สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
วันนี้ผมเพิ่งตอบกระทู้ในลักษณะนี้ไปหนึ่งกระทู้ ลองไปอ่านดูนะครับ http://ppantip.com/topic/31068651
คำถามก็จะประมาณนี้แหละครับ คราวนี้ลองมาตอบคำถามกระทู้นี้ดูบ้างนะครับ
จริงๆแล้วถ้าคุณจะถามคำถามในลักษณะนี้ควรจะบอกรายละเอียดให้กว้างกว่านี้สักหน่อยจะดีมาก เวลาที่จะตอบ
จะได้ตอบได้ตรงประเด็นที่คุณถาม คุณเองก็จะได้คำตอบที่ต้องการด้วย
ถ้าผมไม่มีคนรู้จักอยู่ที่นั่น แต่อยากไปทำงานเป็นคนงานที่อเมริกา ผมจะได้ไปไหมครับ ?
-ตอบตรงๆเลยไม่ได้ครับ เพราะสหรัฐอเมริกาไม่ใช่เชียงใหม่ หรือหาดใหญ่นะครับ ขั้นตอนมันมากมาย ไม่ใช่นึกได้ก็
เก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋ามาได้เลย ทั้งขั้นตอนของการขอวีซ่า การเดินทาง การตอบคำถามตอนเข้าเมือง แล้วจะไปเดิน
ท่อมๆหางานทำ สหรัฐอเมริกาแค่รัฐเท็กซัสรัฐเดียวก็ใหญ่เท่าประเทศไทยแล้วนะครับ ลองบอกมาซิครับว่า อยากมารัฐ
ไหน ทำอะไรเป็นบ้าง และที่สำคัญจุดประสงค์และความต้องการของคุณคืออะไร และโอกาสที่คุณจะขอวีซ่าเข้า
สหรัฐอเมริกามีมากน้อยแค่ไหน
ใครที่ไปโดยที่ไม่มีญาติ ไม่มีคนรู้จัก ช่วยแนะนำผมทีครับ ผมอยากไปทำงานอยู่ที่อเมริกา
-คำถามนี้ผมเชื่อแน่ว่าไม่มีหรอกครับ ถ้าเป็นเมื่อสามสี่สิบปีก่อนอาจจะมีแต่น้อยมากครับ ที่มาเริ่มต้นชีวิตที่ลอสแองเจลิส
แบบมีกระเป๋าใบเดียวมา มีเงินติดตัวมายี่สิบดอลลาร์ มาเผชิญโชคเอาดาบหน้า แต่นั้นมันเป็นตำนานที่เล่าสู่กันฟังแบบปาก
ต่อปาก ซึ่งเราไม่มีสิทธิรู้เลยว่าเรื่องจริงหรือปล่าว อย่าไปเชื่อเรื่องเล่าพวกนี้เลยครับ หรือคนที่กลับไปจากที่นี่ พูดให้ฟัง ก็
ต้องฟังอย่างใตร่ตรองให้ดี สหรัฐอเมริกาอาจจะเป็นแหล่งขุดทองในความคิดของหลายๆคน แต่ในหลายๆคนนั้นมีจอบมีเสียม
มีตะแกรงร่อนทองพร้อมที่จะมาขุดหาทองหรือปล่าว
นอกจากคำถามที่ผมถามข้างบนแล้ว คุณลองตอบคำถามเหล่านี้ได้ไหมครับ
-คุณลองคิดดูดีๆซิครับว่า คุณที่คุณรู้จัก เคยรู้จัก เพื่อนของเพื่อน เพื่อนของญาติ เพื่อนร่วมรุ่น เพื่อนข้างบ้าน เขาเหล่านี้
มีใครบ้างใหมที่ตอนนี้อยู่ในสหรัฐอเมริกา และอยู่ในรัฐไหน
-คุณจบการศึกษาในระดับไหน
-ทุกวันนี้คุณประกอบอาชีพอะไร
-คุณมีความสามรถพิเศษอะไรบ้าง
เพื่อที่ผมจะได้แนะนำอะไรได้บ้าง ถึงแม้ตอนนี้คุณยังทำไม่ได้ แต่ไม่แน่ในอนาคตคุณอาจจะทำได้ ใครจะไปรู้
อย่างน้อยผมก็อยากมีส่วนช่วยให้ความฝันของคุณเป็นจริงขึ้นมาได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
คำถามก็จะประมาณนี้แหละครับ คราวนี้ลองมาตอบคำถามกระทู้นี้ดูบ้างนะครับ
จริงๆแล้วถ้าคุณจะถามคำถามในลักษณะนี้ควรจะบอกรายละเอียดให้กว้างกว่านี้สักหน่อยจะดีมาก เวลาที่จะตอบ
จะได้ตอบได้ตรงประเด็นที่คุณถาม คุณเองก็จะได้คำตอบที่ต้องการด้วย
ถ้าผมไม่มีคนรู้จักอยู่ที่นั่น แต่อยากไปทำงานเป็นคนงานที่อเมริกา ผมจะได้ไปไหมครับ ?
-ตอบตรงๆเลยไม่ได้ครับ เพราะสหรัฐอเมริกาไม่ใช่เชียงใหม่ หรือหาดใหญ่นะครับ ขั้นตอนมันมากมาย ไม่ใช่นึกได้ก็
เก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋ามาได้เลย ทั้งขั้นตอนของการขอวีซ่า การเดินทาง การตอบคำถามตอนเข้าเมือง แล้วจะไปเดิน
ท่อมๆหางานทำ สหรัฐอเมริกาแค่รัฐเท็กซัสรัฐเดียวก็ใหญ่เท่าประเทศไทยแล้วนะครับ ลองบอกมาซิครับว่า อยากมารัฐ
ไหน ทำอะไรเป็นบ้าง และที่สำคัญจุดประสงค์และความต้องการของคุณคืออะไร และโอกาสที่คุณจะขอวีซ่าเข้า
สหรัฐอเมริกามีมากน้อยแค่ไหน
ใครที่ไปโดยที่ไม่มีญาติ ไม่มีคนรู้จัก ช่วยแนะนำผมทีครับ ผมอยากไปทำงานอยู่ที่อเมริกา
-คำถามนี้ผมเชื่อแน่ว่าไม่มีหรอกครับ ถ้าเป็นเมื่อสามสี่สิบปีก่อนอาจจะมีแต่น้อยมากครับ ที่มาเริ่มต้นชีวิตที่ลอสแองเจลิส
แบบมีกระเป๋าใบเดียวมา มีเงินติดตัวมายี่สิบดอลลาร์ มาเผชิญโชคเอาดาบหน้า แต่นั้นมันเป็นตำนานที่เล่าสู่กันฟังแบบปาก
ต่อปาก ซึ่งเราไม่มีสิทธิรู้เลยว่าเรื่องจริงหรือปล่าว อย่าไปเชื่อเรื่องเล่าพวกนี้เลยครับ หรือคนที่กลับไปจากที่นี่ พูดให้ฟัง ก็
ต้องฟังอย่างใตร่ตรองให้ดี สหรัฐอเมริกาอาจจะเป็นแหล่งขุดทองในความคิดของหลายๆคน แต่ในหลายๆคนนั้นมีจอบมีเสียม
มีตะแกรงร่อนทองพร้อมที่จะมาขุดหาทองหรือปล่าว
นอกจากคำถามที่ผมถามข้างบนแล้ว คุณลองตอบคำถามเหล่านี้ได้ไหมครับ
-คุณลองคิดดูดีๆซิครับว่า คุณที่คุณรู้จัก เคยรู้จัก เพื่อนของเพื่อน เพื่อนของญาติ เพื่อนร่วมรุ่น เพื่อนข้างบ้าน เขาเหล่านี้
มีใครบ้างใหมที่ตอนนี้อยู่ในสหรัฐอเมริกา และอยู่ในรัฐไหน
-คุณจบการศึกษาในระดับไหน
-ทุกวันนี้คุณประกอบอาชีพอะไร
-คุณมีความสามรถพิเศษอะไรบ้าง
เพื่อที่ผมจะได้แนะนำอะไรได้บ้าง ถึงแม้ตอนนี้คุณยังทำไม่ได้ แต่ไม่แน่ในอนาคตคุณอาจจะทำได้ ใครจะไปรู้
อย่างน้อยผมก็อยากมีส่วนช่วยให้ความฝันของคุณเป็นจริงขึ้นมาได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
ความคิดเห็นที่ 17
เหตุผลหลายประการที่ทำให้ร้านอาหารไทยในสหรัฐอเมริกา รายได้ตกลงไปมาไม่รุ่งเรื่องเหมือนในอดีตที่ผ่านมา น่าจะเป็น
-ร้านอาหารไทยเปิดมากเกินไป คือคนไทยในสหรัฐอเมริกา ไม่ชอบทำกิจการอื่น นอกจากเปิดร้านอาหาร พอทำงานมีเงินเก็บ
หน่อย ก็เปิดร้านอาหารแล้ว ทำอย่างอื่นไม่เป็น เปิดร้านเล็กร้านใหญ่ไม่เกี่ยวขอให้ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของร้าน เลยเปิดเหมือนร้าน
อาหารจีนเลย ทุกถนน บางทีสองร้านในหนึ่งบล๊อคถนนยังมีเลย แย่งกันขาย และก็แย่งกันเจ๊ง
-ร้านอาหารไทยไม่เคยปรับปรุง เคยขายอะไร ขายอย่างไร ทำอย่างไร ตั้งแต่เปิด ผ่านไปห้าปี สิบปีก็ยังทำอย่างนั้น ไม่มีอะไร
ใหม่ ในบางร้าน(เป็นส่วนมาก)
-ร้านอาหารไทยบางร้านตบแต่งร้านจนเกินงาม บางร้านเหมือนร้านขายของที่ระลึก บางร้านเหมือนโรงลิเก บางร้านเหมือนร้าน
ขายไม้แกะสลักแถวหางดง เชียงใหม่ บางร้านเหมือนร้านขายเครื่องสังคโลก เบญจรงค์สวนจตุจักร คือเอาของไทยมาสุมกันใน
ร้านจนเกินงาม บางทีลูกค้าต้องเดินแหวกของแต่งร้านเข้าไปนั่ง นับถือจริงๆ บางร้านมีร่มบวชนาคกาง มีช่อฟ้าใบระกาเสร็จสรรพ
ศาลพระภูมิยังเอามาตั้งในร้านเลย มีความพยายามจริงๆ
-การบริการที่แย่ลงจากเด็กรุ่นใหม่ ที่คิดแต่เพียงว่ามาทำงานแค่เอาเงิน ไม่ได้ทำด้วยใจ ใฝ่ในอาชีพ ถือเป็นทางผ่าน อยากได้แต่
ทิป แต่ไม่เคยคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะได้ทิป ไม่เคยคิดว่าทิปเป็นสินน้ำใจที่ลูกค้าให้ คิดเพียงแต่ว่าลูกค้าจะต้องให้ ซึ่งมันไม่ใช่
ไม่มีกฎหมายข้องไหนของสหรัฐอเมริกาบอกว่า ลูกค้าต้องให้ทิป ไม่ให้ถือว่าผิด คนไทยที่มาสมัครงานตามร้านไทย เดี๋ยวนี้ร้าย
ขึ้นจนเจ้าของร้านไม่อยากรับมาทำงาน เพราะเจอคำถามที่ว่า ร้านนี้ขายได้วันละเท่าไหร่ หรือเดือนละเท่าไหร่ บางร้านเจ้าของ
ร้านไม่พอใจ พูดไม่เข้าหู ดูไม่เข้าตา ก็ไล่ออก เทิร์นโอเวอร์สูง เซอร์วิสก็ตกตาม เรื่องระหว่างเจ้าของร้านไทยกับลูกจ้างคนไทย
นี่ไม่ถือเป็นตำนาน แต่ถือเป็นมหากาพย์เลยนะ
-ถึงแม้ว่าอาหารไทยจะมีชื่อ แต่ก็เป็นเพียงทางเลือกที่สองหรือสาม รองจากอาหารอเมริกันตามร้านไดเนอร์ หรืออาหารอิตาเลี่ยน
ที่คนอเมริกันคุ้นเคยกว่า ทำไมร้านชีสเค้กเฟคเตอรี่ ร้านเรดลอปเตอร์ถึงคิวยาว รอเป็นชั่วโมง ในขณะที่ร้านไทย นั่งตบยุง บีบสิว
แกะสะเก็ดแผลกัน ยิ่งแข่งกันเปิด ตัวหารก็ยิ่งมากขึ้น ตัวหารมากขึ้น ราคาก็ต้องลงมาเพื่อดึงลูกค้า พอราคาลดลง คุณภาพของ
อาหารก็ลงตาม เพราะเจ้าของร้านต้องการลดต้นทุน แล้วอะไรจะเหลือ
-เจ้าของร้านไม่รู้จักวิธีการประหยัดต้นทุนการดำเนินการอย่างแท้จริง และจริงจัง เป็นเพราะไม่มีความรู้ ตัวเองตอนเป็นลูกจ้างทำมา
อย่างไร พอมาเป็นเจ้าของร้านก็ทำแบบนั้น แต่บวกแรงเก็บกดเข้าไปอีกสามเท่า เพราะเคยโดนกดขี่มานาน พอมาเป็นเจ้าของร้าน
ก็ต้องแสดงอภินิหารให้เต็มที่ ตอนเป็นลูกจ้างก็พูดเช้าเย็นว่า วันหนึ่งถ้าได้เป็นเจ้าของร้านจะไม่ทำเลวๆอย่างที่เจ้าของร้านทำกับ
ตัวเอง แต่พอมาเป็นกลับทำเป็นสองเท่าเพราะแรงเก็บกด เป็นอย่างนี้รุ่นต่อรุ่น คนต่อคน เจ้าของร้าน 100 คน หาดีได้เพียง 1 คน
แต่หนึ่งคนที่ว่านี้ จะมีปัญหาทางการเงินอีก
ยังมีอีกมากมายหลายประการ พูดไปสามวันก็ยิ่งอัพเดท
เมื่อพูดถึงการรักษาพยาบาลในสหรัฐอเมริกา สำหรับคนที่อยู่แบบผิดกฎหมาย ไม่มีประกันสังคม และ medicare เวลาเจ็บป่วยก็ต้อง
ไปโรงพยาบาลของรัฐ สามารถใช้ medicaid ได้โดยไม่ต้องเสียเงิน บอกเขาว่าไม่มีประกันสังคม เขาจะส่ง Social Worker มาคุยกับ
เรา เห็นบิลแล้วไม่ต้องหนี บอกกับ Social Worker เขาไปว่าเราไม่มีเงิน เขาก็จะไม่เก็บเงินเรา แต่ถ้าเรามีงานทำเป็นหลักแหล่ง เขาจะ
ให้เราผ่อนส่งได้ อันนี้ต้องคุยกับ Social Worker และไม่ต้องกลัวว่าเขาจะจับเราส่งตัวกลับ คนละหน่วยงานกันไม่เกี่ยวข้องกัน
พวกแม็กซิกันที่หลบหนีเข้ามาและอยู่แบบผิดกฎหมายออกลูกฟรีทุกคน แถมยังได้คูปองอาหารอีกด้วย
-ร้านอาหารไทยเปิดมากเกินไป คือคนไทยในสหรัฐอเมริกา ไม่ชอบทำกิจการอื่น นอกจากเปิดร้านอาหาร พอทำงานมีเงินเก็บ
หน่อย ก็เปิดร้านอาหารแล้ว ทำอย่างอื่นไม่เป็น เปิดร้านเล็กร้านใหญ่ไม่เกี่ยวขอให้ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของร้าน เลยเปิดเหมือนร้าน
อาหารจีนเลย ทุกถนน บางทีสองร้านในหนึ่งบล๊อคถนนยังมีเลย แย่งกันขาย และก็แย่งกันเจ๊ง
-ร้านอาหารไทยไม่เคยปรับปรุง เคยขายอะไร ขายอย่างไร ทำอย่างไร ตั้งแต่เปิด ผ่านไปห้าปี สิบปีก็ยังทำอย่างนั้น ไม่มีอะไร
ใหม่ ในบางร้าน(เป็นส่วนมาก)
-ร้านอาหารไทยบางร้านตบแต่งร้านจนเกินงาม บางร้านเหมือนร้านขายของที่ระลึก บางร้านเหมือนโรงลิเก บางร้านเหมือนร้าน
ขายไม้แกะสลักแถวหางดง เชียงใหม่ บางร้านเหมือนร้านขายเครื่องสังคโลก เบญจรงค์สวนจตุจักร คือเอาของไทยมาสุมกันใน
ร้านจนเกินงาม บางทีลูกค้าต้องเดินแหวกของแต่งร้านเข้าไปนั่ง นับถือจริงๆ บางร้านมีร่มบวชนาคกาง มีช่อฟ้าใบระกาเสร็จสรรพ
ศาลพระภูมิยังเอามาตั้งในร้านเลย มีความพยายามจริงๆ
-การบริการที่แย่ลงจากเด็กรุ่นใหม่ ที่คิดแต่เพียงว่ามาทำงานแค่เอาเงิน ไม่ได้ทำด้วยใจ ใฝ่ในอาชีพ ถือเป็นทางผ่าน อยากได้แต่
ทิป แต่ไม่เคยคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะได้ทิป ไม่เคยคิดว่าทิปเป็นสินน้ำใจที่ลูกค้าให้ คิดเพียงแต่ว่าลูกค้าจะต้องให้ ซึ่งมันไม่ใช่
ไม่มีกฎหมายข้องไหนของสหรัฐอเมริกาบอกว่า ลูกค้าต้องให้ทิป ไม่ให้ถือว่าผิด คนไทยที่มาสมัครงานตามร้านไทย เดี๋ยวนี้ร้าย
ขึ้นจนเจ้าของร้านไม่อยากรับมาทำงาน เพราะเจอคำถามที่ว่า ร้านนี้ขายได้วันละเท่าไหร่ หรือเดือนละเท่าไหร่ บางร้านเจ้าของ
ร้านไม่พอใจ พูดไม่เข้าหู ดูไม่เข้าตา ก็ไล่ออก เทิร์นโอเวอร์สูง เซอร์วิสก็ตกตาม เรื่องระหว่างเจ้าของร้านไทยกับลูกจ้างคนไทย
นี่ไม่ถือเป็นตำนาน แต่ถือเป็นมหากาพย์เลยนะ
-ถึงแม้ว่าอาหารไทยจะมีชื่อ แต่ก็เป็นเพียงทางเลือกที่สองหรือสาม รองจากอาหารอเมริกันตามร้านไดเนอร์ หรืออาหารอิตาเลี่ยน
ที่คนอเมริกันคุ้นเคยกว่า ทำไมร้านชีสเค้กเฟคเตอรี่ ร้านเรดลอปเตอร์ถึงคิวยาว รอเป็นชั่วโมง ในขณะที่ร้านไทย นั่งตบยุง บีบสิว
แกะสะเก็ดแผลกัน ยิ่งแข่งกันเปิด ตัวหารก็ยิ่งมากขึ้น ตัวหารมากขึ้น ราคาก็ต้องลงมาเพื่อดึงลูกค้า พอราคาลดลง คุณภาพของ
อาหารก็ลงตาม เพราะเจ้าของร้านต้องการลดต้นทุน แล้วอะไรจะเหลือ
-เจ้าของร้านไม่รู้จักวิธีการประหยัดต้นทุนการดำเนินการอย่างแท้จริง และจริงจัง เป็นเพราะไม่มีความรู้ ตัวเองตอนเป็นลูกจ้างทำมา
อย่างไร พอมาเป็นเจ้าของร้านก็ทำแบบนั้น แต่บวกแรงเก็บกดเข้าไปอีกสามเท่า เพราะเคยโดนกดขี่มานาน พอมาเป็นเจ้าของร้าน
ก็ต้องแสดงอภินิหารให้เต็มที่ ตอนเป็นลูกจ้างก็พูดเช้าเย็นว่า วันหนึ่งถ้าได้เป็นเจ้าของร้านจะไม่ทำเลวๆอย่างที่เจ้าของร้านทำกับ
ตัวเอง แต่พอมาเป็นกลับทำเป็นสองเท่าเพราะแรงเก็บกด เป็นอย่างนี้รุ่นต่อรุ่น คนต่อคน เจ้าของร้าน 100 คน หาดีได้เพียง 1 คน
แต่หนึ่งคนที่ว่านี้ จะมีปัญหาทางการเงินอีก
ยังมีอีกมากมายหลายประการ พูดไปสามวันก็ยิ่งอัพเดท
เมื่อพูดถึงการรักษาพยาบาลในสหรัฐอเมริกา สำหรับคนที่อยู่แบบผิดกฎหมาย ไม่มีประกันสังคม และ medicare เวลาเจ็บป่วยก็ต้อง
ไปโรงพยาบาลของรัฐ สามารถใช้ medicaid ได้โดยไม่ต้องเสียเงิน บอกเขาว่าไม่มีประกันสังคม เขาจะส่ง Social Worker มาคุยกับ
เรา เห็นบิลแล้วไม่ต้องหนี บอกกับ Social Worker เขาไปว่าเราไม่มีเงิน เขาก็จะไม่เก็บเงินเรา แต่ถ้าเรามีงานทำเป็นหลักแหล่ง เขาจะ
ให้เราผ่อนส่งได้ อันนี้ต้องคุยกับ Social Worker และไม่ต้องกลัวว่าเขาจะจับเราส่งตัวกลับ คนละหน่วยงานกันไม่เกี่ยวข้องกัน
พวกแม็กซิกันที่หลบหนีเข้ามาและอยู่แบบผิดกฎหมายออกลูกฟรีทุกคน แถมยังได้คูปองอาหารอีกด้วย
แสดงความคิดเห็น
ทำยังไงถึงจะได้ไปทำงานที่อเมริกา??
แต่อยากไปทำงานเป็นคนงานที่อเมริกา ผมจะได้ไปไหมครับ ?
ไครที่ไปโดยที่ไม่มีญาติ ไม่มีคนรู้จัก ช่วยแนะนำผมทีครับ
ผมอยากไปทำงานอยู่ที่อเมริกา