“ไปญี่ปุ่นก็อยากใส่กิโมโน เดินเล่นสวยๆซักครั้ง”
ใช่แล้ว การไปเช่ากิโมโนใส่เดินเล่นในเมืองหลวงเก่า เกียวโต เป็นหนึ่งเป้าหมายในทริปตะลุยญี่ปุ่น 17 วันของเรา
เรามีแพลนไปเกียวโตในวันที่ 14 ของการเดินทาง เราหาข้อมูลในการเช่ากิโมโนใส่ไว้น้อยมากก หรือเรียกว่าแทบไม่ได้หาไว้เลย ดีกว่า 555 เพราะคิดว่าที่เกียวโตคนไปเดินใส่กิโมโนกันเยอะแยะ เดินๆไปต้องมีร้านให้เช่าเยอะแยะแน่นอน
คืนก่อนจะไปเราลอง search หาข้อมูลอีกซักนิด รีวิวส่วนใหญ่ของสาวไทยแนะนำ 2 ร้านยอดฮิต คือ Okamoto และ Yumeyakata ซึ่งส่วนใหญ่จะจองคิว Online บนเวปไซต์กันก่อนไป แต่ก็มีบางคนที่ walk in ไปตอนเช้า เราลองแอบเปิดดูเวปไซต์ 2 ร้านนี้เพื่อเข้าไปดูคิว โอ้ แม่เจ้า เต็มไปจนถึงเดือนหน้าเลยจ้า เราก็เลย เอาวะ เสี่ยงดวงพรุ่งนี้ดูละกัน ได้ใส่ก็ได้ใส่ ถ้าไม่ได้ใส่ก็ไม่เป็นไร
ลูกไผ่: “พรุ่งนี้เราจะออกกี่โมงอ่ะคะ จะได้แพลนตื่นถูก”
พี่ปุ่น: “แล้วแต่ไผ่เลย ไผ่แพลนเลยพรุ่งนี้จะไปร้านเช่ากิโมโนกี่โมง ก็กะเวลาตื่นเอาเลย”
ลูกไผ่: “โอเคค่า”
เช้าวันรุ่งขึ้น เราตื่นตั้งแต่ 7 โมง เพื่อจะได้ออกจากที่พักตอน 8 โมง เพราะเท่าที่อ่านดูร้าน Okamoto เปิด 9 โมงเช้า ส่วนร้าน Yumeyakata เปิด 10 โมง อยากไปให้ถึงเกียวโตเช้าๆหน่อย เผื่อจะได้มีลุ้น Walk in
จากที่เมื่อคืนลองกดดู Google map คร่าวๆ ร้าน Yumeyakata อยู่เลยจากย่าน Gion ที่เราจะไปดินเที่ยวสถานีนึง ซึ่งตรงนั้นเหมือนจะไม่มีที่ให้เดินเที่ยวเลย ส่วน Okamoto มีสาขาอยู่ที่ Gion ด้วย เราเลยเลือกที่จะไปเสี่ยงดวงที่ Gion ดู
เราลงรถไฟที่สถานี Kawaramachi แล้วเดินมาเรื่อยๆก็จะเจอย่าน Gion เดินได้แปปเดียว อ๊ะ เจอร้านเช่ากิโมโนเลย แถมราคาไม่แพงด้วย เค้าติดป้ายไว้ว่า 2,500 เยน จากที่เรา Search มาเมื่อคืน แต่ละร้านถูกสุดราคาเริ่มต้นก็ 3,000 เยนแล้ว
ตัวร้านอยู่ชั้น 3 ของตึก ด้านล่างตึกจะเป็น minimart ติดป้ายว่า Calbee ขวามือของ minimart จะมีลิฟต์อยู่ กดขึ้นไปชั้น 3 เลยจ้า
พอขึ้นไป เฮ้ย โล่งมาก ยังไม่มีคนเลย นี่ไง คิดแล้วว่าต้องมีร้านกิโมโนให้เช่าเยอะแยะ จะไปจองคิวทำไม พนักงานเข้ามาต้อนรับที่หน้าลิฟต์ พนักงานร้านนี้พูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้เลย เลยต้องสื่อสารกันเป็นคำๆเอา จากที่มองไปรอบๆร้าน เราเห็นเสื้อกิโมโนชั้นในแขวนอยู่เป็นสีขาวเรียบๆหมดเลย จากที่อ่านรีวิวมาร้านยอดฮิตทั้ง 2 ร้านข้างต้น เค้าจะมีเสื้อชั้นในแบบที่ตรงคอปกมีลายให้เลือกด้วย ถามไปถามมาได้ความว่าร้านเค้ามีแต่สีขาวแบบนี้เลย
ลูกไผ่: “ร้านเค้าคอปกซับในไม่มีลายอ่ะค่ะ ไผ่ขอเดินๆดูก่อนได้มั้ยคะ”
พี่ปุ่น: “อ่า ได้ๆ”
เราเลยจากร้านนี้มาแล้วเดินไปเรื่อยๆ ทีนี้ไม่ยักกะหาเจอง่ายเหมือนร้านแรกแฮะ ไปเจอร้านนึงตามที่เดินตาม Google map ไป คิวเต็มหมดแล้วจ้า ร้านที่ 2 ตอนนี้คิวเต็ม ได้คิวอีกทีตอน 11 โมง ส่วนร้านที่ 3 ราคาแพงมาก
ลูกไผ่: “ไปร้านเดิมก็ได้ค่ะพี่ปุ่น”
พี่ปุ่น: “555 โอเคๆ”
ลูกไผ่: “แงงง ร้านเค้าจะคนเยอะรึยังอ่ะ แล้วเค้าจะเหลือกิโมโนลายสวยให้ไผ่อยู่มั้ยอ่ะ”
เราเดินกลับมาร้านแรกอีกครั้ง พอพนักงานเห็นหน้าก็ยิ้ม แล้วก็พูดประมาณ “อ๊า คุณคนเมื่อเช้านี้” 555
ตอนนี้ที่ร้านเริ่มมีลูกประมาณ 2-3 คน ค่อยยังชั่วหน่อย แฮะๆ
พนักงานเค้ามาอธิบายราคาให้ฟังว่า ของเค้ามีทั้งหมด 4 ราคา คือ
2,500 เยน จะเป็นแบบ Set ที่เค้าจัดไว้ให้แล้ว เลือกโอบิ (ผ้าคาดเอว) ไม่ได้ ลายมีให้เลือกประมาณ 7 - 8 ลาย ซี่งเป็นสีทึมๆและลายธรรมดาๆ
4,000 เยน จะสามารถเลือกโอบิเองได้ มีให้เลือก 7 – 8 ลายเช่นกัน สีจะสดใสขึ้นมาอีกนิด และมีลวดลายขึ้นมาอีกหน่อย
5,000 เยน สามารถเลือกโอบิเองได้ และมีแบบให้เลือกเยอะมาก สีและลวดลายก็จะสดใสกว่าเยอะ
ส่วนสุดท้ายเป็นแบบ Premium คือผ้าดีมาก ลายเป็นแบบปัก สวยมากๆ เราจำราคาที่แน่นอนไม่ค่อยได้ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 8,000 – 9,000 เยน
ที่นี่เค้ามีบริการทำผมให้ด้วย ราคา 1,000 เยน
ซี่งราคาทั้งหมดนี้ยังไม่รวม Vat อีก 8% นะคะ
เราไปลองเลื่อนๆดูลายแบบถูกสุด 2,500 เยนก่อน แต่ลายก็ยังไม่ถูกใจ และรู้สึกว่าอยากเลือกโอบิเองด้วย เลยขยับมาดูแบบ 4,000 เยน พนักงานอยู่บริการเราตลอดและคอยถามเวลาเราหยิบแต่ละตัวออกมาว่า “Try?”
คือที่นี่เค้าจะสามารถให้เราลองใส่ก่อนเลือกไปแต่งจริงๆ เค้าก็จะให้เราใส่แล้วเค้าก็มาช่วยพาดทบๆในลักษณะคล้ายๆยูกาตะให้เราดูก่อนว่าเข้ากับเรารึเปล่า เราลองแบบ 4,000 เยน ไป 2 ลาย
ลูกไผ่: “เอ้ พี่ปุ่นคะ จริงๆแบบ 5,000 เยน มันก็แพงกว่าอีกแค่ประมาณ 300 บาทเองนี่นา ไผ่เอาแบบ 5,000 เยนดีกว่าเนอะ มีแบบให้เลือกเยอะกว่าเยอะเลยอ่ะ สวยกว่าด้วย”
พี่ปุ่น: “แล้วแต่ไผ่เลย”
เรายืนเลือกอยู่นานมาก ลายสวยๆทั้งนั้นเลยเลือกไม่ถูก 555 จนได้กิโมโนสีขาย มีลายดอกสีน้ำเงิน แดง มา ส่วนโอบิ พนักงานเค้าไปหยิบสีแดงมาแนะนำให้เรา สีแดงเด่นตัดกับชุดขาวเลย เราก็เอาตามที่เค้าแนะนำเนี่ยแหละ 555
จากนั้นเค้าจะให้เราไปเลือกกระเป๋า และรองเท้า เราก็เลยเลือกสีแดงที่เข้ากับลายชุดมา
พอเลือกเสร็จพนักงานเค้าจะมีถุงใบใหญ่มาใส่ของทั้งหมดที่เราเลือกไว้ แล้วพาเราเข้าไปในห้องแต่งตัว ข้างในจะมีคนช่วยแต่งตัวให้เราหนี่งคน เริ่มจากให้เรารัดผมก่อนจะได้ไม่เกะกะ แล้วก็เอาถุงเท้ามาให้ใส่ ซี่งเป็นถุงเท้าใหม่นะคะ เสร็จแล้วเค้าก็จะยกถุงเท้าคู่นี้ให้เราไปเลย ไม่ต้องใช้ซ้ำกับใคร จากนั้นก็ให้เราใส่เสื้อซับใน จากนั้นก็เริ่มพันๆๆๆไปเรื่อยๆ แน่นขึ้นเรื่อยๆ มันหลายชั้นมากอ่ะค่ะ พอแต่งเสร็จนี่บอกได้เลยว่าหายใจแทบไม่ออกเลย แล้วหลังนี่ต้องแบบยืนหลังตรงตลอดเวลา เพราะโอบิมันรัดแน่นมาก งอหลังไม่ได้เลย อยากใส่กิโมโนต้องอดทนนะฮ้า
จากนั้นเค้าจะพาเราไปทำผม ที่นี่มีทรงให้เราเลือกเยอะมาก ประมาณ 8-9 ทรงได้ พอเราเลือกได้แล้ว ช่างก็ทำตามแบบ ซึ่งเร็วมาก ไม่ถึง 10 นาทีก็เสร็จแล้ว จากนั้นเค้าจะให้เลือกดอกไม้ประดับที่วางอยู่ในตะกร้าหน้ากระจกมา 2 ดอก ติดแล้วเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
บางที่เค้าจะมีบริการแต่งหน้าให้ด้วยนะคะ แต่จากที่เราหามาราคาค่อนข้างแพง เราเลยแต่งเองแบบงูๆ ปลาๆ (ที่ดูเหมือนแทบไม่ได้แต่ง 555)
เดินออกจากห้องทำผม พนักงานเค้าจะมาถามว่าขอถ่ายรูปเราเก็บไว้หน่อยได้มั้ย เราก็โอเค
ของเราทั้งหมดที่ไม่ใช้ สามารถใส่ถุงใหญ่ๆแล้วฝากไว้ที่ร้านได้ จากนั้นก็เดินไปจ่ายเงินที่เค้าท์เตอร์
ค่าเสียหายของเราทั้งหมด 6,480 เยน (คิดเป็นเงินไทยเรทตอนนั้นก็ประมาณ 2,008 บาท)
พร้อมแล้ว ไปเดินเที่ยวกันได้
เราเดินออกมาเดินเที่ยวตรงย่าน Gion ที่มีเมืองเก่าให้เดินเล่น
และมีวัด Nishihongan-ji ที่ตอนเราไปเค้ามีของขาย อารมณ์คล้ายๆงานวัดบ้านเรา
ตอนแรกเราก็กะจะไม่ควักกล้องออกมาละ เดี๋ยวไม่เข้ากันกับชุดกิโมโน 555 แต่วัดที่ไป รวมทั้งของกินมันน่าถ่ายรูปมาก อดควักขึ้นมาถ่ายไม่ได้จริงๆ 555
ช่วงที่เราไปอากาศประมาณ 9 – 10 องศา แต่ใส่แค่กิโมโนนี่เดินได้สบายเลย อุ่นมาก (แหมะ ก็ตั้งกี่ชั้น)
เราใส่ขึ้นรถบัสไปวัด Kinkaku-ji ด้วยเอ้า ค่อนข้างอึดอัดมากตอนอยู่บนรถเมล์ เพราะคนเยอะมาก แล้วต้องยืนตลอดทาง ชุดหายใจไม่ค่อยจะออก
เสร็จจากวัด Kinkaku-ji เราเลยเอาไปคืนก่อนดีกว่า ไม่ไหวแล้ว 555 ตอนนั้นก็ประมาณ 4 โมงเย็น ไปถึงพนักงานก็พาเราเข้าห้องแต่งตัว แล้วรีบถอดชุดออกให้เราอย่างรวดเร็ว
พนักงาน: (ทำท่าถอนหายใจออกมาแรงๆ ตอนปลดสิ่งที่คาดเอวทั้งหมดออกมาให้เรา) “เฮ้อออออออ”
ลูกไผ่: “เฮ้อออออออออ 55555”
มันโล่งมากกก สบายตัวขึ้นเยอะเลย ถึงจะอึดอัด หายใจยากไปหน่อย เราก็รู้สึกคุ้มค่าที่ได้ใส่มาก
พนักงานที่นี่น่ารักมากกกก ประทับใจสุดๆค่ะ
พี่ปุ่น: “บ่นๆนี่ ถ้าได้มาคราวหน้านี่จะใส่อีกมั้ย”
ลูกไผ่: “ใส่ค่า 555”
ฝากเข้าไปติดตามอ่านรีวิวเต็มๆและดูรูปสวยๆของทริปตะลุยญี่ปุ่น 17 วันของเรา ที่เพจเราด้วยน้า
https://www.facebook.com/wherewegopage
[CR] แปลงร่างเป็นสาวญี่ปุ่น ใส่กิโมโนเดินเที่ยวเกียวโต
ใช่แล้ว การไปเช่ากิโมโนใส่เดินเล่นในเมืองหลวงเก่า เกียวโต เป็นหนึ่งเป้าหมายในทริปตะลุยญี่ปุ่น 17 วันของเรา
เรามีแพลนไปเกียวโตในวันที่ 14 ของการเดินทาง เราหาข้อมูลในการเช่ากิโมโนใส่ไว้น้อยมากก หรือเรียกว่าแทบไม่ได้หาไว้เลย ดีกว่า 555 เพราะคิดว่าที่เกียวโตคนไปเดินใส่กิโมโนกันเยอะแยะ เดินๆไปต้องมีร้านให้เช่าเยอะแยะแน่นอน
คืนก่อนจะไปเราลอง search หาข้อมูลอีกซักนิด รีวิวส่วนใหญ่ของสาวไทยแนะนำ 2 ร้านยอดฮิต คือ Okamoto และ Yumeyakata ซึ่งส่วนใหญ่จะจองคิว Online บนเวปไซต์กันก่อนไป แต่ก็มีบางคนที่ walk in ไปตอนเช้า เราลองแอบเปิดดูเวปไซต์ 2 ร้านนี้เพื่อเข้าไปดูคิว โอ้ แม่เจ้า เต็มไปจนถึงเดือนหน้าเลยจ้า เราก็เลย เอาวะ เสี่ยงดวงพรุ่งนี้ดูละกัน ได้ใส่ก็ได้ใส่ ถ้าไม่ได้ใส่ก็ไม่เป็นไร
ลูกไผ่: “พรุ่งนี้เราจะออกกี่โมงอ่ะคะ จะได้แพลนตื่นถูก”
พี่ปุ่น: “แล้วแต่ไผ่เลย ไผ่แพลนเลยพรุ่งนี้จะไปร้านเช่ากิโมโนกี่โมง ก็กะเวลาตื่นเอาเลย”
ลูกไผ่: “โอเคค่า”
เช้าวันรุ่งขึ้น เราตื่นตั้งแต่ 7 โมง เพื่อจะได้ออกจากที่พักตอน 8 โมง เพราะเท่าที่อ่านดูร้าน Okamoto เปิด 9 โมงเช้า ส่วนร้าน Yumeyakata เปิด 10 โมง อยากไปให้ถึงเกียวโตเช้าๆหน่อย เผื่อจะได้มีลุ้น Walk in
จากที่เมื่อคืนลองกดดู Google map คร่าวๆ ร้าน Yumeyakata อยู่เลยจากย่าน Gion ที่เราจะไปดินเที่ยวสถานีนึง ซึ่งตรงนั้นเหมือนจะไม่มีที่ให้เดินเที่ยวเลย ส่วน Okamoto มีสาขาอยู่ที่ Gion ด้วย เราเลยเลือกที่จะไปเสี่ยงดวงที่ Gion ดู
เราลงรถไฟที่สถานี Kawaramachi แล้วเดินมาเรื่อยๆก็จะเจอย่าน Gion เดินได้แปปเดียว อ๊ะ เจอร้านเช่ากิโมโนเลย แถมราคาไม่แพงด้วย เค้าติดป้ายไว้ว่า 2,500 เยน จากที่เรา Search มาเมื่อคืน แต่ละร้านถูกสุดราคาเริ่มต้นก็ 3,000 เยนแล้ว
ตัวร้านอยู่ชั้น 3 ของตึก ด้านล่างตึกจะเป็น minimart ติดป้ายว่า Calbee ขวามือของ minimart จะมีลิฟต์อยู่ กดขึ้นไปชั้น 3 เลยจ้า
พอขึ้นไป เฮ้ย โล่งมาก ยังไม่มีคนเลย นี่ไง คิดแล้วว่าต้องมีร้านกิโมโนให้เช่าเยอะแยะ จะไปจองคิวทำไม พนักงานเข้ามาต้อนรับที่หน้าลิฟต์ พนักงานร้านนี้พูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้เลย เลยต้องสื่อสารกันเป็นคำๆเอา จากที่มองไปรอบๆร้าน เราเห็นเสื้อกิโมโนชั้นในแขวนอยู่เป็นสีขาวเรียบๆหมดเลย จากที่อ่านรีวิวมาร้านยอดฮิตทั้ง 2 ร้านข้างต้น เค้าจะมีเสื้อชั้นในแบบที่ตรงคอปกมีลายให้เลือกด้วย ถามไปถามมาได้ความว่าร้านเค้ามีแต่สีขาวแบบนี้เลย
ลูกไผ่: “ร้านเค้าคอปกซับในไม่มีลายอ่ะค่ะ ไผ่ขอเดินๆดูก่อนได้มั้ยคะ”
พี่ปุ่น: “อ่า ได้ๆ”
เราเลยจากร้านนี้มาแล้วเดินไปเรื่อยๆ ทีนี้ไม่ยักกะหาเจอง่ายเหมือนร้านแรกแฮะ ไปเจอร้านนึงตามที่เดินตาม Google map ไป คิวเต็มหมดแล้วจ้า ร้านที่ 2 ตอนนี้คิวเต็ม ได้คิวอีกทีตอน 11 โมง ส่วนร้านที่ 3 ราคาแพงมาก
ลูกไผ่: “ไปร้านเดิมก็ได้ค่ะพี่ปุ่น”
พี่ปุ่น: “555 โอเคๆ”
ลูกไผ่: “แงงง ร้านเค้าจะคนเยอะรึยังอ่ะ แล้วเค้าจะเหลือกิโมโนลายสวยให้ไผ่อยู่มั้ยอ่ะ”
เราเดินกลับมาร้านแรกอีกครั้ง พอพนักงานเห็นหน้าก็ยิ้ม แล้วก็พูดประมาณ “อ๊า คุณคนเมื่อเช้านี้” 555
ตอนนี้ที่ร้านเริ่มมีลูกประมาณ 2-3 คน ค่อยยังชั่วหน่อย แฮะๆ
พนักงานเค้ามาอธิบายราคาให้ฟังว่า ของเค้ามีทั้งหมด 4 ราคา คือ
2,500 เยน จะเป็นแบบ Set ที่เค้าจัดไว้ให้แล้ว เลือกโอบิ (ผ้าคาดเอว) ไม่ได้ ลายมีให้เลือกประมาณ 7 - 8 ลาย ซี่งเป็นสีทึมๆและลายธรรมดาๆ
4,000 เยน จะสามารถเลือกโอบิเองได้ มีให้เลือก 7 – 8 ลายเช่นกัน สีจะสดใสขึ้นมาอีกนิด และมีลวดลายขึ้นมาอีกหน่อย
5,000 เยน สามารถเลือกโอบิเองได้ และมีแบบให้เลือกเยอะมาก สีและลวดลายก็จะสดใสกว่าเยอะ
ส่วนสุดท้ายเป็นแบบ Premium คือผ้าดีมาก ลายเป็นแบบปัก สวยมากๆ เราจำราคาที่แน่นอนไม่ค่อยได้ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 8,000 – 9,000 เยน
ที่นี่เค้ามีบริการทำผมให้ด้วย ราคา 1,000 เยน
ซี่งราคาทั้งหมดนี้ยังไม่รวม Vat อีก 8% นะคะ
เราไปลองเลื่อนๆดูลายแบบถูกสุด 2,500 เยนก่อน แต่ลายก็ยังไม่ถูกใจ และรู้สึกว่าอยากเลือกโอบิเองด้วย เลยขยับมาดูแบบ 4,000 เยน พนักงานอยู่บริการเราตลอดและคอยถามเวลาเราหยิบแต่ละตัวออกมาว่า “Try?”
คือที่นี่เค้าจะสามารถให้เราลองใส่ก่อนเลือกไปแต่งจริงๆ เค้าก็จะให้เราใส่แล้วเค้าก็มาช่วยพาดทบๆในลักษณะคล้ายๆยูกาตะให้เราดูก่อนว่าเข้ากับเรารึเปล่า เราลองแบบ 4,000 เยน ไป 2 ลาย
ลูกไผ่: “เอ้ พี่ปุ่นคะ จริงๆแบบ 5,000 เยน มันก็แพงกว่าอีกแค่ประมาณ 300 บาทเองนี่นา ไผ่เอาแบบ 5,000 เยนดีกว่าเนอะ มีแบบให้เลือกเยอะกว่าเยอะเลยอ่ะ สวยกว่าด้วย”
พี่ปุ่น: “แล้วแต่ไผ่เลย”
เรายืนเลือกอยู่นานมาก ลายสวยๆทั้งนั้นเลยเลือกไม่ถูก 555 จนได้กิโมโนสีขาย มีลายดอกสีน้ำเงิน แดง มา ส่วนโอบิ พนักงานเค้าไปหยิบสีแดงมาแนะนำให้เรา สีแดงเด่นตัดกับชุดขาวเลย เราก็เอาตามที่เค้าแนะนำเนี่ยแหละ 555
จากนั้นเค้าจะให้เราไปเลือกกระเป๋า และรองเท้า เราก็เลยเลือกสีแดงที่เข้ากับลายชุดมา
พอเลือกเสร็จพนักงานเค้าจะมีถุงใบใหญ่มาใส่ของทั้งหมดที่เราเลือกไว้ แล้วพาเราเข้าไปในห้องแต่งตัว ข้างในจะมีคนช่วยแต่งตัวให้เราหนี่งคน เริ่มจากให้เรารัดผมก่อนจะได้ไม่เกะกะ แล้วก็เอาถุงเท้ามาให้ใส่ ซี่งเป็นถุงเท้าใหม่นะคะ เสร็จแล้วเค้าก็จะยกถุงเท้าคู่นี้ให้เราไปเลย ไม่ต้องใช้ซ้ำกับใคร จากนั้นก็ให้เราใส่เสื้อซับใน จากนั้นก็เริ่มพันๆๆๆไปเรื่อยๆ แน่นขึ้นเรื่อยๆ มันหลายชั้นมากอ่ะค่ะ พอแต่งเสร็จนี่บอกได้เลยว่าหายใจแทบไม่ออกเลย แล้วหลังนี่ต้องแบบยืนหลังตรงตลอดเวลา เพราะโอบิมันรัดแน่นมาก งอหลังไม่ได้เลย อยากใส่กิโมโนต้องอดทนนะฮ้า
จากนั้นเค้าจะพาเราไปทำผม ที่นี่มีทรงให้เราเลือกเยอะมาก ประมาณ 8-9 ทรงได้ พอเราเลือกได้แล้ว ช่างก็ทำตามแบบ ซึ่งเร็วมาก ไม่ถึง 10 นาทีก็เสร็จแล้ว จากนั้นเค้าจะให้เลือกดอกไม้ประดับที่วางอยู่ในตะกร้าหน้ากระจกมา 2 ดอก ติดแล้วเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
บางที่เค้าจะมีบริการแต่งหน้าให้ด้วยนะคะ แต่จากที่เราหามาราคาค่อนข้างแพง เราเลยแต่งเองแบบงูๆ ปลาๆ (ที่ดูเหมือนแทบไม่ได้แต่ง 555)
เดินออกจากห้องทำผม พนักงานเค้าจะมาถามว่าขอถ่ายรูปเราเก็บไว้หน่อยได้มั้ย เราก็โอเค
ของเราทั้งหมดที่ไม่ใช้ สามารถใส่ถุงใหญ่ๆแล้วฝากไว้ที่ร้านได้ จากนั้นก็เดินไปจ่ายเงินที่เค้าท์เตอร์
ค่าเสียหายของเราทั้งหมด 6,480 เยน (คิดเป็นเงินไทยเรทตอนนั้นก็ประมาณ 2,008 บาท)
พร้อมแล้ว ไปเดินเที่ยวกันได้
เราเดินออกมาเดินเที่ยวตรงย่าน Gion ที่มีเมืองเก่าให้เดินเล่น
และมีวัด Nishihongan-ji ที่ตอนเราไปเค้ามีของขาย อารมณ์คล้ายๆงานวัดบ้านเรา
ตอนแรกเราก็กะจะไม่ควักกล้องออกมาละ เดี๋ยวไม่เข้ากันกับชุดกิโมโน 555 แต่วัดที่ไป รวมทั้งของกินมันน่าถ่ายรูปมาก อดควักขึ้นมาถ่ายไม่ได้จริงๆ 555
ช่วงที่เราไปอากาศประมาณ 9 – 10 องศา แต่ใส่แค่กิโมโนนี่เดินได้สบายเลย อุ่นมาก (แหมะ ก็ตั้งกี่ชั้น)
เราใส่ขึ้นรถบัสไปวัด Kinkaku-ji ด้วยเอ้า ค่อนข้างอึดอัดมากตอนอยู่บนรถเมล์ เพราะคนเยอะมาก แล้วต้องยืนตลอดทาง ชุดหายใจไม่ค่อยจะออก
เสร็จจากวัด Kinkaku-ji เราเลยเอาไปคืนก่อนดีกว่า ไม่ไหวแล้ว 555 ตอนนั้นก็ประมาณ 4 โมงเย็น ไปถึงพนักงานก็พาเราเข้าห้องแต่งตัว แล้วรีบถอดชุดออกให้เราอย่างรวดเร็ว
พนักงาน: (ทำท่าถอนหายใจออกมาแรงๆ ตอนปลดสิ่งที่คาดเอวทั้งหมดออกมาให้เรา) “เฮ้อออออออ”
ลูกไผ่: “เฮ้อออออออออ 55555”
มันโล่งมากกก สบายตัวขึ้นเยอะเลย ถึงจะอึดอัด หายใจยากไปหน่อย เราก็รู้สึกคุ้มค่าที่ได้ใส่มาก
พนักงานที่นี่น่ารักมากกกก ประทับใจสุดๆค่ะ
พี่ปุ่น: “บ่นๆนี่ ถ้าได้มาคราวหน้านี่จะใส่อีกมั้ย”
ลูกไผ่: “ใส่ค่า 555”
ฝากเข้าไปติดตามอ่านรีวิวเต็มๆและดูรูปสวยๆของทริปตะลุยญี่ปุ่น 17 วันของเรา ที่เพจเราด้วยน้า
https://www.facebook.com/wherewegopage