[CR][SR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยมาเลเซีย-สิงคโปร์ โดยไม่นั่งเครืองบิน ตอน 9 สิงคโปร์ ประเทศแห่งเทคโนโลยี

"ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก" ตะลุยมาเลเซีย-สิงคโปร โดยไม่นั่งเครื่องบิน
ตอนที่ 8 สิงคโปร์ ประเทศแห่งเทคโนโลยี

วันพุธที่ 20 มกราคม 2559 เราออกจากโรงแรมตอน 06.00 น. ถึงท่ารถ รถกำลังจะออกพอดี

ซื้อตั๋วบนรถคนละ 25 ริงกิต ไปสิงคโปร์ ประเทศที่คุณภาพการศึกษา และความโปร่งใสเป็นที่หนึ่งใน ASEAN ด้วยพื้นที่ 718 ตร.กม ประชากร 5.5 ล้านคน รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปี 55,182 ดอลล่าร์ มากกว่าไทย 9.4 เท่า คั้งประเทศปี 2362 เป็นเอกราชเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2506 ขอรวมกับมาเลย์ วันที่ 16 กันยายน 2506 แยกจากมาเลย์ วันที่ 9 สิงหาคม 2508 เพราะมาเลย์รังเกียจที่สิงคโปร์ไม่มีทรัพยากรใดๆ ขณะนี้มีเมืองใหม่ 2 เมือง คือ Marina Bay กับ Kampong Bugis เพราะถมทะเลเพิ่มพื้นที่ทุกปี

พอถึงด่านลงรถไปเช็คพาสปอร์ต เราเข้าแถวผิด ต้องไปต่อแถวใหม่ ทำให้เสียเวลา ลุงตกใจกลัวรถหนี ลงไปที่ทางออก A ขึ้นรถสายเดิมแต่คันใหม่ ตอนข้ามสะพานรถติดนานประมาณ 20 นาที ลงจากรถเดินเข้าด่าน คราวนี้กะหร่อง 2 คนไม่ได้กรอกใบเข้าประเทศ ก่อนไปยืนเข้าแถว พอถึงตาตัวเองไม่มีใบเข้า-ออก ต้องย้อนไปกรอกใหม่ ทำให้เสียเวลา ไปเข้าคิวใหม่พอถึงคิว ก็มีปัญหาว่าใช้พาสปอร์ตเล่มใหม่ ต้องรอให้จนท.ลงมาพาขึ้นไปชั้นบน เพื่อตรวจสอบประวัติ ป้าถามว่า ถ้าเอาพาสปอร์ตเก่าไปด้วยจะเร็วขึ้นมั้ย จนท.ตม.บอกว่า เหมือนกันเพราะต้องขึ้นไปตรวจสอบประวัติอยู่ดี พอขึ้นไปนั่งรอเขาเรียกลุงเข้าไปก่อน ป้าใจไม่ดีกลัวลุงตอบไม่ได้ พอลุงออกมา เขาเรียกป้าเข้าไป ปรากฏว่า จนท. 3-4 คน ทั้งชายและหญิงพยายามพูดภาษาไทย เรียงคำเข้าประโยคสลับไปมา ต้องชื่นชมที่พวกเขาเป็นคนรุ่นใหม่ ที่เรียนภาษาไทย ในขณะที่เราพูดภาษามาเลย์ไม่ได้ เขาให้ป้าเปิดกระเป๋าคล้องคอ เขาล้วงกระเป๋าเอาบัตรของลุงออกมา เพราะลุงบอกว่า อยู่ที่ป้า แล้วก็บอกให้เอาเงินสิงคโปร์ออกมานับ ความจริงที่ทั้งป้าและจนท.ไม่เห็น คือ ยังมีธนบัตรใบละ 50 ติดอยู่ในปึกมาเลย์อีกเล็กน้อย พอออกจากห้องจนท. เอาพาสปอร์ตออกมาให้จนท.ข้างนอกซักประวัติต่อ แล้วก็ตัองรอให้จนท.พาลงไปส่งเพื่อออกด่าน

ออกไปเข้าคิวขึ้นรถสายเดิม ตอนนั่งรถ ถามสาวมาเลย์เชื้อสายจีนที่นั่งติดกัน ว่าถ้าเราจะไป Marina Bay เราควรจะไปต่อรถที่ไหน น้องบอกว่าให้ไปด้วยกันที่สถานี MRT Kranji ที่ถนน Queen Street ตามป้ายหน้ารถ



สถานี Marina Bay เป็นสถานีสุดท้ายของ MRT สายนั้น เราซื้อตั๋วจากตู้คนละ 2.6 ดอลล่าร์ นั่งสายสีแดงไปจนสุดสาย ลงจาก MRT เดินไปตามป้ายมาริน่าเบย์ ทางเดินมีหลังคาตลอด ไปสุดทางที่ถนน Central Blv ย่านนั้นเป็นย่านการเงิน (Marina Financial Sentral)
มาริน่าเบย์ เป็นที่ที่ที่ดินมีราคาแพงที่สุดในโลก คือ กว่า 2 แสนล้านดอลล่าร์ มีตู้คาสิโน 1,600 ตู้



เราเดินตรงไปตามทางที่เห็นชิงช้าสวรรค์อยู่ลิบๆ สูงที่สุดในโลกด้วยความสูงจากพื้นดิน 265 เมตร เท่ากับตึก 42 ชั้น แวะกินอาหารใต้ร่มไม้ หน้าอาคารหอศิลป์ ตรงลานใต้ต้นไม้ เขาทำเป็นที่นั่งง่ายๆ ตามประสาศิลปิน ดูเหมือนว่ายังมีการสร้างต่อ เพราะเขามาวัดขนาดไม้ที่จะใช้ จากม้านั่งตัวที่เรานั่งหันหน้าสู่ท่าเรือMarina Bay Pier เป็นท่าเรือสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ มีภัตตาคารและห้างหลุยส์วิตตองด้วย
ถัดจากหอศิลป์เป็นศูนย์การค้า The Shoppes at Marina Bay Sands



ที่ด้านหลังเป็นสวนลอยฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูง 55 ชั้นมีโรงแรม ที่มีห้องพัก 2,561 ห้อง อยู่ใต้สวนที่มีจุดชมวิวบนดาดฟ้า
อีกด้านของห้างเป็น Art Science Museum และสะพาน The Helix สะพานเกลียว 2 ชั้นแห่งเดียวในโลก สูง 286 เมตร เดินขึ้นสะพานมีจุดชมวิวด้านข้างทั้ง 2 ด้าน ด้านในอ่าวเป็นที่ที่ชมการแสดงบนลานกลางน้ำ ขณะนั้นกำลังตกแต่งเวที






เดินลงจากสะพานเลี้ยวซ้ายเลียบอ่าว ผ่านเวทีกลางแจ้ง โรงละคร Espanade สะพานฉลอง 50 ปีที่เป็นเอกราช ไปยังเมอร์ไลอ้อน
ผ่านเมอร์ไลอ้อน เดินเลี้ยวขึ้นไปที่ทางออกไปโรงแรม Fullerton เดินข้ามถนน ตรงเชิงสะพานรถข้ามตรงไปที่โรงละครวิคตอเรีย ที่อยู่คนละฝั่งถนนกับพิพิธภัณพ์ศิลปะอาเซียน ่แวะซื้อไอติมประกบขนมปัง อันละ 2 ดอลล่าร์ คนละ 1 อัน คิดเป็นเงินไทย อันละ 50.50 บาท




เลียบโรงละครไปด้านหลังเป็นรัฐสภา ข้ามถนนไปด้านหลังพิพิธภัณฑ์ศิลปะ เป็นศาลฎีกา เดินทะลุจากศาลฎีกาเป็น City Hall
เรานั่ง MRT สายสีเขียวจากสถานี City Hall ไปสถานี Out Tram Park 3 สถานีคนละ 2.4 ดอลล่าร์ เปลี่ยนเป็นสายสีม่วง ไปลงสุดสายที่สถานี Harbour Front ซื้อตั๋วคนละ 2.4 ดอลล่าร์ตอนเปลี่ยนสายไม่มีตั๋วขาย ตอนจะออกจากสถานี ไปเพิ่มราคาตั๋วอีกคนละ 30 เซ็นต์





























แล้วออกจากสถานี ไปตามทาง Vivo City ขึ้นไปที่ L3 ตรงข้ามกับ Food Republic เป็นที่ขายตั๋วรถโมโนเรล เพื่อข้ามไปเกาะเซ็นโตซ่า ค่ารถโมโนเรลคนละ 3 ดอลล่าร์







รถโนโนเรล จะไปส่งหน้าสวนสนุก USS ที่จำลองแบบมาจาก ฮอลลี่วูดและ ออลันโด มีรางรถไฟรางคู่ที่สูงที่สุดในโลกเป็น Sci fic City ค่าเข้าสวนสนุกมี 2 ราคา วันธรรมดา เด็กคนละ 48 ดอลล่าร์ ผู้ใหญ่คนละ 66 ดอลล่าร์ แต่ถ้าเป็นวันหยุดเด็กคนละ 52 ดอลล่าร์ ผู้ใหญ่คนละ 72 ดอลล่าร์

วันนี้ฝนตกหนักน้ำท่วมดาดฟ้า ห้างวีโว่ซิตี้ แต่ตอนเราไปฝนเริ่มซา ออกไปถ่ายรูปข้ามฟากได้

มองไปด้านซ้ายเป็นสะพานโมโนเรล ด้านขวาเป็นกระเช้า ขากลับย้อนมเส้นทางเดิม แต่คราวนี้นั่งสายสีส้มปลายทาง Joo Koon ไปเปลี่ยนรถที่สถานี Bishan ค่าตั๋วคนละ 2.5 ดอลล่าร์



ตอนเปลี่ยนรถไม่มีตู้ขายตั๋ว ตอนออกจากสถานี Kranji จ่ายเพิ่มคนละ 30 เซ็นต์ ตอนนั่ง MRT เจอสาวหมวย บอกว่ามาเที่ยวหัวหินกับกทม. ไม่ได้เล่นน้ำเพราะไม่รู้จักหาด เช่ารถจากกทม. ไป ป้าจึงแนะนำให้ไปกระบี่ จะส่งวิดีโอไปให้ดู เธอดีใจมาก ตอนลงรถป้าให้เธอไปก่อนเพราะเธอรีบ

เรานั่งรถสาย 170 ไปที่ด่านวู้ดแลนด์และด่าน โจฮอร์ ค่ารถคนละ 2 ดอลล่าร์ แล้วเดินตามป้ายไปสถานี JB Sentral ซื้อตั๋วรถไฟไปกัวลาลัมเปอร์เวลา 22.30 น. คนละ 32 ริงกิต แล้วไปหาข้าวกิน มื้อนี้ราคา 23.4 ริงกิต ข้าวที่สถานีจานละ 2.1 ริงกิต เป็นข้าวแข็งร่วน เขาใช้กรวยตักข้าวกดใส่จาน ทำให้ได้รูปทรงเหมือนเต้านมที่มีหัวจุกด้วย เก๋ไปอีกแบบ

ชื่อสินค้า:   สิงคโปร์ ประเทศแห่งเทคโนโลยี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่