I'm not a perfect person
There's many things I wish I didn't do
จริง ๆ แล้วเขาก็ไม่ใช่คนเพอร์เฟคอะไรนักหนา หากถอดหัวโขนความเป็น CEO ออกไป จีเหวินข่ายก็แค่ผู้ชายคนนึง ผู้ชายที่นอกจากเรื่องการงานก็ไม่ได้มีความมั่นใจอะไรเลยโดยเฉพาะเรื่องของ "เธอ" 10 ปีที่ผ่านไป 10 ปีที่ก้าวล่วงมา แม้ตัวเขาจะเปลี่ยนไปแล้ว เขาประสบความสำเร็จมากมาย เป็นชายโสดในฝันของสาว ๆ หลายคน เป็นที่ยอมรับในฐานะผู้บริหารระดับสูงในประเทศโลกที่ 1 อย่างอเมริกา หากทุกวันนี้ก็ยังเก็บความรู้สึกทุกสิ่งอย่างไว้ในใจ ได้แต่นิ่งเงียบเมื่อใครถามไถ่ ได้แต่บอกปัดเมื่อถูกล้วงลึกความในใจ
เข็มนาฬิกาเรื่องความรักของจีเหวินข่ายหยุดหมุนไปแล้วเมื่อ 10 ปีก่อน
และยังค้างอยู่แบบนั้นจนกระทั่งบัดนี้
เพราะเธอนั่นแหละ เพราะเธอคนเดียว
เขากลับมาที่ไต้หวันเพราะมีหน้าที่ ... อย่างน้อยเขาก็บอกตัวเองแบบนั้น หน้าที่แรกก็คือบริษัท หน้าที่ถัดมาก็คือคำสัญญาที่ให้ไว้กับคุณนายจงว่าจะกลับมาดูแลใครคนหนึ่ง ทั้งสองสถานการณ์เป็นข้ออ้างให้เขาต้องวางแผน และ ฟันเฟืองที่จะทำให้แผนสัมฤทธิ์ผลก็คือจงอวี้ถัง เขาผลักเธอลงไปก้นหลุมและช่วยเธอปีนขึ้นมา เขาบอกกับตัวเองว่าเธอจะเป็นคนที่พลิกฟื้นสถานการณ์ของทีม 3 เขาบอกตัวเองว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์กับตัวเธอ เป็นเรื่องของเพื่อนที่ช่วยเพื่อน หากมันก็เป็นสถานการณ์ที่เขาสามารถจะพาตัวเองเข้าไปใกล้ชิดเธอ .... ใกล้กว่านี้ นานกว่านี้
และแม้เธอจะประสบความสำเร็จขั้นต้นมันก็ยังไม่พอ จีเหวินข่ายยังไม่เลิกรา ก็ยังผลักดันเธอต่อไป .... บล็อกไม้สีชมพูที่ห้องทำงานเขา เขาเรียกมันว่า Queen ในขณะที่ตัวเขาเป็น King ราวกับจะตอกย้ำว่าสถานะของเขาและเธอจะต้องเท่าเทียม ก่อนหน้านี้เขาเป็นเบี้ยเธอเป็นขุน ยามนี้เขาคือขุนเธอคือเบี้ย แต่มันจะต้องไปเป็นอย่างนั้นจะไม่มีเบี้ย และ จะไม่มีขุน จะมี King คือเขา และ Queen คือเธอ เหมือนกับจะตั้งใจไว้แบบนั้น แต่แผนการอะไรต่าง ๆ ที่วางไว้กลับสะดุด เมื่อมีมือที่สามโผล่เข้ามา เขาคนนั้นมีดีสูสีกันทุกอย่าง และ ดูจะดีงามเมื่อหวังจื่ออวี้ทำอะไรล้วนออกนอกหน้าได้หมด ไม่เหมือนกับเหวินข่าย
ที่ทั้งความเป็นนาย ความเป็นเพื่อน และ ความไม่มั่นใจอะไรบางอย่างยังค้ำคอ จนทำให้ไม่เคยได้ทำอะไรตรงไปตรงมาแม้เพียงซักครั้ง การสื่อสารระหว่างเหวินข่าย และ อวี้ถังจึงล้มเหลวเรื่อยมา นับตั้งแต่มัธยม จวบจนวันนี้ กับเรื่องของเธอ ทุกคำที่เธอพูด ทุกการกระทำของเธอ ล้วนกระทบใจเขามากมายเกินกว่าที่ใครจะรู้ได้ จีเหวินข่ายในวันนี้ได้ชื่อว่าเป็นคนฉลาดมองการไกลและคิดรอบคอบ หากกับอวี้ถังเหมือนเหวินข่ายจะกลับไปเป็นราชาเกรดศูนย์ที่ไม่กล้าคิดถึงม่านเฟินถังคนนั้น ทั้ง ๆ ที่มีคุณสมบัติที่ดีมากกว่าแต่ก่อนอย่างไม่เห็นฝุ่น แถมยังจะ sensitive กับที่รัดผมอันละไม่กี่บาท หรือ แม้กระทั่งลูกอมหนึ่งเม็ดที่จื่ออวี้ยื่นให้เธอคนนั้น คำถามคือเพราะอะไร ?
ประเด็นอาจจะอยู่ที่เหวินข่ายอยากจะแน่ใจให้ได้ว่า "อวี้ถัง" คิดอย่างไร เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเหวินข่ายและอวี้ถังมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งแห่งที่ของเหวินข่ายเลย เขาจะประสบความสำเร็จเท่าไหนยังไง จะเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมที่ใครหมายปองหรือไม่ ไม่ได้การันตีว่าเขาจะได้ใจผู้หญิงคนนั้นมาครอบครอง เพราะรู้แบบนี้ ใจนึงก็คิดอยากสารภาพถึงได้ทำอะไร ๆ ออกไปเพื่อประกาศสิ่งที่อยู่ในใจของตัวเอง หวังจะให้เขารู้และมีอะไรตอบกลับมา แต่จะให้พูดตรง ๆ ก็หวั่นใจอยู่ว่าถ้าเขาปฏิเสธมาจะยังไงต่อ ในเมื่อ 10 ปีที่ผ่าน ถึงไม่อยากยอมรับก็ต้องยอม ... ว่าปักใจอยู่กับคนแค่คนเดียว สัญญาณที่ส่งไปจึงสับสนอลม่านเป็นที่สุด
เหมือนจะชัดแต่ก็ไม่ชัด .... เหมือนจะไม่ชัดแต่ก็มีส่วนให้คาดเดา
แล้วควรจะทำยังไงล่ะ
สุดท้ายสิ่งที่อ้ายซาทุ่มทุนสร้างจึงไม่ได้ลงเอยสะดวกโยธินอย่างที่ตัวเธอคาดหมาย อวี้ถังก็ยังเป็นอวี้ถังที่ตรงไปตรงมา และ โมโหนักหนากับการอมพะนำ ถาม A ทำไมตอบ Z ก็ใช่สิ .... ถามว่าระหว่างเราคือยังไง .... ก็ไม่ได้เตรียมใจกับคำถามนี้ในเวลานี้ และ ยิ่งไม่ได้เตรียมใจด้วยว่าตอบแล้วจะโดนโต้อะไรกลับมา อาหารมื้อนั้นจึงสิ้นสุดลงด้วยการที่อวี้ถังลุกออกจากโต๊ะ เป็นเธอที่เคลียร์แล้ว และ เป็นเขาที่ไม่เคลียร์ ถ้าอยากให้มันเป็นเหมือนตอนมัธยมก็ได้นะ ฉันจะไม่ถามอะไรเธออีกแล้ว
โชคดี ... หรือ เรียกว่าโชคร้ายก็ไม่ทราบได้ ที่ความอิหลักอิเหลื่อจากเมื่อคืนวานหายวับไปอย่างรวดเร็วเมื่อมีวิกฤตอีกอย่างมาแทนที่ในวันรุ่งขึ้น ประธานหวังพ่อของหวังจื่ออวี้ตั้งท่าจะปฏิเสธ Mei Mei เสียแล้ว สัมพันธภาพจึงค่อยคืนสู่สภาพปกติ เรื่องานไงเรื่องาน จะว่าไม่ดีก็ไม่ดีเพราะกว่าจะมาถึงจุดนี้มันก็ยากอุปสรรคดันเข้ามาอีกแล้ว จะว่าดีก็ดี .... ตอนนี้รู้ซะแล้วก็โล่งใจ ว่าใครคอยช่วยอยู่ลับ ๆ มาตลอด ถึงตอนนี้อวี้ถังจะบอกเหวินข่ายว่าเธอตั้งใจจะก้าวไปด้วยตัวเองไม่ต้องเข้ามาเปิดทางให้อีกก็เถอะ
ก่อนหน้านั้นเขาลงมือช่วยเธอเรื่องใหญ่ ๆ ช่วยแบบชิดใกล้แทบจะหายใจรดต้นคอแต่กลับเหมือนยิ่งไกล
ในวันนี้เขาไม่ได้ทำอะไรยิ่งใหญ่ ... ข้าวเย็นหนึ่งกล่องกับกาแฟหนึ่งแก้ว ไกลกับการงาน แต่กลับใกล้กันมากขึ้น
ดูจะเป็นธรรมชาติกว่าเดิมด้วยซ้ำ ... เป็นไปได้ว่ามากันถูกทาง ?
อาจจะเป็นเพราะแบบนี้ ... ศึกจึงยุติลงชั่วคราว เขาเรียกเธอกลับเข้าบ้านอีกครั้ง แต่ทีนี้ ... คงจะเล็งเห็นแล้วว่าพูดกันดี ๆ ไม่เคยเกิน 5 นาที ถ้าอยากอยู่ด้วยกันดี ๆ ไม่ทะเลาะกันอีก ไม่ต้องไล่ใคร ไม่ต้องมีใครปึงปัง แล้วเสียใจกันทั้งสองฝ่าย งั้นก็ไม่ต้องพูดก็แล้วกัน หากมีข้อแม้แบบเด็ก ๆ ว่า ถ้าจะรัดผมละก็เอายางที่ฉันซื้อให้ คนบางคนก็ยิ้ม ๆ แย้ม ๆ กันไปเมื่อระลึกได้ว่ายางเส้นเดิมถูกถอดทิ้งไว้บนโต๊ะที่ร้านอย่างไม่ใยดี เอาล่ะสิ .... น่าจะยังมีความหวัง ยังพอมีเวลาที่ข่มใจดำเนินตามแผนต่อไป
โดยไม่นึกเลยว่า .... อีกไม่นานจะมีเหตุการณ์ให้ตบะแตก
เพราะอะไรน่ะหรือ The Reason is You.
เหตุผลข้อเดียว .... ก็เธอนั่นแหละ อวี้ถัง
後菜鳥的燦爛時代 Refresh Man (กึ่งรีวิวตอนที่ 10) : The Reason
There's many things I wish I didn't do
จริง ๆ แล้วเขาก็ไม่ใช่คนเพอร์เฟคอะไรนักหนา หากถอดหัวโขนความเป็น CEO ออกไป จีเหวินข่ายก็แค่ผู้ชายคนนึง ผู้ชายที่นอกจากเรื่องการงานก็ไม่ได้มีความมั่นใจอะไรเลยโดยเฉพาะเรื่องของ "เธอ" 10 ปีที่ผ่านไป 10 ปีที่ก้าวล่วงมา แม้ตัวเขาจะเปลี่ยนไปแล้ว เขาประสบความสำเร็จมากมาย เป็นชายโสดในฝันของสาว ๆ หลายคน เป็นที่ยอมรับในฐานะผู้บริหารระดับสูงในประเทศโลกที่ 1 อย่างอเมริกา หากทุกวันนี้ก็ยังเก็บความรู้สึกทุกสิ่งอย่างไว้ในใจ ได้แต่นิ่งเงียบเมื่อใครถามไถ่ ได้แต่บอกปัดเมื่อถูกล้วงลึกความในใจ
และยังค้างอยู่แบบนั้นจนกระทั่งบัดนี้
เพราะเธอนั่นแหละ เพราะเธอคนเดียว
เขากลับมาที่ไต้หวันเพราะมีหน้าที่ ... อย่างน้อยเขาก็บอกตัวเองแบบนั้น หน้าที่แรกก็คือบริษัท หน้าที่ถัดมาก็คือคำสัญญาที่ให้ไว้กับคุณนายจงว่าจะกลับมาดูแลใครคนหนึ่ง ทั้งสองสถานการณ์เป็นข้ออ้างให้เขาต้องวางแผน และ ฟันเฟืองที่จะทำให้แผนสัมฤทธิ์ผลก็คือจงอวี้ถัง เขาผลักเธอลงไปก้นหลุมและช่วยเธอปีนขึ้นมา เขาบอกกับตัวเองว่าเธอจะเป็นคนที่พลิกฟื้นสถานการณ์ของทีม 3 เขาบอกตัวเองว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์กับตัวเธอ เป็นเรื่องของเพื่อนที่ช่วยเพื่อน หากมันก็เป็นสถานการณ์ที่เขาสามารถจะพาตัวเองเข้าไปใกล้ชิดเธอ .... ใกล้กว่านี้ นานกว่านี้
และแม้เธอจะประสบความสำเร็จขั้นต้นมันก็ยังไม่พอ จีเหวินข่ายยังไม่เลิกรา ก็ยังผลักดันเธอต่อไป .... บล็อกไม้สีชมพูที่ห้องทำงานเขา เขาเรียกมันว่า Queen ในขณะที่ตัวเขาเป็น King ราวกับจะตอกย้ำว่าสถานะของเขาและเธอจะต้องเท่าเทียม ก่อนหน้านี้เขาเป็นเบี้ยเธอเป็นขุน ยามนี้เขาคือขุนเธอคือเบี้ย แต่มันจะต้องไปเป็นอย่างนั้นจะไม่มีเบี้ย และ จะไม่มีขุน จะมี King คือเขา และ Queen คือเธอ เหมือนกับจะตั้งใจไว้แบบนั้น แต่แผนการอะไรต่าง ๆ ที่วางไว้กลับสะดุด เมื่อมีมือที่สามโผล่เข้ามา เขาคนนั้นมีดีสูสีกันทุกอย่าง และ ดูจะดีงามเมื่อหวังจื่ออวี้ทำอะไรล้วนออกนอกหน้าได้หมด ไม่เหมือนกับเหวินข่าย
ที่ทั้งความเป็นนาย ความเป็นเพื่อน และ ความไม่มั่นใจอะไรบางอย่างยังค้ำคอ จนทำให้ไม่เคยได้ทำอะไรตรงไปตรงมาแม้เพียงซักครั้ง การสื่อสารระหว่างเหวินข่าย และ อวี้ถังจึงล้มเหลวเรื่อยมา นับตั้งแต่มัธยม จวบจนวันนี้ กับเรื่องของเธอ ทุกคำที่เธอพูด ทุกการกระทำของเธอ ล้วนกระทบใจเขามากมายเกินกว่าที่ใครจะรู้ได้ จีเหวินข่ายในวันนี้ได้ชื่อว่าเป็นคนฉลาดมองการไกลและคิดรอบคอบ หากกับอวี้ถังเหมือนเหวินข่ายจะกลับไปเป็นราชาเกรดศูนย์ที่ไม่กล้าคิดถึงม่านเฟินถังคนนั้น ทั้ง ๆ ที่มีคุณสมบัติที่ดีมากกว่าแต่ก่อนอย่างไม่เห็นฝุ่น แถมยังจะ sensitive กับที่รัดผมอันละไม่กี่บาท หรือ แม้กระทั่งลูกอมหนึ่งเม็ดที่จื่ออวี้ยื่นให้เธอคนนั้น คำถามคือเพราะอะไร ?
ประเด็นอาจจะอยู่ที่เหวินข่ายอยากจะแน่ใจให้ได้ว่า "อวี้ถัง" คิดอย่างไร เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเหวินข่ายและอวี้ถังมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งแห่งที่ของเหวินข่ายเลย เขาจะประสบความสำเร็จเท่าไหนยังไง จะเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมที่ใครหมายปองหรือไม่ ไม่ได้การันตีว่าเขาจะได้ใจผู้หญิงคนนั้นมาครอบครอง เพราะรู้แบบนี้ ใจนึงก็คิดอยากสารภาพถึงได้ทำอะไร ๆ ออกไปเพื่อประกาศสิ่งที่อยู่ในใจของตัวเอง หวังจะให้เขารู้และมีอะไรตอบกลับมา แต่จะให้พูดตรง ๆ ก็หวั่นใจอยู่ว่าถ้าเขาปฏิเสธมาจะยังไงต่อ ในเมื่อ 10 ปีที่ผ่าน ถึงไม่อยากยอมรับก็ต้องยอม ... ว่าปักใจอยู่กับคนแค่คนเดียว สัญญาณที่ส่งไปจึงสับสนอลม่านเป็นที่สุด
แล้วควรจะทำยังไงล่ะ
สุดท้ายสิ่งที่อ้ายซาทุ่มทุนสร้างจึงไม่ได้ลงเอยสะดวกโยธินอย่างที่ตัวเธอคาดหมาย อวี้ถังก็ยังเป็นอวี้ถังที่ตรงไปตรงมา และ โมโหนักหนากับการอมพะนำ ถาม A ทำไมตอบ Z ก็ใช่สิ .... ถามว่าระหว่างเราคือยังไง .... ก็ไม่ได้เตรียมใจกับคำถามนี้ในเวลานี้ และ ยิ่งไม่ได้เตรียมใจด้วยว่าตอบแล้วจะโดนโต้อะไรกลับมา อาหารมื้อนั้นจึงสิ้นสุดลงด้วยการที่อวี้ถังลุกออกจากโต๊ะ เป็นเธอที่เคลียร์แล้ว และ เป็นเขาที่ไม่เคลียร์ ถ้าอยากให้มันเป็นเหมือนตอนมัธยมก็ได้นะ ฉันจะไม่ถามอะไรเธออีกแล้ว
โชคดี ... หรือ เรียกว่าโชคร้ายก็ไม่ทราบได้ ที่ความอิหลักอิเหลื่อจากเมื่อคืนวานหายวับไปอย่างรวดเร็วเมื่อมีวิกฤตอีกอย่างมาแทนที่ในวันรุ่งขึ้น ประธานหวังพ่อของหวังจื่ออวี้ตั้งท่าจะปฏิเสธ Mei Mei เสียแล้ว สัมพันธภาพจึงค่อยคืนสู่สภาพปกติ เรื่องานไงเรื่องาน จะว่าไม่ดีก็ไม่ดีเพราะกว่าจะมาถึงจุดนี้มันก็ยากอุปสรรคดันเข้ามาอีกแล้ว จะว่าดีก็ดี .... ตอนนี้รู้ซะแล้วก็โล่งใจ ว่าใครคอยช่วยอยู่ลับ ๆ มาตลอด ถึงตอนนี้อวี้ถังจะบอกเหวินข่ายว่าเธอตั้งใจจะก้าวไปด้วยตัวเองไม่ต้องเข้ามาเปิดทางให้อีกก็เถอะ
ในวันนี้เขาไม่ได้ทำอะไรยิ่งใหญ่ ... ข้าวเย็นหนึ่งกล่องกับกาแฟหนึ่งแก้ว ไกลกับการงาน แต่กลับใกล้กันมากขึ้น
ดูจะเป็นธรรมชาติกว่าเดิมด้วยซ้ำ ... เป็นไปได้ว่ามากันถูกทาง ?
อาจจะเป็นเพราะแบบนี้ ... ศึกจึงยุติลงชั่วคราว เขาเรียกเธอกลับเข้าบ้านอีกครั้ง แต่ทีนี้ ... คงจะเล็งเห็นแล้วว่าพูดกันดี ๆ ไม่เคยเกิน 5 นาที ถ้าอยากอยู่ด้วยกันดี ๆ ไม่ทะเลาะกันอีก ไม่ต้องไล่ใคร ไม่ต้องมีใครปึงปัง แล้วเสียใจกันทั้งสองฝ่าย งั้นก็ไม่ต้องพูดก็แล้วกัน หากมีข้อแม้แบบเด็ก ๆ ว่า ถ้าจะรัดผมละก็เอายางที่ฉันซื้อให้ คนบางคนก็ยิ้ม ๆ แย้ม ๆ กันไปเมื่อระลึกได้ว่ายางเส้นเดิมถูกถอดทิ้งไว้บนโต๊ะที่ร้านอย่างไม่ใยดี เอาล่ะสิ .... น่าจะยังมีความหวัง ยังพอมีเวลาที่ข่มใจดำเนินตามแผนต่อไป
เพราะอะไรน่ะหรือ The Reason is You.
เหตุผลข้อเดียว .... ก็เธอนั่นแหละ อวี้ถัง