ติดตามรีวิวทริปนี้ "พาลูกเที่ยวครั้งแรก! จากกัวลาลัมเปอร์ เลโก้แลนด์ สู่สิงคโปร์" ได้ตามลิงค์นี้ครับ
วันแรก เจ้าลูกชายตัวแสบตื่นเต้นกับ Petronas Twin Towers
https://ppantip.com/topic/36057881
วันที่สอง สำรวจย่านบูกิตบินตัง เพื่อเติมพลัง
https://ppantip.com/topic/36058660
วันที่สาม เก็นติ้งไฮแลนด์และไอแพดเจ้าตัวแสบหาย
https://ppantip.com/topic/36060524
วันที่สี่ บ๊ายบายกัวลาลัมเปอร์ มุ่งสู่เลโก้แลนด์
https://ppantip.com/topic/36062816
วันที่ห้า ผ่านด่านวู้ดแลนด์ ตามหาเมอร์ไลอ้อนและกลับบ้าน
https://ppantip.com/topic/36072774
-----------------------------------------------------
ถึงวันสุดท้ายของทริปนี้ครับ ตามมีตามเกิดไม่วางแผนยาวๆ ตื่นขึ้นมาก็ต้องรีบลงไปทานอาหารบุฟเฟต์ที่ BRICKS Family Restaurant ชั้น G

อาหารที่อยู่ใน Restaurant มีหลากหลายครับ ทั้งพื้นเมืองและนานาชาติ

เจ้าตัวแสบมาแล้ว ขอเก็บภาพที่ BRICKS นิดหน่อย คนกำลังว่าง

จัดหุ่นเลโก้อยู่ทุกซุ้มอาหาร ดูน่ารักดีครับ

ทีมพ่อบ้านต้องรีบรับประทานอาหารเช้า เพราะต้องถึงด่าน Woodland ประมาณเที่ยง ไม่งั้นจะได้เที่ยวน้อยครับ

ป้ายประวัติความเป็นมาของเลโก้หน้าภัตตาคาร

ตอนเช็คเอาท์ได้รับคีย์การ์ดเป็นของที่ระลึกในการเข้ามาพัก

เจ้าตัวแสบไม่อยากกลับบ้านแล้ว

รถ LM1 มาตามเวลาสิบโมงนิดๆ

ที่นั่งว่าง นั่งสบาย

ถึงกับนอนเล่นกันเลย 555+

แผนที่รถ
อ้างอิงรูปจาก http://businterchange.net/images/guide/JB%20Bus%20Quick%20Guide_20161024-01.png

ถึงจุดจอด PUTERI HARBOUR  อ้อ...ค่าโดยสารจาก Legoland ไป JB Sentral ราคา 4.5 RM ส่วนเจ้าตัวแสบฟรีครับ

นั่งมาประมาณ 45 นาที ถึง LAKIN Terminal เหมือน บขส. บ้านเรา เลยเปลี่ยนแผนลงที่นี่ เห็นรถโดยสารเยอะมาก

ซื้อตั๋วไปสิงคโปร์ที่นี่

ราคาตั๋ว 3.3 RM ส่วนเด็ก 2.5 RM

ไปคันนี้ครับ จุดหมายสิงคโปร์

ถึง 1st Link จะต้องลงเพื่อประทับตราออกเมือง

เดินไปขึ้นรถ แต่อีกฝั่งขาเข้ามายะโฮร์ คนต่อแถวยาวมากๆ

รถมารอแล้วครับ

เดินทางข้ามทะเลสู่สิงคโปร์

เห็นลิบๆ คือด่านวู้ดแลนด์ (Woodland) ของสิงคโปร์

รถมาส่งถึงที่ด่าน ส่วนทีมพ่อบ้านก็ต้องเข้าไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของสิงคโปร์

ผ่านด่านมาอย่างง่าย เพราะบอกจุดหมายไปว่าจะมาขึ้นเครื่องกับเมืองไทยที่สนามบินชางงี (Changi Airport) เดินตามเส้นทางรถสาย 170 ไปสถานีรถไฟฟ้า Kranji คนเริ่มต่อแถวเยอะมาก

คุณลุงชาวสิงคโปร์ถามว่ามาจากไทยเหรอ? เห็นริบบิ้นรูปธงชาติไทยที่กระเป๋า ก็เลยได้ถามคุณลุงเรื่องอัตราค่าโดยสาร เพราะทีมพ่อบ้านมีเงินริงกิตเพียบ ส่วนดอลล่าร์สิงคโปร์มีแบงค์ใหญ่ใบเดียว 50 ดอลล่าร์สิงคโปร์ คุณลุงบอกว่าที่สิงคโปร์ไม่รับเงินริงกิต และรถโดยสารก็ไม่ทอนเงินด้วย ตายล่ะ ซวยแล้ว!

คุณป้าอีกท่าน ทราบชื่อทีหลังว่า ป้าเชีย (Ms.Chia) ไม่ช่วยทันทีแต่สอนวิธีการแก้ปัญหา (เหมือนเป็นครูเกษียณ อันนี้คิดเองครับ) บอกว่าคนสิงคโปร์ทุกคนยินดีช่วยเหลือถ้าคุณร้องขอ พร้อมให้บอกตะโกนเสียงดังๆ ว่ามีใครมีเงินย่อยมาแลก 50 ดอลล่าร์สิงคโปร์บ้าง.... ปรากฏว่าได้ผลแฮะ มีหลายคนพร้อมช่วยเหลือ จาก 50 ดอลล่าร์ 1 ใบ กลายเป็น 10 ดอลล่าร์ 5 ใบ ...และ...กลายเป็น 2 ดอลล่าร์ 5 ใบ + 10 ดอลล่าร์ 4 ใบ ... ประสบความสำเร็จ ก่อนก้าวขึ้นรถพอดี

อุปสรรคก็ยังไม่หมด คนขับรถบอกว่าไปสถานีกรานจิ (Kranji) คนละ 1.4 เหรียญฯ รวม 2 คน ไม่คิดเด็ก 2.8 เหรียญ ...พ่อบ้านทำใจแล้วว่าต้องจ่าย 4 เหรียญฯ แน่นอนยอมขาดทุน 1.2 เหรียญ (ประมาณเหรียญละ 25 บาท) ...แต่คุณลุงผู้ใจดีบอกว่าคุณจ่ายไป 2 เหรียญ ส่วนอีก 8 เซนต์ ลุงจ่ายให้ไม่เป็นปัญหา ... โอ้วววว ประทับใจชาวสิงคโปร์ทีแรกเห็นเลยครับ แม้เงินเพียงน้อยนิด แต่มากับน้ำใจที่ยิ่งใหญ่ มันมีคุณค่ามหาศาลมากๆ ได้แต่ไหว้ขอบคุณคุณลุง

รถวิ่งไม่ถึง 10 นาที ก็ถึงสถานีรถไฟฟ้ากรานจิ

คุณลุงที่ไม่มีโอกาสถามชื่อและป้าเชีย ลงมาด้วยกันพร้อมกำชับป้าเชียให้ช่วยเหลือทีมพ่อบ้านให้ได้บัตร EZ-Link เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ซื้อมา 2 ใบ ส่วนเจ้าตัวแสบก็ยังฟรี ... ส่วนป้าเชียก็กล่าวลา บอกว่าบ้านป้าอยู่แถวสถานี Yew Tee ใกล้ๆ ทีมพ่อบ้านไหว้ขอบคุณในน้ำใจทีมีให้ พร้อมขอถ่ายรูปด้วยครับ

บัตร EZ-Link

แผนที่สถานีรถไฟฟ้าที่สิงคโปร์

ขบวนรถเราออกเดินทางแล้วครับ จุดหมายคือไปหา เมอร์ไลอ้อน

บนรถไฟฟ้า

เจ้าตัวแสบไม่สนใจสาวๆ เล่นเกมอย่างเดียว

ถึงสถานี Raffles Place แล้ว จุดที่ใกล้ที่สุดที่จะเดินไปหา เมอร์ไลอ้อน

แวะซื้อของที่ระลึกที่ร้านค้าในสถานี

ร้าน itology ขายไม่แพงมากครับ

ออกมาจากอาคารก็เห็นคลองสิงคโปร์

ถ่ายรูปหน่อยครับ

เจอร้านไอติมราคาถูก ที่คนไทยชอบรีวิวกัน ตอนนี้ราคา 1.2 เหรียญนะครับ

ทีมแม่ลูกไม่มีพลาด สั่งรสทุเรียนกับวนิลา อร่อยดีครับ ยามร้อนๆ

เก็บภาพสวยๆ แถวโรงแรม Fullerton ไม่ได้พัก แต่เหมือนพัก เพราะลากกระเป๋า 2 ใบ ผ่านโรงแรมด้วย อิอิ

เหนื่อยแต่มีแรงสู้ อยากเห็นเมอร์ไลอ้อนมากๆ ครับ

เดินมาหน้าโรงแรม ใกล้จุดหมายแล้วครับ เห็น Marina Bay Sand เย้ๆๆๆๆๆๆ

สิ่งที่เจ้าตัวแสบตามหาถัดจากแลนด์มาร์กของมาเลเซีย คือ Twin Tower ตอนนี้เจออีกแล้วของสิงคโปร์ Merlion ตื่นเต้นๆๆๆๆ ตลอด

ตัวแสบเก็บภาพเต็มที่

ไม่พลาดกับมุมนี้กับครอบครัว (บางส่วน) ของทีมพ่อบ้าน

หนำใจแล้วก็ลากกระเป๋ากลับทางเดิม ดูเวลาเกือบห้าโมงเย็น ต้องล้มแผนไป Singapore Flyer และชมดาดฟ้า Marina Bay Sand เดี๋ยวจะตกเครื่อง

นั่งรถไฟฟ้ากลับจากสถานี Raffles Place มาจุดต่อรถไฟฟ้าไปสนามบินชางงี ที่สถานี Tanah Merah

ถึงสนามบินชางงีประมาณหกโมงเย็น คืนบัตร EZ-Link เพื่อแลกเงินคืน

เก็บภาพมุมสวยๆ ที่สนามบินชางงี (T2)

มุมสวยๆ ก่อนต่อรถไฟฟ้าไปสถานี T1 บริการฟรีครับ

ถึง T1 แล้ว

รีบไปโหลดกระเป๋าที่ช่องแอร์เอเชีย อยู่ไกลที่สุดช่อง 13-14 ยังพอมีเวลาเกือบ 1 ชั่วโมงก่อนเครื่องออก

กลับดอนเมืองเที่ยวบิน FD350

ถึงดอนเมืองประมาณสี่ทุ่ม (เวลาประเทศไทย) เข้าไปเช็คอินอมารีดอนเมือง ตามที่จองไว้ล่วงหน้าแล้ว คืนนี้หลับแบบมีความสุข เจ้าตัวแสบคิดถึงเลโก้แลนด์มาก พูดถึงตลอดว่าจะให้พามาอีก พร้อมน้องๆ ที่ไม่ได้มาเพราะยังเล็กมาก

ตื่นเช้าวันรุ่งขึ้น จองอาหารนานาชาติไว้ ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอลิ้มลองบรรยากาศคนมีตังค์บ้าง หาโอกาสนานๆ ครั้งครับ เพราะกลับไปคงเน้นข้าวเหนียวส้มตำเหมือนเดิม

ทีมแม่ลูกคอนเฟิร์มว่ารสชาติผ่าน ถึงแม้จะเพิ่งลิ้มลองก็ตามที อิอิ

ไฟล์ทไปเมืองเลย สิบโมงเช้า แต่เช้านี้เครื่องบินทุกเส้นทางทุกสายการบินในประเทศดีเลย์หมด ได้เดินทางกลับประมาณบ่ายสองโมง โอ้ววว อย่างเพลีย

คอนเฟิร์มว่ากลับถึงเมืองเลยแล้วครับ สงสัยทริปต่อไปโตเกียวแหงๆ เจ้าตัวแสบถามว่า เมืองเลยก็มีฟูจิเมืองเลย แล้วเราจะไปดูภูเขาฟูจิของจริงตอนไหนฮับ อ๊ากกกกก สงสัยต้องรีบเก็บเงินอีกแล้ว ก่อนที่ตังค์จะติดลบลงเรื่อยๆ ครับ ^^

----------------------------------------------
พบกันใหม่ในทริปหน้าครับ คาดว่าจะมีน้องตัวแสบเพิ่มในคณะเดินทางแน่ๆ