ตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะเจาะลึกมัณฑะเลย์และรอบ ๆ (ตอนที่ 2)

สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกชาวพันทิปที่สนใจเข้ามาอ่านกระทู้ที่ผมเขียน   หลังจากผมเขียนเล่าประสบการณ์การเที่ยวเมืองมัณฑะเลย์ใน 2 วันแรกไปแล้ว   ต้องการอ่านประสบการณ์แว้นของผมในตอนที่ 1 ได้ที่  http:ppantip.com/topic/35147080
       เท้าความทริปการเดินทางของผมในมัณฑะเลย์และรอบ ๆ ใน 4 คืน 5 วัน  สไตล์ตะลุยเที่ยวดะแวะตามใจฉัน  
วันแรก : เดินทางกรุงเทพฯ - มัณฑะเลย์  และเที่ยวครึ่งวันฝนวัดต่าง ๆ ของเมืองมัณฑะเลย์
วันที่  2 : เที่ยววัดมหามัยมุนี   มิงกุน  และสกาย
วันที่  3 : เที่ยวพระราชวังมัณฑะเลย์  วัดต่าง ๆ ในเมือง และอมรปุระ
วันที่  4 : เที่ยวสกาย (ต่อ) และอังวะ
วันที่  5 : ชมพิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี   ตลาดเซโจ  ซื้อของฝาก และเดินทางกลับกรุงเทพฯ





วันที่ 3 : พระราชวังมัณฑะเลย์  วัดต่าง ๆ ในเมือง  และอมรปุระ
           หลังจากวันที่ 2  ขี่ตะลุยไปเที่ยวนอกเมืองถึงสกายและมิงกุนมา   วันนี้จึงเปลี่ยนมาเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวที่เหลือในเมืองมัณฑะเลย์บ้าง  แล้วบ่าย ๆ คงไปเที่ยวอมรปุระ  เป็นการจบท้ายของวัน   วันนี้ออกจากโรงแรมที่พักในเวลา 8.40 น.  ขี่แว้น ๆ แป๊ปเดียวแค่ 10 นาทีกว่าก็ถึงที่แรกของเรา  นั่นก็คือ วิหารไม้ชเวนันดา



         วิหารไม้ชเวนันดานับเป็นไฮไลต์ของผู้ที่มาเที่ยวมัณฑะเลย์ไม่ควรพลาดชมครับ  ผมก็เลยต้องไม่พลาดชมเหมือนกันจัดไปทีแรกของวันเลย   การเข้าชมที่นี่ต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 10,000 จ๊าตครับ เป็นบัตรเข้าชมแบบ combo set  สามารถเข้าชมวิหารไม้ชเวนันดา  วัดอาตุมาชิ  พระราชวังมัณฑะเลย์  เขามัณฑะเลย์ และอังวะได้    เปิดให้เข้าชมเวลา 7.30 - 17.30 น.  แต่มาวันแรกผมเห็น 5 โมงก็จะปิดแล้วครับ   ดังนั้นเพื่อน ๆ ที่สนใจจะมาชมอย่ามาเย็นมากนะครับ  เพราะที่นี่เราควรมีเวลาชมอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง  ใครชอบดื่มด่ำกับงานศิลปกรรมควรมีเวลาชมประมาณ 1 ช.ม. ครับ
            ตามประวัติบอกว่า เดิมวิหารไม้หลังคานี้เป็นพระราชมณเฑียรทองที่ประทับของพระเจ้ามินดงที่อยู่ในพระราชวังมัณฑะเลย์  ซึ่งพระตำหนักนี้ทำด้วยไม้สักทองแบะปิดทองทั้งหลัง  ปัจจุบันทองดังกล่าวหลุดลอกไปหมดแล้ว  เห็นเหลือเพียงบางส่วนข้างในที่ยังมีทองปิดอยู่บ้างนะครับ   

โดยพระตำหนักหลังนี้พระเจ้ามินดงเคยใช้เป็นที่นั่งสมาธิเจริญภาวนาขณะประทับอยู่ในวัง  และพระองค์ก็ประทับที่นี่จนสวรรคต  จากนั้นพระเจ้าสีป่อ ซึ่งได้ครองราชย์ต่อจากพระเจ้ามินดงจึงได้รื้อถอนพระตำหนักนี้นำมาถวายวัดแห่งนี้   ทางวัดได้ประกอบวิหารไม้ขึ้นใหม่พร้อมนำพระพุทธรูปมาประดิษฐานไว้บนบุษบกที้เลียนแบบสีหาสนบัลลังก์    จึงทำให้พระตำหนักหลังนี้เป็นเพียงตำหนักเดียวของพระราชวังมัณฑะเลย์ที่เหลืออยู่ในปัจจุบัน   ไม่ถูกเผาทำลายในคราวสงครามโลกครั้งที่ 2  เหมือนกับพระรนชวังมัณฑะเลย์   การชมวิหารไม้หลังนี้จึงควรชมทั้งผนังนอกชาน  ผนังวิหาร  เชิงหลังคา  กรอบของจั่วอาคาร  เสา  เพราะทุกองค์ประกอบของวิหารล้วนงดงามด้วยงานแกะสลักไม้ชั้นเลิศของพม่าจนยากที่จะหาแห่งใดงามได้เท่านี้  ไปดูภาพกันครับว่า เขาสลักลวดลายไม้งดงามกันอย่างไงครับ


ต้องออกตัวก่อนนะครับว่า ผมอาจถ่ายภาพได้ไม่ค่อยสวยเท่าไรนักเพราะถ่ายจากกล้องโทรศัพท์  เพื่อนชาวพันทิปที่เคยโพสกระทู้เกี่ยวกับวัดนี้มาก่อนที่ใช้กล้องถ่ายรูปจะถ่ายได้คมชัดและสวยกว่าผมแน่นอน  และถ้าดูด้วยตาตนเองจะสวยกว่าในภาพอย่างมากเลยครับ  ไปไงครับกระตุ้นต่อมอยากมาชมเองรึยังครับ...😄😄😄

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่