後菜鳥的燦爛時代 Refresh Man (กึ่งรีวิวตอนที่ 14) : Still waters run deep.

Il n’est pire eau que l’eau qui dort
no water is worse than quiet water


สายน้ำแบบใดก็ไม่น่ากลัวเท่า "น้ำนิ่งไหลลึก" คนโผงผาง เกลียดคือเกลียด ชอบคือชอบ คิดอย่างไรก็แสดงออกอย่างนั้น อยากแกล้งคือแกล้ง คนพวกนี้ไม่น่ากลัวเพราะยังพอหาหนทางรับมือ แต่คนที่ต่อหน้าอีกอย่างลับหลังอีกอย่าง ดูเหมือนไม่มีอะไรที่จริงนั้นมี พวกนี้สิยากจะรับมือ เพราะไม่รู้เลยว่าเขาจะมาเมื่อไหร่มาอย่างไร ... ที่สำคัญกว่านั้น คนประเภท "น้ำนิ่งไหลลึก" คือศัตรูที่ไม่เผยตัว แล้วมันอาจจะยิ่งแย่ไปอีกขั้นว่านอกจากไม่เผยตัวแล้วยังกลับกลายว่าแสร้งเป็นมิตร เหมือนสายน้ำเบื้องหน้าที่ไหลเอื่อยเกือบนิ่งสนิท หากที่จริงแล้วพร้อมดูดกลืนทุกสิ่งหากเราหย่อนกายลงไปเบื้องล่าง เช่นนี้เราจึงไม่อาจรู้ว่าคนที่ยืนยิ้มใจเย็นอยู่ต่อหน้า คือ "มิตรแท้" หรือ ใคร "ที่แทงข้างหลัง"

และ "หวังจื่ออวี้" คือ คน ๆ นั้น


และแล้วปริศนาอีกหนึ่งข้อก็เปิดเผย .... เหวินข่ายเธอกลับมาทำไม ส่วนหนึ่งคือเรื่อง "เธอ" และ "คำสัญญา" แต่นายจะเชื่อไหมว่าฉันมีเหตุผลอื่นนอกจากนั้น "อือ ๆ อยากจะว่าอะไรก็ว่าไป หลอกคนอื่นหลอกตัวเองก็ว่ากันไป แต่แกหลอกฉันไม่ได้ จบนะ" เพื่อนสนิทเจ้าของผับเคยว่าไว้แบบนั้น ก็ใครจะไปนึกว่าเรื่องราวมันจะซีเรียสยิ่งกว่า .... เมื่อเหวินข่ายถูกจ้างมาเป็น "พิเศษ" เพื่อจับตามอง ป้องกัน และ แก้ไข อะไรบางอย่าง

แน่นอนสิ จู่ ๆ ซีอีโอหนุ่มรูปงามผู้ประสบความสำเร็จในดินแดนศิวิไลซ์อย่างอเมริกาจะกลับมาบ้านเกิดอย่างไต้หวันมันต้องมีสาเหตุ ถูกล่ะว่า "เธอ" อยู่ที่นี่ได้เวลาที่เขาจะมาสะสางความในใจ แต่อีกทางหนึ่ง "งาน" ที่จะลากเขามาได้มันต้อง "สำคัญ" และน่าจะต้อง "เปย์" หนักพอสมควร การดูแลอวี่ถังก็เป็นเรื่องหนึ่งและเป็นเรื่องที่สอดรับกันพอดีกับภารกิจที่อยู่ในอุ้งมือ การจับตาดูการเคลื่อนไหวของ Shinway และ แผน hostile takeover ของทางนั้น ที่ดูท่าทางจะซุ่มโป่งเงียบ ๆ มานานแล้ว

จื่ออวี้เข้ามาได้จังหวะกับที่ Mei Mei อยู่ในความดูแลของจงอวี่ถัง เขาอยู่ในฐานะหัวหน้าเลขาฯ แต่หมวกอีกใบก็อยู่ในฐานะทายาท ชั้นแรกมันอาจจะเป็นความบังเอิญที่จื่ออวี้ได้พบเจอกับอวี่ถังสาวน้อยที่เขาประทับใจไม่รู้ลืม น้อยคนนักที่จะพอใจที่จะบริการคนอื่นมากกว่าต้องให้คนอื่นมาบริการตนเองแล้วอวี่ถังก็เป็น one of a kind ด้วยความใหม่หมาดในงานขาย ด้วยทีท่าน่าไว้วางใจ อวี่ถังก็บอกอะไรกับเขาหลายเรื่อง ... แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นเรื่องลับหรืออะไร เพราะ Mei Mei ก็คือสินค้าตกยุค

หากเหตุการณ์สองเหตุการณ์มันมาปะทะกันพอดีนี่สิ การที่เหวินข่ายกลับมาและตั้งใจเทรนด์ "อวี่ถัง" อย่างเต็มเหนี่ยว ให้พัฒนา Mei Mei  ขึ้นมา อาจจะไม่ได้นึกว่ามันจะไปปลุกพลังอีกด้านในตัวคุณของจื่ออวี้อีกเปลาะหนึ่ง แล้วที่ตั้งใจพลิกฟื้นทีมสามขึ้นมาเพราะรู้ว่ามีตัวพ่อตัวแม่อยู่ ณ ที่นั้นมากมาย จะเป็นกำลังให้บริษัทได้ ทำไมต้องเคี่ยว ทำไมต้องไว ตรงนี้คิดว่าได้คำตอบแล้วล่ะ กับอวี่ถังนี่ไม่ยาก รู้ ๆ กันอยู่ ทั้งความรู้สึกลึก ๆ ที่มีมาตลอด 10 ปี ทั้งคำสัญญาที่มีไว้กับคุณแม่จง แต่กับทีม 3 นี่ที่ต้องเคี่ยว ต้องเร็ว ต้องไว เพราะรู้ว่าอันตรายมันรุกคืบมาทั้งนอกทั้งในน่ะสิ

ภายในบริษัทก็ประเภท "สนิมเกิดแต่เนื้อในตน" เกลือเป็นหนอนมันไม่ใช่แค่เรื่องปัดแข้งปัดขาอิจฉาริษยาธรรมดี้ธรรมดา แต่ Mei Mei บวกกับ egg shell กลายเป็นภัยคุกคามที่ไม่ใช่แค่ยอดขาย แต่ขัดกับหลัก hostile takeover ด้วย ปกติเขาต้อง "ทุบ" แล้ว "ช้อน" ถ้าคิดได้อย่างนี้ก็ไม่น่าแปลกใจที่ Mei Mei โฉมใหม่จะมีปัญหาอยู่เรื่อย ซึ่งเหวินข่ายก็คิดไม่ผิดหรอก ปัญหาต่าง ๆ นานา มันก็มาจากคนใน Shinway ชักใยทั้งนั้น แต่คน ๆ นั้นจะเป็นใคร เขาไม่แน่ใจ คราวแรก

แต่พอนึกถึงคำถามประธานบริษัทรัสเซียที่เขาเจรจาด้วยในทีแรก การที่หัวหน้าเลขาฯของ YOURS หลุดเข้าไปในการเจรจาการซื้อขาย Mei Mei ได้  การที่โรงงานสไตรค์มีปัญหา การที่ลิสต์ลูกค้าถูกขโมย รวมถึงการที่ของปลอมออกระบาดในตลาด การที่ใครจะเข้าไปดูรายงานบัญชีบ่อยเกินกว่าเหตุแต่ก็แนบเนียน ทุกสิ่งทุกอย่างมันดูพิลึกสำหรับเหวินข่าย และ ในสถานการณ์เหล่านั้นก็ใช้ความรู้ความสามารถ คอนเนคชั่น และ ตัวกลางอย่างอวี่ถังเหยียบคันเร่งแซงปัญหาไปได้เฉียดฉิว

แต่ก็ไม่ถึงกับคิดว่าจะเอาเถิดเจ้าล่อกับคน ๆ นั้นทั้งด้านการงานและความรักอย่างไม่มีใครยอมใคร


ชั้นแรกเขาแค่เพียงสงสัย แต่พอได้ยินคำประกาศโต้ง ๆ ในห้องประชุมพร้อมเสียงปรบมือจากทีมหนึ่งมีหรือคนฉลาดอย่างเหวินข่ายจะอ่านบรรยากาศไม่ออก ประกอบกับข่าวการรีไทร์ของผู้บริหารเบอร์ใหญ่ของ Shinway ที่ไปแบบยกกระบิ ถึงจะไม่ใช่ข่าวใหญ่โต แต่สำหรับคนมีเหลี่ยมมีคูทางธุรกิจ ก็รู้แล้วว่า "มีความหมาย" จะมีแต่มือใหม่อย่างอวี่ถังที่ "ไม่รู้อะไรบ้างเลย" แต่ก็ว่าไม่ได้เหวินข่ายตั้งใจที่หัดอวี่ถัง แต่คงไม่นึกมาก่อนว่าสิ่งนั้นจะทำให้เธออยู่กลางวังวนแห่งปัญหา หมากตานี้ต้องเดินอย่างระวัง ... เขาเองถ้าจะโดนอะไรบ้างนั้นไม่เป็นไร แต่ถ้าเธอจะต้องเป็นอะไรไปเขาคงทนไม่ได้

ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาจึงยอมให้อวี่ถัง "รู้" เฉพาะสิ่งที่ควร "รู้" ทำเฉพาะสิ่งที่ควร "ทำ" ดวงตาเขามีไว้มองเธอเท่านั้น ความรักของเขามีให้เธอเท่านั้น และ ความสุขสบายความอยู่รอดปลอดภัยของเธอคือภาระของเขา อวี่ถังจะต้องลอยตัวอยู่เหนือปัญหาทั้งปวง คงเป็นเพราะเหตุนี้เมื่อเป็นเรื่อง "งาน" ความลับของเหวินข่ายจึงมากมายเสียเหลือเกิน จะมีแต่มือขวาอย่างอ้ายซาที่ใกล้ชิด แต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาเพราะ "อ้ายซา"ก็รู้ว่าที่ของตัวเองอยู่แค่ไหน และ เธอเป็น professional พอที่จะเป็น righthand woman ของเจ้านาย ในวาระสำคัญเยี่ยงนี้กับฐานะ "นางนกต่อ"

ถึงแม้จะมีอุปกรณ์พร้อมรบล้ำหน้าศัตรูอยู่ครึ่งก้าว แต่ก็ไม่รู้ว่ามันพอรึเปล่า ? ที่จะกำชัยได้เด็ดขาด
ฝ่ายนั้นเอามาดสุขุมนุ่มนวลบังหน้าและทำอะไรที่ไม่คาดคิดมาได้ตลอด


ที่มากกว่านั้นจื่ออวี้รู้แล้วถึงความสัมพันธ์ระหว่างเหวินข่ายและอวี่ถัง เหวินข่ายเป็นคนวางไพ่ใบสุดท้ายนี้เอาไว้ โดยมีเดิมพัน 2 ประการ จื่ออวี้อาจจะไม่กล้าทำอะไรกระทบอวี่ถังก็ได้ในจุดนี้ เปิดตัวความสัมพันธ์ก็เหมือนพาอวี่ถังเข้าสปอร์ตไลท์ ถ้าจุดอ่อนของเขาและจื่ออวี้เหมือนกัน คือ อวี่ถัง ก็คงไม่กล้าทำเพราะใจไม่ด้านพอที่จะเอาไม้นี้มาถล่ม MUSE  และ หมากซ้อนกลอีกชั้นหนึ่งคือมองว่าถ้าบอกออกไปจริง อวี่ถังก็คงมองจื่ออวี้ในอีกแง่หนึ่งที่ไม่น่าจะโสภานัก การเปิดหน้าไพ่ครั้งนี้ค่อนไปทางได้มากกว่าเสีย คือ มันต้องมีเสียมั่งและนิดหน่อยแต่ก็คุ้มกับที่ได้

งานนี้หากจะให้ดู ... คงต้องบอกว่า "น้ำนิ่งไหลลึก" ทั้งคู่
ซึ่งก็คงต้องดูว่าใคร "ไหลลึก" กว่ากัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่