Mizu สเต๊กร้านเก่าแก่น่าจะประมาณ 50 ปีมาได้แล้ว ในซอยพัฒน์พงศ์
เจ้าของเป็นลุงชาวญี่ปุ่น ปัจจุบันให้ลูกสาวบริหารต่อ .. คร่าวๆประมาณนี้
วันก่อนรุ่นน้องมันไปก่อนเวลาร้านยังไม่เปิด เลยชวนกลับไปล้างตากันไปนั่งรอร้านเปิดกันเลยทีเดียวครับ
(ร้านเปิด 12.00 - 23.30 ) ไม่มีวันหยุดครับ
ร้านอยู่ในซอยพัฒน์พงศ์ เดินเข้าไป เลย Tip Top ไปนิดร้านอยู่ซ้ายมือครับ
มานั่งรอกันก่อน ร้านเก่าเลยคำว่าคลาสสิคไปนิด ..
ร้านนี้อาจจะเลยช่วงรุ่งเรืองสุดๆไปแล้ว ตอนนี้เหมือนประคองตัวไปเรื่อยๆครับ
บรรยากาศ อย่างไงก็อย่างนั้น
เมนู ... บางเมนูเลิกทำไปแล้วครับ ต้องถามก่อนนะ (หางวัวไม่มีแระ)
สั่งสาริกาสเต๊กไป 2 จาน
สลัดกับขนมปัง จะมาเสิร์ฟให้ก่อนอยู่ในชุดครับ
สลัดผัดสดดีครับ น้ำสลัดใสเปรี้ยว ขนมปังอิตาเลี่ยนและเนยโอเค กินรองท้องได้สบายครับ
ร้านค่อนข้างมืดแสงเหลืองปราบเซียนจริงๆครับ
จานแรกมาเสิร์ฟก่อนคือ สตูลิ้นวัว
ผมชอบร้านนี้ตรงที่จานหลักมี มันบดและผักขมมาด้วยตลอด
ลิ้นนุ่ม หั่นมากลางๆ ไม่หนา ไม่บางแต่ใหญ่เต็มๆ (เทียบจากส้อม) 3 ชิ้นเต็มๆ
น้ำสตูเปรี้ยว หวานกำลังพอดีครับ มันบดและผักโขมรสชาติดีครับ
แป๊ปเดียวเสียงซู่ซ่าก็ดังมาจากหลังม่าน
เจ๊แกเทแบบไม่ทันตั้งตัว โฟกัสหลุดกระจุย ผมให้เทอีกโต๊ะนึง กันกระเด็นด้วยครับ 55
สาริกาสเต๊ก ซิกเนเจอร์ของร้านนี้ เนื้อขนาดประมาณ 200 กรัม ไม่ใหญ่ ไม่โต
เสิร์ฟพร้อมมันบดและผักโขมเช่นเดิมครับ
พวกผมสั่งกันแบบมีเดียมครับ
เนื้อหนานุ่มเคี้ยวง่าย หอมน้ำราดสาริกาที่ราดมา
น้ำราดออกเค็มนำ หวานตาม ฉ่าๆ สะใจครับ ไม่ได้ใช้เครื่องปรุงบนโต๊ะเลย
อีกจานที่ไม่สั่งไม่ได้ คือ กราแตง หรือ มะกะโรนีอบชีสครับ (แต่ก่อนไม่ได้เสิร์ฟแบบนี้)
มะกะโรนีผัดมาก่อน โดยมาโรสชีสตอนหลังแล้วเอาไปอบอีกรอบให้เหลือง
รสชาติดี นัวๆ หอมชีส เข้มข้น
ค่าเสียหายตามบิล
ส่วนตัวว่ารสชาติอาหารดี แต่เค้าว่าดรอปลงกว่าสมัยลุงดูแลเยอะ
ช่วงนี้พัฒน์พงศ์ไม่คึกคักเหมือนแต่ก่อน ร้านหลายๆร้านล้มหายตายจากไป
ส่วนร้านนี้อาจอยู่ได้เพราะลูกค้าเก่า หรือปากต่อปากชวนกันมากิน
และนักท่องเที่ยวต่างชาติและญี่ปุ่นจะเยอะช่วงค่ำๆๆ ดึกๆ
ลูกค้าขาจร เดินผ่านคงงง ..ส่วนตัวว่าซ้ำได้เรื่อยๆ เพรารสชาติอาหารได้เลย (อีกเมนูที่อร่อยคือ สเต๊กไก่ A-5 ในเมนู)
ถ้าร้าน Renovate ใหม่คงจะดีกว่านี้ครับ
ขอบคุณครับ
[CR] ' สาริกาสเต๊ก ' @ Mizu's Kitchen พัฒน์พงศ์ ... By Hernf@
เจ้าของเป็นลุงชาวญี่ปุ่น ปัจจุบันให้ลูกสาวบริหารต่อ .. คร่าวๆประมาณนี้
วันก่อนรุ่นน้องมันไปก่อนเวลาร้านยังไม่เปิด เลยชวนกลับไปล้างตากันไปนั่งรอร้านเปิดกันเลยทีเดียวครับ
(ร้านเปิด 12.00 - 23.30 ) ไม่มีวันหยุดครับ
ร้านอยู่ในซอยพัฒน์พงศ์ เดินเข้าไป เลย Tip Top ไปนิดร้านอยู่ซ้ายมือครับ
มานั่งรอกันก่อน ร้านเก่าเลยคำว่าคลาสสิคไปนิด ..
ร้านนี้อาจจะเลยช่วงรุ่งเรืองสุดๆไปแล้ว ตอนนี้เหมือนประคองตัวไปเรื่อยๆครับ
บรรยากาศ อย่างไงก็อย่างนั้น
เมนู ... บางเมนูเลิกทำไปแล้วครับ ต้องถามก่อนนะ (หางวัวไม่มีแระ)
สั่งสาริกาสเต๊กไป 2 จาน
สลัดกับขนมปัง จะมาเสิร์ฟให้ก่อนอยู่ในชุดครับ
สลัดผัดสดดีครับ น้ำสลัดใสเปรี้ยว ขนมปังอิตาเลี่ยนและเนยโอเค กินรองท้องได้สบายครับ
ร้านค่อนข้างมืดแสงเหลืองปราบเซียนจริงๆครับ
จานแรกมาเสิร์ฟก่อนคือ สตูลิ้นวัว
ผมชอบร้านนี้ตรงที่จานหลักมี มันบดและผักขมมาด้วยตลอด
ลิ้นนุ่ม หั่นมากลางๆ ไม่หนา ไม่บางแต่ใหญ่เต็มๆ (เทียบจากส้อม) 3 ชิ้นเต็มๆ
น้ำสตูเปรี้ยว หวานกำลังพอดีครับ มันบดและผักโขมรสชาติดีครับ
แป๊ปเดียวเสียงซู่ซ่าก็ดังมาจากหลังม่าน
เจ๊แกเทแบบไม่ทันตั้งตัว โฟกัสหลุดกระจุย ผมให้เทอีกโต๊ะนึง กันกระเด็นด้วยครับ 55
สาริกาสเต๊ก ซิกเนเจอร์ของร้านนี้ เนื้อขนาดประมาณ 200 กรัม ไม่ใหญ่ ไม่โต
เสิร์ฟพร้อมมันบดและผักโขมเช่นเดิมครับ
พวกผมสั่งกันแบบมีเดียมครับ
เนื้อหนานุ่มเคี้ยวง่าย หอมน้ำราดสาริกาที่ราดมา
น้ำราดออกเค็มนำ หวานตาม ฉ่าๆ สะใจครับ ไม่ได้ใช้เครื่องปรุงบนโต๊ะเลย
อีกจานที่ไม่สั่งไม่ได้ คือ กราแตง หรือ มะกะโรนีอบชีสครับ (แต่ก่อนไม่ได้เสิร์ฟแบบนี้)
มะกะโรนีผัดมาก่อน โดยมาโรสชีสตอนหลังแล้วเอาไปอบอีกรอบให้เหลือง
รสชาติดี นัวๆ หอมชีส เข้มข้น
ค่าเสียหายตามบิล
ส่วนตัวว่ารสชาติอาหารดี แต่เค้าว่าดรอปลงกว่าสมัยลุงดูแลเยอะ
ช่วงนี้พัฒน์พงศ์ไม่คึกคักเหมือนแต่ก่อน ร้านหลายๆร้านล้มหายตายจากไป
ส่วนร้านนี้อาจอยู่ได้เพราะลูกค้าเก่า หรือปากต่อปากชวนกันมากิน
และนักท่องเที่ยวต่างชาติและญี่ปุ่นจะเยอะช่วงค่ำๆๆ ดึกๆ
ลูกค้าขาจร เดินผ่านคงงง ..ส่วนตัวว่าซ้ำได้เรื่อยๆ เพรารสชาติอาหารได้เลย (อีกเมนูที่อร่อยคือ สเต๊กไก่ A-5 ในเมนู)
ถ้าร้าน Renovate ใหม่คงจะดีกว่านี้ครับ
ขอบคุณครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น