[CR] คนปีนตาล ตาลมะพร้าว อัมพวา

กระทู้รีวิว
ใช้ชีวิตแบบที่ชอบ กับธรรมชาติแบบที้ใช่ ผู้คนไม่วุ่นวาย ห่างไกลความเห็นแก่ตัว มีเวลาอยู่กับตัวเองเต็มที่ สัมผัสชีวิตแบบบ้านๆ สุขทั้งกายเย็นทั้งใจ ใคร่อยากอยู่นานๆจัง

วันนี้มาเดินเล่นสวนมะพร้าวที่อัมพวาเจอลุงกำลังปีนตาลพอดีเลยได้เม้ากันกับลุง อันนี้เรียกกระบอกตาลลุงบอกกระบอกนี้หลายสิบปีแล้วนะ เป็นกระบอกปิเนียมแกซื้อมาจากมหาชัยตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ เดี๋ยวนี้หาซื้อยากแล้ว คุยไปลุงก็ขึ้นต้นมะพร้าวไป

อันนี้ถ่ายแยกให้ดูแก่นพยอมที่ลุงแกเอาไว้รองก้นกระบอกตาลเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาลเสีย คนส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้มักง่ายเขาจะใช้สารกันเสียแทน ลุงบอกสวนลุงไม่ใช้สารกันเสียหรอกสงสารคนกิน เสียชื่อคนแม่กลองหมด เราฟังแล้วก็ยิ้มสิชอบความคิดความใส่ใจในอาชีพของแกจริงๆ

คุยไปปีนไปจากหนึ่งกระบอกก็กลายเป็นสองกระบอก ลุงบอกถ้าเป็นเมื่อก่อนลุงปีนวันๆนึงทีละสี่สิบต้นเลย แต่ตอนนี้แก่แล้วข้อเข่าแกไม่ดีได้ยี่สิบต้นก็ดีแล้ว

อันนี้น้ำตาลสดแบบว่าสดจากต้นจริงๆ1,000% ที่ลุงแกปีนขึ้นไปเก็บจากต้นแล้วเอากระบอกใหม่ไปรองน้ำตาลต่อ กระบอกนี้น้ำตาลใสหน่อย ลุงบอกชิมได้ท้องไม่เสียหรอก แต่ให้เป่าแก่นพยอมออกก่อนไม่งั้นมันจะขม รออะไรหล่ะเรารีบทำตามที่ลุงแกบอกเลย ลุงบอกให้ชิม แต่เราดันกินเกือบหมดกระบอกเลย ทำไงได้ก็มันอร่อยดีนี่นา 55

ถ้าอันไหนขุ่นหน่อยจะเป็นเหมือนกระบอกนี้ค่ะ

ลุงปีนไปก็คุยกับเราไป แก่บอกการปีนตาลเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ไม่มีสอนในโรงเรียนหรอก คนรุ่นเก่าก็หมดแรงปีน คนรุ่นใหม่ก็ไม่อยากทำบอกมันเหนื่อยได้เงินน้อย

อยู่ในสวนกันสองคนจากคนแปลกหน้าคุยกันถูกคอเหมือนเป็นเพื่อนวัยเดียวกันเลย

ลุงบอกเนี่ยเวลาเราปีนต้นที่มันสูงๆในช่วงหน้าฝนลมมันจะแรงยิ่งช่วงที่มีพายุ ถ้าอยู่บนยอดตาลแกบอกห้ามกลัวนะ ให้กอดต้นไว้แน่นๆแล้วรอจังหวะที่ลมอ่อนแรงแล้วให้รีบลง แต่ถ้าเรากลัวมื่อไหร่มือไม่มันจะสั่นแล้วทำอะไรไม่ถูกมันจะทำให้เราตกได้ แกบอกอาชีพนี้อยู่ที่ใจล้วนๆ

อันนี้ลุงกำลังปาดงวงตาล แกบอกให้เราหลบออกไปห่างๆหน่อยเดี๋ยวมันกระเดนใส่ ยางมันเหนี๋ยวติดเสื้อจะซักออกยาก

ปาดงวงตาลเสร็จลุงก็เอากระบอกปอเนียมที่เตรียมไว้รองน้ำตาลต่อ ช่วงนี้ลุงเก็บน้ำตาลสองเวลาคือเช้ากับเย็น รอบเย็นแกจะเอาไปต้มให้เดือด อุ่นทิ้งไว้รอเคี้ยวให้เป็นน้ำตาลพร้อมกันกับตาลที่เก็บรอบเช้า

เราถามว่าลุงรู้ได้ไงว่างวงตาลอันนี้มีน้ำพร้อมปาด ลุงบอกอันนี้ต้องอาศัยความชำนาญ คนเก่าคนแก่บอกกันมารุ่นต่อรุ่น ถ้างวงมีสามกีบเต่งๆบวมๆแกบอกอันนี้จะได้น้ำตาลเยอะเกือบเต็มกระบอกเลย

ช่วงที่ตาลออกเยอะสุดจะเป็นช่วงนี้หล่ะ หนาวมาก ร้อนมาก ก็ได้น้ำตาลน้อย ถ้าเป็นหน้าฝนลุงแกก็จะหาอะไรปิดปากกระบอกกันน้ำฝนลงไปปนกับน้ำตาล

พอปีนเก็บกระบอกตาลครบหมดแล้วลุงแกบอกไปเที่ยวบ้านลุงไหม ไปดูเตาตาลกัน บ้านลุงอยู่ไม่ไกลหรอกพร้อมชีนิ้วให้ดูว่าอยู่ช่วงไหน

บ้านลุงอยูในสวนต้องเดินผ่านร่องสวนแบบนี้หล่ะ แกถามเดินข้ามได้ป่าว ค่อยๆข้ามนะ เราสังเกตเห็นสวนลุงนอกจากมะพร้าวแล้วจะมีขนุน ลิ้นจี่ ชมพู่ ปลูกแซมกันไป แกบอกต้องปลูกแบบนี้หล่ะ อะไรออกก็ขายอันนั้น ชีวิตชาวสวนไม่มีอะไรมากก็เอาของในสวนนี่หล่ะไปขาย ไม่รวยแต่ไม่อดตายแน่นอน ถ้าขายสวนให้นายทุนเมื่อไหร่อันนี้แกบอกมีกินชั่วคราวเงินหมดก็อดตายแล้วเพราะทำอย่างอื่นไม่เป็น จะไปเป็นลูกจ้างเขาก็แก่แล้ว ทำก็ไม่เป็นเขาไม่รับหรอกมันแก่

เดินมาได้สักห้านาทีก็ถึงบ้านแกแล้ว แกชี้นิ้วบอกอันนี้เป็นที่ต้มน้ำตาลแต่ตอนนี้เย็นแล้วถ้าอยากดูลุงเคี๋ยวตาลต้องมาพรุ่งนี้
เช้า

อันนี้เป็นกระทะที่ลุงใช้เคี้ยวตาล มีไม้รองแล้วใช้ปิเนียมวงกลมครอบไว้ แต่น้ำที่เห็นนี่ไม่ใช่น้ำตาลนะลุงบอกมันเป็นน้ำเปล่าใส่รอให้เย็นจะได้ล้างง่ายๆ

อันนี้เป็นเตาต้มตาล ลุงบอกเตานี้ปั้นเองกับมือเลย พูดไปยิ้มไปพร้อมชี้นิ้วบอกให้เราถ่ายรูป บอกถ่ายสิถ่ายได้เลย อยู่กันสองคนคุยกันลั่นสวนเลย 55

สักพักเมียลุงก็มามีหอบไม้มาทำฟืนพอวางมัดฟืนเสร็จ แกก็ชี้นิ้วไปที่ไม้ไผ่ที่สานเป็นวงกลม แกบอกว่าอันนี้เอาไว้ครอบกระทะเวลาต้มตาลถ้ามันเดือดมากๆมันจะเป็นฟองล้นออกมาต้องเอาอันนี้ครอบไว้ เมียแกคุยสนุกพอๆกับลุงเลย หรือว่าเราโม้เก่งนะคุยกับชาวบ้านไปเรื่อย 555

เมียแกบอกเดียวนี้แก่แล้วตีน้ำตาลให้มันขึ้นปึกไม่ไหวต้องใช้เครื่องทุ่นแรงช่วย แล้วประหยัดเวลาได้เยอะเลย ถ้าใช้แรงคนแก่บอกตีกันจนกล้ามขึ้นไปข้างเลย พูดไปหัวเราะไป หันมาอีกทีลุงเอาน้ำเย็นๆมาให้กินบอกคุยมากเดี๋ยวคอแห้ง

เมียลุงบอกว่ากระบอกที่เก็บมาวันนี้เดี๋ยวแกต้องเอาไปล้าง แล้วก็ต้มฆ่าเซื้ออีกทีเวลาเอาไปรองน้ำตาลจะช่วยไม่ให้น้ำตาลมันเสียได้อีกแรง

ก่อนกลับลุงกับเมียแกบอกว่า เวลาซื้อน้ำตาลมะพร้าวถ้าเป็นน้ำตาลแท้ๆ 100 % สีน้ำตาลมันจะไม่สวยหรอกมันจะออกคล้ำๆ ทิ้งไว้นานมันจะอ่อนคลายตัวคล้ายพวกคาราเมล เวลาเอาไปทำขนมหวานหรือทำกับข้าวกลิ่นมันจะหอมน้ำตาล มันจะอร่อยต่างจากน้ำตาลที่เขาเอาน้ำตาลทรายผสม อันนั้นสีมันจะสวยเหมือนสีเทียน ก้อนมันก็จะแข็ง ทิ้งไว้ก็ไม่ละลาย กลิ่นหอมก็น้อย ทำกับข้าวไม่อร่อยหรอก แต่คนกรุงเทพส่วนมาจะไม่รู้พอเห็นสีสวยก็จะซื้อ วันนี้แกชวนเรากินข้าวบ้านแกด้วยแต่เราเกรงใจแกบอกเอาไว้คราวหน้าจะมาเยี่ยมใหม่ แกบอกมาจริงนะถ้ามารอบหน้าจะเก็บน้ำตาลไว้ให้แกบอกเทศกาลแม่ค้ามาเหมาหมดเลย คุยกันเสร็จเรายกมือไหว้ขอบคุณลุงกับเมีย แกยังถามอีกว่าไม่กินข้าวด้วยกันจริงเหรอ เราบอกคราวหน้านะรับรองแย่งลุงกับเมียกินแน่นอน 555 ชอบชีวิตแบบนี้จริงๆเลย สุขใจจัง
ชื่อสินค้า:   เที่ยวอัมพวา
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่