ตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะยอร์กยาการ์ตาและบาหลี ตอนที่ 1


                           กลับมารีวิวอีกครั้ง  แต่คราวนี้เป็นทริปการเดินทางท่องเที่ยวฉบับตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะในอินโดนีเซียนะครับ  โดยเที่ยวเจาะลึกแค่  2  เมืองคือ  ยอร์กยากาตาร์ หรือ จ๊อกจาบนเกาะชวา กับเกาะบาหลี   สไตล์คนชอบแนวประวัติศาสตร์เน้นขี่รถไปดูโบราณสถานจำพวกจันทิในศิลปะชวา และปุระในศิลปะบาหลีเป็นส่วนใหญ่นะครับ   ถ้าใครเป็นคนชอบแนวประวัติศาสตร์กระทู้นี้คงถูกใจคุณนะครับ  แต่ถ้าไม่ใช่คุณอาจดูภาพและข้อมูลประกอบเผื่อโอกาสต่อไปคุณมีเวลาว่างเหลือพอในการเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมืองนั้น ๆ แล้วอาจเลือกบรรจุสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมรีวิวลงในลิสต์รายการเที่ยวของคุณก็ได้นะครับ  
                           ทริปการเดินทางครั้งนี้ของผมใช้เวลาเที่ยวทั้งหมด  13  วัน   แต่ต้องออกตัวก่อนว่ารูปภาพที่ลงในกระทู้อาจไม่สวยถูกใจคุณผู้ชมนัก  เพราะผมถ่ายรูปจากกล้องโทรศัพท์และกล้องถ่ายรูปธรรมดาเท่านั้นไม่ได้ตกแต่งภาพแต่อย่างใดนะครับ     ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจการเดินทางท่องเที่ยวของผมตลอด  13  วันก่อนนะครับว่าผมแบ่งการเที่ยวชมในแต่ละวันกันอย่างไร
      

                            ทริปการเดินทางท่องเที่ยวในยอร์กยาการ์ตาและบาหลี  13  วัน  ของผมมีดังนี้ครับ
                            วันแรก    :   เดินทางจากกรุงเทพฯ - กัวลาลัมเปอร์ - ยอร์กยากาตาร์  และเที่ยวถนนมาลิโอโบโร่ยามค่ำคืน
                            วันที่  2   :   เที่ยวโซนตะวันออกของย็อกยา  (กลุ่มจันทิปรัมบานัน)
                            วันที่  3   :   เที่ยวโซนตอนเหนือของย็อกยา  (กลุ่มจันทิบุโรพุทโธ)
                            วันที่  4   :   เที่ยวโซนตะวันออกเฉียงใต้ของย็อกยา  (กลุ่มจันทิอิโจ + น้ำตก)
                            วันที่  5   :   เที่ยวโซนตอนใต้ของย็อกยา  (ชายหาด + น้ำตก)
                            วันที่  6   :   เที่ยวโซนเดียงพลาโต  (กลุ่มจันทิอรชุน)
                            วันที่  7   :   เที่ยวในเมืองย็อกยา  (วังสุลต่าน)  และเดินทางไปเกาะบาหลี เดินเที่ยวถนนเลเกียนยามค่ำคืน
                            วันที่  8   :   เที่ยวโซนตอนเหนือของบาหลี  (กลุ่มปุระในเมืองสิงคราช)
                            วันที่  9   :   เล่นน้ำชายหาดกูตา  และเดินเที่ยวย่านอูบุด    
                            วันที่ 10  :   เที่ยวโซนตะวันออกของบาหลี  (เมืองสีมาระปุระ และอัมละปุระ)
                            วันที่ 11  :   เที่ยวโซนตอนกลางของบาหลี  (กลุ่มปุระเบซากีห์)
                            วันที่ 12  :   เที่ยวโซนตอนใต้ของบาหลี   (เมืองเดนปาซาร์ + ปุระทานาลอค)
                            วันที่ 13  :   เดินทางกลับกรุงเทพฯ  

                            ค่าใช้จ่ายในทริปยอร์กยาการ์ตาและบาหลี  13  วัน   ผมใช้จ่ายเงินไปทั้งหมด  42,000  บาท   โดยแบ่งเป็น
                            - ค่าเครื่องบิน  4  ไฟล์ (กรุงเทพฯ - กัวลาฯ)  , (กัวลา - ย็อกยา) , (ย็อกยา - บาหลี) , (บาหลี - กรุงเทพฯ)  +  สัมภาระ  20  ก.ก. (ขาไป) และ  25  ก.ก. (ขากลับ)   12,300  บาท
                            - ค่าโรงแรมที่พัก  12  คืน  (ย็อกยา  6  คืน , กูตา  2  คืน , อูบุด  4  คืน)    17,000   บาท
                            - ค่าเข้าชม  ค่าแพ็คเก็ตเดียงพลาโต  ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยว  ค่าน้ำมันรถ  ค่ากิน  ค่าของฝากที่ระลึก  และค่าเข้าชมการแสดง   12,700  บาท


วันแรก  :  เดินทางจากกรุงเทพฯ - กัวลาลัมเปอร์ - ยอร์กยากาตาร์  และเที่ยวถนนมาลิโอโบโร่ยามค่ำคืน

                            ออกจากบ้านตี  4  ครึ่งเพื่อมาขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองให้ทันเวลาบิน  8.35 น.  แลกเงินมาเสร็พสรรพแล้วจากร้านแลกเงินประตูน้ำทั้งเงินสกุลรูเปี๊ยะ (Rp) และดอล์ลาร์  พกเงินสดไป  30,000 บาท  เหลือกลับมา  9,000  บาท  (เอาเงิน 30,000 บาทนี้ส่วนหนึ่งไปจ่ายค่าโรงแรมที่พักบางแห่งด้วย)  เงินดอล์ลาร์ที่แลกไปสำรองเลยไม่ได้ใช้สักนิด    รอบนี้ได้เงินรูเปี๊ยะเรทดีกว่าไปแลกที่อินโดฯ อีก   แลกเงินมาในเรท  1  บาท = 0.00263  รูเปี๊ยะ  ทำให้เวลาจ่ายเงินรูเปี๊ยะจะประหยัดขึ้นในการเที่ยวครับ  
                            วันนี้โชคดีเครื่องบินออกตรงเวลาทุกไฟล์  จึงไม่ต้องกังวลกับปัญหาการดีเลย์   นั่งเครื่องแป๊บ ๆ ไม่ถึง  2  ช.ม. ก็ถึงแล้วสนามบินกัวลาลัมเปอร์  


เจ้าหางแดงลำนี้สัญชาติมาเลเซียพาเราไปกัวลาลัมเปอร์กันในทริปนี้



วิวด้านล่างถ่ายตอนเครื่องบินบินผ่านทะเลสาบสงขลาแถวพัทลุง


ถึงแล้วสนามบินกัวลาลัมเปอร์ (Klia 2)


คนเยอะเหมือนกันที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ (Klia 2)  แต่  ต.ม.ที่นี่ทำงานไว  เข้า ต.ม. ไม่ถึง 5 นาทีปั๊มตราผ่านแล้ว  รวดเร็วดีจริง ๆ  


เดินมาดูจอไฟล์เรายังไม่เปิดเช็คอินสัมภาระ   


งั้นไปหาอะไรกินที่ 7 -11  ในสนามบินก่อนดีกว่า  ได้มานาซิเลอมัก  ดีนะที่พกเงินริงกิตมาเล็กน้อยที่เหลือจากการเที่ยวมาเลเซียเมื่อ 6  ปีที่แล้ว


รอต่อเครื่องไปย็อกยาอีกเกือบ  3  ช.ม.   เช็คอินเสร็จเดินไปรอที่หน้าเกต   จากเคาร์เตอร์เช็คอินไปหน้าเกตไกลเหมือนกันนะ  น่าจะราว ๆ เกือบ 2  ก.ม.  ถ้าใครเผื่อเวลาเปลี่ยนเครื่องน้อยกว่า  2  ช.ม.  มีหวังงานนี้วิ่งมาราธอนใส่ตีนผีกันเลย



นั่งเจ้าหางแดงลำนี้สัญชาติมาเลเซียบินไปย็อกยา  2  ช.ม. ครึ่งจึงถึง


ถึงแล้วสนามบินย็อกยา  ต้องปรับเวลากลับมาเป็นโซนเวลา + 7  เหมือนไทยเรา  เพราะเมื่อกี้อยู่มาเลเซียเวลาเค้าเร็วกว่าที่นี่  1  ช.ม.


ไฟล์นี้ที่สนามบินย็อกยาไม่มีงวงเทียบเครื่องนะครับ   เพราะตัวอาคารสนามบินเตี้ยและมีขนาดเล็กมาก เดินลงจากเครื่องครับ


สนามบินเล็ก  คนก็เยอะ  แต่ ต.ม. ทำงานไม่ช้า  ช้าตรงรอกระเป๋าจากสายพาน   ได้กระเป๋าแล้วจ้างรถแท๊กซี่  ที่นี่เค้าเขียนแท๊กซี่อย่างนี้นะครับ  TAKSI  เขียนไม่เหมือนบ้านเรา   จ้างไปส่งโรงแรมที่พักแถวถนนมาลิโอโบโร่


ที่นี่รถติดทุกวันโดยเฉพาะตอนเย็น ๆ ถึงค่ำ  คล้าย ๆ ว่าเมืองนี้คนเยอะและถนนแคบ   นั่งรถมาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง  ระยะทางจากสนามบินมาถนนมาลิโอโบโร่ราว  9  ก.ม.

  
ค่ารถแท๊กซี่จ้างจากสนามบินมายังโรงแรมที่พักแถวถนนมาลิโอโบโร่  ผมเสียไป  90,000 Rp (236.70  บาท)  ตอนแรกแท๊กซี่ที่สนามบินหลายคันเปิดราคามาที่  150,000  Rp  ผมต่อเค้าก็ให้แค่ 100,000 Rp  ให้ลดมาอีกก็ยังไม่ยอม  เค้าบอกขับเข้าไปส่งแถวนั้นตอนนี้รถจะติดมาก ๆ   จริง ๆ ราคารถแท๊กซี่ส่งจากสนามบินไปแถวถนนมาลิโอโบโร่จะอยู่ที่  70,000 - 75,000 Rp  จึงจะถือว่าเป็นราคาที่ถูกต้องนะครับ  (หนังสือ lonely planet  Indonesia ก็บอกเรทราคานี้เอาไว้นะครับ) และตอนขากลับผมเรียกรถแท๊กซี่จากโรงแรมไปส่งสนามบินเค้าก็เก็บแค่ 75,000 Rp  เค้าบอกว่าวิ่งส่งคนเรทนี้ประจำแถมให้เราดูโพยหลักฐานด้วย  แปลว่ามาถึงด่านแรกเจอเจ้าถิ่นฟันหัวไปนิดหน่อย  ดีว่าต่อแล้วเค้ายอมที่ราคา  90,000  Rp  นะเนี่ย


                       เก็บสัมภาระเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว   ก็เดินออกไปสำรวจวิถีชีวิตของผู้คนเขากันที่ถนนมาลิโอโบโร่ยามค่ำคืนกัน   เดินจากโรงแรมที่พักออกไปปากซอยไปไกลแค่ข้ามทางรถไฟไป  400  เมตรก็ถึงแล้ว  ใกล้ดีจริง ๆ แถมทางที่เดินไปผู้คนก็พลุกพล่านเกือบทั้งคืนด้วย  ไม่ต้องกลัวอันตรายแต่อย่างใด   แถมหน้าปากซอยยังมีร้านมินิมาร์ทอีกด้วยสะดวกจริงแท้....


                       ถนนมาลิโอโบโร่จะเป็นถนนเส้นตรงยาวจนไปสุดที่พระราชวังสุลต่านนะครับ   แต่ช่วงที่จะคึกคักมีร้านค้าร้านขายอาหาารและของกินจะเป็นช่วงต้นถนนยาวไปประมาณเกือบ  2  ก.ม. นะครับ   2  ฟากฝั่งถนนจะมีร้านรวงและห้างสรรพสินค้าขายของจำนวนมาก คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวและนักศึกษาวัยรุ่นของเมืองนี้มากมายต่างมานั่งดื่มกินแท้งเอ้าท์จนเกือบสว่างทุกคืน  เพราะเมืองนี้เป็นเมืองมหาวิทยาลัยนะครับ  เราจึงพบเห็นวัยรุ่นมารวมตัวกันยามค่ำคืนที่นี่ได้เสมอทุกวัน   

                        ในซอย ๆ ต่างของถนนสายนี้ก็มีโรงแรมและเกสเอ้าท์ราคาถูกเหมาะกับนักท่องเที่ยวสไตล์  Backpack ที่ไม่ได้จองที่พักมาล่วงหน้าและชอบที่พักราคาสบายกระเป๋ามีให้เลือกมากมาย   


รถม้าและรถเบจัคไปรับส่งคน  ก็เรียกลูกค้าตลอด  จอดรอรับส่งคนอยู่มากตามริมถนนสายนี้


ร้านขายเสื้อบาติกทั้งของผู้ชายและผู้หญิง   ราคาราวตัวละ  200  กว่าบาท และมีไปถึงตัวเกือบพัน  สีสันลวดลายสดใสถูกใสดีครับ  ผมยังอุดหนุนซื้อกลับมา  3  ตัวเลย



ร้านขายเสื้อยืดกรีนลาย jogja  ชื่อย่อของเมืองนี้ ตั้งอยู่ริมฟุตบาททางเดินของถนน   ราคาถูกมาก ๆ ตัวละ  30 - 40  บาท เห็นขายดีเหมือนกันพวกวัยรุ่นชอบอุดหนุนซื้อกัน

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่