ห้องอาหาร Volti Ristorante and Bar หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า Volti จะปลุกประสาทสัมผัสของผู้ที่ชื่นชอบอาหารอิตาเลียนด้วยอาหารที่นำเสนอในรูปแบบทันสมัยให้รสชาติต้นตำรับด้วยฝีมือของเชฟลูก้า คาสินี ฟังเพลง Jazz / Classic จิบเครื่องดื่ม พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา จากห้องอาหารที่กว้างขวาง ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามหรูหรา ช่วยเพิ่มอรรถรสให้กับอาหารมื้อพิเศษ
Volti ตั้งอยู่ที่ชั้นล็อบบี้ของแชงกรี-ลาวิง โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ เปิดให้บริการทุกคืนตั้งแต่เวลา 18.00 น. – 22.30 น. โวลติ (Volti) (เป็นภาษาอิตาลี แปลว่า ใบหน้า) สะท้อนถึงการต้อนรับ การมาพบปะกันของลูกค้าที่แวะเวียนมาแบบไม่ขาดสาย
Volti Restaurant and Bar จึงเกิดจากแนวคิดหลัก 3 ประการ ได้แก่ อาหารอิตาเลียนอันทันสมัยซึ่งมีรสชาติตามแบบต้นตำรับ, การแสดงดนตรีสดอันไพเราะ และบรรยากาศที่ผ่อนคลายและแสนอบอุ่น เพื่อให้แขกกลับมารับประทานอาหารที่ Volti อย่างสม่ำเสมอ
บรรยากาศใน Volti ได้รับการตกแต่งใหม่ จำนวนที่นั่ง 154 แขกจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เป็นกันเอง มีให้เลือกทั้งที่เป็นเล้าจน์ โซฟา บาร์ และโต๊ะอาหาร ที่ตกแต่งได้ทันสมัย ดูโปร่งและสบายตา มีการตกแต่งด้วยโคมไฟที่ผนังและเพดานทำให้ห้องดูสว่างมายิ่งขึ้น
เมนูอาหารของ Volti ถูกรังสรรค์รสชาติโดยเชฟมากฝีมือ นั่นคือ เชฟลูก้า คาสินี (Mr. Luca Casini) การรังสรรค์อาหารออกมาแต่ละรายการของเชฟไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ที่สวยงามเท่านั้น ทุกจานยังเน้นเรื่องรสชาติที่กลมกล่อมด้วย ซึ่งอาหารก็จะเป็นแนวอิตาเลี่ยนสไตล์โมเดิร์น แต่ยังคงทำให้ได้รับรสชาติแบบต้นตำรับอยู่
นี่เป็น Complementary ของทางห้องอาหาร แต่ว่าเค้าอบใหม่ ๆ เลยนะ ขนมปังจะใส่หัวหอมผัด ลงไปด้วยแล้วค่อยนำไปอบ จะได้ผิวที่กรอบนิด ๆ แต่ข้างในชุ่มฉ่ำมาก กินกับบัลซามิค หรือ Cold cut ก็อร่อยดีนะ
Marinated Octopus – 390 THB
เป็นการนำเอาหนวดของหมึกยักษ์ ไปตุ๋นแบบ Slow cook เพื่อให้เนื้อไม่เหนียว ซึ่งรูปลักษณ์และเนื้อสัมผัสที่ออกมาไม่เหมือนหนวกปลาหมึกเลย เหมือนไส้กรอก หรือเนื้อไก่มากกว่า รสชาติดีนะ ถ้าเทียบว่าเป็นอาหารอิตาเลี่ยน ผมว่าไม่เข้นมากเกินไป กินคู่กับ มันฝรั่ง มะกอกดำ และ มะเขือเทศอบแห้ง ก็ให้เมนูนี้ดูมีอะไรมากขึ้น
Yellow Fin Tuna Carpaccio – 410 THB (แนะนำให้ลอง)
จานนี้หน้าตาสวยงามเลย เป็นเนื้อทูน่าแล่บางวางแผ่บนจาน แล้วตกแต่งด้วยดอกไม้นิดหน่อย แล้วโรยหอมดอง เนื้อส้ม นั้นมะกอก และต้นมัสตาร์ด เล็กน้อย กินให้ทุกอย่างอยู่ในคำก็อร่อยดีครับ หรือจะกินกับ แครกเกอร์ก็อร่อยครับ รสชาติมัน ๆ นุ่ม ๆ มีกลิ่นหอมนิด ๆ ครับ
Cold Cut
ปกติทางห้องอาหารจะมีโต๊ะวางพาม่าแฮมเอาไว้ตรงกลางห้องเลย เวลาเราสั่งก็จะมีพนักงานมาสไลด์ให้กันเห็น ๆ เลยย วันที่ผมไปนี่มี 3 แบบด้วยกัน มาจากแต่ละเมืองของอิตาลี่ รสชาติก็จะแตกต่างกันเล็กน้อย ผมจะชอบอันที่ชื่อว่า San Daniele Ham มาจากทางตอนเหนือของอิตาลี่ รสชาติจะไม่เค็มมาก เพราะจะมีความหวานมาตัดนิดหน่อย และเนื้อนุ่มกว่าอีก 2 อันครับ
Fettuccine Porcini – 490 THB (แนะนำให้ลอง)
จานนี้บอกเลยว่าสำหรับผม มันอร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินเฟตตูชินี่มาครับ เพราะที่อื่นเส้นเฟตตูชินี่จะล่วน ๆ ขาดง่าย กินแล้วสัมผัสความเหนียวนุ่มได้ไม่เหมือนพวกเส้นสปาเก็ตตี้ หรือ Angel hair เลย แต่เส้นเฟตตูของที่นี่เป็นเส้นสดที่มีความเหนียวนิด ๆ มีความนุ่มหน่อย ๆ กินแล้วได้อรรถรสมาก ทั้ง ๆ ที่เรื่องรสชาติก็เฉย ๆ เพราะเค้าปรุงมาได้หอมดีแต่รสยังไม่จัด ผมเลยใส่แค่พาเมซานซีส เกลือ พริกไท ตามที่เราชอบก็อร่อยแล้วครับ
Roasted Sea Bass – 700 THB
เมนูนี้น่าจะเหมาะกับคนที่รักสุขภาพเพราะเป็นเนื้อปลากะพงขาวเอาไปจี่กับกระทะให้หนังกรอบ แต่เนื้อยังคงนุ่งอยู่ กินคู่กับซอสสูตรของทางห้องอาหารก็จะออกครีม ๆ จืด ๆ หน่อย และก็มีมันฝรั่งหั่นเป็นแว่นที่เอาไปอบมาแล้ว และก็มีผักอีกนิดหน่อย เมนูนี้โดยรวมเนื้อสัมผัสดี แต่รสชาติยังอ่อนไป
Grilled Lamb Chop – 1,100 THB (แนะนำให้ลอง)
เมนูนี้บอกเลยว่าไฮไลท์ ดูหน้าตาเหมือนจะธรรมดา ก็แค่ Lamb Chop แต่ที่ไม่ธรรมดาคือ ความนุ่ม ความหอมของเค้า ทำออกมาได้ดีมาก เนื้อนี่ juicy สุด ๆ แต่ไม่มีกลิ่นคาวเลย เนื้อข้างในก็ไม่แดง ออกชมพูละเลื่อ ๆ คือมันกำลังดีมาก น้ำเกรวี่ยังเฉย ๆ แต่ก็เพิ่มความชุ่มฉ่ำให้เนื้อแกะได้ สำหรับผมก็เกลือ พริกไท อีกนิดหน่อย เพอร์เฟคแล้ว
Sirloin, Tajima Wagyu Beef - 1,550 THB (แนะนำให้ลอง)
เมนูนี้ก็ไฮไลท์ไม่แพ้ Lamb Chop เลยครับ เพราะทุกอย่างทำได้พอดีมาก กินแล้วรู้สึกถึงความพิถีพิถันในการเสิร์ฟเลย น่าจะมีการพักเนื้อไว้นิดนึง และเสิร์ฟมาในจานที่ร้อน ๆ ทำให้ไม่มีน้ำแดง ๆ นองอยู่ และเนื้อยังร้อนอยู่ ความสุกก็เป๊ะใช้ได้เลยย ผิวเกรียมนิด ๆ เนื้อข้างในชมพูสวยมาก ความชุ่มฉ่ำไม่ต้องพูดถึง มันเพอร์เฟค เนื้อนุ่มมาก อยากแนะนำให้ลองกันครับ
เครื่องดื่มวันนี้ที่ได้ลอง มีที่เป็น Welcome drink เนี่ยอร่อยมาก หอมกลิ่นดอกกุหลาบถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อ Rosemary Rose อร่อยมาก
ส่วนอีก 2 รายการคือ Mojito และ White wine Sangria ซึ่งรสชาติผมว่ายังไม่ค่อยเท่าไหร่ Mojito รสอ่อนไป เพิ่มหวาน และเพิ่ม Rum ได้อีกหน่อยน่าจะดีกว่านี้ ส่วน White wine Sangria เหมือนจะผสมน้ำส้มโอลงไปด้วย และส้มโอที่ใช้คงไม่ค่อยหวาน จึงให้รสชาติที่ เปรี้ยว ซ่า ขม จึงไม่ค่อยถูกจริตผมเท่าไหร่ครับ
Mojito
White wine Sangria
ของหวาน วันนี้กินเป็น Vanila Mille feuille และ Vanilla Panacotta ทั้ง 2 เมนูอร่อยมาก อร่อยเว่อร์ แนะนำให้ลองสั่งมากินดู
Vanila Mille feuille
เนื้อมูสนุ่มหอมมาก แป้งมิลเฟยก็บางกรอบแทบจะละลายหายไปในปาก ไม่แข็งกระด้างเลย รสชาติหวานหอมกำลังดี แต่ก็มีแยมและเซอร์เบตสตอเบอร์รี่ไว้ตัดกัน อร่อยมาก ๆ
Vanilla Panacotta
เมนูนี้เป็นกึ่ง ๆ เมนูโมเลกุลา เพราะมีการนำไนโตรเจนเหลวมาใส่กับมัสคาโปนชีส แล้วนำมาโรยบนแพนนาคอตต้านุ่ม ๆ หอม ๆ และยังมีเซอร์เบตสตอเบอร์รี่อีกด้วย เวลากินก็ตักให้ครบทุกอย่างในคำเดียวนะมันอร่อย หอม เย็น นุ่ม เป็นขนมที่ลงตัวมาก
Volti มีการแสดงดนตรีสดทุกคืน ซึ่งช่วงนี้ก็จะเป็นการร้องเพลงสากลยอดนิยมในยุค 1960 และ 1970 นำเสนอโดย เดรี โรวแลนด์ นักร้องและเอนเตอร์เทนเนอร์มากความสามารถ ซึ่งจะทำให้แขกรู้สีกเสมือนได้ย้อนเข้าไปในยุคของแนวเพลง ฟังสบายและมีท่วงทำนองที่พริ้วไหว
สรุป Volti Ristorante and Bar หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Volti เป็นห้องอาหารสุดสวยที่บรรยากาศดีมาก กว้างขวาง ตกแต่งได้เป็นกันเอง มีความทันสมัยโดยมีกลิ่นอายความเป็นอิตาเลี่ยนเล็ก ๆ เมนูอาหารหน้าตาดี รสชาติอาหารดีมาก มีความพอดีเหมาะสมกันในแต่ละจานดี ใช้วัตถุดิบดี เรื่องเครื่องดื่มก็แล้วแต่เลือกครับ ผมว่าพวกคอกเทลยังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ แต่น้ำผลไม้อร่อยหอมดี การบริการก็ประทับใจครับ เรื่องราคาก็ราคาโรงแรม สูงเป็นปกติ แต่จากสิ่งที่เราได้รับ ผมถือว่าราคาไม่ได้แรงเวอร์ครับ สรุปแล้วประทับใจครับ
สถานที่ตั้ง : ตั้งอยู่ที่ชั้นล็อบบี้ของแชงกรี-ลาวิง โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ บนถนนบางรัก
Facebook :
https://www.facebook.com/shangrilabkk
เบอร์ร้าน : 0-2236-9952 , 0-2236-7777
เว็บไซต์:
www.shangri-la.com/bangkok
รีวิวอื่น ๆ :
http://ppantip.com/profile/856946
[SR] Volti Ristorante and Bar ขุมทรัพย์ของอาหารอิตาเลียนมื้อหรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ
ห้องอาหาร Volti Ristorante and Bar หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า Volti จะปลุกประสาทสัมผัสของผู้ที่ชื่นชอบอาหารอิตาเลียนด้วยอาหารที่นำเสนอในรูปแบบทันสมัยให้รสชาติต้นตำรับด้วยฝีมือของเชฟลูก้า คาสินี ฟังเพลง Jazz / Classic จิบเครื่องดื่ม พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา จากห้องอาหารที่กว้างขวาง ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามหรูหรา ช่วยเพิ่มอรรถรสให้กับอาหารมื้อพิเศษ
บรรยากาศใน Volti ได้รับการตกแต่งใหม่ จำนวนที่นั่ง 154 แขกจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เป็นกันเอง มีให้เลือกทั้งที่เป็นเล้าจน์ โซฟา บาร์ และโต๊ะอาหาร ที่ตกแต่งได้ทันสมัย ดูโปร่งและสบายตา มีการตกแต่งด้วยโคมไฟที่ผนังและเพดานทำให้ห้องดูสว่างมายิ่งขึ้น
นี่เป็น Complementary ของทางห้องอาหาร แต่ว่าเค้าอบใหม่ ๆ เลยนะ ขนมปังจะใส่หัวหอมผัด ลงไปด้วยแล้วค่อยนำไปอบ จะได้ผิวที่กรอบนิด ๆ แต่ข้างในชุ่มฉ่ำมาก กินกับบัลซามิค หรือ Cold cut ก็อร่อยดีนะ
เครื่องดื่มวันนี้ที่ได้ลอง มีที่เป็น Welcome drink เนี่ยอร่อยมาก หอมกลิ่นดอกกุหลาบถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อ Rosemary Rose อร่อยมาก
ส่วนอีก 2 รายการคือ Mojito และ White wine Sangria ซึ่งรสชาติผมว่ายังไม่ค่อยเท่าไหร่ Mojito รสอ่อนไป เพิ่มหวาน และเพิ่ม Rum ได้อีกหน่อยน่าจะดีกว่านี้ ส่วน White wine Sangria เหมือนจะผสมน้ำส้มโอลงไปด้วย และส้มโอที่ใช้คงไม่ค่อยหวาน จึงให้รสชาติที่ เปรี้ยว ซ่า ขม จึงไม่ค่อยถูกจริตผมเท่าไหร่ครับ
White wine Sangria
ของหวาน วันนี้กินเป็น Vanila Mille feuille และ Vanilla Panacotta ทั้ง 2 เมนูอร่อยมาก อร่อยเว่อร์ แนะนำให้ลองสั่งมากินดู
เนื้อมูสนุ่มหอมมาก แป้งมิลเฟยก็บางกรอบแทบจะละลายหายไปในปาก ไม่แข็งกระด้างเลย รสชาติหวานหอมกำลังดี แต่ก็มีแยมและเซอร์เบตสตอเบอร์รี่ไว้ตัดกัน อร่อยมาก ๆ
Volti มีการแสดงดนตรีสดทุกคืน ซึ่งช่วงนี้ก็จะเป็นการร้องเพลงสากลยอดนิยมในยุค 1960 และ 1970 นำเสนอโดย เดรี โรวแลนด์ นักร้องและเอนเตอร์เทนเนอร์มากความสามารถ ซึ่งจะทำให้แขกรู้สีกเสมือนได้ย้อนเข้าไปในยุคของแนวเพลง ฟังสบายและมีท่วงทำนองที่พริ้วไหว
สรุป Volti Ristorante and Bar หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Volti เป็นห้องอาหารสุดสวยที่บรรยากาศดีมาก กว้างขวาง ตกแต่งได้เป็นกันเอง มีความทันสมัยโดยมีกลิ่นอายความเป็นอิตาเลี่ยนเล็ก ๆ เมนูอาหารหน้าตาดี รสชาติอาหารดีมาก มีความพอดีเหมาะสมกันในแต่ละจานดี ใช้วัตถุดิบดี เรื่องเครื่องดื่มก็แล้วแต่เลือกครับ ผมว่าพวกคอกเทลยังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ แต่น้ำผลไม้อร่อยหอมดี การบริการก็ประทับใจครับ เรื่องราคาก็ราคาโรงแรม สูงเป็นปกติ แต่จากสิ่งที่เราได้รับ ผมถือว่าราคาไม่ได้แรงเวอร์ครับ สรุปแล้วประทับใจครับ
สถานที่ตั้ง : ตั้งอยู่ที่ชั้นล็อบบี้ของแชงกรี-ลาวิง โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ บนถนนบางรัก
Facebook : https://www.facebook.com/shangrilabkk
เบอร์ร้าน : 0-2236-9952 , 0-2236-7777
เว็บไซต์: www.shangri-la.com/bangkok
รีวิวอื่น ๆ : http://ppantip.com/profile/856946
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น