“ยิ่งลักษณ์” ยัน “ทักษิณ” ไม่จ้างล็อบบี้ยิสต์ ลำพังวันนี้ก็ลำบาก-คิดถึงบ้านอยู่แล้ว ปัดไม่รู้ช่วงประชามติจะเคลื่อนไหวหรือไม่ พร้อมขอคสช.อย่ามองความคิดเห็นแตกต่างเป็นความแตกแยก
เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 22 เมษายน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมทีมทนายเดินทางมายังศาลฎีกาฯ เพื่อเข้าฟังการสืบพยานฝ่ายโจทก์ในคดีโครงการรับจำนำข้าวครั้งที่ 7 ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยมีบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) อดีตส.ส. อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ อดีตส.ส.กทม. น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิชย์ อดีตส.ส.ลาดกระบัง ทั้งนี้ทันทีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาถึงมวลชนต่างตะโกนให้กำลังใจ “นายกฯสู้ๆ” “รักยิ่งลักษณ์” “นายกฯของประชาชน” พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.น.2 จำนวน 1 กองร้อย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าขึ้นศาลฯ ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ระบุว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งหมด รวมถึงการจ้างล็อบบี้ยิสต์เกิดจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ชักใยอยู่เบื้องหลังว่า นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และแกนนำพรรคพท. ได้ชี้แจงและปฏิเสธข่าวแล้วว่าไม่เคยมีการจ้างล็อบบี้ยิสต์จากนายทักษิณ ตนเชื่อว่านานาประเทศจะพิจารณาจากข้อเท็จจริง และคงไม่ปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งนำข้อความมาเล่าหรือล็อบบี้กันได้ และเชื่อว่าวันนี้ลำพังนายทักษิณก็ลำบาก และท่านอยู่ต่างประเทศไม่น่าจะมาทำอะไรอย่างนี้ และท่านก็ยังคิดถึงบ้านอยู่
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่านายทักษิณ ไม่สามารถจ้างล็อบบี้ยิสต์หรือจ้างให้เกิดการเคลื่อนไหวใดๆ ได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “ค่ะ เพราะมีการปฏิเสธจากนายนพดลแล้ว และดิฉันเชื่อว่านานาประเทศจะพิจารณาจากข้อเท็จจริงและฟังข้อมูลครบทุกด้าน ไม่ปล่อยให้ใครมาล็อบบี้ เพราะนานาประเทศต้องมีกลไกในการพิจารณา วิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ อย่างละเอียดรอบคอบ”
เมื่อถามว่า หลังจากนี้นายทักษิณจะมีการเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ในช่วงการทำประชามติ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “ดิฉันไม่ทราบหรอกนะคะ แต่ดิฉันขอพูดถึงภาพรวมว่าทุกคนมีความเห็นต่างได้ ก็อยากให้คสช.พิจารณาว่าความเห็นต่างไม่ใช่เรื่องของความแตกแยก อาจมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ถ้าเราเปิดโอกาสให้ทุกคนได้พูดอย่างเต็มที่ ก็จะทำให้การรณรงค์ประชามติเป็นไปอย่างครบถ้วน และประชาชนได้ฟังข้อมูลอย่างรอบด้านซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์มากกกว่า”
เมื่อถามว่า หลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความเห็นในลักษณะไม่ให้มีการรณรงค์รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ จนอาจดูเหมือนปิดกั้น ทางพรรคเพื่อไทยจะเรียกร้องอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องรอดูกฎหมายพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ จะเปิดโอกาสให้รณรงค์ได้มากน้อยเพียงใด ตนคงเรียกร้องในฐานะพรรคไม่ได้ แต่ส่วนตัวอยากให้เปิดพื้นที่สำหรับความเห็นต่างบนกลไกที่อยู่บนความสงบและทุกคนสามารถใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกขั้นพื้นฐานได้เพื่อให้ประชาชนได้รับฟังข้อมูล จะทำให้ประชามติเป็นไปอย่างสมบูรณ์และเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั้งประเทศ เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ ส่วนการแสดงความเห็นของสมาชิกพรรค ขอให้ทุกคนแสดงความเห็นอยู่ในกติกา เชื่อว่าสมาชิกพรรคจะมีวิจารณญาณของตัวเอง เราไม่สามารถไปจำกัดสิทธิเสรีภาพพื้นฐานของใครได้ที่ต้องทำอยู่ภายใต้ขอบเขต
เมื่อถามว่า การกระทำของทหารเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “วันนี้เรามาพิจารณาคดี คงไม่ขอแสดงความเห็นในส่วนนี้ ผู้ที่พิจารณาคงจะใช้ดุลพินิจเอง”
เมื่อถามว่า สุดท้ายแล้วความเห็นต่างจะนำไปสู่ไม่ให้เกิดการทำประชามติเกิดขึ้นได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราต้องช่วยกันประคองให้ปัญหาต่างๆ ผ่านพ้นไปได้ด้วยความสงบ
เมื่อถามว่าจะมีการฟ้องกลับพล.อ.ประยุทธ์ กรณีออกมากล่าวหานายทักษิณ ชักใยอยู่เบื้องหลังหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามโดยเดินเข้าหามวลชนเพื่อรับดอกไม้และเข้าไปในศาลฯทันที
JJNY : ยิ่งลักษณ์ ชี้ต่างชาติไม่ปล่อยใครล๊อบบี้ง่ายๆ แนะ คสช.ฟังความเห็นต่าง ช่วยลดขัดแย้ง
เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 22 เมษายน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมทีมทนายเดินทางมายังศาลฎีกาฯ เพื่อเข้าฟังการสืบพยานฝ่ายโจทก์ในคดีโครงการรับจำนำข้าวครั้งที่ 7 ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยมีบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) อดีตส.ส. อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ อดีตส.ส.กทม. น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิชย์ อดีตส.ส.ลาดกระบัง ทั้งนี้ทันทีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาถึงมวลชนต่างตะโกนให้กำลังใจ “นายกฯสู้ๆ” “รักยิ่งลักษณ์” “นายกฯของประชาชน” พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.น.2 จำนวน 1 กองร้อย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าขึ้นศาลฯ ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ระบุว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งหมด รวมถึงการจ้างล็อบบี้ยิสต์เกิดจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ชักใยอยู่เบื้องหลังว่า นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และแกนนำพรรคพท. ได้ชี้แจงและปฏิเสธข่าวแล้วว่าไม่เคยมีการจ้างล็อบบี้ยิสต์จากนายทักษิณ ตนเชื่อว่านานาประเทศจะพิจารณาจากข้อเท็จจริง และคงไม่ปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งนำข้อความมาเล่าหรือล็อบบี้กันได้ และเชื่อว่าวันนี้ลำพังนายทักษิณก็ลำบาก และท่านอยู่ต่างประเทศไม่น่าจะมาทำอะไรอย่างนี้ และท่านก็ยังคิดถึงบ้านอยู่
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่านายทักษิณ ไม่สามารถจ้างล็อบบี้ยิสต์หรือจ้างให้เกิดการเคลื่อนไหวใดๆ ได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “ค่ะ เพราะมีการปฏิเสธจากนายนพดลแล้ว และดิฉันเชื่อว่านานาประเทศจะพิจารณาจากข้อเท็จจริงและฟังข้อมูลครบทุกด้าน ไม่ปล่อยให้ใครมาล็อบบี้ เพราะนานาประเทศต้องมีกลไกในการพิจารณา วิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ อย่างละเอียดรอบคอบ”
เมื่อถามว่า หลังจากนี้นายทักษิณจะมีการเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ในช่วงการทำประชามติ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “ดิฉันไม่ทราบหรอกนะคะ แต่ดิฉันขอพูดถึงภาพรวมว่าทุกคนมีความเห็นต่างได้ ก็อยากให้คสช.พิจารณาว่าความเห็นต่างไม่ใช่เรื่องของความแตกแยก อาจมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ถ้าเราเปิดโอกาสให้ทุกคนได้พูดอย่างเต็มที่ ก็จะทำให้การรณรงค์ประชามติเป็นไปอย่างครบถ้วน และประชาชนได้ฟังข้อมูลอย่างรอบด้านซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์มากกกว่า”
เมื่อถามว่า หลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความเห็นในลักษณะไม่ให้มีการรณรงค์รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ จนอาจดูเหมือนปิดกั้น ทางพรรคเพื่อไทยจะเรียกร้องอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องรอดูกฎหมายพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ จะเปิดโอกาสให้รณรงค์ได้มากน้อยเพียงใด ตนคงเรียกร้องในฐานะพรรคไม่ได้ แต่ส่วนตัวอยากให้เปิดพื้นที่สำหรับความเห็นต่างบนกลไกที่อยู่บนความสงบและทุกคนสามารถใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกขั้นพื้นฐานได้เพื่อให้ประชาชนได้รับฟังข้อมูล จะทำให้ประชามติเป็นไปอย่างสมบูรณ์และเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั้งประเทศ เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ ส่วนการแสดงความเห็นของสมาชิกพรรค ขอให้ทุกคนแสดงความเห็นอยู่ในกติกา เชื่อว่าสมาชิกพรรคจะมีวิจารณญาณของตัวเอง เราไม่สามารถไปจำกัดสิทธิเสรีภาพพื้นฐานของใครได้ที่ต้องทำอยู่ภายใต้ขอบเขต
เมื่อถามว่า การกระทำของทหารเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “วันนี้เรามาพิจารณาคดี คงไม่ขอแสดงความเห็นในส่วนนี้ ผู้ที่พิจารณาคงจะใช้ดุลพินิจเอง”
เมื่อถามว่า สุดท้ายแล้วความเห็นต่างจะนำไปสู่ไม่ให้เกิดการทำประชามติเกิดขึ้นได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราต้องช่วยกันประคองให้ปัญหาต่างๆ ผ่านพ้นไปได้ด้วยความสงบ
เมื่อถามว่าจะมีการฟ้องกลับพล.อ.ประยุทธ์ กรณีออกมากล่าวหานายทักษิณ ชักใยอยู่เบื้องหลังหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามโดยเดินเข้าหามวลชนเพื่อรับดอกไม้และเข้าไปในศาลฯทันที