ถึงแม้ "ความรัก" จะเริ่มผลิบานได้ไม่นาน แต่ "ความรัก" นั้นก็หยั่งรากลึกมาเนิ่นนานนับตั้งแต่ชั้นมัธยมปลาย ก็เรียกได้ว่า "มันเกิน 10 ปี" แหละนะ ที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรู้สึกกับผู้หญิงคนหนึ่งในแบบที่ไม่อาจจะมองใครได้อีก จีเหวินข่ายเป็นหนึ่งในผู้ชายคนนั้น คนที่ได้รับรู้ถึงความสัมพันธ์นี้ก็แอบคิดไปต่าง ๆ นานา อาจจะเป็นเพราะว่าปะทะกันทุกวันก็ได้ละมั้งถึงได้เกิดมาถูกใจกันได้เหมือนเรื่องราวพาฝัน ถึงมันจะไม่ใช่แบบนั้น ... แต่ story ของคนทั้งคู่ก็นับว่า "เข้าขั้น" เหมือนกันที่สารภาพไปตามตรงว่า "รัก" ผู้ญิงคนเดียวมากว่า 10 ปี โดยไม่ลังเลออกนอกลู่นอกทางไปไหนอื่น
ใครจะนึกนะ คนที่ดูเย็นชา และ ปากร้าย
เอาเข้าจริงจะอ่อนหวานละมุนละไมได้ปานนี้
เมื่อไม่ต้องเก็บกักอารมณ์อย่างที่แล้ว ๆ มา จีเหวินข่ายจึงอยู่ในสถานะแฟนดีเด่นในที่สุด ก็โต ๆ กันแล้วแหละนะจึงไม่ได้หวานเลี่ยนอะไรกันมากมาย แต่วิธีการมองสายตาแบบนั้น วิธีการสัมผัส วิธีการพูดจา ก็ทำให้รู้ว่า "ผู้หญิง" คนที่อยู่ข้าง ๆ นั้นมีความหมายมากมายเพียงใด ยิ่งเข้ารู้จักเธอทุกซอกทุกมุมตั้งแต่ 10 ปี ก่อนมาจนถึงวันนี้ ความรักที่มาจากพื้นฐานที่แน่นหนา ไม่ได้หวานแสบเหมือนรถขนอ้อยมาคว่ำอยู่ตรงหน้า ไม่ได้จี๋จ๋าขาดกันไม่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกย่างก้าว ทุกอิริยาบถ หากให้นิยามคงเรียกได้ว่า "ความพอดี" ไม่มากไม่น้อย ไม่ห่างไม่หาย
คุยกันเท่าที่สมควรคุย
แสดงออกเท่าที่ควรแสดงออก
ไม่หวั่นเกรงจนเกร็ง
แต่ก็ไม่ได้เยอะจนเฝือ
แบบนี้ไหม ... เรียกศีลเสมอกัน
พอเป็นแบบนั้น ... ความไหวหวั่นในความสัมพันธ์ระหว่างกัน หรือ เรื่องมือที่สาม ก็ลบออกไปสารบบได้เลย มันไม่มีที่ตรงไหนให้แทรกตัวเข้าไปนะ คิดว่า ... อวี่ถังเชื่อใจเหวินข่าย 100% เต็ม เธอรู้เธอจะเชื่อเขาได้ ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็จะฟังจากปากเขาคนเดียว แต่ไหนแต่ไรมาแม้แต่เมื่อครั้งยังเด็ก สองคนนี้ก็มีความเชื่อใจกันและกันเสมอนะ จนวันที่งัดข้อกัน ซึ่งก็ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญว่าจะปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไปไม่ได้ ดังนั้นอวี่ถังพอมีอะไรที่น่าเคลือบแคลงสงสัยก็มักจะเคลียร์จะ ๆ ต่อหน้า
ส่วนด้านเหวินข่าย ... ไม่ต้องบอกก็รู้ เขารู้จักผู้หญิงของเขาดีแค่ไหน มองหน้าไม่ต้องพูดอะไรก็รู้ใจแล้ว ตอนไหนเศร้า ตอนไหนดีใจ สำหรับเขาแล้วเธอก็เหมือนแผ่นกระดาษที่เขามองแล้วมองเล่าศึกษาแล้วศึกษาเล่าจนทะลุปรุโปร่งนั่นแหละ คิดว่าเจ้าตัวคงเชื่อด้วยซ้ำว่าในโลกนี้คงไม่มีผู้ชายคนไหนจะรักอวี่ถังได้แม้แต่เพียง "ครึ่ง" ที่เขารักเธอหรอก สายตาที่เธอมองเขา สายตาที่เขามองเธอ ทุกสิ่งที่เขาทำให้เธอ ทุกสิ่งที่เธอบอกกับเขา ความไว้เนื้อเชื่อใจ 100% เต็มนั้น ความมั่นใจไม่มีทีท่าว่าจะสั่นคลอนได้เลย
ถึงไฮดี้แอบบอกให้อวี่ถังระวังอ้ายชา
ถึงแม้ว่าจื่ออวี้จะกลับมาแถมส่งสัญญาณความเป็นคู่แข่งมาอีก
ถึงความรักของคนทั้งคู่ที่ถึงแม้จะเพิ่งเริ่มอย่างเป็นทางการ
แต่มันก็แน่นหนาจนกระทั่งยากที่ใครจะเข้าไปแทรกตัวเพราะประวัติศาสตร์ของคนทั้งคู่ที่มีมาอย่างยาวนาน
ข้อนี้อ้ายชารู้ดีเพราะเจอมากับตัว
หากบททดสอบก็ยังมีอยู่อีกมากมาย โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่กำลังดำเนินเข้ามาและน่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทอย่างไม่อาจเลี่ยง คู่ค้า (และคู่แข่ง) อย่าง Shinway เปลี่ยน CEO ใหม่เป็น จื่ออวี้ คลื่นใต้น้ำของ MUSE เองก็ไม่ได้มาแล่น ๆ แม้หนอนทางทีม 1 จะโดนอัปเปหิไปเรียบร้อยแต่หนอนบ่อนไส้ตัวใหญ่ก็ยังคงอยู่ โดยเฉพาะที่ทางเหวินข่ายสืบรู้ว่ามีคนแบบมายุ่งที่ฝ่ายการเงินโดยไม่ได้รับเชิญอยู่บ่อย ๆ อันนี้คาดเดานะว่าอีกฝั่งก็เปลี่ยนผู้บริหารชนิดยกเซต .... หรือ หนอนจากทางนี้จะมีสิทธิย้ายไปสถิตย์ทางนั้น
จากตรงนี้เรื่องก็อาจจะกลาเป็นยุ่งได้เหมือนกัน โดยเฉพาะถ้าหนอนเกิดรู้เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง CEO กับ เซลล์ตัวเล็ก ๆ คนนึงในบริษัท ซึ่งท่าน CEO ก็ไปเปล่งพจี ณ สัจจะการ ประกาศหมั้น กับคุณแม่จงเข้าแล้วด้วยว่าจะไม่ปล่อยมือลูกสาวคุณแม่เป็นอันขาด ก็ต้องมาดูกันแหละว่า "ความรักแบบมีวุฒิภาวะ" จะพาทั้งคู่ก้าวข้ามผ่านปัญหาที่เสมือนคลื่นใต้น้ำไปได้อย่างไร
ป.ล. ว่าแต่ว่า ... ดูงานเลี้ยงปิดกล้องของเรื่องนี้แล้ว ... มันชวนคิดมาก ยิ่งกว่าแฟนเซอร์วิส หรือ เดี๋ยวนี้เขาเซอร์วิสกันเบอร์นี้แล้วเรอะ ? แต่ถ้าอีกซักพักจะมีการเปิดตัว "คบกัน" นี่จิไม่แปลกจัยยยยยยย หลุนมาเต็มปรี่มากกกกกกกกก intimacy สุดชีวิต เฉียวก็ดูไม่ว่าอะไร
後菜鳥的燦爛時代 Refresh Man (กึ่งรีวิวตอนที่ 13) : Love and Maturity
เอาเข้าจริงจะอ่อนหวานละมุนละไมได้ปานนี้
เมื่อไม่ต้องเก็บกักอารมณ์อย่างที่แล้ว ๆ มา จีเหวินข่ายจึงอยู่ในสถานะแฟนดีเด่นในที่สุด ก็โต ๆ กันแล้วแหละนะจึงไม่ได้หวานเลี่ยนอะไรกันมากมาย แต่วิธีการมองสายตาแบบนั้น วิธีการสัมผัส วิธีการพูดจา ก็ทำให้รู้ว่า "ผู้หญิง" คนที่อยู่ข้าง ๆ นั้นมีความหมายมากมายเพียงใด ยิ่งเข้ารู้จักเธอทุกซอกทุกมุมตั้งแต่ 10 ปี ก่อนมาจนถึงวันนี้ ความรักที่มาจากพื้นฐานที่แน่นหนา ไม่ได้หวานแสบเหมือนรถขนอ้อยมาคว่ำอยู่ตรงหน้า ไม่ได้จี๋จ๋าขาดกันไม่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกย่างก้าว ทุกอิริยาบถ หากให้นิยามคงเรียกได้ว่า "ความพอดี" ไม่มากไม่น้อย ไม่ห่างไม่หาย
แสดงออกเท่าที่ควรแสดงออก
ไม่หวั่นเกรงจนเกร็ง
แต่ก็ไม่ได้เยอะจนเฝือ
พอเป็นแบบนั้น ... ความไหวหวั่นในความสัมพันธ์ระหว่างกัน หรือ เรื่องมือที่สาม ก็ลบออกไปสารบบได้เลย มันไม่มีที่ตรงไหนให้แทรกตัวเข้าไปนะ คิดว่า ... อวี่ถังเชื่อใจเหวินข่าย 100% เต็ม เธอรู้เธอจะเชื่อเขาได้ ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็จะฟังจากปากเขาคนเดียว แต่ไหนแต่ไรมาแม้แต่เมื่อครั้งยังเด็ก สองคนนี้ก็มีความเชื่อใจกันและกันเสมอนะ จนวันที่งัดข้อกัน ซึ่งก็ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญว่าจะปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไปไม่ได้ ดังนั้นอวี่ถังพอมีอะไรที่น่าเคลือบแคลงสงสัยก็มักจะเคลียร์จะ ๆ ต่อหน้า
ส่วนด้านเหวินข่าย ... ไม่ต้องบอกก็รู้ เขารู้จักผู้หญิงของเขาดีแค่ไหน มองหน้าไม่ต้องพูดอะไรก็รู้ใจแล้ว ตอนไหนเศร้า ตอนไหนดีใจ สำหรับเขาแล้วเธอก็เหมือนแผ่นกระดาษที่เขามองแล้วมองเล่าศึกษาแล้วศึกษาเล่าจนทะลุปรุโปร่งนั่นแหละ คิดว่าเจ้าตัวคงเชื่อด้วยซ้ำว่าในโลกนี้คงไม่มีผู้ชายคนไหนจะรักอวี่ถังได้แม้แต่เพียง "ครึ่ง" ที่เขารักเธอหรอก สายตาที่เธอมองเขา สายตาที่เขามองเธอ ทุกสิ่งที่เขาทำให้เธอ ทุกสิ่งที่เธอบอกกับเขา ความไว้เนื้อเชื่อใจ 100% เต็มนั้น ความมั่นใจไม่มีทีท่าว่าจะสั่นคลอนได้เลย
ถึงแม้ว่าจื่ออวี้จะกลับมาแถมส่งสัญญาณความเป็นคู่แข่งมาอีก
แต่มันก็แน่นหนาจนกระทั่งยากที่ใครจะเข้าไปแทรกตัวเพราะประวัติศาสตร์ของคนทั้งคู่ที่มีมาอย่างยาวนาน
หากบททดสอบก็ยังมีอยู่อีกมากมาย โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่กำลังดำเนินเข้ามาและน่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทอย่างไม่อาจเลี่ยง คู่ค้า (และคู่แข่ง) อย่าง Shinway เปลี่ยน CEO ใหม่เป็น จื่ออวี้ คลื่นใต้น้ำของ MUSE เองก็ไม่ได้มาแล่น ๆ แม้หนอนทางทีม 1 จะโดนอัปเปหิไปเรียบร้อยแต่หนอนบ่อนไส้ตัวใหญ่ก็ยังคงอยู่ โดยเฉพาะที่ทางเหวินข่ายสืบรู้ว่ามีคนแบบมายุ่งที่ฝ่ายการเงินโดยไม่ได้รับเชิญอยู่บ่อย ๆ อันนี้คาดเดานะว่าอีกฝั่งก็เปลี่ยนผู้บริหารชนิดยกเซต .... หรือ หนอนจากทางนี้จะมีสิทธิย้ายไปสถิตย์ทางนั้น
จากตรงนี้เรื่องก็อาจจะกลาเป็นยุ่งได้เหมือนกัน โดยเฉพาะถ้าหนอนเกิดรู้เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง CEO กับ เซลล์ตัวเล็ก ๆ คนนึงในบริษัท ซึ่งท่าน CEO ก็ไปเปล่งพจี ณ สัจจะการ ประกาศหมั้น กับคุณแม่จงเข้าแล้วด้วยว่าจะไม่ปล่อยมือลูกสาวคุณแม่เป็นอันขาด ก็ต้องมาดูกันแหละว่า "ความรักแบบมีวุฒิภาวะ" จะพาทั้งคู่ก้าวข้ามผ่านปัญหาที่เสมือนคลื่นใต้น้ำไปได้อย่างไร
ป.ล. ว่าแต่ว่า ... ดูงานเลี้ยงปิดกล้องของเรื่องนี้แล้ว ... มันชวนคิดมาก ยิ่งกว่าแฟนเซอร์วิส หรือ เดี๋ยวนี้เขาเซอร์วิสกันเบอร์นี้แล้วเรอะ ? แต่ถ้าอีกซักพักจะมีการเปิดตัว "คบกัน" นี่จิไม่แปลกจัยยยยยยย หลุนมาเต็มปรี่มากกกกกกกกก intimacy สุดชีวิต เฉียวก็ดูไม่ว่าอะไร