานานร่วมปีละ แอบคิดในใจ "มันจะยากสักแค่ไหนเชียวการทำบะหมี่เย็นเนี้ย"
พูดตามตรง ก่อนจะลงมือทำ เราก็แอบหวั่นบ้างเหมือนกันนะ กล้าๆ กลัวอยู่หลายรอบ ด้วยความที่เป็นอาหารญี่ปุ่น และเราไม่คุ้นเคยกับวิธีการทำ นั่งกินที่ร้านมาเป็นปีๆ เชื่อไหมค่ะว่าทุกรอบที่เราทาน เราสงสัยมาตลอดเลยว่าไอ้น้ำดำๆ ที่เอาไว้ทานกับบะหมี่เนี้ย เขาใส่อะไรถึงทำน้ำได้ออกมารสชาติแบบนี้ เราพยายามทั้งชิมทั้งดมกลิ่น เพื่อที่จะอยากรู้ว่าเขาใส่อะไรลงไป และก็คิดเหมือนที่หลายคนอาจจะเคยคิดว่า...
สั่งบะหมี่เย็น ได้น้ำดำๆ มาถ้วยหนึ่ง กับบะหมี่ก้อนกระจุก รู้สึกไม่คุ้มเลยว่าม่ะ T T แต่มันอร่อยอ่ะ ห้ามใจไม่ได้ ไปทีไรต้องสั่งมาทานทุกที เหอๆ พอมาลงมือทำเองแล้วถึงรู้ว่า ไอ้น้ำดำๆ นั้นอ่ะ มันใส่หลายอย่างมาก มันเลยแพง
แต่เอาน่า ลองดูสักตั้ง ไม่ลองก็ไม่รู้ เดินตรงดิ่งเข้าซุปเปอร์มาเก็ต เจอขวดที่เขียนว่า "โซยุ" ใช้ทานกับเส้นโซบะ พลิกดูราคา มืออีกข้างยกขึ้นมาปาดเหงื่อแพร๊บ ฮ่าๆๆ นี่เรื่องจริง แพงหูฉี่ แฟนเดินเข้ามาพูดเบาๆ ที่ข้างหู "รู้ไหมว่าผมเคยเปิดอ่านวิธีการทำอาหารญี่ปุ่น แล้วอยากลองทำให้คุณทาน วันนี้คุณคงเข้าใจแล้วนะ ว่าทำไมผมถึงทำแต่อาหารไทย" อิฉันหันไปพยักหน้าให้แฟนอย่างช้าๆ "หงึก - - หงึก" พร้อมปลอบใจตัวเอง เอาน่า มาถึงที่แล้ว โพยในกระดาษที่จดมาว่าต้องซื้ออะไรก็มีหมดแล้ว ลองดูสักตั้ง สู้ๆ
หลังจากนั้นเราก็ตั้งหน้าตั้งตาหยิบๆๆๆๆ ทุกอย่างที่น่าจะทำให้น้ำหมี่เย็นอร่อย มืออีกข้างก็ถือเครื่องคิดเลข กดบวกๆๆ ไป คิดราคาไปมา เหลือบมองตัวเลขรวมแล้ว เออแหะ แพงจริง
แฟนอิฉันเดินตามมากรอกหูอีกรอบ "จะหัดทำจริงเหรอ (เสียงสูง) ซื้อไปทำมันไม่คุ้มหรอกน๊า ไปกินที่ร้านกันดีกว่า จ่ายไม่กี่บาท ได้ทานเลย แถมไม่เหนื่อยด้วย" อิฉันฟังแฟนพูดจบแล้วเริ่มคล้อยตามคำพูดเขา เริ่มสูดหายใจเข้าช้าๆ ตั้งสติใหม่ กางโพย แล้วมองในรถเข็น หยิบขวดน้ำปรุงแต่ละยี่ห้อมาอ่านส่วนผสม แล้วเลือกขวดที่คิดว่าเข้าเค้าสุด ส่วนขวดที่เหลือก็เก็บคืนชั้นไป ส่วนประกอบอื่นๆ ก็หาสิ่งที่น่าจะทดแทนกันได้ ไม่ต้องเหมือนออริจินัลหรอกเนอะ เกินกำลังเรา
คิดได้ดังนั้น ดิฉันก็ช้อปปิ้งอย่างเริงร่า ตัวเลขบนเครื่องคิดเลขลดลงมาถนัดตา ระหว่างช้อปปิ้งไปเลือกของไป ก็ไปเจอกับรุ่นพี่ที่ออฟฟิศแฟน พี่คนนี้เขาก็ชอบทานอาหารญี่ปุ่น และชอบทานหมี่เย็นเหมือนดิฉัน
เมื่อรุ่นพี่รู้ความจากปากแฟนหนุ่มของดิฉันว่ากำลังจะหัดทำหมี่เย็น คุณค่ะเชื่อไหม สายตาของรุ่นพี่คนนั้นมีประกายของความหวัง และความทึ่ง ที่ดิฉันจะหัดทำ มันประกายออกมาทางดวงตา "ยิบ - - ยิบ" คือรุ่นพี่คนนี้ก็สงสัยไม่ต่างจากดิฉัน ว่าไอ้เจ้าน้ำดำๆ ที่ทานคู่กับหมี่เย็นเนี้ย มันมีกรรมวิธีอะไร พร้อมกับหยิบเครื่องปรุงในรถเข็นของดิฉันไปพิจารณาดู
ก่อนจากกันพี่เขาก็พูดให้กำลังใจ พร้อมบอกว่า ถ้าเราทำสำเร็จ จดสูตรเก็บไว้ให้เขาบ้างนะ เขาจะไปลองทำ เรายิ้มตอบ และบอกพี่เขาว่า "จะพยายามค่ะ ถ้าอร่อยนะ พี่จะได้ชิมแน่นอน"
และแล้วก็ถึงขั้นตอนการลงมือทำ ส่วนประกอบที่ใช้มีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ
1.กระเทียม
2.หัวหอมใหญ่
3.ต้นหอมญี่ปุ่น (แต่เราขออนุญาตไม่ใช้นะคะ ราคาสูงไป ต้นหอมไทยบ้านเราทดแทนกันได้ค่ะ)
4.ปลาหมึกแห้ง ห่อนี้เราซื้อ 125 บ. มี 3 ตัว ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่ค่ะ แต่ถ้าใส่จะทำให้น้ำซุปหอมกลมกล่อม หรือจะใช้กุ้งแห้ง นำมาทุบๆ บุๆ ก็ใช้ได้เหมือนกันค่ะ
5.หัวไชเท้าขูดฝอย
จะฝนหัวไชเท้าให้เป็นฝอยได้ ก็ต้องไปซื้อเจ้านี่ค่ะ ที่ขูดหัวไชเทาในไดโซะ ร้าน 60 บ. ซึ่งมีหลายแบบให้เลือกมากมายหลายขนาด เราว่าแบบนี้ใหญ่ดี ฝนง่าย
6.เส้นโซบะ ห่อนี้เราซื้อมาจากท็อปส์ 90 บ. มั้งค่ะ จำราคาไม่ได้แน่นอน ในมาเก็ตวิลล่าหรือฟู้ดแลนด์ก็น่าจะมีขาย แต่โดยส่วนตัวหลังจากที่ได้ลองทำ ลองชิมแล้ว เราคิดว่า อยากทานเส้นอะไรก็ซื้อมาเถอะค่ะ ไม่จำเป็นต้องโซบะแท้จากญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะมันราคาสูงไป และเราว่าเลือกใช้เส้นเหลืองที่ผสมไข่ด้วย จะอร่อยกว่าเส้นน้ำตาล ครั้งหน้าเราว่าจะลองซื้อบะหมี่ไข่ห่อละ 35 บ. มาทำดู ได้อีกอารมณ์ ^^
7.ซุปไก่ก้อน 1 ก้อน อันนี้เราพลาดไปล่ะ เราะแนะนำว่าใช้ซุปรสเห็ดหอมก้อนดีกว่า เนื่องจากซุปไก่ทำให้น้ำดำๆของบะหมี่เย็นขึ้นไขค่ะเวลาที่เรานำไปแช่เย็นแล้วมาทาน ซุปไก่ใครจะไม่ใส่ก็ได้นะคะ แต่เราใส่เพราะอยากได้รสชาติเข้มข้นของน้ำซุป
8.น้ำปรุงรสโซยุ เราซื้อมา 3 แบบ
แบบแรกยี่ห้อ คิคุแมน (KIKKOMAN) 300 มล. แพงอยู่นะคะ ขวดละร้อยกว่าบาท ตอนซื้อลดราคาด้วย เดี๋ยวกลับไปดูบิลก่อน เก็บไว้ป่าวไม่รู้ ถ้ามีเดี๋ยวมาลงราคาให้ค่ะ ถามว่าทำไมเลือกขวดนี้มา คืออ่านส่วนผสมแล้ว มีมิรินด้วย เราเลยประหยัดไม่ต้องซื้อมิริน อีกอย่างคือกำลังลดราคา พิจารณาสีในขวดแล้ว น่าลอง สุดท้ายคือยี่ห้อนี้คุ้นหูสุด ด้วยประการฉะนี้เลยสอยมาค่ะ แต่หลังจากเปิดชิมแล้ว เราว่ารสอ่อนไปอ่ะ อ่อนถึงอ่อนมาก อาจเป็นเพราะเราชอบแบบเข้มข้นด้วยนะคะ ขวดนี้เราไม่ผ่านค่ะ
หลายคนที่ไม่คุ้นเคยกับอาหารญี่ปุ่นคงสงสัยว่า "มิริน" (Mirin) คืออะไร มิรินก็คือเหล้าหวานของญี่ปุ่นค่ะ ใช้เป็นส่วนผสมในการปรุงอาหาร หน้าตาแบบนี้ค่ะ (เครดิตภาพ : Ingredient@foodTravel.tv)
มิริน มีราคาสูงพอสมควรค่ะ ขวดนิดเดียว ในท็อปส์ขาย 159 บาท แต่เราไปเห็นในแมคโคร ขวดใหญ่กว่าอีก ยี่ห้อเดียวกันเลย ถูกกว่าเยอะ ราคาหลักร้อยต้นๆ
มาดูโซยุซอสขวดที่ 2 ที่สอยมาค่ะ แท่น แทน แท๊น... "น้ำซุปปลาแห้งเข้มข้น" ตราเอโร่ ราคารับได้เมื่อเทียบกับปริมาณ ขวดเบ้อเริ่ม ราคา 152 บ.แล้วทั้งหมดทั้งมวลบอกเลยว่าขวดนี้ขวดเดียวเอาอยู่ค่ะ รู้สึกเหมือนเจอแก่นของน้ำซุปแล้ว ไม่ต้องไปสรรหาซื้อยี่ห้อแพงๆ เลยค่ะ ขวดนี้ผ่าน! ถ้าใครจะลองทำหมี่เย็นซื้อขวดนี้ขวดเดียวเลยค่ะ เอาอยู่จริงๆ
ต่อไปขวดที่ 3 ชื่อ "อาซาฮี เมนซึยุ ซอส" อันนี้เราอ่านข้างขวด แล้วเขาบอกทานกับเส้นโซบะเย็นได้ เราเลยซื้อมาลอง และมันก็ไม่แพงด้วย หาซื้อได้ในแมคโครค่ะ ราคาน่าจะ 115 บ. (ขวดนี้เรากะจะสอยมาทำราเมนทานค่ะ ไม่ได้ตั้งใจใส่ในหมี่เย็น แต่ใส่แล้วก็รสชาติดีค่ะ)
วิธีการทำ
1.ใส่น้ำลงในหม้อ 1 ลิตร ตั้งไฟกลางๆ
2.ใส่กระเทียมทุบลงไปสัก 5-6 กลีบ ถ้าใครมีรากผักชี ก็ล้างให้สะอาด เอาแต่ราก บุนิดหน่อย จะช่วยให้น้ำแกงมีกลิ่นหอมค่ะ
3.ใส่หอมหัวใหญ่ลงไป 1 ลูกค่ะ หั่นแบบในภาพ (ขอโทษนะคะเขียงไม่น่ามอง แหะๆ)
4.จากนั้นรอจนน้ำเดือด แล้วใส่ซุปไก่ก้อนลงไป 1 ก้อนค่ะ ตามด้วยปลาหมึกแห้งหั่นเป็นเส้นๆ ตามรูป
5.ทีนี้ก็มาปรุงรสชาติกัน รสชาติของน้ำจิ้มหมี่เย็นควรจะต้องออกรสชาติเข้มข้นหน่อยนะคะ เวลาทานกับหมี่จะพอดีกัน เริ่มด้วยใส่พระเอกของเราเลยค่ะ "น้ำซุปปลาแห้งเข้มข้น" ตราเอโร่ 1 ตะบวยครึ่ง ด้วยเหตุที่เราซื้อน้ำโซยุยี่ห้ออื่นมาด้วยเราเลยใส่สัดส่วนเท่านี้ หากเราใส่แต่น้ำซุปปลาแห้งเอโร่อย่างเดียว เราว่าใส่สัก 2 ตะบวย กำลังดีค่ะ หรือไม่ก็ลองชิมดูก็ได้ค่ะ ใส่ 1 ตะบวยครึ่งก่อน ถ้ายังไม่จัดจ้านก็เพิ่มอีกครึ่งตะบวย
จากนั้นเราก็ใส่ของยี่ห้อคิคุเมน 1 ตะบวยครึ่ง - 2 ตะบวย ซื้อมาแล้วนี่เนอะ เสียของใส่ซะหน่อย เวลาใส่ ค่อยๆ ใส่นะคะ แล้วชิม
6.จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ อันนี้ลองชิมดูก็ได้นะคะ ถ้าไม่พอก็เพิ่มหรือลดได้ตามแต่จะชอบกันค่ะ แล้วเราก็ไปค้นๆ ในตู้เย็น เจอซอสตัวนี้ หิ้วมาจากฮ่องกง ฮ่าๆ ขยันหอบเนอะ ในเมืองไทยก็มีขายค่ะ มันก็คือซีอิ๋วญี่ปุ่นนี่ล่ะค่ะ จริงๆ ใช้ซีอิ๋วขาวตราเด็กสมบูรณ์ปรุงรสก็ได้นะคะ ไม่แพงด้วย แต่สัดส่วนการใส่ต้องชิมนะคะ ใส่ไปชิมไป ไม่ใช่ใส่ 1 ตะบวยรวดนะคะเค็มแย่ ซอสที่หอบมาจากฮ่องกง ใส่ลงไป 1/2-1 ตะบวย
จากนั้นหันรีหันขวา หยิบเจ้า "อาซาฮี เมนซึยุ ซอส" มาใส่สักหน่อย จริงๆ ตัวนี้กะซื้อมาทำราเมน แต่เอาน่า ซื้อมาแล้วจัดไป อย่าให้เสียของ อีก 1/2-1 ตะบวย
7. จากนั้นคนๆ ให้เข้ากัน ปิดไฟได้ค่ะ รอให้หายร้อน แล้วนำไปแช่เย็น เป็นอันเสร็จล่ะ น้ำดำๆ ใช้จิ้มกับหมี่เย็น จากนั้นก็มาต้มเส้นกันค่ะ
การต้มเส้นโซบะ
1.ใส่น้ำในกระทะ หรือในหม้อ รอจนน้ำเดือด ใส่เส้นโซบะลงไป
2.ต้มประมาณ 7-8 นาที ลองชิมเส้นดูค่ะ ถ้านิ่มก็ตักขึ้นเลย เดี๋ยวเละ แล้วล้างน้ำเย็น สะเด็ดให้เส้นแห้ง ใส่จาน
ทีนี้มาถึงตอนจะเสิร์ฟความอร่อยล่ะนะ ในส่วนของน้ำจิ้มก็เตรียม...
1.ไชเท้าขูดฝอยแช่เย็น
2.ต้นหอมหั่นซอย
3.วาซาบิ (หาซื้อได้ตามห้างทั่วไปค่ะ)
สำหรับเส้นหมี่เย็น จัดใส่จานแล้ว ก็มีเครื่องเคียงนิดหน่อยพออร่อย ใครอยากทานอะไรก็จัดไปนะคะ เราใส่แตงกวาหั่นเป็นเส้นๆ กับแฮมหั่นบางๆ แบบนี้ค่ะ
แท่น แทน แท๊น ... เสร็จแล้ว "หมี่เย็น" ที่เราเพียรตั้งใจทำ สมใจอยากล่ะทีนี้ หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ
จัดจานทานคู่กับเกี๊ยวกุ้ง เกี๋ยวกุ้งเราซื้อที่แมคโครค่ะ ห่อละ 115 บ. มี 20 ตัว ห่อใสๆ แบบนี้นานๆ เจอที แล้วก็มีอีกแบบนะคะยี่ห้อเดียวกัน ห่อละ 125 บ. มี 25 ตัว ไม่เข้าใจทำไมทำออกมา 2 แบบ
ทีนี้สำหรับบางคนที่ไม่อยากมานั่งจัดจานให้ต้องล้างมากมาย ก็ใส่ทุกอย่างลงไปในชามเดียวกันแบบนี้ได้ อร่อยเหมือนกันค่ะ โรยหน้าด้วยงาขาวเพื่อเพิ่มความหอม กับสาหร่ายหั่นฝอย ซึ่งในภาพเราลืมโรย สาหร่ายเราซื้อห่อเล็กใน 7-11 ห่อละ 10 บ. ของเถ้าแก่น้อย เอามาใช้แทนกันได้เหมือนกันค่ะ
หลังจากชิมรสชาติแล้ว แฟนบอกผ่านค่ะ เราชิมก็ว่าโอนะคะ ก่อนลงมือทำ แฟนปลอบใจเพราะเห็นซื้อเครื่องปรุงมาเยอะแยะ ถ้าทำแล้วไม่ผ่าน แฟนบอกก็เก็บไว้ใส่อาหารอื่นๆ กัน
ฝากให้เพื่อนๆ ที่อยากลองทำอาหารญี่ปุ่นไปหัดทำกันนะคะ เผื่อมีสูตรอื่น หรือเคล็ดลับอื่น ลองมาแชร์กันได้ค่ะ ยินดีเสมอ สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ ^^
[CR] เข้าครัว มาลองหัดทำ "หมี่เย็น" ทานกันเถอะ ^^
พูดตามตรง ก่อนจะลงมือทำ เราก็แอบหวั่นบ้างเหมือนกันนะ กล้าๆ กลัวอยู่หลายรอบ ด้วยความที่เป็นอาหารญี่ปุ่น และเราไม่คุ้นเคยกับวิธีการทำ นั่งกินที่ร้านมาเป็นปีๆ เชื่อไหมค่ะว่าทุกรอบที่เราทาน เราสงสัยมาตลอดเลยว่าไอ้น้ำดำๆ ที่เอาไว้ทานกับบะหมี่เนี้ย เขาใส่อะไรถึงทำน้ำได้ออกมารสชาติแบบนี้ เราพยายามทั้งชิมทั้งดมกลิ่น เพื่อที่จะอยากรู้ว่าเขาใส่อะไรลงไป และก็คิดเหมือนที่หลายคนอาจจะเคยคิดว่า...
สั่งบะหมี่เย็น ได้น้ำดำๆ มาถ้วยหนึ่ง กับบะหมี่ก้อนกระจุก รู้สึกไม่คุ้มเลยว่าม่ะ T T แต่มันอร่อยอ่ะ ห้ามใจไม่ได้ ไปทีไรต้องสั่งมาทานทุกที เหอๆ พอมาลงมือทำเองแล้วถึงรู้ว่า ไอ้น้ำดำๆ นั้นอ่ะ มันใส่หลายอย่างมาก มันเลยแพง
แต่เอาน่า ลองดูสักตั้ง ไม่ลองก็ไม่รู้ เดินตรงดิ่งเข้าซุปเปอร์มาเก็ต เจอขวดที่เขียนว่า "โซยุ" ใช้ทานกับเส้นโซบะ พลิกดูราคา มืออีกข้างยกขึ้นมาปาดเหงื่อแพร๊บ ฮ่าๆๆ นี่เรื่องจริง แพงหูฉี่ แฟนเดินเข้ามาพูดเบาๆ ที่ข้างหู "รู้ไหมว่าผมเคยเปิดอ่านวิธีการทำอาหารญี่ปุ่น แล้วอยากลองทำให้คุณทาน วันนี้คุณคงเข้าใจแล้วนะ ว่าทำไมผมถึงทำแต่อาหารไทย" อิฉันหันไปพยักหน้าให้แฟนอย่างช้าๆ "หงึก - - หงึก" พร้อมปลอบใจตัวเอง เอาน่า มาถึงที่แล้ว โพยในกระดาษที่จดมาว่าต้องซื้ออะไรก็มีหมดแล้ว ลองดูสักตั้ง สู้ๆ
หลังจากนั้นเราก็ตั้งหน้าตั้งตาหยิบๆๆๆๆ ทุกอย่างที่น่าจะทำให้น้ำหมี่เย็นอร่อย มืออีกข้างก็ถือเครื่องคิดเลข กดบวกๆๆ ไป คิดราคาไปมา เหลือบมองตัวเลขรวมแล้ว เออแหะ แพงจริง
แฟนอิฉันเดินตามมากรอกหูอีกรอบ "จะหัดทำจริงเหรอ (เสียงสูง) ซื้อไปทำมันไม่คุ้มหรอกน๊า ไปกินที่ร้านกันดีกว่า จ่ายไม่กี่บาท ได้ทานเลย แถมไม่เหนื่อยด้วย" อิฉันฟังแฟนพูดจบแล้วเริ่มคล้อยตามคำพูดเขา เริ่มสูดหายใจเข้าช้าๆ ตั้งสติใหม่ กางโพย แล้วมองในรถเข็น หยิบขวดน้ำปรุงแต่ละยี่ห้อมาอ่านส่วนผสม แล้วเลือกขวดที่คิดว่าเข้าเค้าสุด ส่วนขวดที่เหลือก็เก็บคืนชั้นไป ส่วนประกอบอื่นๆ ก็หาสิ่งที่น่าจะทดแทนกันได้ ไม่ต้องเหมือนออริจินัลหรอกเนอะ เกินกำลังเรา
คิดได้ดังนั้น ดิฉันก็ช้อปปิ้งอย่างเริงร่า ตัวเลขบนเครื่องคิดเลขลดลงมาถนัดตา ระหว่างช้อปปิ้งไปเลือกของไป ก็ไปเจอกับรุ่นพี่ที่ออฟฟิศแฟน พี่คนนี้เขาก็ชอบทานอาหารญี่ปุ่น และชอบทานหมี่เย็นเหมือนดิฉัน
เมื่อรุ่นพี่รู้ความจากปากแฟนหนุ่มของดิฉันว่ากำลังจะหัดทำหมี่เย็น คุณค่ะเชื่อไหม สายตาของรุ่นพี่คนนั้นมีประกายของความหวัง และความทึ่ง ที่ดิฉันจะหัดทำ มันประกายออกมาทางดวงตา "ยิบ - - ยิบ" คือรุ่นพี่คนนี้ก็สงสัยไม่ต่างจากดิฉัน ว่าไอ้เจ้าน้ำดำๆ ที่ทานคู่กับหมี่เย็นเนี้ย มันมีกรรมวิธีอะไร พร้อมกับหยิบเครื่องปรุงในรถเข็นของดิฉันไปพิจารณาดู
ก่อนจากกันพี่เขาก็พูดให้กำลังใจ พร้อมบอกว่า ถ้าเราทำสำเร็จ จดสูตรเก็บไว้ให้เขาบ้างนะ เขาจะไปลองทำ เรายิ้มตอบ และบอกพี่เขาว่า "จะพยายามค่ะ ถ้าอร่อยนะ พี่จะได้ชิมแน่นอน"
และแล้วก็ถึงขั้นตอนการลงมือทำ ส่วนประกอบที่ใช้มีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ
1.กระเทียม
2.หัวหอมใหญ่
3.ต้นหอมญี่ปุ่น (แต่เราขออนุญาตไม่ใช้นะคะ ราคาสูงไป ต้นหอมไทยบ้านเราทดแทนกันได้ค่ะ)
4.ปลาหมึกแห้ง ห่อนี้เราซื้อ 125 บ. มี 3 ตัว ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่ค่ะ แต่ถ้าใส่จะทำให้น้ำซุปหอมกลมกล่อม หรือจะใช้กุ้งแห้ง นำมาทุบๆ บุๆ ก็ใช้ได้เหมือนกันค่ะ
5.หัวไชเท้าขูดฝอย
จะฝนหัวไชเท้าให้เป็นฝอยได้ ก็ต้องไปซื้อเจ้านี่ค่ะ ที่ขูดหัวไชเทาในไดโซะ ร้าน 60 บ. ซึ่งมีหลายแบบให้เลือกมากมายหลายขนาด เราว่าแบบนี้ใหญ่ดี ฝนง่าย
6.เส้นโซบะ ห่อนี้เราซื้อมาจากท็อปส์ 90 บ. มั้งค่ะ จำราคาไม่ได้แน่นอน ในมาเก็ตวิลล่าหรือฟู้ดแลนด์ก็น่าจะมีขาย แต่โดยส่วนตัวหลังจากที่ได้ลองทำ ลองชิมแล้ว เราคิดว่า อยากทานเส้นอะไรก็ซื้อมาเถอะค่ะ ไม่จำเป็นต้องโซบะแท้จากญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะมันราคาสูงไป และเราว่าเลือกใช้เส้นเหลืองที่ผสมไข่ด้วย จะอร่อยกว่าเส้นน้ำตาล ครั้งหน้าเราว่าจะลองซื้อบะหมี่ไข่ห่อละ 35 บ. มาทำดู ได้อีกอารมณ์ ^^
7.ซุปไก่ก้อน 1 ก้อน อันนี้เราพลาดไปล่ะ เราะแนะนำว่าใช้ซุปรสเห็ดหอมก้อนดีกว่า เนื่องจากซุปไก่ทำให้น้ำดำๆของบะหมี่เย็นขึ้นไขค่ะเวลาที่เรานำไปแช่เย็นแล้วมาทาน ซุปไก่ใครจะไม่ใส่ก็ได้นะคะ แต่เราใส่เพราะอยากได้รสชาติเข้มข้นของน้ำซุป
8.น้ำปรุงรสโซยุ เราซื้อมา 3 แบบ
แบบแรกยี่ห้อ คิคุแมน (KIKKOMAN) 300 มล. แพงอยู่นะคะ ขวดละร้อยกว่าบาท ตอนซื้อลดราคาด้วย เดี๋ยวกลับไปดูบิลก่อน เก็บไว้ป่าวไม่รู้ ถ้ามีเดี๋ยวมาลงราคาให้ค่ะ ถามว่าทำไมเลือกขวดนี้มา คืออ่านส่วนผสมแล้ว มีมิรินด้วย เราเลยประหยัดไม่ต้องซื้อมิริน อีกอย่างคือกำลังลดราคา พิจารณาสีในขวดแล้ว น่าลอง สุดท้ายคือยี่ห้อนี้คุ้นหูสุด ด้วยประการฉะนี้เลยสอยมาค่ะ แต่หลังจากเปิดชิมแล้ว เราว่ารสอ่อนไปอ่ะ อ่อนถึงอ่อนมาก อาจเป็นเพราะเราชอบแบบเข้มข้นด้วยนะคะ ขวดนี้เราไม่ผ่านค่ะ
หลายคนที่ไม่คุ้นเคยกับอาหารญี่ปุ่นคงสงสัยว่า "มิริน" (Mirin) คืออะไร มิรินก็คือเหล้าหวานของญี่ปุ่นค่ะ ใช้เป็นส่วนผสมในการปรุงอาหาร หน้าตาแบบนี้ค่ะ (เครดิตภาพ : Ingredient@foodTravel.tv)
มิริน มีราคาสูงพอสมควรค่ะ ขวดนิดเดียว ในท็อปส์ขาย 159 บาท แต่เราไปเห็นในแมคโคร ขวดใหญ่กว่าอีก ยี่ห้อเดียวกันเลย ถูกกว่าเยอะ ราคาหลักร้อยต้นๆ
มาดูโซยุซอสขวดที่ 2 ที่สอยมาค่ะ แท่น แทน แท๊น... "น้ำซุปปลาแห้งเข้มข้น" ตราเอโร่ ราคารับได้เมื่อเทียบกับปริมาณ ขวดเบ้อเริ่ม ราคา 152 บ.แล้วทั้งหมดทั้งมวลบอกเลยว่าขวดนี้ขวดเดียวเอาอยู่ค่ะ รู้สึกเหมือนเจอแก่นของน้ำซุปแล้ว ไม่ต้องไปสรรหาซื้อยี่ห้อแพงๆ เลยค่ะ ขวดนี้ผ่าน! ถ้าใครจะลองทำหมี่เย็นซื้อขวดนี้ขวดเดียวเลยค่ะ เอาอยู่จริงๆ
ต่อไปขวดที่ 3 ชื่อ "อาซาฮี เมนซึยุ ซอส" อันนี้เราอ่านข้างขวด แล้วเขาบอกทานกับเส้นโซบะเย็นได้ เราเลยซื้อมาลอง และมันก็ไม่แพงด้วย หาซื้อได้ในแมคโครค่ะ ราคาน่าจะ 115 บ. (ขวดนี้เรากะจะสอยมาทำราเมนทานค่ะ ไม่ได้ตั้งใจใส่ในหมี่เย็น แต่ใส่แล้วก็รสชาติดีค่ะ)
วิธีการทำ
1.ใส่น้ำลงในหม้อ 1 ลิตร ตั้งไฟกลางๆ
2.ใส่กระเทียมทุบลงไปสัก 5-6 กลีบ ถ้าใครมีรากผักชี ก็ล้างให้สะอาด เอาแต่ราก บุนิดหน่อย จะช่วยให้น้ำแกงมีกลิ่นหอมค่ะ
3.ใส่หอมหัวใหญ่ลงไป 1 ลูกค่ะ หั่นแบบในภาพ (ขอโทษนะคะเขียงไม่น่ามอง แหะๆ)
4.จากนั้นรอจนน้ำเดือด แล้วใส่ซุปไก่ก้อนลงไป 1 ก้อนค่ะ ตามด้วยปลาหมึกแห้งหั่นเป็นเส้นๆ ตามรูป
5.ทีนี้ก็มาปรุงรสชาติกัน รสชาติของน้ำจิ้มหมี่เย็นควรจะต้องออกรสชาติเข้มข้นหน่อยนะคะ เวลาทานกับหมี่จะพอดีกัน เริ่มด้วยใส่พระเอกของเราเลยค่ะ "น้ำซุปปลาแห้งเข้มข้น" ตราเอโร่ 1 ตะบวยครึ่ง ด้วยเหตุที่เราซื้อน้ำโซยุยี่ห้ออื่นมาด้วยเราเลยใส่สัดส่วนเท่านี้ หากเราใส่แต่น้ำซุปปลาแห้งเอโร่อย่างเดียว เราว่าใส่สัก 2 ตะบวย กำลังดีค่ะ หรือไม่ก็ลองชิมดูก็ได้ค่ะ ใส่ 1 ตะบวยครึ่งก่อน ถ้ายังไม่จัดจ้านก็เพิ่มอีกครึ่งตะบวย
จากนั้นเราก็ใส่ของยี่ห้อคิคุเมน 1 ตะบวยครึ่ง - 2 ตะบวย ซื้อมาแล้วนี่เนอะ เสียของใส่ซะหน่อย เวลาใส่ ค่อยๆ ใส่นะคะ แล้วชิม
6.จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ อันนี้ลองชิมดูก็ได้นะคะ ถ้าไม่พอก็เพิ่มหรือลดได้ตามแต่จะชอบกันค่ะ แล้วเราก็ไปค้นๆ ในตู้เย็น เจอซอสตัวนี้ หิ้วมาจากฮ่องกง ฮ่าๆ ขยันหอบเนอะ ในเมืองไทยก็มีขายค่ะ มันก็คือซีอิ๋วญี่ปุ่นนี่ล่ะค่ะ จริงๆ ใช้ซีอิ๋วขาวตราเด็กสมบูรณ์ปรุงรสก็ได้นะคะ ไม่แพงด้วย แต่สัดส่วนการใส่ต้องชิมนะคะ ใส่ไปชิมไป ไม่ใช่ใส่ 1 ตะบวยรวดนะคะเค็มแย่ ซอสที่หอบมาจากฮ่องกง ใส่ลงไป 1/2-1 ตะบวย
จากนั้นหันรีหันขวา หยิบเจ้า "อาซาฮี เมนซึยุ ซอส" มาใส่สักหน่อย จริงๆ ตัวนี้กะซื้อมาทำราเมน แต่เอาน่า ซื้อมาแล้วจัดไป อย่าให้เสียของ อีก 1/2-1 ตะบวย
7. จากนั้นคนๆ ให้เข้ากัน ปิดไฟได้ค่ะ รอให้หายร้อน แล้วนำไปแช่เย็น เป็นอันเสร็จล่ะ น้ำดำๆ ใช้จิ้มกับหมี่เย็น จากนั้นก็มาต้มเส้นกันค่ะ
การต้มเส้นโซบะ
1.ใส่น้ำในกระทะ หรือในหม้อ รอจนน้ำเดือด ใส่เส้นโซบะลงไป
2.ต้มประมาณ 7-8 นาที ลองชิมเส้นดูค่ะ ถ้านิ่มก็ตักขึ้นเลย เดี๋ยวเละ แล้วล้างน้ำเย็น สะเด็ดให้เส้นแห้ง ใส่จาน
ทีนี้มาถึงตอนจะเสิร์ฟความอร่อยล่ะนะ ในส่วนของน้ำจิ้มก็เตรียม...
1.ไชเท้าขูดฝอยแช่เย็น
2.ต้นหอมหั่นซอย
3.วาซาบิ (หาซื้อได้ตามห้างทั่วไปค่ะ)
สำหรับเส้นหมี่เย็น จัดใส่จานแล้ว ก็มีเครื่องเคียงนิดหน่อยพออร่อย ใครอยากทานอะไรก็จัดไปนะคะ เราใส่แตงกวาหั่นเป็นเส้นๆ กับแฮมหั่นบางๆ แบบนี้ค่ะ
แท่น แทน แท๊น ... เสร็จแล้ว "หมี่เย็น" ที่เราเพียรตั้งใจทำ สมใจอยากล่ะทีนี้ หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ
จัดจานทานคู่กับเกี๊ยวกุ้ง เกี๋ยวกุ้งเราซื้อที่แมคโครค่ะ ห่อละ 115 บ. มี 20 ตัว ห่อใสๆ แบบนี้นานๆ เจอที แล้วก็มีอีกแบบนะคะยี่ห้อเดียวกัน ห่อละ 125 บ. มี 25 ตัว ไม่เข้าใจทำไมทำออกมา 2 แบบ
ทีนี้สำหรับบางคนที่ไม่อยากมานั่งจัดจานให้ต้องล้างมากมาย ก็ใส่ทุกอย่างลงไปในชามเดียวกันแบบนี้ได้ อร่อยเหมือนกันค่ะ โรยหน้าด้วยงาขาวเพื่อเพิ่มความหอม กับสาหร่ายหั่นฝอย ซึ่งในภาพเราลืมโรย สาหร่ายเราซื้อห่อเล็กใน 7-11 ห่อละ 10 บ. ของเถ้าแก่น้อย เอามาใช้แทนกันได้เหมือนกันค่ะ
หลังจากชิมรสชาติแล้ว แฟนบอกผ่านค่ะ เราชิมก็ว่าโอนะคะ ก่อนลงมือทำ แฟนปลอบใจเพราะเห็นซื้อเครื่องปรุงมาเยอะแยะ ถ้าทำแล้วไม่ผ่าน แฟนบอกก็เก็บไว้ใส่อาหารอื่นๆ กัน
ฝากให้เพื่อนๆ ที่อยากลองทำอาหารญี่ปุ่นไปหัดทำกันนะคะ เผื่อมีสูตรอื่น หรือเคล็ดลับอื่น ลองมาแชร์กันได้ค่ะ ยินดีเสมอ สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ ^^