" การพักผ่อนไม่เพียงพอ " เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจมาก !

กระทู้สนทนา
ปัจจัยหลักที่ทำให้อัตราการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ คือ "การใช้ชีวิตอยู่บนความเสี่ยง และละเลยการดูแลสุขภาพเท่าที่ควร" โดยเฉพาะการพักผ่อนไม่เพียงพอ การไม่ค่อยสนใจออกกำลังกาย เผชิญกับความเครียดไม่เลือกเวลาและสถานที่ และที่สำคัญคือ การเลือกรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมา เช่น โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น ซึ่งทางการแพทย์พบว่า หากเราดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันโรคหัวใจมาเคาะประตูร้องเรียกอย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยยืดชีวิตของคนเราได้มากกว่าการรักษาโรคถึง 4 เท่า โดยมีวิธีการง่าย ๆ ดังนี้

ไขมันสูง…เสี่ยงสารพัดโรค แต่ถ้าเป็นไขมันดี… ยิ่งสูงยิ่งดี

          ด้วยการดำเนินชีวิตของคนในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพชีวิตที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด การันตีได้จากอาหารที่รับประทานแต่ละมื้อ ล้วนแต่เน้นที่ความรวดเร็วและกินง่ายไว้ก่อน เราจึงเห็นร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดเปิดใหม่อยู่แทบทุกมุมถนน ซึ่งผลพลอยได้จากการบริโภคอาหาร (ขยะ) จานด่วนเหล่านี้ คือ ร่างกายต้องเผชิญกับภาวะคอเลสเตอรอลสูง อันเนื่องมาจากไขมันไม่อิ่มตัว

          จริงอยู่ที่ "ไขมัน" เป็นสิ่งจำเป็นต่อกระบวนการเผาผลาญภายในร่างกาย แต่ปัญหาที่พบ คือ เรามีไขมันตัวร้ายในร่างกายมากเกินไป จึงทำให้หลอดเลือดอุดตันและกลายเป็นปัญหาต่อระบบไหลเวียนเลือดตามมา วิธีป้องกันที่ถูกต้อง คือ เราต้องเลือกบริโภคไขมันดี ซึ่งประกอบด้วย "กรดไขมันโอเมก้า 3" ที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งพบมากในปลาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีโอเมก้า 3 เป็นส่วนผสมหลัก ทำหน้าที่กักเก็บไขมันอิ่มตัวเพื่อนำไปกำจัดทิ้งที่ตับ ทำให้ระบบหลอดเลือดไม่เกิดการอุดตันจากคอเลสเตอรอล โดยเราสามารถบริโภคเนื้อปลาได้ในทุกมื้ออาหารและทุกวัน ยิ่งมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ในร่างกายมากเท่าไร ยิ่งแสดงให้เห็นว่า เราอยู่ห่างไกลจากโรคหัวใจมากเท่านั้น

นอน…นอน…และนอน…รางวัลที่ดีที่สุด…ที่ร่างกายคุณต้องการ

          โดยปกติแล้ว คนเราจะใช้เวลาในการนอนถึง 1 ใน 3 ส่วนของอายุขัย เพราะการนอนถือเป็นการพักผ่อนกล้ามเนื้อที่ใช้งานมาตลอดวัน และเป็นช่วงเวลาที่กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นช่วงที่อวัยวะต่าง ๆ เริ่มปฏิบัติการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ซึ่งจำนวนชั่วโมงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการนอน คือ ประมาณ 7 ชั่วโมงต่อวัน แต่ถ้าร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ หรืออดนอนเป็นเวลานาน ร่างกายก็จะสร้างฮอร์โมนมากระตุ้นการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดให้เพิ่มแรงสูบฉีดโลหิตไปทั่วร่างกายมากกว่าเดิม จึงทำให้อวัยวะทั้ง 2 ส่วนซึ่งจากเดิมที่ไม่เคยหยุดพักอยู่แล้วต้องทำงานหนักมากขึ้นกว่าปกติ ส่งผลให้ร่างกายมีความเสี่ยงที่จะเป็น "โรคความดันสูง" และ "โรคหัวใจ" มากขึ้น

"ความดันโลหิต – ความเครียด" ยิ่งสูง… ก็ยิ่งหนาว…!!!

          "ความดันโลหิตและความเครียด" เป็นความผิดปกติของร่างกายที่สอดคล้องกันอย่างแยกไม่ออก เพราะอาการทั้ง 2 นั้นเปรียบเสมือน "ระเบิดเวลาที่ถูกดึงสลักออก" และเตรียมนับถอยหลังไปสู่โรคหัวใจได้ตลอดเวลา เมื่อเราเผชิญกับความเครียด หัวใจจะทำงานหนักเพราะเต้นเร็ว และเกิดการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายในจังหวะที่ผิดไปจากเดิม ส่งผลให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงโดยอัตโนมัติ และถ้าร่างกายอยู่ในภาวะเช่นนั้นเป็นเวลานาน จะทำให้หัวใจโตและเกิดผลเสียต่อเส้นเลือด ทำให้สูญเสียความยืดหยุ่นและส่งผลให้หลอดเลือดแข็งตัวในที่สุด คล้ายกับเวลาที่เราใช้แขนข้างขวามากและบ่อยกว่าข้างซ้าย กล้ามเนื้อแขนข้างนั้นก็จะโตกว่า พร้อม ๆ กับเกิดการเสื่อมของเอ็น ข้อ และกระดูกของแขนข้างนั้นมากกว่าอีกข้างหนึ่งตามไปด้วย

          ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ระเบิดเวลาทำงาน เราจึงควรหลีกเลี่ยงการตกอยู่ในภาวะความเครียด ไม่ว่าจะเป็นช่วงสั้นๆ หรือเป็นเวลานาน ควรทำจิตใจให้ผ่องใส และผ่อนคลายด้วยการทำกิจกรรมที่ตนเองชอบ เพื่อควบคุมอารมณ์และความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

ออกกำลังกาย…"อัพจังหวะ..หัวใจให้เต้นตึ๊กตั๊กสม่ำเสมอ"

          "It’s never too late to exercise – ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเริ่มต้นออกกำลังกาย" เพราะการออกกำลังกายเป็นกุญแจสำคัญที่ไขไปสู่การมีสุขภาพดี แต่คนส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบันกลับมีพฤติกรรมนั่ง ๆ นอน ๆ มากขึ้น เนื่องจากความสะดวกสบายที่เกิดจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

          แต่แท้ที่จริงแล้ว "ความสบาย" ที่เกิดขึ้นกลับกระตุ้นความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า เนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจไม่ได้ออกแรงอย่างเต็มที่ในการสูบฉีดโลหิต จึงเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอ เราจึงต้องหาวิธีออกกำลังที่กระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจ ด้วยการออกกำลังแบบแอโรบิกที่ทำให้ทางการได้ออกกำลังเกือบทุกส่วน เช่น การว่ายน้ำ จ็อกกิ้ง ปั่นจักรยาน โดยทำอย่างน้อยวันละ 30 นาทีอย่างสม่ำเสมอ

          จะเห็นว่า วิธีป้องกันเพื่อรู้เท่าทัน และกำชัยชนะต่อ "เพชฌฆาตเงียบอย่างโรคหัวใจ" นั้น เป็นวิธีที่ไม่ซับซ้อน ทำได้ง่าย และไม่ต้องรอเวลา เราสามารถทำได้ตั้งแต่วินาทีนี้ โดยเริ่มจากปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละวัน เน้นลดปัจจัยเสี่ยงและใส่ใจ "3 อ. – อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์" แล้วคุณจะพบว่าไม่ใช่แค่ห่างไกลจากโรคหัวใจเท่านั้น โรคอื่น ๆ ก็ไม่สามารถจะทลายกำแพงสุขภาพที่แข็งแกร่งของคุณเข้ามาได้ ขอเพียงอย่าแค่มุ่งมั่น แต่ต้องลงมือทำตั้งแต่เดี๋ยวนี้เท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่