ทำยังไงดีเมื่อครอบครัวบังคับให้กินยาจิตเวช

สาเหตุที่เราได้เข้ารับการรักษาเนื่องจากเสียใจที่แฟนขอเลิกแล้วเราพยายามฆ่าตัวตาย
ก่อนหน้าที่เราพยายามฆ่าตัวตาย เรากินข้าวไม่ได้ นอนไม่หลับมาหลายวัน  หลังจากนั้นก็หาวิธีคิดฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ
ครอบครัวเลยพาขึ้นรถ ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่าจะพาเราไปไหน แต่เรากลัวมากๆ ก็มีขัดขืน แต่ก็โดนลากขึ้นรถ
พอรถเลี้ยวเข้าโรงพยาบาลจิตเวช เรายิ่งกลัวกว่าเดิม ขัดขืน และโดนฉุดกระชากลากถูกับพนักงานโรงพยาบาล 
เราโดนมัดที่เตียง และเขาก็เจาะเลือดที่นิ้วเรา หลังจากนั้นเราโดนเข็นเตียงไปโดยที่กลัวมากๆจนต้องจับมือพ่อให้เดินตามไว้ทั้งที่โดนมัด
หลังจากนั้นเราก็เห็นหมอถือประวัติเราที่เขียนว่า "suicidal " เดินผ่านเราไป และเราก็โดนเข้าไปในห้องหนึ่ง 
บรรยากาศข้างในหน้ากลัวมาก เราโดนเข็นไว้อยู่ที่หลังประตู และมีกล้องวงจรปิดติดอยู่เพดานส่องดูเราอยู่  พยาบาล2คนปลดเชือกเราออกจากเตียง เราบอกเราป่วยปัสสาวะ เขาก็คุมเราไปที่ห้องน้ำ และเฝ้ามองเราฉี่โดยที่ประตูเปิดไว้ พยายาลบังคับให้เราถอดชุดออกทั้งหมดต่อหน้า เครื่องประดับที่ใส่ และให้เราไปอาบน้ำ  หลังจากที่เราออกมาก็ให้เราใส่ชุดคนไข้ เราเริ่มกลัว เขาเลยจับเรามัดอีกและให้เราหันข้าง พยาบาลเอาเข็มเล็กๆมาฉีดที่สะโพกเรา หลังจากนั้นสักพักหนึ่งเราก็สลบไป 
ตื่นมาอีกทียังโดนมัด พยาบาลบอกญาติซื้อข้าวมาให้ พยาบาลก็ป้อนข้าวป้อนน้ำเรา พอเราอิ่มเราก็เผลอหลับไปอีก 
ตื่นมาเย็นมากเพราะแอร์ โดนมัดและไม่มีผ้าห่ม จนพยาบาลเพิ่งเอาผ้าห่มให้
ภายในห้องก็มีทั้งลูกกรงขนาดสี่เหลี่ยมอยู่ที่เหมือนเอาไว้ขังด้วย ส่วนในห้องมียายแก่ๆคนหนึ่งชอบโวยวายเสียงดัง และมีหนังสือดูดวงอยู่ข้างๆ 
พอเช้ามาพยาบาลปลดเชือกเราออกแล้ว เราก็เจอคนที่อยู่ในห้องประมาณ 4-5 คน คุยด้วยนิดหน่อย 
เราอยู่ในนั้นไม่รู้วันรู้เดือนเลย อยู่ดีๆ พยาบาบก็พาเราย้ายไปอีกห้อง 
ห้องนี้ดูดีขึ้น มีคนอยู่เยอะ เราก็ได้เพื่อนใหม่ในนั้น กิน เล่น นอน ไปวันๆ และโดนกินยาทุกวัน. 
แต่ครอบครัวก็มาเยี่ยมบ่อยๆ เราก็รู้สึกไม่ค่อยกลัวแล้ว จนถึงเวลากลับบ้าน
เราได้รับยามาหลายแผง ตอนนั้นเริ่มสับสนว่าสรุปเราเป็นอะไร ที่บ้านก็บอกแต่ว่าหมอจะให้ช็อตไฟฟ้า แต่ที่บ้านปฏิเสธการรักษา 
ออกจากโรงพยาบาลมา เราก็กินยาทั้งๆที่ยังสับสน เรากินไปสักพักเราได้รับside affect จากยา เราสิวขึ้นเต็มหน้า ประจำเดือนมาน้อย ไม่มีอารมณ์ทางเพศ ไม่มีความรู้สึกอะไรเหมือนซอมบี้ น้ำหนักขึ้น เราเริ่มรู้สึกไม่อยากกินยาอีกต่อไป 
จนเราตัดสินใจแอบหยุดกินยาโดยที่บ้านไม่รู้ ได้ประมาณ1ปีกว่าๆ เราไม่มีอาการอะไรเลยในระหว่างนั้น เราทำงานกลางคืนทุกวัน เรียนได้ปกติ เกรดดีมากๆ 
จนเราออกจากงานมา มาอยู่บ้านสักพักที่บ้าน พ่อเราพยายามจะให้แม่บ้านเข้าห้องเรามาทำความสะอาด เราบอกไม่เป็นไร เราทำเองได้ เรากำลังทำความสะอาด จัดห้องอยู่พอดี แม่บ้านบอกว่าพ่อสั่งให้มาทำ เขาต้องมาทำ เราเลยปล่อยให้ทำ 
ที่บ้านมารู้ว่าเราไม่กินยาแล้ว คืนนั้นเราล็อคห้อง แต่พี่ชายละญาติเราอีก2คน ปีนหน้าต่างเข้ามาในห้องเรา จับตัวเรา เอายายัดใส่ปากเรา เราขัดขืนแต่สุดท้ายเราก็ยอมกินเพราะมากัน 3 คน 

เช้าวันต่อมาที่บ้านบอกให้เราไปโรงพยาบาลจิตเวช เราก็ไป เราโดนเข้าไปในห้องหนึ่ง เขาถามเราว่า หยุดกินยาเองหรอ ทำไมหยุดกินยา เราก็บอกว่า เราไม่ได้เป็นอะไรแล้ว สุดท้ายเราโดนหลอกให้ไปที่ตึกหนึ่ง เขาบอกว่าจะพาไปส่งที่รถเราเพื่อกลับบ้าน แต่เราโดนหลอกมาแอดมิด เราโดนพยาบาล แบก ฉุด กระชาก ลากถู เราขึ้นตึก พยาบาลมัดเราที่เตียงอีกแล้ว และบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้แก้มัดให้ ให้เรานอน. 
ครั้งนี้ต่างจากครั้งแรก ที่อยู่ดีๆ หมอก็ให้เราช็อตไฟฟ้า หมอได้วางแผนการรักษาเรา เราได้ช็อตไฟฟ้า 6 ครั้ง 
ที่บ้านไม่เคยมาเยี่ยมเราเลย เราได้แต่นับรอวันที่จะออกจากโรงพยาบาล 

ออกจากโรงพยาบาลมา เราช็อคมากเมื่อเรารู้ว่าเราอยู่ในนั้นเดือนกว่าๆ เราน้ำหนักขึ้นมา สิบกว่าโล 
ที่บ้านก็บังคับให้เรากินยา และที่บ้านขอหมอให้ฉีดยาเราด้วย เรายอมตามน้ำไปสักพัก เราตัดสินใจหนีออกจากบ้าน ไปอยู่กับแม่แท้ๆอีกจังหวัดได้9เดือน 
เราไม่มีอาการอะไรเลยในระหว่างนั้น แต่เรามีปัญหากับแม่ เราอยู่ไม่ได้ เลยต้องขอกลับไปตั้งหลักที่เก่า พ่อก็มารับเรากลับ
หลังจากที่กลับมาบ้าน พ่อก็บอกว่าเราต้องรักษา กินยา ฉีดยาเหมือนเดิมนะ เราก็ยอมไปทั้งๆที่ในใจไม่อยากไปเพราะเราคิดว่าเราไม่ได้เป็นอะไร 
เราเพิ่งมาเห็นใบรับรองแพทย์ว่าหมอวินิจฉัยเราเป็นจิตเภท เราลองไปศึกษาโรคนี้ เราไม่มีอาการโรคจิตเภทเลย 
เราเลยตัดสินใจไปถามความเห็นของหมอคนที่ 2 (get a second opinion) 
พอถึงวันนัด เราก็เล่าทุกเหตุการณ์ให้หมอฟัง หมอบอกว่าเดี๋ยวจะทำเทสตรวจจิตเภทให้ในนัดต่อไป เราเริ่มมีหวัง 
พอถึงนัดถัดไป หมอบอกว่า หมอลืมทำเรื่องที่จะทำเทสตรวจจิตเภท และหมอขอคุยกับพ่อเรา 
พ่อเราก็เล่าอาการเรา พูดแค่ว่าเราตาลอย เราตาลอยจากกรรมพันธุ์ พูดว่าเราคุยคนเดียว เราชอบร้องเพลงคนเดียวหรือบางครั้งเราก็ฝึกพูดภาษาคนเดียว 
หมอสรุปว่าเราค้องกินยาฉีดยาต่อไป 
ตอนนี้เราหนีออกจากบ้านมาแล้ว
อยากรู้ว่าเราจะทำยังไงกับที่บ้านดีคะ ทั้งหมอ ทั้งที่บ้านไม่รับฟังเราเลย อยากให้เราป่วย กินยา ฉีดยา ช็อตไฟฟ้าอย่างเดียว เราต้องออกจากการเรียนเพราะอยู่ดีๆก็แอดมิดเราไปช็อตไฟฟ้า พอเราจะทำงานที่บ้านก็บอกให้เราหายก่อน ซึ่งที่บ้านก็ไม่ได้มาดูแลหาข้าวหาน้ำ  ซัพพอททางการเงินเราเลย เราต้องกินต้องใช้ เรารู้สึกว่าที่บ้านตัดอนาคตเรา ทำลายอนาคตเรา เราบรรบุนิติภาวะมานานแล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่อง แต่เขายังบังคับให้เรารักษาโดยที่เราไม่สมัครใจ ทางกฏหมายสามารถคุ้มครองเราได้ไหมคะ เราmove on เรื่องแฟนนานแล้ว ไม่เคยคิดฆ่าตัวตายอีกหลังจากที่เกิดเรื่อง.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่