ตะลุยเดี่ยวขี่เที่ยวดะเจาะลึกมัณฑะเลย์และรอบ ๆ



                        กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ผมเขียนขึ้นเพื่อเล่าประสบการณ์การท่องเที่ยวให้กับเพื่อน ๆ ชาวพันทิปได้อ่านกัน   เผื่อเรื่องที่ผมเขียนขึ้นจะทำให้เพื่อน ๆ บางคนเกิดแรงบันดาลใจกล้าที่จะเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเองเพียงลำพังเหมือนอย่างผม หรือจะเกิดประโยชน์ในการวางแผนท่องเที่ยวแก่เพื่อน   ทริปตะลุยเดี่ยวขี่เที่ยวเจาะมัณฑะเลย์และรอบ ๆ  ของผมในประเทศพม่ากว่าจะเกิดขึ้นมาได้เรียกว่าวางแผนกันเกือบครึ่งปี   ผมเริ่มวางแผนอยากเดินทางไปมัณฑะเลย์  เมืองในฝันที่สักครั้งต้องหาโอกาสไปเยือนไปสัมผัสและดูด้วยตาของตนเอง  หลังจากที่ผมอ่านหนังสือท่องเที่ยวและประวัติศาสตร์พม่ามาแล้วหลายเล่ม   ผมวางแผนเที่ยวจะเที่ยวที่นี่ตั้งแต่ช่วงปีใหม่ 59  หลังกลับจากตะลุยเที่ยวเสียบเรียบ  ประเทศกัมพูชา  กว่าทุกอย่างจะลงตัวก็ปาเข้าไปช่วงมีนาคมแล้ว   เริ่มจากอ่านข้อมูลเที่ยวเมืองมัณฑะเลย์จากหนังสือคู่มือท่องเที่ยวต่าง ๆ   อ่านประสบการณ์ท่องเที่ยวที่เพื่อน ๆ ชาวพันทิปเขียนเล่ามาในเว็บนี้  และค้นดูข้อมูลจาก google map  เพื่อจะได้รู้ว่ามีสถานที่น่าสนใจอะไรบ้างที่เราควรไปชม  ปกติผมเป็นคนชอบดูงานศิลปกรรมและโบราณสถานมาก   รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้ชม  ดังนั้นผมจึงโลภมากอยากไปชมเสียทุกที่สามารถไปชมได้   ทริปที่ผมไปในครั้งนี้จึงเน้นขี่รถจักรยานและมอเตอร์ไซค์เที่ยวเอง   ลัดเลาะไปเรื่อย ๆ ตามแผนที่วางไว้ แต่ถ้าเจออะไรน่าสนใจระหว่างทางก็แวะดะไปทั่วตามสไตล์คนชอบเที่ยวดูของเก่า   ผมจึงเลือกที่จะเที่ยวแบบเจาะลึกเที่ยวแค่เมืองเดียวหรือควบที่ใกล้ ๆ กันอยู่ยาวทีเดียวหลายวันหน่อย   ไม่ชอบเที่ยวแบบ 1 หรือ 2  วันเปลี่ยนเมืองหรือกลับ  เพราะผมคิดว่าไหน ๆ ก็มาแล้ว  เดินทางมาไกลอย่างไงต้องเอาให้คุ้ม   ไกล ๆ ค่อยไปทริปต่อไป
                ส่วนเรื่องการเตรียมตัวเที่ยวของผมนอกจากอ่านข้อมูลแล้วนั้น    ผมได้จองตั๋วเครื่องบินที่ใคร ๆ ก็บินได้เพราะมองว่าราคาของเจ้านี้ยังน่าคบกว่าเจ้าอื่นแถมเวลาบินก็น่าสนใจ  10.55 น.  ถึงมัณฑะเลย์  12.15 น.  ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่  1.45  ชั่วโมง    ผมจองตั๋วไปกลับกรุงเทพฯ - มัณฑะเลย์ในราคาที่บวกสัมภาระ 20  ก.ก. ด้วยได้ในราคา  6,011  บาท   อาจจะแพงกว่าเพื่อน ๆ ที่เคยไปกัน  เพราะผมจองตั๋วโปรไม่ทันที   มั่วแต่ปะวิงเวลาคิดว่าเดี๋ยวสัปดาห์หน้างานไม่ยุ่งค่อยจอง   ผมจองตั๋วไปเที่ยวได้วันที่  1 - 5  พ.ค.  รวม 4  คืน  5 วัน    ส่วนเรื่องจองโรมแรมผมจองผ่าน  agoda  เพราะมีรายชื่อโรงแรม  ข้อมูล และรีวิวของผู้เคยเข้าพักให้พร้อม   ในที่สุดผมก็จองได้โรงแรมยาดาร์นาบอน  เป็นโรงแรมหนึ่งที่คนไทยที่เที่ยวมัณฑะเลย์ชอบไปพัก    เพราะดูราคา   รีวิว   ที่ตั้งและสภาพห้องพักของโรงแรมคิดว่าตอบโจทย์ทริปของผมมากที่สุด  (แต่พอไปพักจริง ๆ กลับไม่ชอบสภาพแวดล้อมของโรงแรมที่อยู่ในย่านชุมชนที่จอแจ   เช้า ๆ มีตลาดเช้าในซอยข้างโรงแรมอีก   เสียงบีบแตรรถดังตลอดช่วงหัวค่ำและใกล้สว่าง  เรียกได้เลยว่า นอนแทบไม่หลับสบาย   ไหนจะให้บริการอาหารเช้ามีให้เลือกน้อยมากและซ้ำ ๆ คล้ายกันทุกวัน)
ผมเสียที่พักห้องซูพีเรีย  4  คืนในราคา  4,090  บาท     ส่วนเรื่องแลกเงินนั้น   ผมพกไปเที่ยวหมื่นกว่าบาท  แต่พอเที่ยวจริงใช้แค่เกือบ  7  พันบาทเองใน  5  วันที่เที่ยว  ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผมจะนำน้ำดื่มจากโรงแรมไปในตอนเที่ยวเสมอ เลยไม่เคยเสียค่าน้ำเปล่าแม้แต่บาทเดียว  รวมถึงการขี่รถเที่ยวเองเป็นอะไรที่สะดวกและประหยัดกว่าการเช่ารถให้เขาพาเที่ยวหรือการเที่ยวกับทัวร์    เพราะประเทศพม่าเป็นประเทศที่เที่ยวเองง่ายมาก  ยิ่งตอนนี้เขาเปิดประเทศแล้งยิ่งไปง่ายและเที่ยวได้สะดวก    ค่าเชารถจักรยานขี่เที่ยวที่โรงแรมที่ผมเช่าคิดวันละ  2 ดอลลาร์ (70  บาทของไทย)    ผมเช่าขี่ในวันแรกเพราะที่เที่ยวอยู่ในเมืองใกล้ที่พักและเที่ยวเพียงครึ่งวันเท่านั้น  ส่วนรถมอเตอร์ไซค์เช่าขี่เที่ยว  3  วันที่ไปเที่ยวรอบนอกมัณฑะเลย์อย่างสกาย   อังวะ  มิงกุน   และอมรปุระ   ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยวตกราคาวันละ  10  ดอลลาร์  หรือ 350  บาท  เช่าไป  3  วันก็  1,050  บาทเองถูกกว่าจ้างรถพาเที่ยวอีก  แถมได้เที่ยวดะไปทั่วอีกด้วย   ส่วนเพื่อน ๆ บางคนถ้ากลัวว่าราคาน้ำมันจะแพง  ขอบอกเลยว่าน้ำมันที่นี่ถูกกว่าบ้านเรา  ถ้าเติมตามร้านที่ขายริมถนนก็ตกขวดละ  800 - 1,800  จ๊าต  หรือราวครั้งละ  35  - 80  บาท ก็เต็มถังแล้ว   ยิ่งเติมร้านนอกเมืองหรือในปั๊มน้ำมันยิ่งถูกลงไปอีก  ราคาลิตร 500 -  800 จ๊าตเองก็เต็มถังแล้ว    เล่ามาไกลลืมเรื่องแลกเงินเลย  ขอวกกลับหน่อยรึกันครับ  คนไปเที่ยวพม่าควรแลกเงินไป  2  สกุลครับ คือ  เงินดอลลาร์ ($) กับเงินจ๊าต  (k)   ควรแลกเงินจ๊าตให้มากกว่าดอลลาร์   เพราะดอลลาร์จะใช้จ่ายแค่ค่าที่พักโรงแรม    และค่าเข้าชมสถานที่เท่านั่น   เพราะส่วนใหญ่เราจะจ่ายเป็นเงินจ๊าตมากกว่า    ยกเว้นใครถามราคาว่าจ่ายสกุลเงินไหนถูกกว่าก็เลือกจ่ายได้ตามใจ    ที่แลกจ๊าตนั้นส่วนใหญ่เราจะแลกดอลลาร์มาจากเมืองไทยแล้วค่อยมาแลกเป็นเงินจ๊าตที่สนามบินมัณฑะเลย์หรือธนาคารในมัณฑะเลย์    แต่ถ้าใครไม่อยากต่อคิวนานหรือต้องเดินหาในเมืองขณะเที่ยว  ก็สามารถแลกเงินจ๊าตได้ตั้งแต่อยู่ในประเทศไทย   สถานที่รับแลกเงินจ๊าตก็เช่นแถว ๆ ร้านแลกเงินที่สะพานควาย  ร้านแลกเงินใกล้สถานทูตพม่าในกรุงเทพฯ  และที่ผมไปแลกคือ ร้านชื่อว่า   money  exchange  อยู่ที่พาลาเดียม  ประตูน้ำ  ชั้น 1  บูท 180  เรตที่ผมแลกตอนนั้น  1   บาท  =   28.57  จ๊าต   ราคาเงินจ๊าตที่แลกปกติจะขึ้นลงอยู่ที่   25 - 34   จ๊าตต่อ  1  บาทครับ

                ลืมบอกไปถ้าเพื่อน ๆ  สนใจอ่านข้อมูลจากหนังสือท่องเที่ยวพม่า หรือนำไปใช้ในการเดินทางเที่ยว  ผมแนะนำหนังสือเที่ยวไม่ง้อทัวร์  ตีตั๋วตะลุยพม่า   ราคาเล่มละ  295  บาท    หนังสือเที่ยวพม่า ซ่าอย่างอินดี้ของคุณบาส   เล่มละ  299  บาท  และวารสารทริปแม็กกาซีนฉบับหน้าปกพระธาตุอินทร์แขวนและหน้าปกเณร  2  รูปครับ
ภาพหนังสือเที่ยวพม่าที่ผมเอาไปใช้ในการเดินทางเที่ยวครั้งนี้ครับ

ส่วนหนังสือที่ควรนำติดไปด้วยถ้าใครภาษาไม่แข็งแรงในการสื่อสาร  ก็นำหนังสืออย่างภาษาอังกฤษไม่พร้อมแต่คนพร้อมเที่ยว  และหนังสือสนทนาภาษาอาเซียนลัดทันใจ  ภาษาพม่า  ด้วยก็จะดีนะครับ   เพราะทริปนี้ที่ผมไปได้ใช้คุ้มค่าจริง ๆ  โดยเฉพาะภาษาพม่า   เพราะเวลาเราไปเที่ยวนอกเมืองมัณฑะเลย์  ชาวบ้านส่วนใหญ่จะสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้   เราจะสอบถามเส้นทาง   สถานที่  สั่งอาหาร  เติมน้ำมันรถ    และจ่ายเงินต้องพูดเป็นภาษาพม่า   ชาวบ้านจึงจะเข้าใจครับ   (เดี๋ยวมาต่อนะครับ)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่