สวัสดีครับเพื่อนๆคนไหนที่เข้ามาเห็นกระทู้นี้ก็อย่าเพิ่งงงว่าเอ๊ะ นี่เราอยู่ห้องก้นครัวรึเปล่า 555 เปล่าครับ ถูกห้องแล้วล่ะ วันนี้ผมจะมารีวิว Office 365 โดยจะเน้นที่ตัว Office Mobile ให้ทุกคนดูกัน อันเนื่องมาจากว่ากระทู้ที่แล้วที่พูดถึง Office 365
http://ppantip.com/topic/35201908 แล้วมีคนเข้ามาถามหลังไมค์เยอะเกี่ยวตัว Office Mobile ว่าใช้งานเป็นไงมั่ง ก็เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้จ้า แต่ครั้นจะรีวิวแบบธรรมดาๆทั่วไปก็กระไรอยู่ เผอิญช่วงนี้กำลังบ้าทำอาหารด้วยก็เลยปิ๊งไอเดียว่าเอาเรื่องอาหารนี่แหล่ะ มาเป็นธีมในการทำรีวิวดีกว่า ใครที่เปิดรีวิวนี้มาตอนดึกๆก็อย่าโกรธเค้านะ ><
แต่ก่อนจะรีวิวตัว Office Mobile จขกท. ขออธิบายเกี่ยวกับตัว Office 365 แบบสั้นๆก็นะครับ จะได้อ่านรีวิวแล้วไม่งงกันเนอะ ตัว Office 365 เป็นบริการการใช้งาน Office บนคอมพิวเตอร์ทั้งในส่วนของ Windows และ Mac + การใช้งาน Office Mobile บนมือถือ + การใช้งานพื้นที่คลาวน์สำหรับเก็บไฟล์งานกับข้อมูลต่างๆ + ได้โทรฟรีผ่าน Skype อะไรประมาณนี้อ่ะ พูดง่ายๆก็คือเป็นการใช้งาน Office ในยุคนี้ที่ไม่ได้เน้นแค่การใช้งานบนคอมอย่างเดียวเหมือนเมื่อก่อน แต่ยังรวมถึงการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ อย่างพวกมือถือกับแท็บเล็ตด้วยจ้า จบการสรุปแบบสั้นๆ ไม่งงกันเนอะ ^^
ว่าแต่ในนี้มีใครเคยใช้ Office Mobile บนมือถือกันบ้างมั้ยน้อ? บางคนอาจจะงงว่า Office Mobile คืออะไรหว่า? มันก็คือ Office 365 บนเวอร์ชั่นมือถือนั่นเองครับ (อันนี้เผื่อคนที่ยังไม่รู้ว่า “Office” คือเวอร์ชั่นใหม่ของ Microsoft Office นั่นเอง เดี๋ยวนี้เค้าเรียกสั้นๆกันว่า Office อ่ะ) ซึ่งถ้าเราใช้งาน Office 365 บนคอมอยู่แล้ว จะสามารถโหลด Office Mobile ลงมือถือได้เครื่องนึง + ลงแท็บเล็ตได้อีกเครื่องนึงจ้า โอเค เราเกริ่นกันแค่นี้พอละกันเนอะ ใครอยากรู้เกี่ยวกับ Office 365 แบบเต็มๆตูมๆ ก็ตามไปอ่านรีวิวกระทู้ที่แปะไว้ข้างบนเอาน้า ^^
----------------------------------------------------------------
Office Mobile มีอะไรบ้าง? โหลดลงระบบอะไรได้บ้าง?
มีทั้งหมด 5 อย่างครับ ก็คือ Word, Excel, PowerPoint, Outlook และ OneNote ส่วนตัวที่จะมารีวิว
ให้ดูวันนี้คือ Excel, PowerPoint และ OneNote เพราะว่าเป็นแอพที่ใช้บนมือถือบ่อยสุดละ ส่วนตัวแอพนี่ก็สามารถลงได้ทั้ง iOS, Android และ Windows Phone เลยครับ มีครอบคลุมทุกระบบเลย
อ่ะ ไม่พูดพร่ำทำเพลงมาก เรามาเริ่มทำพิซซ่ากันโดยมีตัวช่วยอย่าง Office 365 กันเลยดีกว่า!!!
ก่อนอื่นเราก็มาหาสูตรพิซซ่ากันก่อนเนอะ ซึ่ง Pinterest คือที่ที่มีสูตรอาหารฝรั่งเยอะม้ากกกกก แถมหาง่ายสุดๆ ก็เสิร์ชไปว่า Salmon Pizza อื้อหือ สูตรขึ้นมาเพียบ แต่ละสูตรหน้าตาน่ากินไปไหน
เอาสูตรนี้ละกัน แค่เห็นก็อยากจะวิ่งไปซื้อของมาทำกินแล้วล่ะ เหอๆๆ
มาดูกันว่าเค้าใช้ส่วนผสมอะไรกันบ้าง เท่าที่ดูหลักๆก็คือมีแซลมอนรมควัน เคเปอร์ (มันคือดอกตูมสีเขียวๆของต้นไม้พุ่มชนิดนึงที่เค้าเอามาดอง) ผักชีลาว และชีสมอซซาเรลล่า อูยยยยย ของชอบทั้งนั้นเบยยยยยย ^^
โอเค เราก็ก้อปลิสต์ของส่วนผสมจากเว็บมาลงใน OneNote ของเราเพื่อเป็นการทำ to-do list สำหรับช้อปส่วนผสมกันจ้า ก็ไม่มีไรมากเลย ใช้เม้าส์ drag คลุมตรงลิสต์ในเว็บ กด copy หลังจากนั้นก็เปิด OneNote เวอร์ชั่นในคอม (Office 365 มีเวอร์ชั่น mac ด้วย ใช้ดีเหมือนใน Windows เลยล่ะ) สร้าง note ใหม่ใน OneNote เราตั้งชื่อว่า Recipe สำหรับเอาไว้เป็น note ที่เก็บสูตรอาหารทั้งหมด จะได้เป็นระเบียบสวยงาม หลังจากนั้นก็ paste สูตรที่ copy ไว้ตะกี้ แล้วก็ทำอักษรหนาๆใส่สีสันสวยงาม เวลาเปิดดูจะได้สวยงาม ^^
แต่เนื่องจากสูตรที่เราก้อปมาจากในเน็ต ไม่มีช่องให้ติ้กแบบ to-do list เราก็เลยทำมันขึ้นมาซะ ด้วยเมนู To Do แบบในรูปข้างล่างเลยจ้า
พอเราลิสต์เสร็จแล้ว OneNote จะทำการซิงค์ไฟล์เข้า OneDrive ที่เป็นคลาวน์ของ Microsoft จ้า (อันนี้ไม่ต้องห่วง เพราะ OneDrive แถมมากับ Office 365 เลย ได้พื้นที่ตั้ง 1TB แหน่ะ) ซึ่งเป็นการซิงค์แบบอัตโนมัติด้วย สังเกตตรงมุมซ้ายบนของโน้ตดู เพื่อนๆจะเห็นไอค่อนรูปสมุดโน้ตที่มีสัญลักษณ์ลูกศรหมุนๆบนวงกลมสีฟ้า อันนั้นแหล่ะครับคือตัวที่จะบอกเราว่า OneNote กำลังซิงค์อยู่ ถ้าหยุดหมุนเมื่อไหร่ก็แสดงว่าซิงค์เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะลืมซิงค์หรืออะไรแต่อย่างใด
อ่ะ เสร็จจาก OneNote เวอร์ชั่นในคอมแล้วแล้วเราก็มาเช็คกันว่าพอเราเปิด OneNote เวอร์ชั่นแอพในมือถือแล้วจะเป็นไงบ้าง ก่อนอื่นก็กด sync โน้ตที่เราทำไว้ในเวอร์ชั่นคอมก่อน เพราะตัวมือถือมันจะไม่ Sync อัตโนมัติ วิธีทำก็แค่กดปุ่มที่จุดไข่ปลาสามจุดตรงมุมขวาบนของจอ OneNote ในแอพมือถือ แล้วเลือก “Sync Now” แล้วรอจน Sync เสร็จ โน้ตที่ทำไว้ในคอมก็จะมาโผล่ที่หน้าจอแอพในมือถือของเราแบบรูปข้างล่าง
โอเคล่ะ ตอนนี้เราได้ To-do list สำหรับไปช้อปวัตถุดิบที่เราต้องใช้สำหรับทำพิซซ่าแล้ว ก็ดิ่งไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตโลด ระหว่างที่ช้อปไปเราก็เปิด OneNote ในไอโฟนเราไปด้วย อันไหนที่ซื้อแล้วก็กดติ้กถูกที่ช่องไป สะดวกดีมั้ยล่ะ ^^
แต่ด้วยความที่จขกท. ไม่อยากตามสูตรที่ได้มาเป๊ะๆ ดังนั้นอะไรที่ไม่อยากใส่ก็จะไม่ซื้อ เช่น พาร์เมซานชีสนี่ไม่ซื้อ ใส่แค่มอสซาเรลล่าชีสก็พอ เพราะมีแล้วที่บ้าน หรือผักชีฝรั่งที่ไม่ซื้อ เพราะที่ห้างวันนั้นไม่มีขาย T^T อะไรที่ไม่ใส่ตามสูตรก็ไม่ได้ลบมันออกไปเลยนะ แค่ใช้ฟังก์ชั่นใน OneNote ขีดฆ่าเฉยๆ จะได้เห็นว่าสูตรออริจินอลเป็นแบบนี้ แค่เราไม่ตามสูตรเป๊ะๆแค่นั้นเอง
อ่ะ นี่คือวัตถุดิบที่ซื้อมาจ้า ก็มีแซลมอนรมควันรสปรกติ เคเปอร์หนึ่งขวดเล็ก ไม่ต้องเอาใหญ่มากเพราะใช้นิดเดียว พริกไทยดำ เกลือ ออริกาโน่ (ในสูตรไม่มีแต่อยากใส่) แล้วก็มอสซาเรลล่าชีสแบบขูดแล้ว จะไม่ต้องเสียเวลาขูดเอง
ก่อนอื่นเราก็เริ่มทำแป้งพิซซ่าก่อน บางคนอาจจะชอบซื้อแป้งพิซซ่าแบบสำเร็จ แต่เราไม่ เพราะเราเปรี้ยว ชอบทำเอง 555 ตวงแป้งสาลี หรือแป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วยตวง ใส่ลงไปในโถผสม เติมเกลือ 1 ช้อนชา กับเมล็ด flaxseeds ป่นลงไป (อันนี้ในสูตรไม่มี เพื่อนๆถ้าจะทำตามก็ไม่ต้องใส่ก็ได้นะ แต่เผอิญเรามีติดไว้ที่บ้านก็เลยใส่ไป จะได้เพิ่มโอเมก้า 3 )
หลังจากนั้นก็เปิดเครื่องผสม ถ้าบ้านใครมีก็ใช้ไปนะเพราะสะดวกดี ไม่ต้องใช้มือนวดแป้งให้เลอะเทอะ เวลาใช้เครื่องให้ใช้หัวนวดแป้งที่หน้าตาเหมือนตะขอนะ ไม่ใช่หัวที่ใช้ตีไข่ เปิดแบบรอบต่ำๆช้าๆ ให้มันค่อยนวดแป้งไปเรื่อยๆ ระหว่างที่เครื่องผสมทำงานก็ค่อยเติมน้ำเปล่าลงไปทีละนิดๆ เราใช้น้ำทั้งหมด 1 ถ้วยตวง แบ่งเติมทีละนิดไม่ต้องใส่น้ำทีเดียวหมดเน่อ ถ้านวดออกมาแล้วแป้งแข็งเกินไปก็เพิ่มน้ำจนกว่าแป้งจะเนียน แต่ถ้าแป้งเหลวเกินไปให้ค่อยๆเอาแป้งใส่เพิ่มลงไปทีละนิด (แป้งคนละส่วนกับ 2 ถ้วยตวงที่เราใส่ไปในโถผสมก่อนหน้านี้นะ)
การที่จะดูว่าแป้งใช้ได้รึยังให้หยิบขึ้นมาแล้วดูว่าติดมือมั้ย ถ้าแป้งไม่ติดมือและมีความหยุ่นๆคล้ายดินน้ำมันแสดงว่าใช้ได้แล้ว ให้เพื่อนๆเอาน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันพืชก็ได้เหยาะลงไปในโถผสมแป้งนิดนึงเพื่อไม่ให้แป้งติดมือ + มีความเนียนมากขึ้น จขกท.มีสเปรย์น้ำมันมะกอกสำหรับทำอาหารติดครัวอยู่แล้วก็เลยใช้อันนี้แทนเพราะเวลาฉีดมันเป็นละอองเล็กๆกระจายทั่วแป้งดี แถมไม่เปลืองน้ำมันมาก ให้เราเอามือนวดแป้งกับน้ำมันให้เนียนๆเหมือนเรากำลังทามอยเจอร์ไรเซอร์ให้แป้งนั่นเอง 555 หลังจากนั้นเราก็ใช้ฟิล์มทำอาหารห่อแป้งให้เรียบร้อย ใส่ถุงซิปล็อคพักไว้ในตู้เย็นช่องปรกติก่อน (ถ้ายังไม่ทำพิซซ่าทันทีน่ะนะ)
โอเค ตอนนี้เรามีแป้งแล้วก็มาทำตัวแป้งพิซซ่ากัน ให้เพื่อนๆแบ่งแป้งที่เราทำไว้เป็นสองส่วนเท่าๆกัน ส่วนนึงจะสามารถทำพิซซ่าขนาดกลางได้ถาดนึง ให้ใช้มือปั้นแป้งเป็นก้อนกลมๆแล้วแผ่บนถาดอบ (ถ้าถาดอบเป็นแบบเทฟล่อนแผ่ได้เลย แต่ถ้าถาดอบไม่ใช่แบบเทฟล่อนให้ทาน้ำมันเคลือบก่อน) วิธีแผ่แป้งให้ได้กลมๆสวยงาม จขกท. ให้วิธีเอามือค่อยๆกดแป้งเบียดแป้งไปด้านข้างทีละนิดๆ แล้วเอามือแต่งขอบให้กลม บางคนเค้าลูกกลิ้งรีดให้เป็นแผ่นแต่แบบว่าไม่ถนัดอ่ะ ชอบใช้มือโดยตรงมากกว่า (แป้งสวยมั้ยล่ะ มีลายจุดๆจากเมล็ด flaxseeds ที่เราใส่ลงไปนั่นเอง)
หลังจากนั้นก็เป็นช่วงสนุกก็คือการใส่เครื่องนั่นเอง เริ่มจากโรยมอสซาเรลล่าชีสให้เต็มหน้าพิซซ่า ใครชอบชีสเยอะก็กระหน่ำใส่ลงไปไม่ต้องยั้ง 55 ตามด้วยแซลมอนรมควัน แล้วก็เคปเปอร์ อ้อ เคปเปอร์นี่แนะนำว่าอย่าใส่เยอะมากนะ เพราะว่ามันเค็มจากการดองมาแล้ว แล้วก็ปิดท้ายด้วยพริกไทยดำป่น เกลือ และออริกาโน่
แถ่น แท้น ได้พิซซ่าพร้อมอบแล้วจ้า
อ้อ ลืมบอกไปว่าก่อนที่จะแผ่แป้งพิซซ่าให้เราไปเปิดเตาอบ วอร์มความร้อนรอไว้ก่อน ให้เซ็ตไว้ที่ 250 องซาเซลเซียส เปิดใช้ไฟบนและล่างพร้อมกันจ้า (เตาอบต้องวอร์มให้ได้ความร้อนอุณหภูมิที่เราต้องการก่อนนะจ้ะ ถึงจะใช้ได้) เราจะใช้เวลาอบแค่ 10 นาทีเท่านั้น ไม่นานเกินรอ แต่ถ้าครบเวลาแล้วยังหน้าตาไม่สวยงาม ก็ให้ปรับใช้เฉพาะไฟบนแทนแล้วอบอีกไม่เกิน 5 นาที เพื่อให้หน้ามีความเกรียมนิดๆ ดูสวยงาม แต่ว่าต้องเฝ้าหน้าเตาตลอดเวลานะ กันมันไหม้เกิน เพราะเตาแต่ละยี่ห้อ ความแรงของไฟไม่เท่ากัน อันนี้ต้องระวัง
ระหว่างที่อบเราก็ถ่ายรูปไว้ด้วย เอาไว้โพสต์อวดเพื่อนๆตอนดึกๆ อิ อิ ชั่วร้ายมะ
มีต่อจ้า
v
v
v
[CR] รีวิว Office 365 ทำพิซซ่าแบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ???
แต่ก่อนจะรีวิวตัว Office Mobile จขกท. ขออธิบายเกี่ยวกับตัว Office 365 แบบสั้นๆก็นะครับ จะได้อ่านรีวิวแล้วไม่งงกันเนอะ ตัว Office 365 เป็นบริการการใช้งาน Office บนคอมพิวเตอร์ทั้งในส่วนของ Windows และ Mac + การใช้งาน Office Mobile บนมือถือ + การใช้งานพื้นที่คลาวน์สำหรับเก็บไฟล์งานกับข้อมูลต่างๆ + ได้โทรฟรีผ่าน Skype อะไรประมาณนี้อ่ะ พูดง่ายๆก็คือเป็นการใช้งาน Office ในยุคนี้ที่ไม่ได้เน้นแค่การใช้งานบนคอมอย่างเดียวเหมือนเมื่อก่อน แต่ยังรวมถึงการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ อย่างพวกมือถือกับแท็บเล็ตด้วยจ้า จบการสรุปแบบสั้นๆ ไม่งงกันเนอะ ^^
ว่าแต่ในนี้มีใครเคยใช้ Office Mobile บนมือถือกันบ้างมั้ยน้อ? บางคนอาจจะงงว่า Office Mobile คืออะไรหว่า? มันก็คือ Office 365 บนเวอร์ชั่นมือถือนั่นเองครับ (อันนี้เผื่อคนที่ยังไม่รู้ว่า “Office” คือเวอร์ชั่นใหม่ของ Microsoft Office นั่นเอง เดี๋ยวนี้เค้าเรียกสั้นๆกันว่า Office อ่ะ) ซึ่งถ้าเราใช้งาน Office 365 บนคอมอยู่แล้ว จะสามารถโหลด Office Mobile ลงมือถือได้เครื่องนึง + ลงแท็บเล็ตได้อีกเครื่องนึงจ้า โอเค เราเกริ่นกันแค่นี้พอละกันเนอะ ใครอยากรู้เกี่ยวกับ Office 365 แบบเต็มๆตูมๆ ก็ตามไปอ่านรีวิวกระทู้ที่แปะไว้ข้างบนเอาน้า ^^
Office Mobile มีอะไรบ้าง? โหลดลงระบบอะไรได้บ้าง?
มีทั้งหมด 5 อย่างครับ ก็คือ Word, Excel, PowerPoint, Outlook และ OneNote ส่วนตัวที่จะมารีวิว
ให้ดูวันนี้คือ Excel, PowerPoint และ OneNote เพราะว่าเป็นแอพที่ใช้บนมือถือบ่อยสุดละ ส่วนตัวแอพนี่ก็สามารถลงได้ทั้ง iOS, Android และ Windows Phone เลยครับ มีครอบคลุมทุกระบบเลย
อ่ะ ไม่พูดพร่ำทำเพลงมาก เรามาเริ่มทำพิซซ่ากันโดยมีตัวช่วยอย่าง Office 365 กันเลยดีกว่า!!!
ก่อนอื่นเราก็มาหาสูตรพิซซ่ากันก่อนเนอะ ซึ่ง Pinterest คือที่ที่มีสูตรอาหารฝรั่งเยอะม้ากกกกก แถมหาง่ายสุดๆ ก็เสิร์ชไปว่า Salmon Pizza อื้อหือ สูตรขึ้นมาเพียบ แต่ละสูตรหน้าตาน่ากินไปไหน
เอาสูตรนี้ละกัน แค่เห็นก็อยากจะวิ่งไปซื้อของมาทำกินแล้วล่ะ เหอๆๆ
มาดูกันว่าเค้าใช้ส่วนผสมอะไรกันบ้าง เท่าที่ดูหลักๆก็คือมีแซลมอนรมควัน เคเปอร์ (มันคือดอกตูมสีเขียวๆของต้นไม้พุ่มชนิดนึงที่เค้าเอามาดอง) ผักชีลาว และชีสมอซซาเรลล่า อูยยยยย ของชอบทั้งนั้นเบยยยยยย ^^
โอเค เราก็ก้อปลิสต์ของส่วนผสมจากเว็บมาลงใน OneNote ของเราเพื่อเป็นการทำ to-do list สำหรับช้อปส่วนผสมกันจ้า ก็ไม่มีไรมากเลย ใช้เม้าส์ drag คลุมตรงลิสต์ในเว็บ กด copy หลังจากนั้นก็เปิด OneNote เวอร์ชั่นในคอม (Office 365 มีเวอร์ชั่น mac ด้วย ใช้ดีเหมือนใน Windows เลยล่ะ) สร้าง note ใหม่ใน OneNote เราตั้งชื่อว่า Recipe สำหรับเอาไว้เป็น note ที่เก็บสูตรอาหารทั้งหมด จะได้เป็นระเบียบสวยงาม หลังจากนั้นก็ paste สูตรที่ copy ไว้ตะกี้ แล้วก็ทำอักษรหนาๆใส่สีสันสวยงาม เวลาเปิดดูจะได้สวยงาม ^^
แต่เนื่องจากสูตรที่เราก้อปมาจากในเน็ต ไม่มีช่องให้ติ้กแบบ to-do list เราก็เลยทำมันขึ้นมาซะ ด้วยเมนู To Do แบบในรูปข้างล่างเลยจ้า
พอเราลิสต์เสร็จแล้ว OneNote จะทำการซิงค์ไฟล์เข้า OneDrive ที่เป็นคลาวน์ของ Microsoft จ้า (อันนี้ไม่ต้องห่วง เพราะ OneDrive แถมมากับ Office 365 เลย ได้พื้นที่ตั้ง 1TB แหน่ะ) ซึ่งเป็นการซิงค์แบบอัตโนมัติด้วย สังเกตตรงมุมซ้ายบนของโน้ตดู เพื่อนๆจะเห็นไอค่อนรูปสมุดโน้ตที่มีสัญลักษณ์ลูกศรหมุนๆบนวงกลมสีฟ้า อันนั้นแหล่ะครับคือตัวที่จะบอกเราว่า OneNote กำลังซิงค์อยู่ ถ้าหยุดหมุนเมื่อไหร่ก็แสดงว่าซิงค์เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะลืมซิงค์หรืออะไรแต่อย่างใด
อ่ะ เสร็จจาก OneNote เวอร์ชั่นในคอมแล้วแล้วเราก็มาเช็คกันว่าพอเราเปิด OneNote เวอร์ชั่นแอพในมือถือแล้วจะเป็นไงบ้าง ก่อนอื่นก็กด sync โน้ตที่เราทำไว้ในเวอร์ชั่นคอมก่อน เพราะตัวมือถือมันจะไม่ Sync อัตโนมัติ วิธีทำก็แค่กดปุ่มที่จุดไข่ปลาสามจุดตรงมุมขวาบนของจอ OneNote ในแอพมือถือ แล้วเลือก “Sync Now” แล้วรอจน Sync เสร็จ โน้ตที่ทำไว้ในคอมก็จะมาโผล่ที่หน้าจอแอพในมือถือของเราแบบรูปข้างล่าง
โอเคล่ะ ตอนนี้เราได้ To-do list สำหรับไปช้อปวัตถุดิบที่เราต้องใช้สำหรับทำพิซซ่าแล้ว ก็ดิ่งไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตโลด ระหว่างที่ช้อปไปเราก็เปิด OneNote ในไอโฟนเราไปด้วย อันไหนที่ซื้อแล้วก็กดติ้กถูกที่ช่องไป สะดวกดีมั้ยล่ะ ^^
แต่ด้วยความที่จขกท. ไม่อยากตามสูตรที่ได้มาเป๊ะๆ ดังนั้นอะไรที่ไม่อยากใส่ก็จะไม่ซื้อ เช่น พาร์เมซานชีสนี่ไม่ซื้อ ใส่แค่มอสซาเรลล่าชีสก็พอ เพราะมีแล้วที่บ้าน หรือผักชีฝรั่งที่ไม่ซื้อ เพราะที่ห้างวันนั้นไม่มีขาย T^T อะไรที่ไม่ใส่ตามสูตรก็ไม่ได้ลบมันออกไปเลยนะ แค่ใช้ฟังก์ชั่นใน OneNote ขีดฆ่าเฉยๆ จะได้เห็นว่าสูตรออริจินอลเป็นแบบนี้ แค่เราไม่ตามสูตรเป๊ะๆแค่นั้นเอง
อ่ะ นี่คือวัตถุดิบที่ซื้อมาจ้า ก็มีแซลมอนรมควันรสปรกติ เคเปอร์หนึ่งขวดเล็ก ไม่ต้องเอาใหญ่มากเพราะใช้นิดเดียว พริกไทยดำ เกลือ ออริกาโน่ (ในสูตรไม่มีแต่อยากใส่) แล้วก็มอสซาเรลล่าชีสแบบขูดแล้ว จะไม่ต้องเสียเวลาขูดเอง
ก่อนอื่นเราก็เริ่มทำแป้งพิซซ่าก่อน บางคนอาจจะชอบซื้อแป้งพิซซ่าแบบสำเร็จ แต่เราไม่ เพราะเราเปรี้ยว ชอบทำเอง 555 ตวงแป้งสาลี หรือแป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วยตวง ใส่ลงไปในโถผสม เติมเกลือ 1 ช้อนชา กับเมล็ด flaxseeds ป่นลงไป (อันนี้ในสูตรไม่มี เพื่อนๆถ้าจะทำตามก็ไม่ต้องใส่ก็ได้นะ แต่เผอิญเรามีติดไว้ที่บ้านก็เลยใส่ไป จะได้เพิ่มโอเมก้า 3 )
หลังจากนั้นก็เปิดเครื่องผสม ถ้าบ้านใครมีก็ใช้ไปนะเพราะสะดวกดี ไม่ต้องใช้มือนวดแป้งให้เลอะเทอะ เวลาใช้เครื่องให้ใช้หัวนวดแป้งที่หน้าตาเหมือนตะขอนะ ไม่ใช่หัวที่ใช้ตีไข่ เปิดแบบรอบต่ำๆช้าๆ ให้มันค่อยนวดแป้งไปเรื่อยๆ ระหว่างที่เครื่องผสมทำงานก็ค่อยเติมน้ำเปล่าลงไปทีละนิดๆ เราใช้น้ำทั้งหมด 1 ถ้วยตวง แบ่งเติมทีละนิดไม่ต้องใส่น้ำทีเดียวหมดเน่อ ถ้านวดออกมาแล้วแป้งแข็งเกินไปก็เพิ่มน้ำจนกว่าแป้งจะเนียน แต่ถ้าแป้งเหลวเกินไปให้ค่อยๆเอาแป้งใส่เพิ่มลงไปทีละนิด (แป้งคนละส่วนกับ 2 ถ้วยตวงที่เราใส่ไปในโถผสมก่อนหน้านี้นะ)
การที่จะดูว่าแป้งใช้ได้รึยังให้หยิบขึ้นมาแล้วดูว่าติดมือมั้ย ถ้าแป้งไม่ติดมือและมีความหยุ่นๆคล้ายดินน้ำมันแสดงว่าใช้ได้แล้ว ให้เพื่อนๆเอาน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันพืชก็ได้เหยาะลงไปในโถผสมแป้งนิดนึงเพื่อไม่ให้แป้งติดมือ + มีความเนียนมากขึ้น จขกท.มีสเปรย์น้ำมันมะกอกสำหรับทำอาหารติดครัวอยู่แล้วก็เลยใช้อันนี้แทนเพราะเวลาฉีดมันเป็นละอองเล็กๆกระจายทั่วแป้งดี แถมไม่เปลืองน้ำมันมาก ให้เราเอามือนวดแป้งกับน้ำมันให้เนียนๆเหมือนเรากำลังทามอยเจอร์ไรเซอร์ให้แป้งนั่นเอง 555 หลังจากนั้นเราก็ใช้ฟิล์มทำอาหารห่อแป้งให้เรียบร้อย ใส่ถุงซิปล็อคพักไว้ในตู้เย็นช่องปรกติก่อน (ถ้ายังไม่ทำพิซซ่าทันทีน่ะนะ)
โอเค ตอนนี้เรามีแป้งแล้วก็มาทำตัวแป้งพิซซ่ากัน ให้เพื่อนๆแบ่งแป้งที่เราทำไว้เป็นสองส่วนเท่าๆกัน ส่วนนึงจะสามารถทำพิซซ่าขนาดกลางได้ถาดนึง ให้ใช้มือปั้นแป้งเป็นก้อนกลมๆแล้วแผ่บนถาดอบ (ถ้าถาดอบเป็นแบบเทฟล่อนแผ่ได้เลย แต่ถ้าถาดอบไม่ใช่แบบเทฟล่อนให้ทาน้ำมันเคลือบก่อน) วิธีแผ่แป้งให้ได้กลมๆสวยงาม จขกท. ให้วิธีเอามือค่อยๆกดแป้งเบียดแป้งไปด้านข้างทีละนิดๆ แล้วเอามือแต่งขอบให้กลม บางคนเค้าลูกกลิ้งรีดให้เป็นแผ่นแต่แบบว่าไม่ถนัดอ่ะ ชอบใช้มือโดยตรงมากกว่า (แป้งสวยมั้ยล่ะ มีลายจุดๆจากเมล็ด flaxseeds ที่เราใส่ลงไปนั่นเอง)
หลังจากนั้นก็เป็นช่วงสนุกก็คือการใส่เครื่องนั่นเอง เริ่มจากโรยมอสซาเรลล่าชีสให้เต็มหน้าพิซซ่า ใครชอบชีสเยอะก็กระหน่ำใส่ลงไปไม่ต้องยั้ง 55 ตามด้วยแซลมอนรมควัน แล้วก็เคปเปอร์ อ้อ เคปเปอร์นี่แนะนำว่าอย่าใส่เยอะมากนะ เพราะว่ามันเค็มจากการดองมาแล้ว แล้วก็ปิดท้ายด้วยพริกไทยดำป่น เกลือ และออริกาโน่
แถ่น แท้น ได้พิซซ่าพร้อมอบแล้วจ้า
อ้อ ลืมบอกไปว่าก่อนที่จะแผ่แป้งพิซซ่าให้เราไปเปิดเตาอบ วอร์มความร้อนรอไว้ก่อน ให้เซ็ตไว้ที่ 250 องซาเซลเซียส เปิดใช้ไฟบนและล่างพร้อมกันจ้า (เตาอบต้องวอร์มให้ได้ความร้อนอุณหภูมิที่เราต้องการก่อนนะจ้ะ ถึงจะใช้ได้) เราจะใช้เวลาอบแค่ 10 นาทีเท่านั้น ไม่นานเกินรอ แต่ถ้าครบเวลาแล้วยังหน้าตาไม่สวยงาม ก็ให้ปรับใช้เฉพาะไฟบนแทนแล้วอบอีกไม่เกิน 5 นาที เพื่อให้หน้ามีความเกรียมนิดๆ ดูสวยงาม แต่ว่าต้องเฝ้าหน้าเตาตลอดเวลานะ กันมันไหม้เกิน เพราะเตาแต่ละยี่ห้อ ความแรงของไฟไม่เท่ากัน อันนี้ต้องระวัง
ระหว่างที่อบเราก็ถ่ายรูปไว้ด้วย เอาไว้โพสต์อวดเพื่อนๆตอนดึกๆ อิ อิ ชั่วร้ายมะ
มีต่อจ้า
v
v
v