เท้าความชีวิตนิดนึง
ผมทำงานประจำมา 10 กว่าปี ปัจจุบันลาออกจากงานได้ราวๆ 1 ปีแล้ว
ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงิน ผมมีเงินออมกับทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง ไม่มีหนี้สินอะไร
ทุกวันนี้มีรายได้จากการปล่อยเงินกู้นิดหน่อย หุ้น(เล่นขำๆส่วนใหญ่ถือยาว)
พอที่จะดำเนินชีวิตไปได้อย่างปกติสุข
ความรู้สึกกับชีวิตในปัจจุบัน
ผมว่างมาเกือบ 1 ปี เดือนสิงหานี้จะครบปีพอดีที่เป็นกลายคนว่างงาน
จริงๆมันก็ชิลๆดีนะกับชีวิตแบบนี้ ตื่นกี่โมงก็ได้ อยากทำอะไรก็ทำ
ไม่มีเจ้านาย+ลูกน้อง+ลูกค้า โทรมายุกยิก ง่วงนอนก็เดินกลับเข้าไปนอน
ฟรีสไตล์ เล่นเกมส์ เล่นเนท อ่านบทความที่อยากอ่าน
ปัญหาชีวิต middleman crisis
มันก็โอเคในระดับหนึ่งนะครับ แต่พออยู่ว่างๆนิ่งๆนาน ยิ่งอากาศหน้าฝนขมุกขมัว ฟ้าอึมครึม ฝนตก ความรู้สึกประหลาดจะก่อตัวขึ้น
ความรู้สึกที่เหมือนว่าตัวเอง fail จะประทุขึ้นมา
สมองจะนึกถึงเรื่องในอดีตที่เคยทำพลาด น่าจะทำได้ดีกว่านั้น หรือเรื่องไร้สาระบางเรื่องที่ทำให้รู้สึกบู่ๆ
บวกกับมีแรงกดดันจากครอบครัวและคนใกล้ชิดบ้าง
- แม่บ่น "เอ็งจะไม่ทำไรแล้วเหรอ" - พ่อบ่น "เมื่อไหร่จะมีครอบครัว" - เพื่อน"ไม่เบื่อเหรอ"
เออ "เบื่อดิ"
ถ้าความรู้สึกบู่ๆแบบนี้เกิดขึ้น ผมก็จะหันไปหาอะไรทำ เช่นออกกำลังกาย ไปเที่ยวกับเพื่อน
ก็พอที่จะลดความเบื่อลงไปได้ ในช่วงเวลาหนึ่ง
คิดหาสาเหตุ
มานั่งตรองอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ พอจะสรุป ได้ง่ายๆว่า ปัญหาทั้งหมดมันเกิดจาก "ว่าง" เกินไป
- พอว่าง ก็จะคิด
- พอคิด ก็จะฟุ้งซ่าน
- พอฟุ้งซ่าน ก็จะรู้สึกบู่ (พอจะเข้าใจคนที่รู้สึกอยากฆ่าตัวตายเลย แต่ผมไม่ขนาดนั้นนะ)
สมัยที่ยังทำงานอยู่ ถึงแม้งานจะไม่หนักหนามาก ในสมองจะมีเรื่องงานวิ่งอยู่ตลอดเวลา
เหมือนมาคอยใช้พื่นที่ในสมองไป ทำให้ความรู้สึกบู่ๆ ไม่มีที่ให้โผล่มาได้
ค้นหาวิธีแก้ไข
???ธรรมะ???
เอาจริงๆ ผมไม่ใช่คนที่เชื่อในศาสนาเทาไร ที่นับถือพุทธ ก็นับถือตามพ่อแม่และบัตรปชช. เท่านั้น
ผมก็ชอบแนวทางพุทธที่สุด เชื่อว่าความสุขที่สุด เกิดขึ้นในตัวเองเท่านั้น ไร้ทุกข์ไร้สุขคือสุขแท้
แต่คิดว่าคงไปไม่ได้ไกลถึงขนาดนั้น ผมน่าจะเป็นบัวเหล่าต่ำๆ และที่สำคัญก็ไม่ได้นิยมความเป็นพุทธที่เห็นอยู่สังคมรอบๆตัวเท่าไร
จะให้เข้าวัด ฟังธรรม หรือบวชเลย คงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก
???หางานทำ???
น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับวิกฤตในชีวิตครั้งนี้ ว่าแต่จะทำอะไรดีละ
กลับไปทำงานที่เดิม???
จริงๆก็ทำได้เลย เจ้านายเก่าก็ชวนอยู่ตลอด งานก็ไม่หนัก รายได้ก็พอสมควร
แต่พอคิดว่า ตอนนั้นผมที่ลาออกเพราะความบู่ในการทำงานนั่นแหละ
พอนั่งจิตนาการว่าถ้าไปทำงานจะเป็นยังไงบ้าง
เลิกคิดได้เลย
สุดท้ายก็ไม่เหลือทางเลือกอะไรมากนัก นอกจาก หาอะไรทำเอง
ตัวผมเองไม่ใช่คนฉลาดหรือมีความคิดสร้างสรรค์อะไร
ครั้นจะมาหา innovation เหมือน startup เท่ห์ๆที่เป็นกระแสอยู่ ก็คงไม่มีปัญญา
เลยมาคิดว่าจะมีงานอะไรที่เราพอจะทำได้
เป้าหมายหลักของการ startup
1. กำจัดความว่าง
2. หารายได้
3. มีประโยชน์ได้ช่วยเหลือสังคม (อันนี้จริงจัง ไม่ได้โลกสวย การได้ช่วยเหลือใครบ้างมันทำให้ผมมีความสุขแบบแปลกๆครับ)
Asset สิ่งที่ผมมี
1. ตัวผม ผมเรียนจบสายวิศวกรรม+เทคโนโลยี (แต่ไม่ได้ใช้งานความรู้ที่เรียนมานานมาก)
ผมจะชำนาญเรื่องการประสานงาน แก้ปัญหาต่างๆ จับแพะชนแกะ อะไรทำนองนี้
2. เงินทุน มีเองนิดหน่อย แต่ถ้ามีโปรเจคที่มีความเป็นไปได้ ผมสามารถหาเงินทุนได้พอสมควร
ผมมีเครดิตทางด้านนี้บ้าง
ผมมีแค่มุมมองกว้างๆ แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะทำอะไร ผมไม่มีความชอบหรือความชำนาญอะไรที่เป็นพิเศษ
เลยคิดว่าการมาขอความเห็นในเวปไซด์ น่าจะช่วยอะไรได้บ้าง
ขอความกรุณา ให้ความเห็น คำชี้แนะ หรืออะไรก็ตามที่อยากจะบอก
มันจะเป็นประโยชน์กับผมมากเลยครับ ขอบพระคุณครับ
เบื่อๆชีวิต กับการ StartUp ตอนอายุ 35 ???
ผมทำงานประจำมา 10 กว่าปี ปัจจุบันลาออกจากงานได้ราวๆ 1 ปีแล้ว
ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงิน ผมมีเงินออมกับทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง ไม่มีหนี้สินอะไร
ทุกวันนี้มีรายได้จากการปล่อยเงินกู้นิดหน่อย หุ้น(เล่นขำๆส่วนใหญ่ถือยาว)
พอที่จะดำเนินชีวิตไปได้อย่างปกติสุข
ความรู้สึกกับชีวิตในปัจจุบัน
ผมว่างมาเกือบ 1 ปี เดือนสิงหานี้จะครบปีพอดีที่เป็นกลายคนว่างงาน
จริงๆมันก็ชิลๆดีนะกับชีวิตแบบนี้ ตื่นกี่โมงก็ได้ อยากทำอะไรก็ทำ
ไม่มีเจ้านาย+ลูกน้อง+ลูกค้า โทรมายุกยิก ง่วงนอนก็เดินกลับเข้าไปนอน
ฟรีสไตล์ เล่นเกมส์ เล่นเนท อ่านบทความที่อยากอ่าน
ปัญหาชีวิต middleman crisis
มันก็โอเคในระดับหนึ่งนะครับ แต่พออยู่ว่างๆนิ่งๆนาน ยิ่งอากาศหน้าฝนขมุกขมัว ฟ้าอึมครึม ฝนตก ความรู้สึกประหลาดจะก่อตัวขึ้น
ความรู้สึกที่เหมือนว่าตัวเอง fail จะประทุขึ้นมา
สมองจะนึกถึงเรื่องในอดีตที่เคยทำพลาด น่าจะทำได้ดีกว่านั้น หรือเรื่องไร้สาระบางเรื่องที่ทำให้รู้สึกบู่ๆ
บวกกับมีแรงกดดันจากครอบครัวและคนใกล้ชิดบ้าง
- แม่บ่น "เอ็งจะไม่ทำไรแล้วเหรอ" - พ่อบ่น "เมื่อไหร่จะมีครอบครัว" - เพื่อน"ไม่เบื่อเหรอ"
เออ "เบื่อดิ"
ถ้าความรู้สึกบู่ๆแบบนี้เกิดขึ้น ผมก็จะหันไปหาอะไรทำ เช่นออกกำลังกาย ไปเที่ยวกับเพื่อน
ก็พอที่จะลดความเบื่อลงไปได้ ในช่วงเวลาหนึ่ง
คิดหาสาเหตุ
มานั่งตรองอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ พอจะสรุป ได้ง่ายๆว่า ปัญหาทั้งหมดมันเกิดจาก "ว่าง" เกินไป
- พอว่าง ก็จะคิด
- พอคิด ก็จะฟุ้งซ่าน
- พอฟุ้งซ่าน ก็จะรู้สึกบู่ (พอจะเข้าใจคนที่รู้สึกอยากฆ่าตัวตายเลย แต่ผมไม่ขนาดนั้นนะ)
สมัยที่ยังทำงานอยู่ ถึงแม้งานจะไม่หนักหนามาก ในสมองจะมีเรื่องงานวิ่งอยู่ตลอดเวลา
เหมือนมาคอยใช้พื่นที่ในสมองไป ทำให้ความรู้สึกบู่ๆ ไม่มีที่ให้โผล่มาได้
ค้นหาวิธีแก้ไข
???ธรรมะ???
เอาจริงๆ ผมไม่ใช่คนที่เชื่อในศาสนาเทาไร ที่นับถือพุทธ ก็นับถือตามพ่อแม่และบัตรปชช. เท่านั้น
ผมก็ชอบแนวทางพุทธที่สุด เชื่อว่าความสุขที่สุด เกิดขึ้นในตัวเองเท่านั้น ไร้ทุกข์ไร้สุขคือสุขแท้
แต่คิดว่าคงไปไม่ได้ไกลถึงขนาดนั้น ผมน่าจะเป็นบัวเหล่าต่ำๆ และที่สำคัญก็ไม่ได้นิยมความเป็นพุทธที่เห็นอยู่สังคมรอบๆตัวเท่าไร
จะให้เข้าวัด ฟังธรรม หรือบวชเลย คงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก
???หางานทำ???
น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับวิกฤตในชีวิตครั้งนี้ ว่าแต่จะทำอะไรดีละ
กลับไปทำงานที่เดิม???
จริงๆก็ทำได้เลย เจ้านายเก่าก็ชวนอยู่ตลอด งานก็ไม่หนัก รายได้ก็พอสมควร
แต่พอคิดว่า ตอนนั้นผมที่ลาออกเพราะความบู่ในการทำงานนั่นแหละ
พอนั่งจิตนาการว่าถ้าไปทำงานจะเป็นยังไงบ้าง
เลิกคิดได้เลย
สุดท้ายก็ไม่เหลือทางเลือกอะไรมากนัก นอกจาก หาอะไรทำเอง
ตัวผมเองไม่ใช่คนฉลาดหรือมีความคิดสร้างสรรค์อะไร
ครั้นจะมาหา innovation เหมือน startup เท่ห์ๆที่เป็นกระแสอยู่ ก็คงไม่มีปัญญา
เลยมาคิดว่าจะมีงานอะไรที่เราพอจะทำได้
เป้าหมายหลักของการ startup
1. กำจัดความว่าง
2. หารายได้
3. มีประโยชน์ได้ช่วยเหลือสังคม (อันนี้จริงจัง ไม่ได้โลกสวย การได้ช่วยเหลือใครบ้างมันทำให้ผมมีความสุขแบบแปลกๆครับ)
Asset สิ่งที่ผมมี
1. ตัวผม ผมเรียนจบสายวิศวกรรม+เทคโนโลยี (แต่ไม่ได้ใช้งานความรู้ที่เรียนมานานมาก)
ผมจะชำนาญเรื่องการประสานงาน แก้ปัญหาต่างๆ จับแพะชนแกะ อะไรทำนองนี้
2. เงินทุน มีเองนิดหน่อย แต่ถ้ามีโปรเจคที่มีความเป็นไปได้ ผมสามารถหาเงินทุนได้พอสมควร
ผมมีเครดิตทางด้านนี้บ้าง
ผมมีแค่มุมมองกว้างๆ แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะทำอะไร ผมไม่มีความชอบหรือความชำนาญอะไรที่เป็นพิเศษ
เลยคิดว่าการมาขอความเห็นในเวปไซด์ น่าจะช่วยอะไรได้บ้าง
ขอความกรุณา ให้ความเห็น คำชี้แนะ หรืออะไรก็ตามที่อยากจะบอก
มันจะเป็นประโยชน์กับผมมากเลยครับ ขอบพระคุณครับ