---

รีวิว DAY 1- DAY 4 อยู่ในรีวิวนี้ทั้งหมด ค่าใช้จ่ายทุกสิ่งอย่างในทริปนี้รวมประมาน 18,000 บาท (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน) หรือเพื่อนๆที่สนใจท่องเที่ยวแค่บางจังหวัด สามารถดู ค่าใช้จ่าย การเดินทาง ของแต่ที่ ในแต่ละวันได้นะคะ  ^_^
DAY 1 :  การเดินทางจากสนามบันคันไซ ไปเกียวโต  => เที่ยว KYOTO วัดน้ำใส Gion  =>  ใส่ชุดกิโมโนเดินเที่ยวเกียวโตที่
              ร้านเช่าชุดกิโมโนเกียวโต YUMEYAKATA   [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้『YUMEYAKATA -OIKE BETTEI』https://www.th-kyotooike.yumeyakata.com/ => พร้อมที่พักหรูติดสถานีเกียวโต
              HOTEL KEIHAN KYOTO GRANDE [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้『HOTEL KEIHAN KYOTO GRANDE』

http://kyoto.hotelkeihan.co.jp/?_ga=2.263605006.328608418.1520931301-1648261554.1517478602
DAY 2 :  ไหว้พระดูกวางที่นารา NARA   => สัมผัสชาเขียวที่อุจิ UJI   => พักโรงแรมออนเซ็นที่เกียวโต
              URBAN HOTEL KYOTO NIJO PREMIUM [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้『URBAN HOTEL KYOTO NIJO PREMIUM』
http://www.uh-urban.com/nijo/en/
DAY 3 :  ทำซุชิที่เกียวโต KYOTO UMEMORI SUSHI SCHOOL   [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้『KYOTO UMEMORI SUSHI SCHOOL』http://www.umemori-sushischool.com/profile.htm#2=>
              เที่ยวโอซาก้า ขึ้นบกลงน้ำ  => ช็อปปิ้งบนถนนที่ยาวที่สุด TENJINBASHISUJI  SHOPPING STREET
DAY 4 :  เที่ยวเมือง OSAKA  => ตลาด KUROMON   => เที่ยวงานคอสเพลย์ระดับโลก NIPPOMBASHI STREET FESTA
             [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ NIPPOMBASHI STREET FESTA http://nippombashi.jp/festa/2018/

---

ก่อนอื่นเรามารู้จักภูมิภาคคันไซ คราวๆกันก่อนนคะ หากพูดถึงญี่ปุ่นภูมิภาคคันไซ เป็นภูมิภาคน่าสนใจอีกหนึ่งอย่างเพราะคันไซ ถือเป็นที่รวมของสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น เช่น เกียวโต (Kyoto) เมืองหลวงเก่าแก่ที่สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี โอซาก้า (Osaka) ที่ถือเป็นเมืองอู่ขาวอู่น้ำของญี่ปุ่น และอีก 4 จังหวัดใกล้เคียงอย่าง  เฮียวโงะ (Hyogo), นารา (Nara), ชิงะ (Shiga) และวากายามา (Wakayama) ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง  มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเยี่ยมชมมากมายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงพีคของแต่ละทุกฤดู เช่น ฤดูหนาว เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ที่คนไทยชอบกันมากมายกับหิมะ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงฤดูแห่งการชมซากุระที่เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมีนา - ต้นเดือนเมษายน ช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ในช่วงเดือนที่กล่าวมานี้ เป็นช่วงพีค หากเพื่อนๆมีเพลนท่องเที่ยวญี่ปุ่นกันแล้ว การจองโรงแรม หรือตั๋วเครื่องบิน และการเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆเป็นเรื่องที่สำคัญของการท่องเที่ยวเช่นกันค่ะ

รีวิวในทริปนี้ของเราเองภาพอาจจะไม่สวย แต่เน้นการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และโรงแรม การท่องเที่ยวในญี่ปุ่นหลักๆค่ะ  เกริ่นกันมายาว ว่าแล้วตามไปดูกันเลยนะคะ




และสำหรับทริปนี้พิเศษหน่อยเราเพื่อนที่อาศัยอยู่ที่เกียวโต พาเดินทางท่องเที่ยว กินของอร่อย และแนะนำร้านร้านเช่าชุดกิโมโนราคาถูกพร้อมกับเป็นนางแบบใส่ชุดกิโมโน ก็เลยขออนุญาติเอาภาพเพื่อนมาลงอีกสักรอบ คริๆๆ

เราเดินทางมาถึงสนามบินคันไซเวลาก่อนเวลา 8 โมงเช้า และกว่าผ่าน ตม โน่นแนะนั่น ก็ไม่ค่อยมีอะไรมากมาย กรอกใบ ตม เรียบร้อยดี ก็ผ่านตลอด มีเยอะก็เห็นจะเป็นนักท่องเที่ยว เราออกกเดินทางไปยังเกียวโตกันเลยนะคะ แต่ก่อนออกเดินทาง เราแนะนำเพื่อนๆนะคะ หากใครที่มีสัมภาระเยอะ และต้องการจะไปเดินเที่ยวเลยแบบเรา สามารถส่งของไปที่โรงแรมก่อนได้เลย

ที่สนามบิน หลังจากออกมาตรงจุด Arrivals ให้เลี้ยวซ้ายและตรงไป มีจุดบริการส่งของทางไปรษณีย์และ Delivery Service และสนามบินจะมีบริษัทส่งของอยู่หลายบริษัท แต่วันนี้เลือกใช้บริการ JALABC  เราสามารถส่งของสัมภาระ กระเป๋าเดินทางไปโรงแรมก่อนได้นะคะ อันนี้ก็จะดีมากหากใครอยากเที่ยวโอซาก้า หรือเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดอื่นๆต่อ สะดวกดีค่ะ

การส่งของไปที่เกียวโตหรือโอซาก้าราคาจะขึ้นอยู่กับขนาดของสัมภาระ ราคาจะอยู่ในช่วง 1910 เยนถึง 2580 เยนกระเป๋าขนาดเล็กแบบถือขึ้นเครื่องเราราคาอยู่ที่ 2130 เยน ถ้าส่งของก่อนเวลา 11 โมงเช้าของก็จะไปถึงที่โรงแรมภายในตัวเมืองเกียวโต ประมาณ 18:00 เลย

1. รถไฟแบบด่วนพิเศษ「HARUKA」ใช้เวลาประมาณ 80 นาที 2850 เยน
2. นั่งรถบัสเพื่อไป สถานีเกียวโตประตูฮาจิโจ Kyoto Station Hachijo Entrance ใช้เวลาประมาณ 90 นาที 2550 เยน
3. นั่งรถไฟนันไค NANKAI เพื่อไป「TENGACHAYA」เปลี่ยนรถไฟเป็นรถไฟใต้ดินสายซาไกซูจิ Subway SAKAISUJI Line กับ รถไฟฮันคิว HANKYU
    เพื่อไป เมืองคาวาระมาจิ KAWARAMACHI ที่เกียวโตใช้เวลาประมาณ 120 นาที 1230 เยน（ในกรณีที่ใช้ KYOTO・Access Ticket）
ครั้งนีเรา เลือกเป็นข้อ ① รถไฟแบบด่วนพิเศษ「HARUKA」ที่สนามบินคันไซมี「JR Ticket Office」สำหรับชาวต่างชาติโดยเฉพาะด้วย ซื้อตั๋วก็ง่ายนิดเดียว


หลังจากออกมาตรงจุด Arrivals ให้เราเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 2  จากนั้นให้แล้วซ้ายเดินตรงไป จะถึงสถานี



รถไฟที่จะไปเกียวโต รถไฟแบบด่วนพิเศษ「HARUKA」ไม่นับส่วนหนึ่งก็จะมี 6 โบกี้รวมเข้าไว้ด้วยกันโบกี้ที่ 1 คือ ส่วน Green Car（First Class）ส่วนโบกี้ที่ 2 และ 3 จะเป็นโซนระบุที่นั่ง และตั้งแต่โบกี้ที่ 4 ถึง 6 จะเป็นโซนเลือกที่นั่งอิสระถ้าเป็นสถานีแรกอย่างสถานีสนามบินคันไซ ถ้าไปต่อแถวก่อน แม้ว่าจะเป็นโซนเลือกที่นั่งแบบอิสระแบบไม่ระบุที่นั่งก็อาจจะมีที่นั่งอยู่ แต่ก็แล้วแต่วันและเวลา บางทีอาจจะไม่มีที่นั่งก็ได้「HARUKA」จะวิ่งตั้งแต่ 6:30 จนถึง 22:16 และวิ่งชั่วโมงละ 2 เที่ยว เมื่อออกจากสนามบินคันไซแล้วก็จะผ่านไปที่ TENNOJI ที่มี 「ABENO HARUKAS」และสถานีที่เป็นสถานีเชื่อมต่อชินคันเซ็นอย่างสนานีชินโอซาก้า ก่อนและมุ่งหน้าไปสู่เกียวโต

ไม่น่าเชื่อเลยว่ามีมานานกว่า 24 ปีแล้วภายในรถไฟยังดูสะอาดและสว่างอยู่เลยที่นั่งเป็นแบบ Reclining seat หันหน้าไปด้านหน้า ได้นั่งแบบสบายๆไปจนถึงเกียวโตเลยระยะห่างที่นั่งของรถไฟญี่ปุ่นกว้างมาก กว้างกว่าเครื่องบินที่ นั่งมาซะอีก นั่งไปประมาณ 30 นาทีก็จะผ่านในเมืองโอซาก้า ที่อยู่ด้านขวามือก็คือ ดองกี้โฮเตะ（อยากไปป！！）หรือจะเป็นโดมขนาดใหญ่ เคียวเซร่าโดม

รถไฟด่วนพิเศษ 「HARUKA」ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 20 นาทีก็มาถึงเกียวโตรถไฟของญี่ปุ่นจะต่างกับ SRT เรื่องการตรงเวลา รถไฟญี่ปุ่นจะมาถึงที่หมายแบบตรงเวลาเป๊ะเมื่อถึงสถานีเกียวโตก็ตรงไปตามทางเลย ระหว่างทางจะเจอทางออกช่องตรวจตั๋วแต่ให้เดินผ่านไปเลย เมื่อตรงไปเรื่อยๆก็จะเจอบันไดและบันไดเลื่อนเพื่อลงไปใต้ดิน เมื่อลงไปแล้วก็จะเจอทางออกช่องตรวจตั๋วให้ออกไปจากช่องนี้เมื่อออกมาแล้วก็จะเจอจุดขายตั๋วรถไฟใต้ดินทันที
ก่อนอื่นเราจะไปกันที่ร้านเช่าชุดกิโมโน YUMEYAKATA OIKE BETTEI


ให้นั่งรถไฟใต้ดินไปที่สถานี「KARASUMA OIKE」ด้วยรถไฟใต้ดินสายคาราสุมะ Subway KARASUMA Line และเดินเพียง 3 นาทีก็จะถึงร้าน「YUMEYAKATA OIKE BETTEI」
ก่อนอื่นก็ต้องซื้อตั๋วไป KARASUMA OIKE STATION วิธีซื้อก็ง่ายนิดเดียว ก่อนอื่นก็ต้องเช็คราคาตั๋วจากบอร์ดที่ติดอยู่ด้านบนตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติก่อนเป็นอย่างแรก ค่าใช้จ่ายจากสถานีเกียวโตไปสถานีคาราสุมะโออิเกะจะอยู่ที่ 210 เยน เมื่อเปลี่ยนภาษาแล้วก็ให้เลือกปุ่ม 「Ticket」และกด 210 ตามราคาที่ได้เช็คเมื่อกี้ และใส่เงินตามจำนวนเท่านี้ก็เรียบร้อย

เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วก็ผ่านเครื่องตรวจตั๋วเข้าไปเลย และลงบันไดเลื่อนหรือบันไดไปที่ชานชาลาไปสถานีคาราสุมะโออิเกะให้นั่งรถไฟจากชานชาลาที่ 2 และนั่งรถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่ KOKUSAIKAIKAN หรือ KITAOOJIนั่งไป 3 สถานีประมาณ 5 นาทีก็จะไปถึง สถานีคาราสุมะโออิเกะ


เมื่อถึงคาราสุมะโออิเกะก็ให้ขึ้นบันไดที่อยู่ด้านหน้าๆของชานชาลาเมื่อขึ้นบันไดมาแล้วออกจากช่องตรวจตั๋วให้ไปทางขวา ขึ้นบันไดจากทางออก 2 เมื่อขึ้นมาแล้วก็ให้เลี้ยวขวาที่ซอยแรก เดินไปตามถนน RYOUGAE MACHIDOURI ไปเรื่อยๆประมาณ 2 นาทีและก็จะเห็นร้านเช่าชุดกิโมโน เป็นร้านแบบตึกในเมืองเก่าอยู่ทางขวามือ ร้าน 『YUMEYAKATA-OIKEBETTEI』


เป็นร้านที่เปิดสาขาหลักในปี 2002 ที่ GOJOU เกียวโต และเปิดสาขาใหม่อีกสาขาที่ OIKE BETTEI เมื่อปีที่ผ่านมา ที่สาขา OIKE BETTEI แน่นอนว่ามีให้บริการเช่าและแต่งชุดกิโมโน ร้านยังมีแพลนต่างๆให้บริการอยู่ด้วย เช่น ด้วยตัวอาคารเป็นบ้านแบบสมัยเก่าจึงมี「แพลนชุดกิโมโน & ถ่ายรูป」, แพลน「Location Photo」ที่เราสามารถเดินถ่ายรูปไปรอบๆเมืองกับช่างภาพมืออาชีพของทางร้าน และยิ่งไปกว่านั้นคือ แพลน「Wedding Photo」ที่เหมาะสำหรับคู่รัก ทั้งที่กำลังจะแต่งงาน เพิ่งแต่งงาน หรือคู่รักที่อยากมีรูปสวยๆเก็บเอาไว้ ก็เป็นแพลนที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว