"ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก" ตะลุยมาเลเซีย-สิงคโปร์ โดยไม่นั่งเครื่องบิน
ตอนที่ 13 ปีนัง มาเลเซีย
กว่ารถจะออกจากสถานีขนส่ง TPS Terminal Bersepau ก็ 15.20 น. ตอนเดินทางก็มีแต่คนเล็งถามกัน ตกลงไม่มีใครรู้เรื่อง รถจอดให้เข้าห้องน้ำ 3 ครั้ง รั้งที่สามเกือบถึงอยู่แล้ว ทำให้ผู้โดยสารนั่งมองหน้ากันเลิ่กลั่ก พอถึงปลายทางทุกคนนั่งเฉย จนคนขับบอกว่า Butterworth จึงลุกรี้ลุกลนลงจากรถ ไปถามซื้อตั๋วไปปีนัง คนขายตั๋วบอกว่า เดินออกไปแล้วเลี้ยวขวา ปรากฏว่ามันเป็นทางไปท่าเรือเฟอรี่ ค่าเรือข้ามฟาก คนละ 1.2 ริงกิต
ที่ท่าเรือเฟอรี่ ถามคุณแม่ยังสาวที่มากับลูกชายวัยไม่เกิน 10 ขวบ และแม่สูงวัย เรื่องโรงแรม และร้านเช่ามอเตอร์ไซด์ แม่ลูกเล็กบอกว่าให้ตามเธอไป แล้วเธอจะชี้ทางให้ ขึ้นเฟอรี่ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที พอถึงฝั่งปีนังที่ท่าเรือ Pangkalan Raja Tun Uda เธอคุยกับชายหนุ่มอีกคน ให้ช่วยกันพูดภาษาอังกฤษ บอกให้เรานั่งรถชัตเติลฟรีเข้าตัวเมือง พอดีรถมา พวกเขาชี้ให้เราวิ่งตามรถไป รถไปจอดที่ Utamakan Keselematan Terminal B แต่ไม่ให้เราขึ้น เราก็เดาเอาว่าเป็นเพราะเราช้า เราจึงนั่งกินข้าวรอ แต่พอเวลา 22.15 น. เขาก็สตาร์ทรถแล้วเปิดประตูให้ขึ้นรถมีเราแค่ 2 คนเท่านั้น เราก็ไปเสี่ยงเอาว่าจะลงตรงไหน เพราะคนขับไม่อยากสื่อสารกับเรา จนถึงย่านที่มีโรงแรม
มีคนโบกขึ้นพอดีเราจึงลงรถไปถามหาย่านเกสต์เฮ้าส์ อยู่ถนน Chulia เจอร้านมอเตอร์ไซด์ชื่อ La belle กำลังปิดร้านพอดี บอกเราว่าเปิดพรุ่งนี้ 9.00 น. ในขณะที่เรากำลังจะถอดใจ เขาถามว่าเรามาจากไหน พอบอกว่าว่าจากประเทศไทย เขาก็เปิดประตูเชิญเราเข้าร้าน ขอดูใบขับขี่ซึ่งลุงยื่นใบขับขี่แบบใหม่ให้ เจ้าของร้านสาวแม่ลูกอ่อน ิ้ยิ้มแล้วบอกเราว่า ใบอนุญาตจากไทยใช้ได้เลย เมื่อป้าถามว่า ต้องใช้ใบขับขี่นานาชาติไหม เธอตอบว่าไม่จำเป็น เราโล่งใจเพราะลืมเอาติดไป เธอถ่ายเอกสารใบขับขี่ กรอกสัญญาเช่ารถ ให้ลุงเซ็นชื่อ แล้วเอารถไฟได้เลย
เขาปิดร้านเวลา 22.00 น. แต่เราได้เช่ารถตอน 22.30 น. มีกล่องบรรจุสัมภาระซึ่งมีเสื้อกันฝน 2 ตัว ติดท้ายรถ แถมชาเขียวแช่เย็นให้ 2 ขวด เมื่อรู้ว่าเราจะไปลังกาวีต่อ เจ้าของร้านสาวแนะนำให้เราซื้อตั๋วไปลังกาวี ที่ท่าเรืออย่าซื้อกับนายหน้า เราจ่ายค่าเช่ารถ 30 ริงกิต ค่าประกัน 150 ริงกิต เมื่อเราให้เธอแนะนำโรงแรมให้ เธอถามว่าเราจะจ่ายค่าโรงแรมเท่าไร พอเราบอกว่า 80 ริงกิต เธอแนะนำโรงแรมโอเรียนเต็ล แต่เราเดินข้ามถนนไปโรงแรม ที่อยู่ตรงข้ามกับ La belle ชื่อ Hang Chao Hotel คืนละ 60 ริงกิต เตียงใหญ่มีห้องน้ำแต่ไม่มีส้วม แต่ห้องส้วมก็อยู่ตรงหน้าห้องเรานั่นเอง เราเก็บของเข้าที่ ยังมีเวลาอีก 1 ชั่วโมงก่อนที่โรงแรมจะปิดประตู ออกไปขี่รถสำรวจรอบๆ เมืองจอร์จทาวน์และตลาดโต้รุ่ง 1 รอบ แล้วกลับที่พัก อาบน้ำ ซักผ้า นอน
[CR][SR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยมาเลเซีย-สิงคโปร์ โดยไม่นั่งเครืองบิน ตอน 13 ปีนัง มาเลเซีย
ตอนที่ 13 ปีนัง มาเลเซีย
กว่ารถจะออกจากสถานีขนส่ง TPS Terminal Bersepau ก็ 15.20 น. ตอนเดินทางก็มีแต่คนเล็งถามกัน ตกลงไม่มีใครรู้เรื่อง รถจอดให้เข้าห้องน้ำ 3 ครั้ง รั้งที่สามเกือบถึงอยู่แล้ว ทำให้ผู้โดยสารนั่งมองหน้ากันเลิ่กลั่ก พอถึงปลายทางทุกคนนั่งเฉย จนคนขับบอกว่า Butterworth จึงลุกรี้ลุกลนลงจากรถ ไปถามซื้อตั๋วไปปีนัง คนขายตั๋วบอกว่า เดินออกไปแล้วเลี้ยวขวา ปรากฏว่ามันเป็นทางไปท่าเรือเฟอรี่ ค่าเรือข้ามฟาก คนละ 1.2 ริงกิต
ที่ท่าเรือเฟอรี่ ถามคุณแม่ยังสาวที่มากับลูกชายวัยไม่เกิน 10 ขวบ และแม่สูงวัย เรื่องโรงแรม และร้านเช่ามอเตอร์ไซด์ แม่ลูกเล็กบอกว่าให้ตามเธอไป แล้วเธอจะชี้ทางให้ ขึ้นเฟอรี่ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที พอถึงฝั่งปีนังที่ท่าเรือ Pangkalan Raja Tun Uda เธอคุยกับชายหนุ่มอีกคน ให้ช่วยกันพูดภาษาอังกฤษ บอกให้เรานั่งรถชัตเติลฟรีเข้าตัวเมือง พอดีรถมา พวกเขาชี้ให้เราวิ่งตามรถไป รถไปจอดที่ Utamakan Keselematan Terminal B แต่ไม่ให้เราขึ้น เราก็เดาเอาว่าเป็นเพราะเราช้า เราจึงนั่งกินข้าวรอ แต่พอเวลา 22.15 น. เขาก็สตาร์ทรถแล้วเปิดประตูให้ขึ้นรถมีเราแค่ 2 คนเท่านั้น เราก็ไปเสี่ยงเอาว่าจะลงตรงไหน เพราะคนขับไม่อยากสื่อสารกับเรา จนถึงย่านที่มีโรงแรม
มีคนโบกขึ้นพอดีเราจึงลงรถไปถามหาย่านเกสต์เฮ้าส์ อยู่ถนน Chulia เจอร้านมอเตอร์ไซด์ชื่อ La belle กำลังปิดร้านพอดี บอกเราว่าเปิดพรุ่งนี้ 9.00 น. ในขณะที่เรากำลังจะถอดใจ เขาถามว่าเรามาจากไหน พอบอกว่าว่าจากประเทศไทย เขาก็เปิดประตูเชิญเราเข้าร้าน ขอดูใบขับขี่ซึ่งลุงยื่นใบขับขี่แบบใหม่ให้ เจ้าของร้านสาวแม่ลูกอ่อน ิ้ยิ้มแล้วบอกเราว่า ใบอนุญาตจากไทยใช้ได้เลย เมื่อป้าถามว่า ต้องใช้ใบขับขี่นานาชาติไหม เธอตอบว่าไม่จำเป็น เราโล่งใจเพราะลืมเอาติดไป เธอถ่ายเอกสารใบขับขี่ กรอกสัญญาเช่ารถ ให้ลุงเซ็นชื่อ แล้วเอารถไฟได้เลย
เขาปิดร้านเวลา 22.00 น. แต่เราได้เช่ารถตอน 22.30 น. มีกล่องบรรจุสัมภาระซึ่งมีเสื้อกันฝน 2 ตัว ติดท้ายรถ แถมชาเขียวแช่เย็นให้ 2 ขวด เมื่อรู้ว่าเราจะไปลังกาวีต่อ เจ้าของร้านสาวแนะนำให้เราซื้อตั๋วไปลังกาวี ที่ท่าเรืออย่าซื้อกับนายหน้า เราจ่ายค่าเช่ารถ 30 ริงกิต ค่าประกัน 150 ริงกิต เมื่อเราให้เธอแนะนำโรงแรมให้ เธอถามว่าเราจะจ่ายค่าโรงแรมเท่าไร พอเราบอกว่า 80 ริงกิต เธอแนะนำโรงแรมโอเรียนเต็ล แต่เราเดินข้ามถนนไปโรงแรม ที่อยู่ตรงข้ามกับ La belle ชื่อ Hang Chao Hotel คืนละ 60 ริงกิต เตียงใหญ่มีห้องน้ำแต่ไม่มีส้วม แต่ห้องส้วมก็อยู่ตรงหน้าห้องเรานั่นเอง เราเก็บของเข้าที่ ยังมีเวลาอีก 1 ชั่วโมงก่อนที่โรงแรมจะปิดประตู ออกไปขี่รถสำรวจรอบๆ เมืองจอร์จทาวน์และตลาดโต้รุ่ง 1 รอบ แล้วกลับที่พัก อาบน้ำ ซักผ้า นอน
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น