เปิดศักราชการเขียนกระทู้ใหม่ของผมอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่กระทู้แนวตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะในอาเซียนหลายกระทู้ก็ยังค้างเขียนไม่จบในหลายตอน รอบนี้ขี้เกียจเขียนกระทู้เก่าต่อเลยพักยกมาเขียนกระทู้ใหม่บ้างดีกว่าเพราะถ้านานวันไปเดี๋ยวคงลืมว่าไปไหนมาบ้างในทริปนี้ โดยทริปนี้ผมจะเล่าประสบการณ์การขี่รถมอเตอร์ไซค์เที่ยวในประเทศกัมพูชากันนะครับ รอบนี้เน้นขี่รถเที่ยวชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชนชาติเขมรกัน ตั้งแต่เมืองหลวงเก่ายุคแรกเริ่มของขอมที่อังกอร์โบเรย กำปงจาม อุดงฤาชัย และพนมเปญเมืองหลวงของประเทศกัมพูชาในปัจจุบันนะครับ เห็นว่ารีวิวสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์นอกสายตาเหล่านี้ยังไม่ค่อยมีใครเขียนเผยแพร่ข้อมูล ผมจึงรวบรวมข้อมูลและภาพที่ผมได้ไปเสาะหาความรู้มาจากการเที่ยวชมมาเผยแพร่ให้คนที่สนใจได้รับรู้กันนะครับ เผื่อใครเป็นคอประวัติศาสตร์แบบผมจะได้ใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนจัดทริปได้
ก่อนอื่นมาดูโปรแกรมที่ผมเที่ยวในทริปตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะกัมพูชาตอนใต้ จำนวน 8 วันของผม มีดังนี้
วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - พนมเปญ และเที่ยวชมวัดวาอารามสำคัญของกรุงพนมเปญ
วันที่ 2 : เที่ยวชมปราสาทขอมรุ่นเดอะที่อังกอร์โบเรย
วันที่ 3 : เที่ยวชมปราสาทขอมที่สำคัญทางตอนใต้ของพนมเปญ
วันที่ 4 : เที่ยวชมเขาพระราชทรัพย์ เมืองหลวงเก่าอุดงฤาชัย
วันที่ 5 : เดินทางไปกำปงจาม และเที่ยวชมปราสาทขอมกลุ่มพนมฮันเจย
วันที่ 6 : เที่ยวชมกลุ่มปราสาทนอกเมืองกำปงจาม
วันที่ 7 : เดินทางกลับพนมเปญ เดินเล่นและช็อปปิ้งซื้อของในพนมเปญ
วันที่ 8 : เที่ยวชมพระราชวังจตุมุขศิริมงคล พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพนมเปญ และเดินทางกลับ
วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - พนมเปญ และเที่ยวชมวัดวาอารามสำคัญของกรุงพนมเปญ
ทริปนี้ขาไปไม่ได้บินกับแอร์เอเชีย แต่บินกับสายการบินของกัมพูชาเพราะเห็นว่าเวลาดีและราคาถูกกว่าเลยมาขึ้นเครื่องบินที่สุวรรณภูมิ
ใช้เวลาบินเพียง 1 ชั่วโมง เครื่องบินก็กำลังแลนดิ่งลงสนามบิน มองไปนอกหน้าต่างเห็นแม่น้ำโตนเลสาบที่ไหลผ่านกรุงพนมเปญชัดเจน สักพักเครื่องบินก็มาถึงสนามบินโปเชนตงของกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชาแล้ว
หากใครไม่ได้เปิดโรมมิ่งมา จะซื้อซิมที่นี่ก็ได้ ออกจากที่รับกระเป๋ามาก็จะเจอกับร้านขายซิมมากมาย ราคาเป็นยังไงบ้างดูจากภาพด้านล่างได้เลย
บริเวณแถวหน้าอาคารสนามบินก็จะเจอกับเหล่าคนขับรถตุ๊กตุ๊กที่รอกวาดต้อนรับนักเดินทางให้ขึ้นรถพวกเค้ากัน ผมสอบถามราคาพี่คนขับรถตุ๊กตุ๊กหลายคันเปิดราคามาที่ 9 ดอลลาร์ บางราย 10 ดอลลาร์ หากเป็นรถแท๊กซี่สนนราคาอยู่ที่ 10 - 12 ดอลลาร์ จริง ๆ ราคาที่เหมาะสมที่หนังสือท่องเที่ยว Lonely Planet บอกคือ 7 ดอลลาร์นะครับ ผมเห็นราคามหาโหดเกิน ต่อราคายังไงก็ไม่ยอมลดสักเจ้า เลยเดินออกไปนอกอาคารสนามบิน ไปยืนรอรถตรงป้ายรถเมล์หน้าสนามบิน หน้าสนามบินก็มีรถเมล์วิ่งเข้าเมืองนะครับ แต่ผมขี้เกียจรอและมีกระเป๋าสัมภาระจะขึ้นลำบากก็เลยเรียกรถตุ๊กตุ๊กที่จอดตรงนี้ต่อราคาจนได้ 7 ดอลลาร์ง่าย ๆ เพราะรถข้างนอกจะแย่งลูกค้ากันมากกว่าข้างในสนามบิน มาด่านแรกรู้ทันเลยโชคดีทั้งขาไปและขากลับได้ราคาเดิมเท่ากัน อันนี้คงเป็นข้อดีจากการที่ผมได้เดินทางไปเที่ยวคนเดียวในหลายประเทศของอาเซียนเลยเริ่มมีภูมิคุ้มกันกับตัวแล้ว ฮิฮิ..
รถตุ๊กตุ๊กที่กัมพูชาจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ต่อพ่วงท้ายเป็นที่นั่งให้ผู้โดยสาร โดยสามารถนั่งได้สุงสุด 3 - 4 คนต่อคัน
ระยะทางแค่ 10 ก.ม. แต่รถติดไฟแดงบ่อยจึงใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงโรงแรมที่ผมพัก 2 คืนแรก ผมพักที่โรงแรมนิวยอร์คเพราะเห็นว่าใกล้กับร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์ที่ผมจะมาเช่านั่นเอง จะได้ไม่ต้องเดินไกล วันต่อ ๆ ไปจึงค่อยเปลี่ยนโรงแรมที่พักเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง
บริเวณฟร้อนท์ของโรงแรมมีป้ายโฆษณาขายทัวร์ One Day Trip พาเที่ยวพนมเปญ เห็นมีพาไปคุกตวลสเลงกับทุ่งสังหารเจียงเอ็ก
ราคา 15 ดอลลาร์ รู้สึกแพงนะ เช่ารถขี่แค่วันละ 250 บาทเอง เที่ยวได้เต็มที่กว่าอยากไปไหนก็ไปได้ตามใจ
ผมได้ห้องพักชั้นบน มองจากหน้าต่างมาก็จะเห็นตึกสูงใหญ่ของกรุงพนมเปญ โรงแรมที่ผมพักอยู่ใกล้ ๆ กับตลาดกลาง ตลาดขายของฝากที่ระลึกขนาดใหญ่ของกรุงพนมเปญ
ที่นี่มีร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์อยู่หลายร้าน มาเที่ยวพนมเปญแล้วไม่ต้องกลัวจะหารถเช่ายาก ผมได้รถมอเตอร์ไซค์สภาพดีดูใหม่สีแดงแบบเกียร์ออโต้ ราคาเช่ารอบชนรอบต่อวัน 250 บาท ราคาพอ ๆ กับที่เคยเช่าขี่ที่เมืองเสียมเรียบเมื่อปีก่อนเลย
ตอนนี้เวลาก็จะ 4 โมงเย็นแล้ว พอได้รถเสร็จผมก็ขี่รถไปชม
วัดอุณาโลม (Ounalom Temple) เป็นแห่งแรก
จอดรถไว้หน้าวัด วัดอุณาโลมเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนถนนเลียบกับแม่น้ำโตนเลสาบ ทางเดียวกับที่ไปพระราชวังจตุมุขศิริมงคล
วัดนี้มีความสำคัญต่อประเทศกัมพูชาเพราะเป็นวัดที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชของกัมพูชา ถ้าเทียบกับบ้านเราก็ประมาณวัดบวรนิเวศในกรุงเทพฯ นั่นเอง และยังจัดเป็น 1 ใน 5 เก่าแก่แห่งแรกที่สร้างขึ้นในกรุงพนมเปญอีกด้วย
ด้านหน้าวัดมีฆ้องขนาดใหญ่ตั้งอยู่ วัดนี้ก็ขายดีนะเห็นมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและพวกฝรั่งแวะเวียนกันมาถ่ายรูปตลอด
ตามประวัติกล่าวว่าวัดนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1965 ในช่วงสมัยพญาญาติ หรือ พระบาทศรีสุริโยพันธ์ุที่ 3 ของอาณาจักรเขมร เมื่อครั้งที่ย้ายราชธานีของอาณาจักรจากเมืองบาสาณมายังพนมเปญ ซึ่งร่วมสมัยกับอยุธยาตอนต้นของบ้านเรา แต่สิ่งก่อสร้างเก่าแก่ของวัดได้ถูกทำลายลงอย่างหนักในช่วงที่เขมรแดงยึดครองกรุงพนมเปญได้เมื่อปี พ.ศ.2522 ภายหลังที่บ้านเมืองสงบแล้ววัดแห่งนี้จึงได้รับการบูรณะฟื้นฟูขึ้นดังมีสภาพให้เห็นในปัจจุบัน
ภายในวัดมีพระวิหารหลังใหญ่ทาสีเหลือง พระเจดีย์ทรงปรางค์แบบเขมร สิ่งก่อสร้างดังกล่าวได้รับการทะนุบำรุงให้ดูใหม่อยู่เสมอ
ผมเดินขึ้นบันไดเข้าไปภายในพระวิหารไปกราบไหว้พระประธานของวัดนี้ เป็นการเสริมสิริมงคลให้กับตนเองในการมาเที่ยวชมที่นี่เป็นแห่งแรกในกรุงพนมเปญ
ต่อมาเดินไปด้านล่างของวัดมีรูปปั้นเทพเจ้าต่าง ๆ ของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู และพระโพธิสัตว์ของพุทธศาสนานิกายมหายาน เลยถือโอกาสถ่ายรูปเซลฟี่ตรงนี้สักหน่อย
ภาพสลักบนผนังลงสีเลียนแบบงานช่างของขอมโบราณ สลักเป็นเหตุการณ์ตอนพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ยกทัพไปทำสงครามซึ่งเป็นภาพที่โด่งดังมากที่ปรากฎที่ระเบียงคดของปราสาทนครวัดที่เมืองเสียบเรียบ
ถัดไปด้านหลังสุดของวัดมีเจดีย์ที่เชื่อว่าเป็นที่บรรจุขนระหว่างตาของพระพุทธเจ้า จึงทำให้วัดแห่งนี้มีชื่อว่า วัดอุณาโลม นั่นเอง
ตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะกัมพูชาตอนใต้ ตอนที่ 1
เปิดศักราชการเขียนกระทู้ใหม่ของผมอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่กระทู้แนวตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะในอาเซียนหลายกระทู้ก็ยังค้างเขียนไม่จบในหลายตอน รอบนี้ขี้เกียจเขียนกระทู้เก่าต่อเลยพักยกมาเขียนกระทู้ใหม่บ้างดีกว่าเพราะถ้านานวันไปเดี๋ยวคงลืมว่าไปไหนมาบ้างในทริปนี้ โดยทริปนี้ผมจะเล่าประสบการณ์การขี่รถมอเตอร์ไซค์เที่ยวในประเทศกัมพูชากันนะครับ รอบนี้เน้นขี่รถเที่ยวชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชนชาติเขมรกัน ตั้งแต่เมืองหลวงเก่ายุคแรกเริ่มของขอมที่อังกอร์โบเรย กำปงจาม อุดงฤาชัย และพนมเปญเมืองหลวงของประเทศกัมพูชาในปัจจุบันนะครับ เห็นว่ารีวิวสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์นอกสายตาเหล่านี้ยังไม่ค่อยมีใครเขียนเผยแพร่ข้อมูล ผมจึงรวบรวมข้อมูลและภาพที่ผมได้ไปเสาะหาความรู้มาจากการเที่ยวชมมาเผยแพร่ให้คนที่สนใจได้รับรู้กันนะครับ เผื่อใครเป็นคอประวัติศาสตร์แบบผมจะได้ใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนจัดทริปได้
ก่อนอื่นมาดูโปรแกรมที่ผมเที่ยวในทริปตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะกัมพูชาตอนใต้ จำนวน 8 วันของผม มีดังนี้
วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - พนมเปญ และเที่ยวชมวัดวาอารามสำคัญของกรุงพนมเปญ
วันที่ 2 : เที่ยวชมปราสาทขอมรุ่นเดอะที่อังกอร์โบเรย
วันที่ 3 : เที่ยวชมปราสาทขอมที่สำคัญทางตอนใต้ของพนมเปญ
วันที่ 4 : เที่ยวชมเขาพระราชทรัพย์ เมืองหลวงเก่าอุดงฤาชัย
วันที่ 5 : เดินทางไปกำปงจาม และเที่ยวชมปราสาทขอมกลุ่มพนมฮันเจย
วันที่ 6 : เที่ยวชมกลุ่มปราสาทนอกเมืองกำปงจาม
วันที่ 7 : เดินทางกลับพนมเปญ เดินเล่นและช็อปปิ้งซื้อของในพนมเปญ
วันที่ 8 : เที่ยวชมพระราชวังจตุมุขศิริมงคล พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพนมเปญ และเดินทางกลับ
วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - พนมเปญ และเที่ยวชมวัดวาอารามสำคัญของกรุงพนมเปญ
ทริปนี้ขาไปไม่ได้บินกับแอร์เอเชีย แต่บินกับสายการบินของกัมพูชาเพราะเห็นว่าเวลาดีและราคาถูกกว่าเลยมาขึ้นเครื่องบินที่สุวรรณภูมิ
ใช้เวลาบินเพียง 1 ชั่วโมง เครื่องบินก็กำลังแลนดิ่งลงสนามบิน มองไปนอกหน้าต่างเห็นแม่น้ำโตนเลสาบที่ไหลผ่านกรุงพนมเปญชัดเจน สักพักเครื่องบินก็มาถึงสนามบินโปเชนตงของกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชาแล้ว
หากใครไม่ได้เปิดโรมมิ่งมา จะซื้อซิมที่นี่ก็ได้ ออกจากที่รับกระเป๋ามาก็จะเจอกับร้านขายซิมมากมาย ราคาเป็นยังไงบ้างดูจากภาพด้านล่างได้เลย
บริเวณแถวหน้าอาคารสนามบินก็จะเจอกับเหล่าคนขับรถตุ๊กตุ๊กที่รอกวาดต้อนรับนักเดินทางให้ขึ้นรถพวกเค้ากัน ผมสอบถามราคาพี่คนขับรถตุ๊กตุ๊กหลายคันเปิดราคามาที่ 9 ดอลลาร์ บางราย 10 ดอลลาร์ หากเป็นรถแท๊กซี่สนนราคาอยู่ที่ 10 - 12 ดอลลาร์ จริง ๆ ราคาที่เหมาะสมที่หนังสือท่องเที่ยว Lonely Planet บอกคือ 7 ดอลลาร์นะครับ ผมเห็นราคามหาโหดเกิน ต่อราคายังไงก็ไม่ยอมลดสักเจ้า เลยเดินออกไปนอกอาคารสนามบิน ไปยืนรอรถตรงป้ายรถเมล์หน้าสนามบิน หน้าสนามบินก็มีรถเมล์วิ่งเข้าเมืองนะครับ แต่ผมขี้เกียจรอและมีกระเป๋าสัมภาระจะขึ้นลำบากก็เลยเรียกรถตุ๊กตุ๊กที่จอดตรงนี้ต่อราคาจนได้ 7 ดอลลาร์ง่าย ๆ เพราะรถข้างนอกจะแย่งลูกค้ากันมากกว่าข้างในสนามบิน มาด่านแรกรู้ทันเลยโชคดีทั้งขาไปและขากลับได้ราคาเดิมเท่ากัน อันนี้คงเป็นข้อดีจากการที่ผมได้เดินทางไปเที่ยวคนเดียวในหลายประเทศของอาเซียนเลยเริ่มมีภูมิคุ้มกันกับตัวแล้ว ฮิฮิ..
รถตุ๊กตุ๊กที่กัมพูชาจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ต่อพ่วงท้ายเป็นที่นั่งให้ผู้โดยสาร โดยสามารถนั่งได้สุงสุด 3 - 4 คนต่อคัน
ระยะทางแค่ 10 ก.ม. แต่รถติดไฟแดงบ่อยจึงใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงโรงแรมที่ผมพัก 2 คืนแรก ผมพักที่โรงแรมนิวยอร์คเพราะเห็นว่าใกล้กับร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์ที่ผมจะมาเช่านั่นเอง จะได้ไม่ต้องเดินไกล วันต่อ ๆ ไปจึงค่อยเปลี่ยนโรงแรมที่พักเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง
บริเวณฟร้อนท์ของโรงแรมมีป้ายโฆษณาขายทัวร์ One Day Trip พาเที่ยวพนมเปญ เห็นมีพาไปคุกตวลสเลงกับทุ่งสังหารเจียงเอ็ก
ราคา 15 ดอลลาร์ รู้สึกแพงนะ เช่ารถขี่แค่วันละ 250 บาทเอง เที่ยวได้เต็มที่กว่าอยากไปไหนก็ไปได้ตามใจ
ผมได้ห้องพักชั้นบน มองจากหน้าต่างมาก็จะเห็นตึกสูงใหญ่ของกรุงพนมเปญ โรงแรมที่ผมพักอยู่ใกล้ ๆ กับตลาดกลาง ตลาดขายของฝากที่ระลึกขนาดใหญ่ของกรุงพนมเปญ
ที่นี่มีร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์อยู่หลายร้าน มาเที่ยวพนมเปญแล้วไม่ต้องกลัวจะหารถเช่ายาก ผมได้รถมอเตอร์ไซค์สภาพดีดูใหม่สีแดงแบบเกียร์ออโต้ ราคาเช่ารอบชนรอบต่อวัน 250 บาท ราคาพอ ๆ กับที่เคยเช่าขี่ที่เมืองเสียมเรียบเมื่อปีก่อนเลย
ตอนนี้เวลาก็จะ 4 โมงเย็นแล้ว พอได้รถเสร็จผมก็ขี่รถไปชม วัดอุณาโลม (Ounalom Temple) เป็นแห่งแรก
จอดรถไว้หน้าวัด วัดอุณาโลมเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนถนนเลียบกับแม่น้ำโตนเลสาบ ทางเดียวกับที่ไปพระราชวังจตุมุขศิริมงคล
วัดนี้มีความสำคัญต่อประเทศกัมพูชาเพราะเป็นวัดที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชของกัมพูชา ถ้าเทียบกับบ้านเราก็ประมาณวัดบวรนิเวศในกรุงเทพฯ นั่นเอง และยังจัดเป็น 1 ใน 5 เก่าแก่แห่งแรกที่สร้างขึ้นในกรุงพนมเปญอีกด้วย
ด้านหน้าวัดมีฆ้องขนาดใหญ่ตั้งอยู่ วัดนี้ก็ขายดีนะเห็นมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและพวกฝรั่งแวะเวียนกันมาถ่ายรูปตลอด
ตามประวัติกล่าวว่าวัดนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1965 ในช่วงสมัยพญาญาติ หรือ พระบาทศรีสุริโยพันธ์ุที่ 3 ของอาณาจักรเขมร เมื่อครั้งที่ย้ายราชธานีของอาณาจักรจากเมืองบาสาณมายังพนมเปญ ซึ่งร่วมสมัยกับอยุธยาตอนต้นของบ้านเรา แต่สิ่งก่อสร้างเก่าแก่ของวัดได้ถูกทำลายลงอย่างหนักในช่วงที่เขมรแดงยึดครองกรุงพนมเปญได้เมื่อปี พ.ศ.2522 ภายหลังที่บ้านเมืองสงบแล้ววัดแห่งนี้จึงได้รับการบูรณะฟื้นฟูขึ้นดังมีสภาพให้เห็นในปัจจุบัน
ภายในวัดมีพระวิหารหลังใหญ่ทาสีเหลือง พระเจดีย์ทรงปรางค์แบบเขมร สิ่งก่อสร้างดังกล่าวได้รับการทะนุบำรุงให้ดูใหม่อยู่เสมอ
ผมเดินขึ้นบันไดเข้าไปภายในพระวิหารไปกราบไหว้พระประธานของวัดนี้ เป็นการเสริมสิริมงคลให้กับตนเองในการมาเที่ยวชมที่นี่เป็นแห่งแรกในกรุงพนมเปญ
ต่อมาเดินไปด้านล่างของวัดมีรูปปั้นเทพเจ้าต่าง ๆ ของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู และพระโพธิสัตว์ของพุทธศาสนานิกายมหายาน เลยถือโอกาสถ่ายรูปเซลฟี่ตรงนี้สักหน่อย
ภาพสลักบนผนังลงสีเลียนแบบงานช่างของขอมโบราณ สลักเป็นเหตุการณ์ตอนพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ยกทัพไปทำสงครามซึ่งเป็นภาพที่โด่งดังมากที่ปรากฎที่ระเบียงคดของปราสาทนครวัดที่เมืองเสียบเรียบ
ถัดไปด้านหลังสุดของวัดมีเจดีย์ที่เชื่อว่าเป็นที่บรรจุขนระหว่างตาของพระพุทธเจ้า จึงทำให้วัดแห่งนี้มีชื่อว่า วัดอุณาโลม นั่นเอง