สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวพันทิป กระทู้ตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะหลวงพระบางที่ผมรีวิวนี้เป็นกระทู้ที่ 2 แล้วครับที่ผมลงในพันทิป ต่อจากกระทู้ตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะมัณฑะเลย์และรอบ ๆ แต่ทริปการเดินทางตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะหลวงพระบางกลับเป็นทริปแรกที่ผมเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองเพียงคนเดียวในต่างแดนก่อนหน้าทริปไปมัณฑะเลย์ ประเทศพม่าเสียอีก
ทริปการเดินทางไปเที่ยวหลวงพระบาง ประเทศลาวเกิดขึ้นโดยบังเอิญจากการที่ผมเปิดเว็บพันทิปเข้าไปอ่านกระทู้ที่เพื่อน ๆ ชางพันทิปมารีวิวให้ฟังเกี่ยวกับประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวในห้องบลูแพลนเน็ต ผมเหลือบไปให้โฆษณาของบางกอกแอร์เวย์บนหน้าต่างเว็ปพันทิป ติดประกาศลดราคาค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ - หลวงพระบางในราคาโปรโมชั่น ราคา 5,880 บาท ซึ่งถือว่าราคาถูกกว่าปกติครึ่งหนึ่ง (ตอนนั้นแอร์เอเชียยังไม่เปิดรูทไปหลวงพระบางเหมือนตอนนี้) โดยต้องบินก่อน 31 ต.ค. 58 ด้วยความชื่นชอบอยากไปสัมผัสเมืองมรดกโลกของลาวสักครั้ง เห็นว่าหนทางไปก็แสนลำบากต้องนั่งเรือล่องแม่น้ำโขง หรือนั่งบัสนาน ๆ ขึ้นเขาลงเขาเสียเวลาเป็นวัน ๆ ซึ่งผมไม่ถูกโฉลกกับการที่ต้องนั่งรถนั่งเรือนาน ๆ จนเมื่อย เพราะคิดว่าเรามาชื่นชมสถานที่ท่องเที่ยวของเขาก็ควรต้องดื่มด่ำกับความงามทางศิลปะของเขาให้เต็มที่ อยู่เที่ยวนาน ๆ เที่ยวให้หลายที่ และเดินทางใช้เวลาน้อย ๆ ถึงเป้าหมายเลย ดังนั้นการเดินทางด้วยเครื่องบินจึงตอบโจทย์ความต้องการของผมมากที่สุด
ทริปนี้ผมจึงเดินทางด้วยเครื่องบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ และจองโรงแรมที่พักผ่านทาง AGODA โดยเลือกโรงแรมที่พักที่ต้องได้คะแนนรีวิวตั้งแต่ 8 คะแนนขึ้นไปและราคาต่อคืนต้องไม่เกินคืนละ 2,000 บาท จึงมาลงตัวที่โรงแรมวิลล่านาการา ซึ่งผลจากการตัดสินใจที่เลือกไม่ผิดหวังทั้งสายการบินและโรงแรมเลย เป็นทริปแรกที่เดินทางคนเดียวอย่างอิสระที่ประทับใจที่สุด รู้สึกคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เสียไปจากการเที่ยวทริปนี้
ทริปการเดินทางเที่ยวหลวงพระบางของผมในครั้งนี้ผมเที่ยวเวลา 6 วันเจาะลึกเมืองเดียวเลยครับ เที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว 8 - 13 ต.ค. 58 กำหนดเที่ยวของผมเป็นอย่างงี้ครับ
วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - หลวงพระบาง และเที่ยวชมวิวยามเย็นที่พูสี เดินดูของที่ตลาดมืด
วันที่ 2 : ขี่จักรยานชมวัดสวย ๆ ในเมืองหลวงพระบาง
วันที่ 3 : เที่ยวบ้านช่างไห ถ้ำติ่ง และน้ำตกตาดกวางสี
วันที่ 4 : เที่ยววัดพระธาตุโพนเพา สุสานอองรี มูโอต์ และน้ำตกตาดแซ่
วันที่ 5 : ขี่จักรยานเก็บตกวัดต่าง ๆ ที่เหลือจากวันอื่น ๆ
วันที่ 6 : ขี่จักรยานชมวัดที่เหลือให้ครบก่อนเดินทางกลับ
วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - หลวงพระบาง ชมวิวยามเย็นที่พูสี และเดินตลาดมืด
ผมออกเดินทางจากบ้านมาตั้งแต่ตี 5 มาขึ้นเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ กว่าเครื่องจะออกเดินทางบินไปหลวงพระบางก็ 10 โมง ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมงพอดีก็มาถึงสนามบินนานาชาติหลวงพระบาง ตลอดการเดินทางเรียกได้เลยว่ากินอิ่ม เพราะบางกอกแอร์เวย์เขาจัดบริการแบบ full service อิ่มกันตั้งแต่ในเลาจ์จนบนเครื่องก็เสิร์ฟอีก บินครั้งนี้ผมนั่งชิดริมหน้าต่างเลยมองดูวิวทิวทัศน์เพลิน ๆ แป๊บเดียวก็ถึงที่หมายแล้ว
เดินลงจากเครื่องเข้าอาคารสนามบิน ผ่านด่าน ต.ม. ที่ทำอะไรชักช้านานกว่าจะผ่าน เสร็จแล้วมารับกระเป๋าและออกไปแลกเงินกีบที่เคาร์เตอร์ธนาคารของลาวใกล้ประตูทางออกสนามบิน ตอนนั้นแลกได้เรท 1 บาท = 222 กีบ ออกมาหน้าประตูก็เห็นรถของโรงแรมมารับเราไปยังที่พัก เขาคิดค่าบริการรับที่สนามบินเที่ยวละ 360 บาท แพงกว่ารถรับจ้างอีก ตอนขากลับผมเลยเหมารถสองแถวในเมืองมาส่งที่สนามบินแทนเสียไปแค่ 200 บาทเองถูกกว่าต้องเยอะ นั่งรถมาสัก 10 นาทีกว่าก็มาถึงที่
โรงแรมวิลล่านาการา ที่พักเป็นอาคารเก่าสไตล์ฝรั่งเศสมี 2 ชั้น ภายในตกแต่งสวยงาม ที่พักติดถนนฝั่งตรงข้ามโรงแรมเป็นแม่น้ำคาน ที่พักอยู่ใกล้กับตลาดมืดห่างไปแค่ 400 เมตรเอง แถมมีจักรยานให้ขี่ฟรีด้วย
ผมจองห้องพักชั้นบนที่นี่ผ่านทาง agoda ไปแค่ 2 คน กะว่าจะลองเปลี่ยนบรรยากาศที่พักอื่นดูบ้างในวันต่อ ๆ ไป เพราะเห็นว่าหลวงพระบางมีที่พักโรงแรมเยอะหาเอาได้ง่าย ๆ แต่พอได้พักที่นี่ 2 คืนแล้วติดใจในความสะดวกสบาย มีของต่าง ๆ ให้บริการพร้อม และพนักงานก็อัธยาศัยดีบริการดีมาก ๆ จริง ๆ 2 คืนสุดท้ายก็เลยนอนที่นี่ต่อ เสียค่าที่พักคืนละ 1,200 บาทถูกกว่าจองผ่าน agoda คืนละ 600 บาทเลยทีเดียว แต่ห้องพักด้านบนใน 2 คืนหลังมีคนจองผ่านเอเจนซี่มาก่อนแล้ว ผมเลยได้นอนห้องพักชั้นล่างแทน ก็สวยงามและดีมีขนาดเท่ากัยห้องพักด้านบนเหมือนกัน ที่นี่เป็นโรงแรมเล็กมีแค่ 7 ห้องเองจึงเต็มเร็วครับ
[CR] ตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะหลวงพระบาง ตอนที่ 1
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวพันทิป กระทู้ตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะหลวงพระบางที่ผมรีวิวนี้เป็นกระทู้ที่ 2 แล้วครับที่ผมลงในพันทิป ต่อจากกระทู้ตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะมัณฑะเลย์และรอบ ๆ แต่ทริปการเดินทางตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะหลวงพระบางกลับเป็นทริปแรกที่ผมเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองเพียงคนเดียวในต่างแดนก่อนหน้าทริปไปมัณฑะเลย์ ประเทศพม่าเสียอีก
ทริปการเดินทางไปเที่ยวหลวงพระบาง ประเทศลาวเกิดขึ้นโดยบังเอิญจากการที่ผมเปิดเว็บพันทิปเข้าไปอ่านกระทู้ที่เพื่อน ๆ ชางพันทิปมารีวิวให้ฟังเกี่ยวกับประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวในห้องบลูแพลนเน็ต ผมเหลือบไปให้โฆษณาของบางกอกแอร์เวย์บนหน้าต่างเว็ปพันทิป ติดประกาศลดราคาค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ - หลวงพระบางในราคาโปรโมชั่น ราคา 5,880 บาท ซึ่งถือว่าราคาถูกกว่าปกติครึ่งหนึ่ง (ตอนนั้นแอร์เอเชียยังไม่เปิดรูทไปหลวงพระบางเหมือนตอนนี้) โดยต้องบินก่อน 31 ต.ค. 58 ด้วยความชื่นชอบอยากไปสัมผัสเมืองมรดกโลกของลาวสักครั้ง เห็นว่าหนทางไปก็แสนลำบากต้องนั่งเรือล่องแม่น้ำโขง หรือนั่งบัสนาน ๆ ขึ้นเขาลงเขาเสียเวลาเป็นวัน ๆ ซึ่งผมไม่ถูกโฉลกกับการที่ต้องนั่งรถนั่งเรือนาน ๆ จนเมื่อย เพราะคิดว่าเรามาชื่นชมสถานที่ท่องเที่ยวของเขาก็ควรต้องดื่มด่ำกับความงามทางศิลปะของเขาให้เต็มที่ อยู่เที่ยวนาน ๆ เที่ยวให้หลายที่ และเดินทางใช้เวลาน้อย ๆ ถึงเป้าหมายเลย ดังนั้นการเดินทางด้วยเครื่องบินจึงตอบโจทย์ความต้องการของผมมากที่สุด
ทริปนี้ผมจึงเดินทางด้วยเครื่องบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ และจองโรงแรมที่พักผ่านทาง AGODA โดยเลือกโรงแรมที่พักที่ต้องได้คะแนนรีวิวตั้งแต่ 8 คะแนนขึ้นไปและราคาต่อคืนต้องไม่เกินคืนละ 2,000 บาท จึงมาลงตัวที่โรงแรมวิลล่านาการา ซึ่งผลจากการตัดสินใจที่เลือกไม่ผิดหวังทั้งสายการบินและโรงแรมเลย เป็นทริปแรกที่เดินทางคนเดียวอย่างอิสระที่ประทับใจที่สุด รู้สึกคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เสียไปจากการเที่ยวทริปนี้
ทริปการเดินทางเที่ยวหลวงพระบางของผมในครั้งนี้ผมเที่ยวเวลา 6 วันเจาะลึกเมืองเดียวเลยครับ เที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว 8 - 13 ต.ค. 58 กำหนดเที่ยวของผมเป็นอย่างงี้ครับ
วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - หลวงพระบาง และเที่ยวชมวิวยามเย็นที่พูสี เดินดูของที่ตลาดมืด
วันที่ 2 : ขี่จักรยานชมวัดสวย ๆ ในเมืองหลวงพระบาง
วันที่ 3 : เที่ยวบ้านช่างไห ถ้ำติ่ง และน้ำตกตาดกวางสี
วันที่ 4 : เที่ยววัดพระธาตุโพนเพา สุสานอองรี มูโอต์ และน้ำตกตาดแซ่
วันที่ 5 : ขี่จักรยานเก็บตกวัดต่าง ๆ ที่เหลือจากวันอื่น ๆ
วันที่ 6 : ขี่จักรยานชมวัดที่เหลือให้ครบก่อนเดินทางกลับ
วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - หลวงพระบาง ชมวิวยามเย็นที่พูสี และเดินตลาดมืด
ผมออกเดินทางจากบ้านมาตั้งแต่ตี 5 มาขึ้นเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ กว่าเครื่องจะออกเดินทางบินไปหลวงพระบางก็ 10 โมง ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมงพอดีก็มาถึงสนามบินนานาชาติหลวงพระบาง ตลอดการเดินทางเรียกได้เลยว่ากินอิ่ม เพราะบางกอกแอร์เวย์เขาจัดบริการแบบ full service อิ่มกันตั้งแต่ในเลาจ์จนบนเครื่องก็เสิร์ฟอีก บินครั้งนี้ผมนั่งชิดริมหน้าต่างเลยมองดูวิวทิวทัศน์เพลิน ๆ แป๊บเดียวก็ถึงที่หมายแล้ว
เดินลงจากเครื่องเข้าอาคารสนามบิน ผ่านด่าน ต.ม. ที่ทำอะไรชักช้านานกว่าจะผ่าน เสร็จแล้วมารับกระเป๋าและออกไปแลกเงินกีบที่เคาร์เตอร์ธนาคารของลาวใกล้ประตูทางออกสนามบิน ตอนนั้นแลกได้เรท 1 บาท = 222 กีบ ออกมาหน้าประตูก็เห็นรถของโรงแรมมารับเราไปยังที่พัก เขาคิดค่าบริการรับที่สนามบินเที่ยวละ 360 บาท แพงกว่ารถรับจ้างอีก ตอนขากลับผมเลยเหมารถสองแถวในเมืองมาส่งที่สนามบินแทนเสียไปแค่ 200 บาทเองถูกกว่าต้องเยอะ นั่งรถมาสัก 10 นาทีกว่าก็มาถึงที่ โรงแรมวิลล่านาการา ที่พักเป็นอาคารเก่าสไตล์ฝรั่งเศสมี 2 ชั้น ภายในตกแต่งสวยงาม ที่พักติดถนนฝั่งตรงข้ามโรงแรมเป็นแม่น้ำคาน ที่พักอยู่ใกล้กับตลาดมืดห่างไปแค่ 400 เมตรเอง แถมมีจักรยานให้ขี่ฟรีด้วย
ผมจองห้องพักชั้นบนที่นี่ผ่านทาง agoda ไปแค่ 2 คน กะว่าจะลองเปลี่ยนบรรยากาศที่พักอื่นดูบ้างในวันต่อ ๆ ไป เพราะเห็นว่าหลวงพระบางมีที่พักโรงแรมเยอะหาเอาได้ง่าย ๆ แต่พอได้พักที่นี่ 2 คืนแล้วติดใจในความสะดวกสบาย มีของต่าง ๆ ให้บริการพร้อม และพนักงานก็อัธยาศัยดีบริการดีมาก ๆ จริง ๆ 2 คืนสุดท้ายก็เลยนอนที่นี่ต่อ เสียค่าที่พักคืนละ 1,200 บาทถูกกว่าจองผ่าน agoda คืนละ 600 บาทเลยทีเดียว แต่ห้องพักด้านบนใน 2 คืนหลังมีคนจองผ่านเอเจนซี่มาก่อนแล้ว ผมเลยได้นอนห้องพักชั้นล่างแทน ก็สวยงามและดีมีขนาดเท่ากัยห้องพักด้านบนเหมือนกัน ที่นี่เป็นโรงแรมเล็กมีแค่ 7 ห้องเองจึงเต็มเร็วครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น