สวัสดีค่ะ
ต้องตั้งเป็นกระทู้คำถาม เพราะตั้งธรรมดาไม่ได้อ่ะ
นี่ตั้งกระทู้ครั้งแรกเลย และทำใจอยู่นานเหมือนกันกว่าจะตั้งกระทู้นี้ได้ เพราะเป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่เจ็บปวดมาก และส่งผลต่อร่างกายและจิตใจจนถึงทุกวันนี้ แต่อยากมาเผยแพร่ให้คนที่อาจประสบเหตุการณ์เดียวกันอ่าน หรือญาติ หรือเพื่อนโดนไฟไหม้ จะได้รู้วิธีรักษา การดูแลอาการค่ะ เพราะตอนเราป่วย ไม่มีเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเป็นภาษาไทยเลย เลยต้องอ่านเว็บภาษาอังกฤษ ตัวเราอ่านได้ ไม่มีปัญหา แต่อาจจะมีคนอื่นๆอีกมากมายที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ เลยอยากแบ่งปันให้อ่านเป็นภาษาไทยกันค่ะ
ต้นปี2015 เราโดนไฟไหม้ คิดเป็น40% ของร่างกาย และburn degree ระดับ 2และ3
40%ของร่างกายนี่นับว่าเยอะมากค่ะ เราโดนตรงแขนและขา (เพราะใส่เสื้อแขนสั้น กางเกงขาสั้น เลยไม่โดนตรงตัว) เราดับไฟด้วยการกระโดดจากชั้น2ลงไปยังบ่อน้ำที่ชั้น1 ทำให้ไฟดับได้ค่ะ
เคยอ่านเจอว่า โดนไฟไหม้อยู่และกระโดดลงบ่อน้ำ อาจทำให้ร่างกายเกิดสภาวะช็อคได้ อันนี้ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน แต่เสี้ยววินาทีนั้น ถ้าไม่กระโดดลงป่านนี้คงไหม้ไปทั้งตัวแล้วค่ะ
จากนั้นเราก็ร้องกรี๊ด ทุกคนนในบ้านตกใจวิ่งมาดู และพาเราส่งโรงพยาบาลทันที ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีกว่าจะถึงโรงพยาบาล
ความผิดพลาดของเรา
คือคนโดนไฟไหม้น่ะ เมื่อดับไฟแล้วควรเอาน้ำเย็นราดไว้ตลอดเวลา จะเป็นการปฐมพยาบาลช่วยให้อาการburnไม่สาหัสมาก ตอนนั้นเราและทุกคนในครอบครัวอยู่ในอาการช็อค คิดอะไรไม่ออกค่ะ ก็เลยรีบนำส่งโรงพยาบาลก่อน ดังนั้นถ้ามีญาติ หรือเพื่อนโดนไฟไหม้ ให้ปฐมพยาบาลด้วยการดับไฟ แล้วประคบไว้ด้วยน้ำแข็ง หรือน้ำเย็น เป็นการบรรเทานะคะ
(อันนี้คือที่เราเข้าใจนะ หากมีคุณหมอท่านใดมีcommentเพิ่มเติม เชิญเลยนะคะ)
ไปถึงโรงพยาบาลที่เราใช้ประจำ คือโรงพยาบาลชื่อดังย่านนานา ก็เข้าไปห้องฉุกเฉินค่ะ เขาก็ปฐมพยาบาลด้วยการทาครีมขาวๆอะไรซักอย่าง มาโปะทั้วแผลเลยแล้วพันไว้ เป็นการฆ่าเชื้อค่ะ จากนั้นก็นำไปx-rayหลัง เพราะเราตกจากที่สูงด้วย
ช่วงเวลาตรงนี้เราหนาวค่ะ อาจจะเป็นเพราะเสียน้ำในร่างกายเยอะ หรือผิวหนังไหม้ไป แต่หนาวสั่นตลอดเวลา แล้วก็ไม่ค่อยมีสติด้วย เลยไม่รู้ว่าขั้นตอนการx-rayและอื่นๆนั้นกินเวลานานเท่าไหร่
เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถูกเอาเข้าไปอยู่ในICUจ้าาาาา
1เดือนในICU
คือเล่าเหตุการณ์หลังจากนี้คือจำได้บ้างไม่ได้บ้างแล้วนะ เพราะได้ยาเยอะมาก จนสติไม่ค่อยดี เราอยู่ICU 1 เดือน ออกมายังถามแม่อยู่เลยว่าอยู่ 5 วันเหรอ คือมันได้ยาเยอะมากจนจำอะไรไม่ได้เลย
จำได้รางๆ ว่ารอหมอเฉพาะทางนานมาาาากกก แบบว่าข้ามวันอ่ะ เพราะเขาต้องตามตัวหมอหมา คือเหตุเกิด 5ทุ่มวันนึง กว่าหมอจะมานี่แบบ ประมาณเย็นของอีกวันนึงอ่ะ เราถามตลอดเลยว่าเมื่อไหร่หมอจะมา เพราะทรมานมากกกก
เราได้น้ำเกลือ เพราะว่าร่างกายขาดน้ำ แต่แขนขาไหม้หมด ไม่มีที่ให้เจาะเข็มน้ำเกลือ ก็ต้องเจาะเส้นเลือดตรงคอจ้ะ ต้องมีหมอมาเจาะให้เท่านั้น เพราะพยาบาลเจาะได้แค่แขนขามั๊ง อ่ะ หมอก็เจาะไป แล้วไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับเรา คือคนโดนไฟไหม้เนี่ย ต้องได้รับโปรตีนเยอะๆ เพราะว่าต้องใช้โปรตีนไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เรากินอะไรเข้าไปอ้วกมาหมดเลย ไม่รู้เพราะว่าเครียดหรืออะไร หมอเลยตัดสินใจให้อาหารทางสายยาง สอดเข้าจมูก สายยางก็ลงท้องไป
ทำแผลในICU
คือ เราก็ไม่รู้ว่าเป็นProtocolของโรงพยาบาลหรือของหมอหรือของอะไรอ่ะน่ะ เขาไม่ให้ยาสลบเราแบบcompletelyสลบ เขาทำแผลในICU ให้ยากึ่งๆสลบ แล้วก็ทำแผล ทำแผลเนี่ย เราก็ไม่ค่อยรู้เพราะว่าเป็นคนป่วย เจ็บอยู่ แต่แม่บอกว่าเขาขูดเนื้อตาย แล้วเอาแผ่นทำแผลชื่อ Silver อะไรซักอย่างมาแปะ (ถ้าคุณหมอที่อ่านอยู่ท่านไหนรู้กวนบอกด้วยนะคะ)
โอ้โหหหหห คุณขาาาาาา เจ็บบบ เจ็บบบบบบบบบบบบบ เจ็บมากกกกกกกกกกกกกกกกก เราร้องกรี๊ดเสียงดังมาก แล้วเอาจริงๆนะ (ถ้าเล่าแบบfast forward ไป เรารักษากับหมอคนนี้7เดือนไม่หาย เกลียดหมอคนนี้มาก หมอเป็นศัลยแพทย์จากรพ.รามา แต่มารับจ๊อบที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังย่านนานาที่เรารักษา) หมอจะต้องรอให้เราเจ็บปวดแบบสุดๆก่อน แล้วค่อยให้ยาแคทเทอร่า (สะกดถูกหรือเปล่าไม่รู้) คือยานี้ได้แล้วเราเรียกว่าเป็นยาผีเสื้อเลยค่ะ เหมือนมีผีเสื้อบินอยู่เต็มไปหมด คือหายเจ็บอ่ะ แต่กว่าจะได้ยานี่ต้องร้องกรี๊ดๆแล้วหมอถึงจะให้ยา คือเราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนะ นี่คือสิ่งที่พอจำได้รางๆและแม่บอกด้วย
สิ่งที่อยากจะบอกผู้ป่วยไฟไหม้คนอื่น
ถ้าไปหาหมอ แล้วรู้สึกว่าหมอไม่เวิร์ค หรืออะไรซักอย่างไม่เวิร์ค เปลี่ยนหมอ เปลี่ยนโรงพยาบาลค่ะ เพราะเราไมได้เปลี่ยน ทนอยู่7เดือนด้วยความทรมาน พอเปลี่ยนปุ๊ป เดือนครึ่งหาย ...........คือ แค้นใจอ่ะ
ผู้ป่วยไฟไหม้ ควรต้องทำอย่างไรบ้าง
ต้องตั้งเป็นกระทู้คำถาม เพราะตั้งธรรมดาไม่ได้อ่ะ
นี่ตั้งกระทู้ครั้งแรกเลย และทำใจอยู่นานเหมือนกันกว่าจะตั้งกระทู้นี้ได้ เพราะเป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่เจ็บปวดมาก และส่งผลต่อร่างกายและจิตใจจนถึงทุกวันนี้ แต่อยากมาเผยแพร่ให้คนที่อาจประสบเหตุการณ์เดียวกันอ่าน หรือญาติ หรือเพื่อนโดนไฟไหม้ จะได้รู้วิธีรักษา การดูแลอาการค่ะ เพราะตอนเราป่วย ไม่มีเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเป็นภาษาไทยเลย เลยต้องอ่านเว็บภาษาอังกฤษ ตัวเราอ่านได้ ไม่มีปัญหา แต่อาจจะมีคนอื่นๆอีกมากมายที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ เลยอยากแบ่งปันให้อ่านเป็นภาษาไทยกันค่ะ
ต้นปี2015 เราโดนไฟไหม้ คิดเป็น40% ของร่างกาย และburn degree ระดับ 2และ3
40%ของร่างกายนี่นับว่าเยอะมากค่ะ เราโดนตรงแขนและขา (เพราะใส่เสื้อแขนสั้น กางเกงขาสั้น เลยไม่โดนตรงตัว) เราดับไฟด้วยการกระโดดจากชั้น2ลงไปยังบ่อน้ำที่ชั้น1 ทำให้ไฟดับได้ค่ะ
เคยอ่านเจอว่า โดนไฟไหม้อยู่และกระโดดลงบ่อน้ำ อาจทำให้ร่างกายเกิดสภาวะช็อคได้ อันนี้ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน แต่เสี้ยววินาทีนั้น ถ้าไม่กระโดดลงป่านนี้คงไหม้ไปทั้งตัวแล้วค่ะ
จากนั้นเราก็ร้องกรี๊ด ทุกคนนในบ้านตกใจวิ่งมาดู และพาเราส่งโรงพยาบาลทันที ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีกว่าจะถึงโรงพยาบาล
ความผิดพลาดของเรา
คือคนโดนไฟไหม้น่ะ เมื่อดับไฟแล้วควรเอาน้ำเย็นราดไว้ตลอดเวลา จะเป็นการปฐมพยาบาลช่วยให้อาการburnไม่สาหัสมาก ตอนนั้นเราและทุกคนในครอบครัวอยู่ในอาการช็อค คิดอะไรไม่ออกค่ะ ก็เลยรีบนำส่งโรงพยาบาลก่อน ดังนั้นถ้ามีญาติ หรือเพื่อนโดนไฟไหม้ ให้ปฐมพยาบาลด้วยการดับไฟ แล้วประคบไว้ด้วยน้ำแข็ง หรือน้ำเย็น เป็นการบรรเทานะคะ
(อันนี้คือที่เราเข้าใจนะ หากมีคุณหมอท่านใดมีcommentเพิ่มเติม เชิญเลยนะคะ)
ไปถึงโรงพยาบาลที่เราใช้ประจำ คือโรงพยาบาลชื่อดังย่านนานา ก็เข้าไปห้องฉุกเฉินค่ะ เขาก็ปฐมพยาบาลด้วยการทาครีมขาวๆอะไรซักอย่าง มาโปะทั้วแผลเลยแล้วพันไว้ เป็นการฆ่าเชื้อค่ะ จากนั้นก็นำไปx-rayหลัง เพราะเราตกจากที่สูงด้วย
ช่วงเวลาตรงนี้เราหนาวค่ะ อาจจะเป็นเพราะเสียน้ำในร่างกายเยอะ หรือผิวหนังไหม้ไป แต่หนาวสั่นตลอดเวลา แล้วก็ไม่ค่อยมีสติด้วย เลยไม่รู้ว่าขั้นตอนการx-rayและอื่นๆนั้นกินเวลานานเท่าไหร่
เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถูกเอาเข้าไปอยู่ในICUจ้าาาาา
1เดือนในICU
คือเล่าเหตุการณ์หลังจากนี้คือจำได้บ้างไม่ได้บ้างแล้วนะ เพราะได้ยาเยอะมาก จนสติไม่ค่อยดี เราอยู่ICU 1 เดือน ออกมายังถามแม่อยู่เลยว่าอยู่ 5 วันเหรอ คือมันได้ยาเยอะมากจนจำอะไรไม่ได้เลย
จำได้รางๆ ว่ารอหมอเฉพาะทางนานมาาาากกก แบบว่าข้ามวันอ่ะ เพราะเขาต้องตามตัวหมอหมา คือเหตุเกิด 5ทุ่มวันนึง กว่าหมอจะมานี่แบบ ประมาณเย็นของอีกวันนึงอ่ะ เราถามตลอดเลยว่าเมื่อไหร่หมอจะมา เพราะทรมานมากกกก
เราได้น้ำเกลือ เพราะว่าร่างกายขาดน้ำ แต่แขนขาไหม้หมด ไม่มีที่ให้เจาะเข็มน้ำเกลือ ก็ต้องเจาะเส้นเลือดตรงคอจ้ะ ต้องมีหมอมาเจาะให้เท่านั้น เพราะพยาบาลเจาะได้แค่แขนขามั๊ง อ่ะ หมอก็เจาะไป แล้วไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับเรา คือคนโดนไฟไหม้เนี่ย ต้องได้รับโปรตีนเยอะๆ เพราะว่าต้องใช้โปรตีนไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เรากินอะไรเข้าไปอ้วกมาหมดเลย ไม่รู้เพราะว่าเครียดหรืออะไร หมอเลยตัดสินใจให้อาหารทางสายยาง สอดเข้าจมูก สายยางก็ลงท้องไป
ทำแผลในICU
คือ เราก็ไม่รู้ว่าเป็นProtocolของโรงพยาบาลหรือของหมอหรือของอะไรอ่ะน่ะ เขาไม่ให้ยาสลบเราแบบcompletelyสลบ เขาทำแผลในICU ให้ยากึ่งๆสลบ แล้วก็ทำแผล ทำแผลเนี่ย เราก็ไม่ค่อยรู้เพราะว่าเป็นคนป่วย เจ็บอยู่ แต่แม่บอกว่าเขาขูดเนื้อตาย แล้วเอาแผ่นทำแผลชื่อ Silver อะไรซักอย่างมาแปะ (ถ้าคุณหมอที่อ่านอยู่ท่านไหนรู้กวนบอกด้วยนะคะ)
โอ้โหหหหห คุณขาาาาาา เจ็บบบ เจ็บบบบบบบบบบบบบ เจ็บมากกกกกกกกกกกกกกกกก เราร้องกรี๊ดเสียงดังมาก แล้วเอาจริงๆนะ (ถ้าเล่าแบบfast forward ไป เรารักษากับหมอคนนี้7เดือนไม่หาย เกลียดหมอคนนี้มาก หมอเป็นศัลยแพทย์จากรพ.รามา แต่มารับจ๊อบที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังย่านนานาที่เรารักษา) หมอจะต้องรอให้เราเจ็บปวดแบบสุดๆก่อน แล้วค่อยให้ยาแคทเทอร่า (สะกดถูกหรือเปล่าไม่รู้) คือยานี้ได้แล้วเราเรียกว่าเป็นยาผีเสื้อเลยค่ะ เหมือนมีผีเสื้อบินอยู่เต็มไปหมด คือหายเจ็บอ่ะ แต่กว่าจะได้ยานี่ต้องร้องกรี๊ดๆแล้วหมอถึงจะให้ยา คือเราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนะ นี่คือสิ่งที่พอจำได้รางๆและแม่บอกด้วย
สิ่งที่อยากจะบอกผู้ป่วยไฟไหม้คนอื่น
ถ้าไปหาหมอ แล้วรู้สึกว่าหมอไม่เวิร์ค หรืออะไรซักอย่างไม่เวิร์ค เปลี่ยนหมอ เปลี่ยนโรงพยาบาลค่ะ เพราะเราไมได้เปลี่ยน ทนอยู่7เดือนด้วยความทรมาน พอเปลี่ยนปุ๊ป เดือนครึ่งหาย ...........คือ แค้นใจอ่ะ