1. พนักงานติดตั้งและซ่อมลิฟท์
รายได้เฉลี่ยต่อปี : $78,640 ประมาณ 2,562,250 บาท
การศึกษาจำเป็นต้องใช้ : ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า
เพราะลิฟท์เป็นส่วนหนึ่งของตึกใหญ่ทั่วโลก ยิ่งตึกสูงลิฟท์ยิ่งเป็นสิ่งจำเป็น แถมยังมีอัตราการใช้ต่อเนื่องทุกนาทีในแต่ละวัน การติดตั้งและซ่อมแซมลิฟต์จึงมีขึ้นอยู่ตลอดเวลา และปัญหาที่พบบ่อยก็จะเป็นลิฟท์เสีย ลิฟท์พังก็ต้องเรียกช่าง หน้าที่หลักๆ ของพนักงานติดตั้งและซ่อมแซมลิฟต์ คือ ตรวจตราดูระบบการชักรอกของลิฟต์เพื่อให้ทำงานเป็นปกติ ประตูเปิดปิดได้ถูกจังหวะ เป็นต้น งานที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ยากและก็มีความสำคัญมาก จึงเป็นเหตุให้พนักงานซ่อมแซมและติดตั้งลิฟท์มีรายได้เฉลี่ยต่อปีที่ค่อนข้างสูงอยู่ที่ประมาณ 78,640 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2,562,250 บาท ใครที่สนใจอยากทำอาชีพนี้ในอเมริกา เพียงแค่มีใบประกาศจากชั้นมัธยมศึกษา และใบรับรองวิชาชีพ ซึ่งจะต้องผ่านการเรียนและฝึกอบรมอย่างน้อย 144 ชั่วโมง สำหรับการเรียนเทคนิคที่เกี่ยวข้อง และ 2,000 ชั่วโมง สำหรับฝึกอบรม และรัฐที่มีอัตราค่าจ้างเฉลี่ยสำหรับอาชีพพนักงานติดตั้งและซ่อมแซมลิฟต์ที่ค่อนข้างสูง คือ รัฐแมสซาชูเชตส์ ทำไปทำมาอาจรวยไม่รู้ตัวเลยก็ได้
2. พนักงานทำความสะอาดสถานที่เกิดเหตุ
รายได้เฉลี่ยต่อปี : $75,000 หรือประมาณ 2,434,203 บาท
การศึกษาจำเป็นต้องใช้ : ไม่มี
อาชีพนี้ในบ้านเราต้องเปรียบเทียบกับหน่วยร่วมกตัญญู ที่คอยเก็บกู้และช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ แต่สำหรับอาชีพนี้ในสหรัฐอเมริกาจะต้องทำความสะอาดเก็บกวาดสถานที่เกิดเหตุให้เรียบร้อย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งก็แน่หละว่าอุบัติเหตุแต่ละครั้งก็อาจต้องเจอกับชิ้นส่วนมนุษย์ สภาพศพที่ไม่ค่อยจะน่าดูสักเท่าไหร่ รวมไปถึงคราบเลือดของผู้เสียชีวิตอีกด้วย แค่นึกก็สุดจะบรรยาย อุบัติเหตุเล็กๆ ก็ใช้เวลาทำงานประมาณ 2-3 ชั่วโมง แต่ถ้างานใหญ่ๆ อาจต้องกินเวลา 2-3 วัน และอะไรที่ทำให้คนยังนิยมชมชอบที่จะประกอบอาชีพนี้ จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากรายได้งามๆ ที่คุณจะนึกไม่ถึงเลยว่าสูงแค่ไหน สามารถทำเงินได้เฉลี่ยปีละประมาณ 75,000 ดอลลาห์ หรือประมาณ 2,434,203 บาท งานนี้ไม่ต้องมีใบปริญญา เพียงแค่คุณเก็บกวาดเรียบร้อย มีความละเอียดรอบคอบในการทำงาน และมีประสบการณ์อีกนิดหน่อยอาจสร้างรายได้เหนาะๆ ล้านบาทขึ้นไปต่อปีเลยทีเดียว
3. ช่างติดตั้งและซ่อมแซมไฟฟ้า
รายได้เฉลี่ยต่อปี : $51,220 หรือประมาณ 1,662,400 บาท
การศึกษาจำเป็นต้องใช้ : ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า
ประเทศอเมริกาอาชีพที่ฮอต และกำลังขาดแคลนนั่นก็คือ เหล่าบรรดา “ช่าง” ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นช่างไฟฟ้า ประปา ที่เป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ทุกครัวเรือนขาดไม่ได้ น้ำไม่ไหล ไฟดับ ต้องมีตายกันไปข้างหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม อาชีพเหล่านี้จึงสามารถสร้างรายได้ให้กับคนที่ไม่จบปริญญาตรี ได้อย่างงามและสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้เลย อันดับหนึ่งต้องยกให้ “ช่างไฟฟ้า” งานที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และเสี่ยงต่อการโดนไฟดูด เป็นหนึ่งในอาชีพที่อเมริกาสำรวจมาแล้วว่ามีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตค่อนข้างสูง เมื่อความเสียงสูงค่าจ้างก็ต้องสูงไปด้วยอย่างแน่นอน แม้จะไม่ต้องมีวุฒิการศึกษาสูง แต่เหล่าบรรดาช่างในสหรัฐอเมริกาจะต้องได้ใบอนุญาตรับรองในการประกอบอาชีพเสียก่อน ค่าจ้างคิดเป็นรายชั่วโมงจะอยู่ที่ 24.63 ดอลลาร์ ประมาณ 800 บาท/ชั่วโมง และมีรายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 51,220 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,662,400 บาท หน้าที่หลักๆ คือ เดินสายไฟฟ้าภายในอาคารบ้านเรือน สถานที่ต่างๆ ติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า ตรวจเช็คระบบไฟ การวางระบบวงจรไฟฟ้า และซ่อมแซมหากเกิดปัญหาหรือไฟฟ้าขัดข้อง เป็นต้น
4. พนักงานทำความสะอาดสุขาเคลื่อนที่
รายได้เฉลี่ยต่อปี : $50,000 ประมาณ 1,622,800 บาท
การศึกษาจำเป็นต้องใช้ : ไม่มี
อีกหนึ่งงานยี้ๆ ที่คงไม่มีใครอยากทำ นั่นก็คือ "การเป็นพนักงานทำความสะอาดห้องน้ำ" ที่ต้องอยู่กับสิ่งปฏิกูลที่ทั้งสกปรกทั้งเหม็น แล้วยิ่งเป็นแบบสุขาเคลื่อนที่ด้วยแล้วไม่ต้องพูดถึง ต้องคอยเปลี่ยนถังขับถ่ายของเสียจากสุขาเคลื่อนที่ และคอยทำความสะอาดเป็นประจำ นอกจากที่พนักงานทำความสะอาดจะต้องเจอกับสิ่งที่ไม่พึงประสงค์แล้ว ขั้นตอนของการทำความสะอาดก็ต้องใช้สารเคมีที่ค่อนข้างรุนแรง กลิ่นฉุน ทำไปนานๆ ก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกด้วย แต่ใครจะรู้ว่างานที่ทุกคนแค่นึกถึงก็ต้องทำหน้าอี๋แล้ว จะสามารถสร้างรายได้ให้กับคนที่ไม่ได้จบปริญญา หรือการศึกษาน้อยๆ ได้เป็นอย่างดี มีรายได้เฉลี่ยต่อปี 50,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,622,800 บาท
5. ช่างประปา ช่างวางท่อและช่างท่อไอน้ำ
รายได้เฉลี่ยต่อปี : $ 47,750 ประมาณ 1,555,790 บาท
การศึกษาจำเป็นต้องใช้ : ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า
ใครจะรู้ว่าอาชีพที่ครอบครัวชาวอเมริกันทุกครัวเรือนขาดไม่ได้นั่นคือ “ช่างประปา” ครอบครัวสมัยใหม่ของชาวอเมริกันชนไม่ค่อยสนใจใส่ใจกับงานเล็กๆ น้อยๆ ถ้าเป็นครอบครัวไทยสมัยก่อนพ่อบ้านหรือหัวหน้าครอบครัวต้องซ่อมทุกอย่างในบ้านได้หมด งานช่างประปาที่ดูเหมือนจะเป็นงานเลอะเทอะ แถมต้องทำงานในที่แคบซอกหลืบแคบๆ และยังต้องมีความรู้เฉพาะทาง คนอเมริกันส่วนใหญ่จึงไม่สนใจใส่ใจกับอาชีพนี้ แต่ที่ไหนได้ถ้าคิดดูแล้วรายได้เฉลี่ยต่อปีของช่างซ่อมประปาในอเมริกาสูงถึง 47,750 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,555,790 บาท แม้เป็นงานที่ไม่ต้องจบปริญญาตรี แต่ต้องสอบผ่านใบอนุญาตก่อนที่จะมาเป็นช่างได้ ที่ฮอตๆ และกำลังขาดแคลนก็จะมีอยู่ 2 ช่างคือ ช่างไฟฟ้า และช่างประปา เมื่อเทียบกับบ้านเราแล้วรายได้ของช่างประปาจะอยู่ที่ประมาณ 300-1,000 บาท หรือ1,000 บาท ขึ้นไป บางเจ้าจะคิดเป็นจุด จุดละ 500-1,000 บาท หรือ อาจจะคิดเหมาเป็นงานไปแล้วแต่ตกลงกัน แต่ส่วนมากจะอยู่ที่ประมาณหลักร้อยและหลักพันบาท
6. ช่างก่ออิฐ และช่างก่อบล็อก
รายได้เฉลี่ยต่อปี : 46,800 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,527,550 บาท
การศึกษาจำเป็นต้องใช้ : ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า
อาชีพก่อสร้างเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ใช้แรงงานและไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษาสูงๆ แค่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางหรือมีประสบการณ์ก็สามารถสร้างรายได้อย่างไม่น่าเชื่อ งานเหล่านี้ถือเป็นงานเกรดต่ำที่คนอเมริกันไม่ค่อยสนใจ จึงทำให้มีเรตอัตราค่าจ้างที่ค่อนข้างสูง สิ่งหนึ่งที่ทำให้อาชีพก่อสร้างได้เงินเยอะและค่าเฉลี่ยนรายได้ต่อปีสูงเทียบแล้วอาจสูงกว่างานในออฟฟิตบางงาน เนื่องมาจากงานก่อสร้างเป็นงานหนักที่ต้องทำงานเกินกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน เพราะเป็นงานรับเหมาที่ต้องทำให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด ที่สำคัญงานก่อสร้างในต่างประเทศส่วนใหญ่จะทำได้เฉพาะฤดูกาลเท่านั้น เช่น หน้าร้อนจะทำงานได้หลายชั่วโมงมากกว่าหน้าหนาว ส่วนฤดูหนาวจัดก็ไม่สามารถทำงานก่อสร้างได้เลย ช่างจึงทำงานได้เพียงไม่กี่ช่วงเท่านั้นใน 1 ปี รายได้เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 46,800 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,527,550 บาท และอัตราค่าจ้างเฉลี่ยสูงสุดจะอยู่ที่แมสซาชูเซด ช่างก่อสร้าง ช่างอิฐ ช่างปูน รายได้สูงถึง 78,580 ดอลลาร์ ต่อปี หรือ 2,564,848 บาทเลยทีเดียว
7. ช่างติดตั้งและซ่อมบำรุงเครื่องทำความร้อน/ความเย็น
รายได้เฉลี่ยต่อปี : $43,380 ประมาณ 1,413,409 บาท
การศึกษาที่จำเป็นต้องใช้ : การศึกษาระดับหลังมัธยมศึกษา หรือเตรียมอุดมศึกษา
อากาศเย็นก็ต้องติดเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำความร้อน พออากาศร้อนก็ต้องติดแอร์ แอร์เสียก็ต้องเรียกช่างๆๆๆ “ช่างติดตั้งและซ่อมบำรุง” จึงเป็นอีกหนึ่งอาชีพหนึ่งที่มีอัตราการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างสูง เครื่องทำความร้อนและเครื่องทำความเย็นกลายเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ไปแล้ว และในอนาคตเมื่อมีการขยายของตึกอาคาร บ้านเรือน บริษัทโรงงาน โรงแรม หรือร้านค้าต่างๆ ก็ต้องติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ ซึ่งไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้จะต้องเป็นผู้ที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเท่านั้น
แม้จะเป็นอาชีพที่ไม่ต้องมีใบปริญญา ส่วนใหญ่ต้องจบการศึกษาในระดับมัธยมขึ้นไป หรือต้องจบในสายอาชีพเฉพาะทาง และต้องมีประสบการณ์มากอยู่พอสมควร ค่าแรงเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 16.70 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (544 บาท) และมีรายได้เฉลี่ยต่อปี 43,380 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,413,409 บาท แต่เมื่อเทียบกับช่างติดตั้งแอร์ในบ้านเราจะมีรายได้ค่อนข้างน้อยแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ในอเมริกาคิดรายได้เป็นรายชั่วโมง ส่วนช่างในประเทศไทยจะคิดค่าจ้างเป็นรายวันขั้นต่ำ 300 บาท/วัน หรือถ้าเป็นหัวหน้าช่างในระดับสูงขึ้นไปเงินเดือนก็จะอยู่ในหลักหมื่นถึงสองหมื่นบาทเท่านั้น
8. พนักงานเก็บขยะ
รายได้เฉลี่ยต่อปี : $43,000 หรือประมาณ 1,403,518 บาท
การศึกษาจำเป็นต้องใช้ : ไม่มี
งานอันดับต้นๆ ที่คนในอเมริกาส่วนใหญ่ถือว่าเป็นงานเกรดต่ำ และไม่อยากทำเลยนั่นก็คือ งานที่เกี่ยวกับสิ่งสกปรก มีกลิ่นเหม็น เลอะเทอะ นั่นก็คือ “งานเก็บขยะ” แต่คุณรู้หรือไม่ว่างานที่ใครๆ ปฎิเสธกลับสร้างรายได้เป็นอย่างดี แม้จะเป็นงานที่ไม่เน้นเรื่องวุฒิการศึกษา แต่ในบางกรณีอาจต้องมีทักษะและผ่านการอบรมหลักสูตร เพราะบางครั้งงานเก็บขยะก็ต้องทำงานกับเครื่องจักรที่ซับซ้อน บริษัทอาจจะต้องการวุฒิการศึกษาในระดับมัธยมปลายหรือเทียบเท่าขึ้นอยู่กับตำแหน่งหน้าที่ โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ประมาณ 26,000 - 43,000 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 848,640 - 1,403,518 บาท คิดเฉลี่ยเป็นชั่วโมงจะอยู่ที่ประมาณ 16.40 ดอลลาร์ หรือประมาณ 535 บาท และหากทำหน้าที่พิเศษอื่นๆ หรือค่าล่วงเวลาเพิ่มขึ้นก็จะทำให้มีรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้นถึง 60,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,958,398 บาท เลยทีเดียว
สำหรับในบ้านเราอาชีพเก็บขยะก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ถูกมองข้าม งานทั้งเหนื่อย ทั้งสกปรก แถมได้ค่าแรงอันน้อยนิด แตกต่างกับอาชีพเก็บขยะในต่างประเทศอย่างสิ้นเชิง โดยเฉลี่ยแล้วมีค่าแรงต่อวันตกอยู่ประมาณ 51-100 บาท สูงสุดจะอยู่ที่ 200 บาทต่อวันเท่านั้นเอง อีกทั้งยังเป็นอาชีพเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะต้องเสี่ยงกับสารเคมีและวัตถุอันตรายที่ปนมากับขยะอีกด้วย
9. พนักงานขับรถบรรทุก
รายได้เฉลี่ยต่อปี : $38,412 ประมาณ 1,251,540 บาท
การศึกษาจำเป็นต้องใช้ : ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า
อาชีพที่ต้องใช้ชีวิตส่วนใหญ่ กิน อยู่ หลับนอน บนท้องถนน ชนิดที่เรียกว่าชีพจรลงเท้า ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา และมีความเสี่ยงต่อชีวิตค่อนข้างสูง แม้จะเป็นอาชีพที่ไม่ต้องมีใบปริญญา แต่สิ่งสำคัญที่จะต้องมีสำหรับการประกอบอาชีพนี้นั่นก็คือ ใบอนุญาตขับขี่, ใบรับรอง ผ่านการฝึกอบรม ไม่ว่าจะเป็น รถทรัค, รถพ่วง 2 ตอน, รถบรรทุก 6 ล้อ และ 10 ล้อ ขับรถประเภทไหนก็ต้องไปสอบใบขับขี่คลาสนั้น นอกจากนี้แล้วพนักงานขับรถบรรทุกจะต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมากๆ เพราะคนขับรถจะต้องทำหน้าที่ยกของที่บรรทุกไปส่งด้วยตัวเองไม่มีเด็กท้ายรถ ช่วยยกของขึ้น-ลงเหมือนในบ้านเรา บางแห่งนายจ้างจะระบุไว้เลยว่า จะต้องยกของหนักได้ประมาณ 25-30 กก. ซึ่งบอกเป็นนัยๆ เลยว่าจะต้องมีร่างกายที่แข็งแรงพอสมควร
ส่วนใหญ่คนขับรถบรรทุก รถตักดิน หรือรถส่งของ ในอเมริกาจะเป็นคนเอเชียซะส่วนใหญ่ทั้งคนไทย เขมร และเวียดนาม คนต่างชาตินิยมทำมาก ถึงแม้จะเป็นอาชีพที่ค่อนข้างหนักแต่มีรายได้ที่ดีใช้ได้เลยทีเดียว โดยเฉลี่ยต่อปีจะอยู่ที่ 38,412 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,251,540 บาท แล้วถ้ายิ่งไปขับรถให้กับบริษัทใหญ่ๆ ในรัฐที่มีการความต้องการในการขนส่งมากอย่างรัฐเท็กซัส รายได้เฉลี่ยต่อปีจะอยู่ที่ 45,000-50,000 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทย 1,459,350 - 1,622,800 บาท
10อาชีพนี้ที่ทำได้เงินสูงมากในอเมริกา หากเราอยากไปทำได้รึป่าว จะต้องดำเนินการอย่างไร ทำเเล้วได้จริงๆๆรึป่าวใครพอทราบบ้าง
รายได้เฉลี่ยต่อปี : $78,640 ประมาณ 2,562,250 บาท
การศึกษาจำเป็นต้องใช้ : ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า
เพราะลิฟท์เป็นส่วนหนึ่งของตึกใหญ่ทั่วโลก ยิ่งตึกสูงลิฟท์ยิ่งเป็นสิ่งจำเป็น แถมยังมีอัตราการใช้ต่อเนื่องทุกนาทีในแต่ละวัน การติดตั้งและซ่อมแซมลิฟต์จึงมีขึ้นอยู่ตลอดเวลา และปัญหาที่พบบ่อยก็จะเป็นลิฟท์เสีย ลิฟท์พังก็ต้องเรียกช่าง หน้าที่หลักๆ ของพนักงานติดตั้งและซ่อมแซมลิฟต์ คือ ตรวจตราดูระบบการชักรอกของลิฟต์เพื่อให้ทำงานเป็นปกติ ประตูเปิดปิดได้ถูกจังหวะ เป็นต้น งานที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ยากและก็มีความสำคัญมาก จึงเป็นเหตุให้พนักงานซ่อมแซมและติดตั้งลิฟท์มีรายได้เฉลี่ยต่อปีที่ค่อนข้างสูงอยู่ที่ประมาณ 78,640 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2,562,250 บาท ใครที่สนใจอยากทำอาชีพนี้ในอเมริกา เพียงแค่มีใบประกาศจากชั้นมัธยมศึกษา และใบรับรองวิชาชีพ ซึ่งจะต้องผ่านการเรียนและฝึกอบรมอย่างน้อย 144 ชั่วโมง สำหรับการเรียนเทคนิคที่เกี่ยวข้อง และ 2,000 ชั่วโมง สำหรับฝึกอบรม และรัฐที่มีอัตราค่าจ้างเฉลี่ยสำหรับอาชีพพนักงานติดตั้งและซ่อมแซมลิฟต์ที่ค่อนข้างสูง คือ รัฐแมสซาชูเชตส์ ทำไปทำมาอาจรวยไม่รู้ตัวเลยก็ได้
2. พนักงานทำความสะอาดสถานที่เกิดเหตุ
รายได้เฉลี่ยต่อปี : $75,000 หรือประมาณ 2,434,203 บาท
การศึกษาจำเป็นต้องใช้ : ไม่มี
อาชีพนี้ในบ้านเราต้องเปรียบเทียบกับหน่วยร่วมกตัญญู ที่คอยเก็บกู้และช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ แต่สำหรับอาชีพนี้ในสหรัฐอเมริกาจะต้องทำความสะอาดเก็บกวาดสถานที่เกิดเหตุให้เรียบร้อย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งก็แน่หละว่าอุบัติเหตุแต่ละครั้งก็อาจต้องเจอกับชิ้นส่วนมนุษย์ สภาพศพที่ไม่ค่อยจะน่าดูสักเท่าไหร่ รวมไปถึงคราบเลือดของผู้เสียชีวิตอีกด้วย แค่นึกก็สุดจะบรรยาย อุบัติเหตุเล็กๆ ก็ใช้เวลาทำงานประมาณ 2-3 ชั่วโมง แต่ถ้างานใหญ่ๆ อาจต้องกินเวลา 2-3 วัน และอะไรที่ทำให้คนยังนิยมชมชอบที่จะประกอบอาชีพนี้ จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากรายได้งามๆ ที่คุณจะนึกไม่ถึงเลยว่าสูงแค่ไหน สามารถทำเงินได้เฉลี่ยปีละประมาณ 75,000 ดอลลาห์ หรือประมาณ 2,434,203 บาท งานนี้ไม่ต้องมีใบปริญญา เพียงแค่คุณเก็บกวาดเรียบร้อย มีความละเอียดรอบคอบในการทำงาน และมีประสบการณ์อีกนิดหน่อยอาจสร้างรายได้เหนาะๆ ล้านบาทขึ้นไปต่อปีเลยทีเดียว
3. ช่างติดตั้งและซ่อมแซมไฟฟ้า
รายได้เฉลี่ยต่อปี : $51,220 หรือประมาณ 1,662,400 บาท
การศึกษาจำเป็นต้องใช้ : ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า
ประเทศอเมริกาอาชีพที่ฮอต และกำลังขาดแคลนนั่นก็คือ เหล่าบรรดา “ช่าง” ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นช่างไฟฟ้า ประปา ที่เป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ทุกครัวเรือนขาดไม่ได้ น้ำไม่ไหล ไฟดับ ต้องมีตายกันไปข้างหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม อาชีพเหล่านี้จึงสามารถสร้างรายได้ให้กับคนที่ไม่จบปริญญาตรี ได้อย่างงามและสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้เลย อันดับหนึ่งต้องยกให้ “ช่างไฟฟ้า” งานที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และเสี่ยงต่อการโดนไฟดูด เป็นหนึ่งในอาชีพที่อเมริกาสำรวจมาแล้วว่ามีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตค่อนข้างสูง เมื่อความเสียงสูงค่าจ้างก็ต้องสูงไปด้วยอย่างแน่นอน แม้จะไม่ต้องมีวุฒิการศึกษาสูง แต่เหล่าบรรดาช่างในสหรัฐอเมริกาจะต้องได้ใบอนุญาตรับรองในการประกอบอาชีพเสียก่อน ค่าจ้างคิดเป็นรายชั่วโมงจะอยู่ที่ 24.63 ดอลลาร์ ประมาณ 800 บาท/ชั่วโมง และมีรายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 51,220 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,662,400 บาท หน้าที่หลักๆ คือ เดินสายไฟฟ้าภายในอาคารบ้านเรือน สถานที่ต่างๆ ติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า ตรวจเช็คระบบไฟ การวางระบบวงจรไฟฟ้า และซ่อมแซมหากเกิดปัญหาหรือไฟฟ้าขัดข้อง เป็นต้น
4. พนักงานทำความสะอาดสุขาเคลื่อนที่
รายได้เฉลี่ยต่อปี : $50,000 ประมาณ 1,622,800 บาท
การศึกษาจำเป็นต้องใช้ : ไม่มี
อีกหนึ่งงานยี้ๆ ที่คงไม่มีใครอยากทำ นั่นก็คือ "การเป็นพนักงานทำความสะอาดห้องน้ำ" ที่ต้องอยู่กับสิ่งปฏิกูลที่ทั้งสกปรกทั้งเหม็น แล้วยิ่งเป็นแบบสุขาเคลื่อนที่ด้วยแล้วไม่ต้องพูดถึง ต้องคอยเปลี่ยนถังขับถ่ายของเสียจากสุขาเคลื่อนที่ และคอยทำความสะอาดเป็นประจำ นอกจากที่พนักงานทำความสะอาดจะต้องเจอกับสิ่งที่ไม่พึงประสงค์แล้ว ขั้นตอนของการทำความสะอาดก็ต้องใช้สารเคมีที่ค่อนข้างรุนแรง กลิ่นฉุน ทำไปนานๆ ก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกด้วย แต่ใครจะรู้ว่างานที่ทุกคนแค่นึกถึงก็ต้องทำหน้าอี๋แล้ว จะสามารถสร้างรายได้ให้กับคนที่ไม่ได้จบปริญญา หรือการศึกษาน้อยๆ ได้เป็นอย่างดี มีรายได้เฉลี่ยต่อปี 50,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,622,800 บาท
5. ช่างประปา ช่างวางท่อและช่างท่อไอน้ำ
รายได้เฉลี่ยต่อปี : $ 47,750 ประมาณ 1,555,790 บาท
การศึกษาจำเป็นต้องใช้ : ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า
ใครจะรู้ว่าอาชีพที่ครอบครัวชาวอเมริกันทุกครัวเรือนขาดไม่ได้นั่นคือ “ช่างประปา” ครอบครัวสมัยใหม่ของชาวอเมริกันชนไม่ค่อยสนใจใส่ใจกับงานเล็กๆ น้อยๆ ถ้าเป็นครอบครัวไทยสมัยก่อนพ่อบ้านหรือหัวหน้าครอบครัวต้องซ่อมทุกอย่างในบ้านได้หมด งานช่างประปาที่ดูเหมือนจะเป็นงานเลอะเทอะ แถมต้องทำงานในที่แคบซอกหลืบแคบๆ และยังต้องมีความรู้เฉพาะทาง คนอเมริกันส่วนใหญ่จึงไม่สนใจใส่ใจกับอาชีพนี้ แต่ที่ไหนได้ถ้าคิดดูแล้วรายได้เฉลี่ยต่อปีของช่างซ่อมประปาในอเมริกาสูงถึง 47,750 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,555,790 บาท แม้เป็นงานที่ไม่ต้องจบปริญญาตรี แต่ต้องสอบผ่านใบอนุญาตก่อนที่จะมาเป็นช่างได้ ที่ฮอตๆ และกำลังขาดแคลนก็จะมีอยู่ 2 ช่างคือ ช่างไฟฟ้า และช่างประปา เมื่อเทียบกับบ้านเราแล้วรายได้ของช่างประปาจะอยู่ที่ประมาณ 300-1,000 บาท หรือ1,000 บาท ขึ้นไป บางเจ้าจะคิดเป็นจุด จุดละ 500-1,000 บาท หรือ อาจจะคิดเหมาเป็นงานไปแล้วแต่ตกลงกัน แต่ส่วนมากจะอยู่ที่ประมาณหลักร้อยและหลักพันบาท
6. ช่างก่ออิฐ และช่างก่อบล็อก
รายได้เฉลี่ยต่อปี : 46,800 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,527,550 บาท
การศึกษาจำเป็นต้องใช้ : ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า
อาชีพก่อสร้างเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ใช้แรงงานและไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษาสูงๆ แค่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางหรือมีประสบการณ์ก็สามารถสร้างรายได้อย่างไม่น่าเชื่อ งานเหล่านี้ถือเป็นงานเกรดต่ำที่คนอเมริกันไม่ค่อยสนใจ จึงทำให้มีเรตอัตราค่าจ้างที่ค่อนข้างสูง สิ่งหนึ่งที่ทำให้อาชีพก่อสร้างได้เงินเยอะและค่าเฉลี่ยนรายได้ต่อปีสูงเทียบแล้วอาจสูงกว่างานในออฟฟิตบางงาน เนื่องมาจากงานก่อสร้างเป็นงานหนักที่ต้องทำงานเกินกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน เพราะเป็นงานรับเหมาที่ต้องทำให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด ที่สำคัญงานก่อสร้างในต่างประเทศส่วนใหญ่จะทำได้เฉพาะฤดูกาลเท่านั้น เช่น หน้าร้อนจะทำงานได้หลายชั่วโมงมากกว่าหน้าหนาว ส่วนฤดูหนาวจัดก็ไม่สามารถทำงานก่อสร้างได้เลย ช่างจึงทำงานได้เพียงไม่กี่ช่วงเท่านั้นใน 1 ปี รายได้เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 46,800 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,527,550 บาท และอัตราค่าจ้างเฉลี่ยสูงสุดจะอยู่ที่แมสซาชูเซด ช่างก่อสร้าง ช่างอิฐ ช่างปูน รายได้สูงถึง 78,580 ดอลลาร์ ต่อปี หรือ 2,564,848 บาทเลยทีเดียว
7. ช่างติดตั้งและซ่อมบำรุงเครื่องทำความร้อน/ความเย็น
รายได้เฉลี่ยต่อปี : $43,380 ประมาณ 1,413,409 บาท
การศึกษาที่จำเป็นต้องใช้ : การศึกษาระดับหลังมัธยมศึกษา หรือเตรียมอุดมศึกษา
อากาศเย็นก็ต้องติดเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำความร้อน พออากาศร้อนก็ต้องติดแอร์ แอร์เสียก็ต้องเรียกช่างๆๆๆ “ช่างติดตั้งและซ่อมบำรุง” จึงเป็นอีกหนึ่งอาชีพหนึ่งที่มีอัตราการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างสูง เครื่องทำความร้อนและเครื่องทำความเย็นกลายเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ไปแล้ว และในอนาคตเมื่อมีการขยายของตึกอาคาร บ้านเรือน บริษัทโรงงาน โรงแรม หรือร้านค้าต่างๆ ก็ต้องติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ ซึ่งไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้จะต้องเป็นผู้ที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเท่านั้น
แม้จะเป็นอาชีพที่ไม่ต้องมีใบปริญญา ส่วนใหญ่ต้องจบการศึกษาในระดับมัธยมขึ้นไป หรือต้องจบในสายอาชีพเฉพาะทาง และต้องมีประสบการณ์มากอยู่พอสมควร ค่าแรงเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 16.70 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (544 บาท) และมีรายได้เฉลี่ยต่อปี 43,380 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,413,409 บาท แต่เมื่อเทียบกับช่างติดตั้งแอร์ในบ้านเราจะมีรายได้ค่อนข้างน้อยแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ในอเมริกาคิดรายได้เป็นรายชั่วโมง ส่วนช่างในประเทศไทยจะคิดค่าจ้างเป็นรายวันขั้นต่ำ 300 บาท/วัน หรือถ้าเป็นหัวหน้าช่างในระดับสูงขึ้นไปเงินเดือนก็จะอยู่ในหลักหมื่นถึงสองหมื่นบาทเท่านั้น
8. พนักงานเก็บขยะ
รายได้เฉลี่ยต่อปี : $43,000 หรือประมาณ 1,403,518 บาท
การศึกษาจำเป็นต้องใช้ : ไม่มี
งานอันดับต้นๆ ที่คนในอเมริกาส่วนใหญ่ถือว่าเป็นงานเกรดต่ำ และไม่อยากทำเลยนั่นก็คือ งานที่เกี่ยวกับสิ่งสกปรก มีกลิ่นเหม็น เลอะเทอะ นั่นก็คือ “งานเก็บขยะ” แต่คุณรู้หรือไม่ว่างานที่ใครๆ ปฎิเสธกลับสร้างรายได้เป็นอย่างดี แม้จะเป็นงานที่ไม่เน้นเรื่องวุฒิการศึกษา แต่ในบางกรณีอาจต้องมีทักษะและผ่านการอบรมหลักสูตร เพราะบางครั้งงานเก็บขยะก็ต้องทำงานกับเครื่องจักรที่ซับซ้อน บริษัทอาจจะต้องการวุฒิการศึกษาในระดับมัธยมปลายหรือเทียบเท่าขึ้นอยู่กับตำแหน่งหน้าที่ โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ประมาณ 26,000 - 43,000 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 848,640 - 1,403,518 บาท คิดเฉลี่ยเป็นชั่วโมงจะอยู่ที่ประมาณ 16.40 ดอลลาร์ หรือประมาณ 535 บาท และหากทำหน้าที่พิเศษอื่นๆ หรือค่าล่วงเวลาเพิ่มขึ้นก็จะทำให้มีรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้นถึง 60,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,958,398 บาท เลยทีเดียว
สำหรับในบ้านเราอาชีพเก็บขยะก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ถูกมองข้าม งานทั้งเหนื่อย ทั้งสกปรก แถมได้ค่าแรงอันน้อยนิด แตกต่างกับอาชีพเก็บขยะในต่างประเทศอย่างสิ้นเชิง โดยเฉลี่ยแล้วมีค่าแรงต่อวันตกอยู่ประมาณ 51-100 บาท สูงสุดจะอยู่ที่ 200 บาทต่อวันเท่านั้นเอง อีกทั้งยังเป็นอาชีพเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะต้องเสี่ยงกับสารเคมีและวัตถุอันตรายที่ปนมากับขยะอีกด้วย
9. พนักงานขับรถบรรทุก
รายได้เฉลี่ยต่อปี : $38,412 ประมาณ 1,251,540 บาท
การศึกษาจำเป็นต้องใช้ : ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า
อาชีพที่ต้องใช้ชีวิตส่วนใหญ่ กิน อยู่ หลับนอน บนท้องถนน ชนิดที่เรียกว่าชีพจรลงเท้า ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา และมีความเสี่ยงต่อชีวิตค่อนข้างสูง แม้จะเป็นอาชีพที่ไม่ต้องมีใบปริญญา แต่สิ่งสำคัญที่จะต้องมีสำหรับการประกอบอาชีพนี้นั่นก็คือ ใบอนุญาตขับขี่, ใบรับรอง ผ่านการฝึกอบรม ไม่ว่าจะเป็น รถทรัค, รถพ่วง 2 ตอน, รถบรรทุก 6 ล้อ และ 10 ล้อ ขับรถประเภทไหนก็ต้องไปสอบใบขับขี่คลาสนั้น นอกจากนี้แล้วพนักงานขับรถบรรทุกจะต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมากๆ เพราะคนขับรถจะต้องทำหน้าที่ยกของที่บรรทุกไปส่งด้วยตัวเองไม่มีเด็กท้ายรถ ช่วยยกของขึ้น-ลงเหมือนในบ้านเรา บางแห่งนายจ้างจะระบุไว้เลยว่า จะต้องยกของหนักได้ประมาณ 25-30 กก. ซึ่งบอกเป็นนัยๆ เลยว่าจะต้องมีร่างกายที่แข็งแรงพอสมควร
ส่วนใหญ่คนขับรถบรรทุก รถตักดิน หรือรถส่งของ ในอเมริกาจะเป็นคนเอเชียซะส่วนใหญ่ทั้งคนไทย เขมร และเวียดนาม คนต่างชาตินิยมทำมาก ถึงแม้จะเป็นอาชีพที่ค่อนข้างหนักแต่มีรายได้ที่ดีใช้ได้เลยทีเดียว โดยเฉลี่ยต่อปีจะอยู่ที่ 38,412 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,251,540 บาท แล้วถ้ายิ่งไปขับรถให้กับบริษัทใหญ่ๆ ในรัฐที่มีการความต้องการในการขนส่งมากอย่างรัฐเท็กซัส รายได้เฉลี่ยต่อปีจะอยู่ที่ 45,000-50,000 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทย 1,459,350 - 1,622,800 บาท