ปลูกรักในรั้วใจ โดย อิสวารายา (ตอนที่ 31,32)

ตอนที่ 31 ไม่เป็นอย่างที่หวัง


    เทียมภพสังเกตว่าตั้งแต่กลับมาจากระยองแทนดาวก็ดูซึมๆไป คาดว่าน้องสาวคงยังเสียใจและเสียดายเรื่องแหวนวงนั้น เห็นหลายวันมานี้คนเกิดทีหลังเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้อง ถามเข้าก็บอกว่าอ่านหนังสือเตรียมสอบ ข้าวปลาไม่ค่อยอยากจะแตะ เล่นเอาใจหายใจคว่ำไปเหมือนกันกลัวว่าจะช้ำใจจนล้มหมอนนอนเสื่อ แต่ถึงอย่างไรก็เชื่อว่าสิ่งที่ทำลงไปมันถูกต้องที่สุดแล้วในการปกป้องน้องสาวคนเดียวไม่ให้ต้องมีอันลงเอยกับผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นศัตรูคู่แค้น
    แม้ในบางครั้ง...เทียมภพเองก็เกิดความรู้สึก ‘ละอาย’ อยู่ลึกๆกับการกระทำที่ดูจะเห็นแก่ตัวที่คอยตั้งท่ากีดกันคู่อริทุกทางๆไม่ให้เข้าใกล้น้องสาว พังงานหมั้นล้มครืนไม่เป็นท่าเพราะความโกรธเกลียดเข้ากระดูก แต่ตนเองกลับใช้กำลังข่มเหงฝากรอยมลทินให้กับรมย์นลิน ถ้าเปรียบเทียบกันแล้วก็ไม่รู้ว่าใครจะเลวร้ายไปกว่ากัน
    “เป็นอะไรน่ะน้องพลู? ถอนใจอยู่นั่นแหละ เครียดเรื่องเรียนเหรอจ๊ะ?”
    “ไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะ...แค่เบื่อๆ” แทนดาวตอบหงอยๆแล้วเดินไปนั่งบนเท้าแขนเก้าอี้พนักสูงที่พี่ชายนั่งทำงานอยู่ สองแขนเรียวสอดกอดเอวหนาเอาไว้หลวมๆแล้วซบหน้ากับอกอุ่นอย่างต้องการระบายความอัดอั้นในใจบางอย่าง
    “พี่หมากจ๋า...”    
    “หืม...วันนี้อ้อนจังเลยนะ ถ้าหนูเบื่อจะกลับก่อนไหม? หรือว่าอยากไปบ้านม๊าหลี...เดี๋ยวให้น้าตาลไปส่ง” เทียมภพกอดน้องสาวกระชับแล้วจรดจมูกกับกระหม่อมที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสลวยดุจไหม ระยะนี้เขาอยากให้น้องอยู่ใกล้ๆตัวมากที่สุดเลยให้มารอที่ทวีกิจทุกวันหลังเลิกเรียน ไม่อยากให้กลับไปอยู่บ้านคนเดียวเพราะกลัวว่าจะคิดมาก
    “พี่หมากขา...วันนี้พาน้องพลูไปดูหนังหน่อยได้ไหมคะ?”
    “ได้สิคะ...อยากดูเรื่องอะไรล่ะ?” แทนดาวยื่นโทรศัพท์มือถือเปิดตัวอย่างภาพยนตร์ที่ว่าให้ดู เทียมภพพยักหน้าเมื่อพิจารณาแล้วว่าอยู่ในเกณฑ์ ‘ผ่าน’ ของเขา
    “แล้วพี่หมากจะเสร็จงานกี่โมงคะ?”
    “ก็อย่างที่เห็นอยู่...งานพี่เยอะ” เทียมภพกรอกตามองกองเอกสารตั้งเบ้อเริ่มแล้วเริ่มปรารภเป็นงานเป็นการ
    “นี่แน่ะ...ถ้าหนูเรียนจบแล้วมาช่วยพี่บ้างก็คงจะเบาไปโข พี่น่ะ...อยากให้น้องพลูมานั่งตรงนี้” มือหนาตบลงบนโต๊ะทำงานเบาๆ
    “พี่หมากก็รีบๆแต่งงานหาคนมาช่วยสิคะ น้องพลูไม่ถนัดงานพวกนี้จริงๆ” แทนดาวเบ้ปากให้กองเอกสารที่วางสุมอยู่อยู่เบื้องหน้า แค่ดูอย่างเดียวก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว นี่ถ้าให้อ่านทุกบรรทัดแถมยังต้องพิจารณาก่อนเซ็นชื่อด้วย...หัวสมองตันๆอย่างตนคงไปไม่ไหวแน่
    “ถ้าพี่แต่งงานจริงๆ น้องพลูจะยอมเหรอที่ต้องแบ่งพี่ให้พี่สะใภ้น่ะ?” พอน้องพูดถึงเรื่องแต่งงานก็ทำให้นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างตนเองกับรมย์นลิน ถ้าหากแทนดาวรู้ว่าจะมีพี่สะใภ้เป็นคุณครูคนนี้จะว่าอย่างไร
    “ไม่เอานะ...ไม่เอาอ่ะ” น้องสาวคิดนึกไปถึงชุสิตาแฟนคนปัจจุบันของพี่ชายที่ดูจะหายหน้าไประยะหนึ่งแล้ว ความไม่ชอบใจบังเกิดขึ้นจนต้องรีบร้องประท้วง
    “ทำไมล่ะ? พี่ว่าเขาก็เป็นคนดีนี่นา”
    “อี๋...ไม่เอานะ พี่หมากห้ามแต่งงานตอนนี้ ไม่งั้นน้องพลูไม่ยอมด้วย พี่หมากต้องรักน้องพลูคนเดียว...ห้ามรักใครมากกว่าด้วย” คนตัวเล็กกระเง้ากระงอดซบไหล่หนา เทียมภพอยากจะจับพาดตักแล้วฟาดก้นให้หลายๆทีในความขี้อิจฉาและขี้หวงกลัวว่าจะถูกแย่งความรัก
    “จ้าๆ...ไม่รักใครมากกว่าว่าเราหรอกน่า แล้วถ้าอยากดูหนังเร็วๆก็อย่ามากวนพี่ ไปนั่งเล่นตรงโน้นไป หรืออยาก จะไปกินขนมที่ร้านข้างล่างก็ตามใจ เดี๋ยวพี่ให้ตังค์...จะไปหรือเปล่าคะ?”
    “ยังงี้ก็ไปน่ะสิ” เทียมภพหยิกแก้มน้องสาวแรงๆหนึ่งทีก่อนจะดึงธนบัตรที่กะว่าพอดีกับค่าขนมให้
    “ไม่พอ...เอาสีม่วงมาด้วยอีกใบ”
    “มากไปแล้วนังหนู เรากินจุขนาดนั้นเลยเหรอ?” เทียมภพมองหน้าน้องสาวก่อนจะเขกมะเหงกให้เบาๆ
    “ก็เผื่อน้องพลูอยากจะซื้อกลับบ้านล่ะ” คนตัวเล็กยังแบมือค้างอยู่อย่างนั้น คนจ่ายเงินส่ายหน้าไปมาแต่ก็ยอมหยิบให้โดยดี
    “พี่หมากน่ารักที่สุดเลย เดี๋ยวจะซื้อมาเผื่อนะคะ” หญิงสาวเอียงหน้าหอมแก้มพี่ชายฟอดใหญ่
    “ยัยงกเอ๊ย...” เทียมภพบ่นเบาๆแต่ก็โล่งอกที่เห็นน้องกลับมาร่าเริงอีกครั้ง แสดงว่าหายว้าวุ่นจากเรื่องราวยุ่งๆทั้งหลายแล้ว
    “ว่าแต่...น้องพลูมีเรื่องอยากถามค่ะ” แทนดาวเงยหน้ามองพี่ชายด้วยสายตาเปี่ยมข้อขังกา ความข้องใจเรื่องที่ว่าเกิดอะไรเกิดขึ้นกับรักสามเศร้าระหว่างพี่ชายกับเพื่อนทั้งสอง ตะกอนอยากรู้รายละเอียดในสิ่งที่ได้ยินเมื่อไม่กี่วันก่อนยังคอยรบเร้าเหมือนกับว่าทำโจทย์การบ้านที่เป็นปริศนายากเย็นแล้วยังไม่ได้คำเฉลยที่ถูกต้องเสียที
    “ว่าไงจ๊ะ?”
    “พี่หมากกับ...”
    “แป๊บนึงนะ” ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อเสียงโทรศัพท์ก็ดังขัดจังหวะเสียก่อนเลยต้องปล่อยพี่ชายไปรับสาย
    “พี่ต้องไปประชุมข้างล่างสักพัก...เดี๋ยวมา” เทียมภพกดจมูกกับแก้มใสเบาๆแล้วเดินออกไป แทนดาวมองตามอย่างชั่งใจว่าควรจะปล่อย ‘อดีต’ ของคนทั้งสามให้ผ่านเลยไปหรืออยากจะขุดคุ้ยต่อจนกว่าจะกระจ่างแจ้งแก่ใจ แต่ความคิดทั้งหมดก็ต้องหยุดลงชั่วคราวเมื่อมีสายเข้าจากเบอร์ที่คุ้นเคย
    “วันนี้ว่างไหมครับ? แม่ชวนไปกินข้าวที่บ้าน” เสียงทุ้มนุ่มหูที่ไม่ได้ยินมาหลายวันทำให้คนฟังหัวใจพองฟู
    “คงไม่ได้หรอกค่ะ นัดกับพี่หมากว่าจะไปดูหนังกัน”
    “โอเค...เข้าใจล่ะ”
    แทนดาวมองโทรศัพท์อีกครั้งราวกับจะรอให้มีสายเข้าจากเบอร์เดิมอีก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตัวเองจะเอาอย่างไรกันแน่ หลังจากเกิดเรื่องคืนนั้นก็เป็นคนบอกเขาเองไม่ใช่หรือว่าขอเว้นระยะห่าง แต่พอเขา ‘ห่าง’ ไปยังไม่ครบเจ็ดวันกลับอดคิดถึงไม่ได้ ทำไมปากกับใจถึงไม่สามัคคีกันเลย
     หญิงสาวนั่งปล่อยความคิดไปเรื่อยๆรอจนพี่ชายกลับเข้ามาอีกครั้ง สีหน้าเรียบเฉยผิดปรกติทำให้แทนดาวตัดสินใจไม่ซักถามเรื่องที่อยากรู้ต่อเพราะเข้าใจว่าพี่ชายคงไปประชุมเรื่องเครียดๆ ดังนั้นก็ไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวมาเพิ่มความกังวลอีก
    “พอดีว่า...คุณอาวารีท่านมาที่นี่ก็เลยชวนพวกเราไปกินข้าวที่บ้าน แต่ว่าวันนี้พี่กับสีผึ้งติดงานนะน้องพลู ลืมไปว่าเย็นนี้ต้องไปงานแต่งลูกสาวคุณนาฏผู้จัดการฝ่ายบุคคล...คงกลับดึกหน่อย น้องพลูอยากไปหรือเปล่าคะ?”
    “คุณอามาหรือคะ?”
    “อืม...ก็มากะลูกน่ะแหละ” เทียมภพอ้อมแอ้มตอบน้องสาวด้วยไม่อยากจะเอ่ยชื่อนั้นให้ระคายปาก
    “แล้วตอนนี้คุณอาอยู่ที่ไหนเหรอคะ?”
    “อยู่ที่โชว์รูมน่ะ พี่ไปไหว้ท่านมาแล้วก่อนขึ้นมานี่ ไปเถอะ...ไปสวัสดีคุณอาเสียก่อน” เทียมภพจูงมือน้องสาวลงไปข้างล่างด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะไม่กินเส้นกับบุตรชายคนโตของคุณวารีนักแต่ชายหนุ่มก็มีวุฒิภาวะพอที่จะแยกแยะและให้ความสำคัญเรื่องมารยาทที่พึงปฏิบัติต่อญาติผู้ใหญ่ ดังนั้นพอได้รับรายงานจากเลขานุการว่าคุณวารีมาเยี่ยมถึงทวีกิจก็รีบลงไปต้อนรับขับสู้ขมีขมัน
    ปลายเดือนนั่งคุยกับคุณวารีอยู่ก่อนแล้ว พอเห็นว่าพี่ชายพาน้องสาวคนเล็กมาก็แอบชักสีหน้าอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่แต่ยังยิ้มแย้มตีสีหน้าปรกติ
    “สวัสดีค่ะอาวารี” แทนดาวย่อตัวไหว้อย่างอ่อนช้อยสวยงามจนคนรับไหว้รู้สึกประทับใจในกิริยาอันสะท้อนถึงความเป็น ‘ลูกผู้ดี’ ของสามพี่น้อง
    “สวัสดีค่ะ วันนี้ชลไปรับอามาจากบ้านคุณย่า  ขากลับบอกว่ามีประชุมที่นี่เลยแวะเข้ามาก่อน ไม่อยากให้เสียเวลาย้อนไปย้อนมา ก็พอดีเห็นว่าอยู่กันครบ...อาเลยอยากชวนไปกินข้าวเย็นด้วย” สตรีวัยกลางคนหน้าตาผ่องใสใจดียิ้มเยื้อนขณะลูบศีรษะเล็กได้รูปของ ‘ว่าที่ลูกสะใภ้’ อย่างเอ็นดู  ในขณะที่คนตัวเล็กนึกขวางไปถึงคนที่เพิ่งจะคุยโทรศัพท์กันไม่นาน เกลียดนักกับท่ามากฟอร์มจัดที่จะบอกอะไรกันตรงๆเสียทีเดียวก็ไม่ได้ ต้องสร้างเรื่องให้ประหลาดใจเล่นอยู่ร่ำไป
    “อย่างที่เรียนคุณอาไปเมื่อสักครู่นี้ วันนี้ไม่สะดวกจริงๆ...ผมกับปลายเดือนต้องไปงานแต่งลูกสาวผู้จัดการอาวุโส” เทียมภพบอกอย่างเกรงใจ
    “แล้วน้องพลูล่ะคะ…ไปไหม?”
    “หนูเกรงว่าคุณลุงจะตำหนิแทนดาวเอาได้ ตามปรกติแล้วน้องจะต้องได้รับอนุญาตล่วงหน้าถ้าหากจะออกไปไหน” ปลายเดือนรีบดักไว้ก่อน ไม่ต้องการให้น้องสาวทำคะแนนความใกล้ชิดกับครอบครัวนี้
    “ไม่เป็นไรหรอก...พี่จะบอกท่านเอง ว่าไงคะ...หนูอยากไปไหม?” เทียมภพถามน้องสาวอีกครั้ง ปลายเดือนมองค้อนพี่ชายด้วยความขัดเคืองว่าทำไมคราวนี้ถึงไม่ห้าม
    “ถ้าพี่...เอ้ย...คุณเทียมภพอนุญาตน้องพลูก็ไปค่ะ”  คำตอบของคนตัวเล็กทำให้คุณวารียิ้มใหญ่ส่วนปลายเดือนหน้าหงิกสนิท
    “ตกลงกันได้หรือยังครับ?” เสียงคุ้นหูดังแทรกบทสนทนาจนทั้งหมดมองตามเว้นเสียแต่เทียมภพที่เสมองไปทางอื่น แทนดาวเมินหน้าไปเสียจากนัยน์ตาคมกริบที่จ้องกลับมา
    “สวัสดีค่ะพี่...เอ่อ...คุณชล” แทนดาวรีบยกมือไหว้เมื่อร่างหนามาหยุดยืนใกล้ๆและยั้งปากที่กำลังจะเรียกชื่ออย่างสนิทสนมเมื่อนึกขึ้นได้ว่าห้ามเรียกสรรพนามชื่อเล่นถ้าอยู่ในบริษัท
    “เสียดายจังที่ผึ้งไปไม่ได้ ยังไงก็ส่งแทนดาวไปเป็นตัวแทนก็แล้วกันนะคะ คุณอายังอยู่อีกหลายวัน...เราค่อยไปกันวันอื่นนะคะ” ปลายเดือนหันมาถามความเห็นพี่ชายแล้วปรายตาไปทางน้องสาวอย่างไม่หวังดีเปิดเผยแต่ก็ไม่มีใครจับอาการได้
    “แล้วพี่จะไปรับนะ” เทียมภพบอกน้องสาวเบาๆ อาการปั้นปึ่งบึ้งตึงของสองหนุ่มเป็นที่ลำบากใจของสตรีทั้งสามคนที่รับรู้เรื่องบาดหมาง แต่ก็ยังดีที่ทั้งคู่แยกแยะว่าเรื่องใดเป็นเรื่องส่วนตัวและเรื่องใดเป็นการเป็นงานจึงไม่มีปัญหาเวลาต้องร่วมงานกัน
    “งั้นก็ไปกันเถอะ...ว่าจะแวะซื้อของที่ซุปเปอร์สักสองสามอย่าง อ้อ...แฟงบ่นอยากกินมะม่วงน้ำปลาหวาน คงต้องแวะตลาดสดด้วย” คุณวารีบอกลูกชาย เทียมภพสะดุ้งกับสิ่งที่ได้ยินว่ามันคลับคล้ายคลับคลาอยู่ในความจำเพราะมักรำคาญใจเวลาที่มารดากับน้องสาวแย่งดูละครน้ำเน่าตอนกำลังดูรายการกอล์ฟเพลินๆ ก็เลยซึมซับพลอตเรื่องละครต่างๆได้โดยปริยาย อย่างเวลานางเอกแพ้ท้องจะมีอาการอาเจียนโอ้กอ้ากกับอยากกินของเปรี้ยวของดอง พอนึกมโนได้ดังนั้นก็แอบยิ้มมุมปากเล็กๆอยู่คนเดียวขณะนึกถึงรมย์นลิน
    “เรานี่...น้ำยาแรงใช้ได้เหมือนกัน!”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่