ช่วงนี้รู้สึกว่าตัวเองเที่ยวบ่อยค่ะ เลยอยากลองเขียนเล่าแบ่งปันประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้ลองอ่านดูค่ะ
เริ่มกันเลย
"ไผ่ๆ เราไปแลก Big Point มา บินฟรีได้ตั้งหลายที่ ไปไหนดีน้าาา"
เสียงพี่ปุ่นลอดมาจากหน้าคอมลอยๆ
"ฮ่องกงมะ"
"กระบี่ป่าว"
"ภูเก็ต?"
"มาเลเซีย?"
"หรือว่าเราไปเวียดนามอีกรอบแมะ"
.
.
"เอาจริงๆ ฮ่องกง เวียดนาม มาเลย์ไผ่อยากไปหมดแหละ แต่.....
ช่วงนี้เราต้องประหยัดกันไม่ใช่เหรอคะพี่ปุ่น"
"โอเค! งั้นเที่ยวในประเทศ ไปไหนดีอ่ะ"
"ภูเก็ตมั้ยคะ พี่ปุ่นยังไม่เคยไปทะเลใต้นี่"
"โอเค! งั้นภูเก็ตนะ จองเลย"
"โอเค! จองเลย!"
'โอเค ปะ ไป จองเลย' เป็นประโยคบ้าจี้ที่เราสองคนเป็นตลอด ไม่เคยจะมีใครห้ามใครเลย.... - -"
ละนี่คือจุดเริ่มต้นของทริปภูเก็ตของเรา
พี่ปุ่นใช้ point แลกได้แค่ขากลับ แต่ขาไปแลกไม่ได้
- เราก็เลยเสียค่าเดินทางไป-กลับภูเก็ตสายการบิน Air Asia ที่ประมาณ 1,800 บาท
เราอยากเปิดด้วยทริปนี้ เพราะทริปนี้เป็นทริปต่างจังหวัดที่เราไปด้วยกันแค่ 2 คนจริงๆทริปแรก!
โหยยย....กะไปสวีทอ่ะดิ
เปล่า!
ชวนชาวบ้านไปด้วยไม่ได้ 5555
ก็ด้วยคิดกันเอง ตัดสินใจกันเอง จองกันเองเฉยเลย ไปช่วงใกล้เทศกาล (ก่อนชาวบ้านเค้าหยุดยาวกันด้วย!) วันที่ 6-12 เมษา ถามว่าแม้วที่ไหนมันจะไปด้วยได้
นั่นล่ะ สรุปไปกันสองคนตามนั้น
เวลาไปไหนเราเตรียมตัวกันดีมากกกก
จองโรงแรมไว้พร้อม
- นอน Hostel ในเมืองเก่า 2 คืน คืนละประมาณ 700 บาท
- แล้วย้ายไปนอนที่หาดกระตะ 2 คืน คืนละประมาณ 500 บาท
- แล้วกลับมานอนที่หาดไม้ขาว ใกล้สนามบิน 1 คืน คืนละประมาณ 1,100 บาท
- สรุปเราเสียค่าที่พัก 6 วัน 5 คืน ไปคนละประมาณ 1,800 บาท เฮ้ย ประทับใจมันถูกมากอ่ะ
นอกจากจองที่พัก นอกนั้นแทบไม่มีข้อมูลอะไรเลย ไปตายเอาดาบหน้า
จัดกระเป๋าเสื้อผ้า 15 นาที ก่อนออกบ้านไปสนามบิน
เป็นอย่างนี้.......ทุกทริป - -"
โอเค รู้ที่มาละนะ ปะ เดี๋ยวเราพาไปเที่ยวภูเก็ตแบบมั่วๆ ไม่มีแพลนของเรา
มาสิ ไม่ต้องกลัว เราเที่ยวมั่วๆงี้หลายทีแล้ว 555
Day1::
เราจัดกระเป๋า ออกคอนโด แวะทานข้าวหน้าคอนโดแปปนึง แล้วเรียก Taxi ไปดอนเมือง วันนี้รถไม่ค่อยติด เพราะคนเริ่มออกต่างจังหวัดหยุดยาวสงกรานต์กันบ้างแล้ว Check-in โหลดกระเป๋าเรียบร้อย ก็ไปซื้อชาที่ร้านกาแฟมวลชน เฮ้ย ร้านนี้เค้ามวลชนจริงๆนะ ถูกสุดในสนามบินละมั้ง แน่นอน เรานี่ลูกค้าประจำ แหมะ ฐานะอย่างเรา 555
.
.
ตัด shot ข้ามตอนมาตอนที่ถึงสนามภูเก็ต มี Taxi มารอลาก เอ้ย รอรับนักท่องเที่ยวเต็มเลยจ้า ซึ่งราคาไม่ต้องสืบ แพงมากกก ฐานะอย่างเรา ฮุ ฮุ ฮุ Airport Bus สิฮ้าาา 100 บาท ถึงตัวเมืองภูเก็ตแบบหวานเย็น ได้ดูทิวทัศน์ข้างทางแบบชัดๆ เก็บทุกรายละเอียด เพราะพี่คนขับใจเย็นมาก ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เราก็ถึงโรงแรมแรกของเรา
'Fulfill' เป็น Hostel ที่พัก 2 คืนแรกของเรา ตัว hostel เป็นตึกแถวเล็กๆ ห้องเดียว แต่จัดไว้ลงตัวและน่ารักมาก
"พี่ปุ่นๆ เฮ้ยยย มันดีอ่ะ ห้องดี จัดดี น่ารักอ่าาา ประทับใจ"
"ไม่เคยนอน Hostel อ่ะดิ เรานอนจนชินละ เฉยๆ" แล้วทำท่ายิ้มเยาะ
- -" กวนตีนนนน
เก็บของ พักเหนื่อยเสร็จ เราก็เตรียมตัวออกไปทานข้าวกลางวัน กัน ระหว่างทางที่นั่ง Airport bus เราก็ลอง search หาข้อมูลร้านอาหารไว้ พอเลือกว่าร้านนี้แหละ ก็มองข้างทางตอนอยู่บนรถไว้ แล้วปักหมุดในหัว เนี่ยแหละ เดี๋ยวจะเดินมาทานกัน!
ระหว่างทางเราเจอ Agent ทัวร์ที่มีทัวร์เกาะพี พี เราเลยเข้าไปลองคุยด้วย
ที่นี่ถ้านั่งเรือแฟรี่ไป-กลับ พีพี มีอาหารกลางวันให้ เค้าคิดคนละ 700 บาท
เค้าเสนอให้เราซื้อทัวร์นั่งเรือ Speed Boat ไป 3 เกาะ มีอาหารกลางวันให้ คนละ 1,200 บาท คุ้มกว่า เราก็เลยบอกขอเดินคิดกันก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยว่ากัน ละคือเตรียมตัวกันมาดีมากไง
ลูกไผ่: "พี่ปุ่น ไผ่ไม่มีชุดเตรียมมาลงน้ำอ่ะค่ะ รองเท้าแตะเราก็ไม่ได้เอามากันอ่ะ"
คุณป้า Agent ทัวร์แกก็เลยแนะนำเราว่า เดินผ่านหอนาฬิกาไป จะมีห้าง ละก็มีตลาดโต้รุ่ง ไปซื้อแถวนั้นได้ เราก็เลยตั้งใจว่าจะไปทานข้าวเย็นที่นู้น ไปหาข้าวแกงปักษ์ใต้ อาหารพื้นเมืองทานกัน!
ออกจากโรงแรม เดินมาทางซ้าย แล้วก็เลี้ยวซ้ายอีกที เราจะเจอตึกชิโนโปตุกีสสีเหลือง เด่นเป็นสง่า กลางสีแยกเล็กๆ เป็นตึกแรกที่เราเจอ เลยขอแช๊ะถ่ายรูปเก็บไว้ซะหน่อย จริงๆตึกตรงข้ามเค้าน่าจะตั้งใจออกแบบให้ล้อกันไป แต่ตอนที่เราไป ชั้นล่างเค้ากำลังปิดก่อสร้างอะไรซักอย่าง เสียดายจุง เลยมีสังกะสีบังเลย
เดินๆ ไปเรื่อยๆ อ๊ะ ถึงแล้ว! ร้านวันจันทร์ ร้านอาหารมื้อแรกของเรา!
ในร้านใช้ของเก่ามาวางตกแต่ง สวยดีๆ ตอนเราไปคนยังไม่เยอะมาก (ตอนเย็นๆเราเดินผ่านมาอีกที โห...คนแน่นร้านเลย ร้านเค้าคงเป็นร้านดังแฮะ)
พี่ปุ่นเลือกสั่ง "หมูฮ้อง" หน้าตาก็แบบที่เห็นนี่แหละ รสชาติพี่ปุ่นบอกว่า "เหมือนหมูพะโล้เลยอ่ะ" แต่เราว่าเหมือนแกงฮังเลของทางเหนือมากกว่า แต่หวานกว่า
ส่วนเราสั่ง "แกงปูใบชะพลู" เฮ้ยยย มันดีอ่าาาา อร่อยมากกก ตักตรงไหนก็เจอปู ประทับใจมาก
เราสั่งอาหารมา 2 อย่างละก็ข้าวเปล่า ซึ่งดีแล้ว เพราะกล้องข้าวน้อยฆ่าแม่มาก ทานกันเกือบไม่หมด
ตบท้ายด้วย "โอ้เอ๋ว" ของหวานของเมืองภูเก็ต เรานี่เล็งไว้ตั้งแต่ดูรีวิว มันเป็นวุ้นใสๆ ใส่แตงโมปั้นก้อนกับลูกชิด แล้วโปะด้วยน้ำแข็งใสราดเฮลสบลูบอย ทานแก้ร้อนได้ แต่เราชอบเฉาก๊วยมากกว่า 555 (โอ้เอ๋วที่ร้านนี้ถ้วยละ 40 บาท แต่ถ้าเดินซื้อที่ร้านข้างทางธรรมดา จะอยู่ที่ถ้วยละ 15 - 20 บาท แต่ก็ต้องให้ค่าสถานที่ ค่าแอร์เค้าหน่อยเนอะ)
- สรุปมื้อแรกเราหมดไปคนละประมาณ 400 บาท
เติมพลังเสร็จแล้ว โอเค! พร้อมออกเดินถ่ายรูปที่เมืองเก่ากันแล้ว ปะ เราไปดูตึกโบราณแบบชิโนโปรตุกีสกัน!
ตึกโบ...ราณ
ตึก....โบราณ เอ่อะ..... - -"
นี่มันกราฟิตี้นี่! ไหนล่ะตึกโบราณ!?
หันมาฝั่งซ้ายหน่อย.....อ่าาา โอเคคค เจอแล้วตึกโบราณ เราเข้าแหล่งละ 555
เดินต่อไปเรื่อยๆ ตามถนนเยาวราช จ่ะ อ่านไม่ผิดหรอก ภูเก็ตก็มีถนนเยาวราชจ้าาา ก็จะเจอตึกโบราณ สีสัน colorful สร้างเรียงกันเต็มไปหมด
เค้าก็พร้อมใจกันสร้างไปในทางเดียวกันดีนะ แต่เสียดาย ถ่ายตรงไหนก็จะติดรถที่จอดอยู่ตรงหน้าตึก อ่ะ สถาปัตยกรรมแบบผสมผสานแงะ ไม่รู้จักเหรอไผ่!
เอออออ....โอเคๆ
เดินไปเรื่อยๆ ก็ไปสะดุดตากับบ้านดีไซน์โบราณหลังใหญ่สวยมาก
พี่ปุ่น: "นี่มันอะไรอ่ะ เค้าให้เราเข้าไปถ่ายรูปได้ป่าว"
พอเราเพ่งเข้าไปดูป้ายที่ติดอยู่หน้าตึก
'สำนักงานทนายความ'
ลูกไผ่: "เออะ...น่าจะบ้านเค้านะคะพี่ปุ่น"
พี่ปุ่น: "นั่นสิ เค้าคงไม่ให้เราเข้าไปหรอกเนอะ"
หึ หึ เราหันมาพยักให้กัน "ปะ ไปกันเถอะ" 555
เดินๆไปก็เจอรถสีแดงเหลืองคันเล็ก จอดเด่นอยู่ข้างทาง เลยหยุดถ่ายรูปกัน พี่ผู้ชายที่อยู่ที่รถฝั่งตรงข้ามส่งยิ้มหวานให้จากอีกฝั่งของถนนมาแต่ไกล ตอนนั้นเราก็คิดกับพี่ปุ่น เอ้อ คนที่นี่เค้า friendly ดีเนอะ ละพี่แกก็ข้ามถนนเดินมาหาเรา
คุณพี่คนนั้น: "มาจากไหนกันเหรอครับ"
พี่ปุ่น: "กรุงเทพครับ"
คุณพี่คนนั้น: "อยู่แถวไหนกันเหรอ"
ลูกไผ่: (เริ่มตะหงิดๆละ) "พระราม 9 อ่ะค่ะ"
คุณพี่คนนั้น: "อ๋อ ผมรู้จัก เคยอยู่แถวนั้น ตรงสะพานแขวนใหญ่ๆใช่มั้ย"
เราหันมามองหน้าพี่ปุ่น แล้วยิ้มอ่อน "เหอ เหอ เหอ ไม่ใช่ละค่ะ อันนั้นมันฝั่งธนละค่ะพี่"
คุณพี่คนนั้น: "อ้าว เหรอๆ ละนี่จะไปเที่ยวไหนกัน taxi มั้ย"
นั่นไง! กุว่าละ ละพี่แกก็ร่ายยาววว กว่าจะปฎิเสธละหลุดมาได้ ยาวเลย
พอหลุดมาเราก็เดินๆ กันต่อ เมืองเก่าไม่ได้กว้างอะไรมากมายเลย เดินวนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็วนครบแล้ว ถ้าไม่นับแดดเดือนเมษาที่ร้อนเปรี้ยงๆนะ เดินชิลเลย
ในตัวเมืองก็มีร้านขายของเยอะแยะเลย เราไปสะดุดตาที่ร้านนี้ เค้าเป็นร้านขายภาชนะ จาน ชาม ปิ่นโต สีสันน่ารักดี ของก็จะออกแนว Antiqueๆ หน่อย
พี่ปุ่น: "ซื้อไปวางที่บ้านมั้ยไผ่ 555"
ลูกไผ่: "เข้ากันมากกกกค่ะ" (ได้ข่าวว่าบ้านจะทำแบบ Muji)
อันนี้เป็นตึกในซอยรมณีย์ ซอยนี้ตึกสีสวยๆทั้งนั้นเลย ถ้าใครเคยดู "I Wanna be 'Sup 'Tar" ที่ดีเจพุฒเล่นกับยิปโซ Ep. ที่ทุกคนจิกหมอนกัน เราว่าเค้าคงมาถ่ายซอยนี้แหละ
เดินไปเรื่อยๆ เราก็เห็นผู้ชายผอมๆ แต่งตัวประมาณเด็กแว๊น ลากรองเท้าแตะคีบ ตะโกนภาษาจีนข้ามถนน เหมือนพยายามกำกับอะไรซักอย่างอยู่อีกฝากถนน พอมองตามไปก็เห็น เจ้าบ่าว - เจ้าสาว มาถ่าย Pre Wedding เราหันกลับไปมองเด็กแว๊นที่ตะโกนเมื่อกี้ ที่คอห้อยกล้อง DSLR กระบอกเลนส์เทพเชียว เชี้ยยยย...นี่มันตากล้อง!
เท่าที่เราเดิน วันนี้เราเจอคู่ Pre Wedding 3 คู่ได้ และตากล้องแต่งตัวสไตล์เดียวกันทุกคน นี่ถ้ามีมอไซค์ให้บิดนี่พี่ใช่เลยนะ ชิท! ตากล้องจีนนี่เค้ามีสไตล์เป็นของตัวเองจริงๆ
เมืองมันไม่ใหญ่ แต่ด้วยแดดประเทศไทย ที่อย่างกะมีพระอาทิตย์ห้อยติดตัว ก็เล่นเอาเหงื่อโทรมเลย หมดแรงกันไม่ใช่เล่น เอ้อ ที่เมืองเก่านี่เรายังไม่เห็น 7-11 ซักกะร้านเลย กะจะเข้าไปหาซื้อน้ำซะหน่อย ทำไมมันหายากงี้...เดินไปจนเกือบถึงโรงแรม เจอร้านกาแฟร้านนึง
"เฮ้ยย พี่ปุ่นๆ ไผ่เห็นโค้กกระป๋องในร้านนั้น"
"จริงดิ"
"เข้าเลยมั้ยคะ หรือว่าเผื่อว่าข้างหน้าจะมีร้าน"
"ไม่ต้องหรอก เข้าไปเลย เดี๋ยวข้างหน้าไม่มี"
เราก็เลยเข้าไปนั่งทานโค้กกระป๋องละ 45 บาท ละพี่ปุ่นทานชาเย็นแก้วละ 85 บาท
พักเหนื่อยหายละ เดินไปอีกไม่กี่ก้าวร้านเยื้องๆโรงแรม มีร้านโชว์ห่วย ขายน้ำเหมือนใน 7-11 เลย ชิท!
เราหลับกันไปพักใหญ่ ตื่นมาอีกทีเกือบๆทุ่ม น้อง Reception ที่ Hostel บอกว่าวันนี้มีถนนคนเดินเล็กๆ ทางฝั่งซ้ายนะคะ ลองไปเดินดู เราก็เลยกะไปเดินเล่นก่อนไปตลาดโต้รุ่งอีกฝั่ง ของกินเยอะมากกก แต่ไม่มีอาหารพื้นเมืองที่เราอยากทานเลยจ้าาา นี่มันตลาดเด็กอินดี้ HIpster นี่แก๊...จะมีข้าวแกงปักษ์ใต้ที่ไหนให้ทาน
ที่นี่ไผ่ไปสะดุดตาร้านขายปลาหมึกย่างร้านนึง เฮ้ยยย ปลาหมึกชิ้นใหญ่มากกก มีทั้งหนวด ทั้งตัว ทั้งไข่ให้เลือก แล้วที่สำคัญ ขายไม้ละ 20!
ป๊าดดดด...นี่ถ้าเป็นกรุงเทพนะ ไม้ขนาดนี้อย่างต่ำก็ไม้ละ 60
ไผ่เลยเสร็จปลาหมึกย่างที่นี่ไป ด้วยความหวังว่าจะไปหาอาหารปักษ์ใต้พื้นเมืองที่ตลาดโต้รุ่ง แต่พี่ปุ่นไม่หวังน้ำบ่อหน้าละ อิ่มเต็มพุงตั้งแต่ที่นี่ละ 555
เดี๋ยวมาต่อค่า.....
[CR] ลุยภูเก็ต 6 วัน 5 คืน ท่ามกลางอากาศร้อนตับแล่บก่อนสงกรานต์
เริ่มกันเลย
"ไผ่ๆ เราไปแลก Big Point มา บินฟรีได้ตั้งหลายที่ ไปไหนดีน้าาา"
เสียงพี่ปุ่นลอดมาจากหน้าคอมลอยๆ
"ฮ่องกงมะ"
"กระบี่ป่าว"
"ภูเก็ต?"
"มาเลเซีย?"
"หรือว่าเราไปเวียดนามอีกรอบแมะ"
.
.
"เอาจริงๆ ฮ่องกง เวียดนาม มาเลย์ไผ่อยากไปหมดแหละ แต่.....
ช่วงนี้เราต้องประหยัดกันไม่ใช่เหรอคะพี่ปุ่น"
"โอเค! งั้นเที่ยวในประเทศ ไปไหนดีอ่ะ"
"ภูเก็ตมั้ยคะ พี่ปุ่นยังไม่เคยไปทะเลใต้นี่"
"โอเค! งั้นภูเก็ตนะ จองเลย"
"โอเค! จองเลย!"
'โอเค ปะ ไป จองเลย' เป็นประโยคบ้าจี้ที่เราสองคนเป็นตลอด ไม่เคยจะมีใครห้ามใครเลย.... - -"
ละนี่คือจุดเริ่มต้นของทริปภูเก็ตของเรา
พี่ปุ่นใช้ point แลกได้แค่ขากลับ แต่ขาไปแลกไม่ได้
- เราก็เลยเสียค่าเดินทางไป-กลับภูเก็ตสายการบิน Air Asia ที่ประมาณ 1,800 บาท
เราอยากเปิดด้วยทริปนี้ เพราะทริปนี้เป็นทริปต่างจังหวัดที่เราไปด้วยกันแค่ 2 คนจริงๆทริปแรก!
โหยยย....กะไปสวีทอ่ะดิ
เปล่า!
ชวนชาวบ้านไปด้วยไม่ได้ 5555
ก็ด้วยคิดกันเอง ตัดสินใจกันเอง จองกันเองเฉยเลย ไปช่วงใกล้เทศกาล (ก่อนชาวบ้านเค้าหยุดยาวกันด้วย!) วันที่ 6-12 เมษา ถามว่าแม้วที่ไหนมันจะไปด้วยได้
นั่นล่ะ สรุปไปกันสองคนตามนั้น
เวลาไปไหนเราเตรียมตัวกันดีมากกกก
จองโรงแรมไว้พร้อม
- นอน Hostel ในเมืองเก่า 2 คืน คืนละประมาณ 700 บาท
- แล้วย้ายไปนอนที่หาดกระตะ 2 คืน คืนละประมาณ 500 บาท
- แล้วกลับมานอนที่หาดไม้ขาว ใกล้สนามบิน 1 คืน คืนละประมาณ 1,100 บาท
- สรุปเราเสียค่าที่พัก 6 วัน 5 คืน ไปคนละประมาณ 1,800 บาท เฮ้ย ประทับใจมันถูกมากอ่ะ
นอกจากจองที่พัก นอกนั้นแทบไม่มีข้อมูลอะไรเลย ไปตายเอาดาบหน้า
จัดกระเป๋าเสื้อผ้า 15 นาที ก่อนออกบ้านไปสนามบิน
เป็นอย่างนี้.......ทุกทริป - -"
โอเค รู้ที่มาละนะ ปะ เดี๋ยวเราพาไปเที่ยวภูเก็ตแบบมั่วๆ ไม่มีแพลนของเรา
มาสิ ไม่ต้องกลัว เราเที่ยวมั่วๆงี้หลายทีแล้ว 555
Day1::
เราจัดกระเป๋า ออกคอนโด แวะทานข้าวหน้าคอนโดแปปนึง แล้วเรียก Taxi ไปดอนเมือง วันนี้รถไม่ค่อยติด เพราะคนเริ่มออกต่างจังหวัดหยุดยาวสงกรานต์กันบ้างแล้ว Check-in โหลดกระเป๋าเรียบร้อย ก็ไปซื้อชาที่ร้านกาแฟมวลชน เฮ้ย ร้านนี้เค้ามวลชนจริงๆนะ ถูกสุดในสนามบินละมั้ง แน่นอน เรานี่ลูกค้าประจำ แหมะ ฐานะอย่างเรา 555
.
.
ตัด shot ข้ามตอนมาตอนที่ถึงสนามภูเก็ต มี Taxi มารอลาก เอ้ย รอรับนักท่องเที่ยวเต็มเลยจ้า ซึ่งราคาไม่ต้องสืบ แพงมากกก ฐานะอย่างเรา ฮุ ฮุ ฮุ Airport Bus สิฮ้าาา 100 บาท ถึงตัวเมืองภูเก็ตแบบหวานเย็น ได้ดูทิวทัศน์ข้างทางแบบชัดๆ เก็บทุกรายละเอียด เพราะพี่คนขับใจเย็นมาก ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เราก็ถึงโรงแรมแรกของเรา
'Fulfill' เป็น Hostel ที่พัก 2 คืนแรกของเรา ตัว hostel เป็นตึกแถวเล็กๆ ห้องเดียว แต่จัดไว้ลงตัวและน่ารักมาก
"พี่ปุ่นๆ เฮ้ยยย มันดีอ่ะ ห้องดี จัดดี น่ารักอ่าาา ประทับใจ"
"ไม่เคยนอน Hostel อ่ะดิ เรานอนจนชินละ เฉยๆ" แล้วทำท่ายิ้มเยาะ
- -" กวนตีนนนน
เก็บของ พักเหนื่อยเสร็จ เราก็เตรียมตัวออกไปทานข้าวกลางวัน กัน ระหว่างทางที่นั่ง Airport bus เราก็ลอง search หาข้อมูลร้านอาหารไว้ พอเลือกว่าร้านนี้แหละ ก็มองข้างทางตอนอยู่บนรถไว้ แล้วปักหมุดในหัว เนี่ยแหละ เดี๋ยวจะเดินมาทานกัน!
ระหว่างทางเราเจอ Agent ทัวร์ที่มีทัวร์เกาะพี พี เราเลยเข้าไปลองคุยด้วย
ที่นี่ถ้านั่งเรือแฟรี่ไป-กลับ พีพี มีอาหารกลางวันให้ เค้าคิดคนละ 700 บาท
เค้าเสนอให้เราซื้อทัวร์นั่งเรือ Speed Boat ไป 3 เกาะ มีอาหารกลางวันให้ คนละ 1,200 บาท คุ้มกว่า เราก็เลยบอกขอเดินคิดกันก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยว่ากัน ละคือเตรียมตัวกันมาดีมากไง
ลูกไผ่: "พี่ปุ่น ไผ่ไม่มีชุดเตรียมมาลงน้ำอ่ะค่ะ รองเท้าแตะเราก็ไม่ได้เอามากันอ่ะ"
คุณป้า Agent ทัวร์แกก็เลยแนะนำเราว่า เดินผ่านหอนาฬิกาไป จะมีห้าง ละก็มีตลาดโต้รุ่ง ไปซื้อแถวนั้นได้ เราก็เลยตั้งใจว่าจะไปทานข้าวเย็นที่นู้น ไปหาข้าวแกงปักษ์ใต้ อาหารพื้นเมืองทานกัน!
ออกจากโรงแรม เดินมาทางซ้าย แล้วก็เลี้ยวซ้ายอีกที เราจะเจอตึกชิโนโปตุกีสสีเหลือง เด่นเป็นสง่า กลางสีแยกเล็กๆ เป็นตึกแรกที่เราเจอ เลยขอแช๊ะถ่ายรูปเก็บไว้ซะหน่อย จริงๆตึกตรงข้ามเค้าน่าจะตั้งใจออกแบบให้ล้อกันไป แต่ตอนที่เราไป ชั้นล่างเค้ากำลังปิดก่อสร้างอะไรซักอย่าง เสียดายจุง เลยมีสังกะสีบังเลย
เดินๆ ไปเรื่อยๆ อ๊ะ ถึงแล้ว! ร้านวันจันทร์ ร้านอาหารมื้อแรกของเรา!
ในร้านใช้ของเก่ามาวางตกแต่ง สวยดีๆ ตอนเราไปคนยังไม่เยอะมาก (ตอนเย็นๆเราเดินผ่านมาอีกที โห...คนแน่นร้านเลย ร้านเค้าคงเป็นร้านดังแฮะ)
พี่ปุ่นเลือกสั่ง "หมูฮ้อง" หน้าตาก็แบบที่เห็นนี่แหละ รสชาติพี่ปุ่นบอกว่า "เหมือนหมูพะโล้เลยอ่ะ" แต่เราว่าเหมือนแกงฮังเลของทางเหนือมากกว่า แต่หวานกว่า
ส่วนเราสั่ง "แกงปูใบชะพลู" เฮ้ยยย มันดีอ่าาาา อร่อยมากกก ตักตรงไหนก็เจอปู ประทับใจมาก
เราสั่งอาหารมา 2 อย่างละก็ข้าวเปล่า ซึ่งดีแล้ว เพราะกล้องข้าวน้อยฆ่าแม่มาก ทานกันเกือบไม่หมด
ตบท้ายด้วย "โอ้เอ๋ว" ของหวานของเมืองภูเก็ต เรานี่เล็งไว้ตั้งแต่ดูรีวิว มันเป็นวุ้นใสๆ ใส่แตงโมปั้นก้อนกับลูกชิด แล้วโปะด้วยน้ำแข็งใสราดเฮลสบลูบอย ทานแก้ร้อนได้ แต่เราชอบเฉาก๊วยมากกว่า 555 (โอ้เอ๋วที่ร้านนี้ถ้วยละ 40 บาท แต่ถ้าเดินซื้อที่ร้านข้างทางธรรมดา จะอยู่ที่ถ้วยละ 15 - 20 บาท แต่ก็ต้องให้ค่าสถานที่ ค่าแอร์เค้าหน่อยเนอะ)
- สรุปมื้อแรกเราหมดไปคนละประมาณ 400 บาท
เติมพลังเสร็จแล้ว โอเค! พร้อมออกเดินถ่ายรูปที่เมืองเก่ากันแล้ว ปะ เราไปดูตึกโบราณแบบชิโนโปรตุกีสกัน!
ตึกโบ...ราณ
ตึก....โบราณ เอ่อะ..... - -"
นี่มันกราฟิตี้นี่! ไหนล่ะตึกโบราณ!?
หันมาฝั่งซ้ายหน่อย.....อ่าาา โอเคคค เจอแล้วตึกโบราณ เราเข้าแหล่งละ 555
เดินต่อไปเรื่อยๆ ตามถนนเยาวราช จ่ะ อ่านไม่ผิดหรอก ภูเก็ตก็มีถนนเยาวราชจ้าาา ก็จะเจอตึกโบราณ สีสัน colorful สร้างเรียงกันเต็มไปหมด
เค้าก็พร้อมใจกันสร้างไปในทางเดียวกันดีนะ แต่เสียดาย ถ่ายตรงไหนก็จะติดรถที่จอดอยู่ตรงหน้าตึก อ่ะ สถาปัตยกรรมแบบผสมผสานแงะ ไม่รู้จักเหรอไผ่!
เอออออ....โอเคๆ
เดินไปเรื่อยๆ ก็ไปสะดุดตากับบ้านดีไซน์โบราณหลังใหญ่สวยมาก
พี่ปุ่น: "นี่มันอะไรอ่ะ เค้าให้เราเข้าไปถ่ายรูปได้ป่าว"
พอเราเพ่งเข้าไปดูป้ายที่ติดอยู่หน้าตึก
'สำนักงานทนายความ'
ลูกไผ่: "เออะ...น่าจะบ้านเค้านะคะพี่ปุ่น"
พี่ปุ่น: "นั่นสิ เค้าคงไม่ให้เราเข้าไปหรอกเนอะ"
หึ หึ เราหันมาพยักให้กัน "ปะ ไปกันเถอะ" 555
เดินๆไปก็เจอรถสีแดงเหลืองคันเล็ก จอดเด่นอยู่ข้างทาง เลยหยุดถ่ายรูปกัน พี่ผู้ชายที่อยู่ที่รถฝั่งตรงข้ามส่งยิ้มหวานให้จากอีกฝั่งของถนนมาแต่ไกล ตอนนั้นเราก็คิดกับพี่ปุ่น เอ้อ คนที่นี่เค้า friendly ดีเนอะ ละพี่แกก็ข้ามถนนเดินมาหาเรา
คุณพี่คนนั้น: "มาจากไหนกันเหรอครับ"
พี่ปุ่น: "กรุงเทพครับ"
คุณพี่คนนั้น: "อยู่แถวไหนกันเหรอ"
ลูกไผ่: (เริ่มตะหงิดๆละ) "พระราม 9 อ่ะค่ะ"
คุณพี่คนนั้น: "อ๋อ ผมรู้จัก เคยอยู่แถวนั้น ตรงสะพานแขวนใหญ่ๆใช่มั้ย"
เราหันมามองหน้าพี่ปุ่น แล้วยิ้มอ่อน "เหอ เหอ เหอ ไม่ใช่ละค่ะ อันนั้นมันฝั่งธนละค่ะพี่"
คุณพี่คนนั้น: "อ้าว เหรอๆ ละนี่จะไปเที่ยวไหนกัน taxi มั้ย"
นั่นไง! กุว่าละ ละพี่แกก็ร่ายยาววว กว่าจะปฎิเสธละหลุดมาได้ ยาวเลย
พอหลุดมาเราก็เดินๆ กันต่อ เมืองเก่าไม่ได้กว้างอะไรมากมายเลย เดินวนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็วนครบแล้ว ถ้าไม่นับแดดเดือนเมษาที่ร้อนเปรี้ยงๆนะ เดินชิลเลย
ในตัวเมืองก็มีร้านขายของเยอะแยะเลย เราไปสะดุดตาที่ร้านนี้ เค้าเป็นร้านขายภาชนะ จาน ชาม ปิ่นโต สีสันน่ารักดี ของก็จะออกแนว Antiqueๆ หน่อย
พี่ปุ่น: "ซื้อไปวางที่บ้านมั้ยไผ่ 555"
ลูกไผ่: "เข้ากันมากกกกค่ะ" (ได้ข่าวว่าบ้านจะทำแบบ Muji)
อันนี้เป็นตึกในซอยรมณีย์ ซอยนี้ตึกสีสวยๆทั้งนั้นเลย ถ้าใครเคยดู "I Wanna be 'Sup 'Tar" ที่ดีเจพุฒเล่นกับยิปโซ Ep. ที่ทุกคนจิกหมอนกัน เราว่าเค้าคงมาถ่ายซอยนี้แหละ
เดินไปเรื่อยๆ เราก็เห็นผู้ชายผอมๆ แต่งตัวประมาณเด็กแว๊น ลากรองเท้าแตะคีบ ตะโกนภาษาจีนข้ามถนน เหมือนพยายามกำกับอะไรซักอย่างอยู่อีกฝากถนน พอมองตามไปก็เห็น เจ้าบ่าว - เจ้าสาว มาถ่าย Pre Wedding เราหันกลับไปมองเด็กแว๊นที่ตะโกนเมื่อกี้ ที่คอห้อยกล้อง DSLR กระบอกเลนส์เทพเชียว เชี้ยยยย...นี่มันตากล้อง!
เท่าที่เราเดิน วันนี้เราเจอคู่ Pre Wedding 3 คู่ได้ และตากล้องแต่งตัวสไตล์เดียวกันทุกคน นี่ถ้ามีมอไซค์ให้บิดนี่พี่ใช่เลยนะ ชิท! ตากล้องจีนนี่เค้ามีสไตล์เป็นของตัวเองจริงๆ
เมืองมันไม่ใหญ่ แต่ด้วยแดดประเทศไทย ที่อย่างกะมีพระอาทิตย์ห้อยติดตัว ก็เล่นเอาเหงื่อโทรมเลย หมดแรงกันไม่ใช่เล่น เอ้อ ที่เมืองเก่านี่เรายังไม่เห็น 7-11 ซักกะร้านเลย กะจะเข้าไปหาซื้อน้ำซะหน่อย ทำไมมันหายากงี้...เดินไปจนเกือบถึงโรงแรม เจอร้านกาแฟร้านนึง
"เฮ้ยย พี่ปุ่นๆ ไผ่เห็นโค้กกระป๋องในร้านนั้น"
"จริงดิ"
"เข้าเลยมั้ยคะ หรือว่าเผื่อว่าข้างหน้าจะมีร้าน"
"ไม่ต้องหรอก เข้าไปเลย เดี๋ยวข้างหน้าไม่มี"
เราก็เลยเข้าไปนั่งทานโค้กกระป๋องละ 45 บาท ละพี่ปุ่นทานชาเย็นแก้วละ 85 บาท
พักเหนื่อยหายละ เดินไปอีกไม่กี่ก้าวร้านเยื้องๆโรงแรม มีร้านโชว์ห่วย ขายน้ำเหมือนใน 7-11 เลย ชิท!
เราหลับกันไปพักใหญ่ ตื่นมาอีกทีเกือบๆทุ่ม น้อง Reception ที่ Hostel บอกว่าวันนี้มีถนนคนเดินเล็กๆ ทางฝั่งซ้ายนะคะ ลองไปเดินดู เราก็เลยกะไปเดินเล่นก่อนไปตลาดโต้รุ่งอีกฝั่ง ของกินเยอะมากกก แต่ไม่มีอาหารพื้นเมืองที่เราอยากทานเลยจ้าาา นี่มันตลาดเด็กอินดี้ HIpster นี่แก๊...จะมีข้าวแกงปักษ์ใต้ที่ไหนให้ทาน
ที่นี่ไผ่ไปสะดุดตาร้านขายปลาหมึกย่างร้านนึง เฮ้ยยย ปลาหมึกชิ้นใหญ่มากกก มีทั้งหนวด ทั้งตัว ทั้งไข่ให้เลือก แล้วที่สำคัญ ขายไม้ละ 20!
ป๊าดดดด...นี่ถ้าเป็นกรุงเทพนะ ไม้ขนาดนี้อย่างต่ำก็ไม้ละ 60
ไผ่เลยเสร็จปลาหมึกย่างที่นี่ไป ด้วยความหวังว่าจะไปหาอาหารปักษ์ใต้พื้นเมืองที่ตลาดโต้รุ่ง แต่พี่ปุ่นไม่หวังน้ำบ่อหน้าละ อิ่มเต็มพุงตั้งแต่ที่นี่ละ 555
เดี๋ยวมาต่อค่า.....