จะนำสติปัญญา ไปดับความทุกข์ (กิเลส) ได้อย่างไร



อุบาสกกราบเรียน    เห็นแล้วครับท่านอาจารย์ กระผมเห็นโทษของกิเลสแล้ว ขอความกรุณาท่านอาจารย์แนะวิธีกำจัดไฟให้กระผมด้วยครับ

หลวงปู่ตอบ    วิธีกำจัดไฟภายในให้อุบาสกดำเนินตามอย่างพระอริยเจ้าทั้งหลาย มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน ท่านดำเนินไว้ก่อนเรา ท่านได้รับผลดีแล้ว ตัวอย่างพระอริยเจ้าท่านดำเนิน ท่านก็สอนให้พิจารณาให้เห็นทุกข์ก่อน เหตุของความทุกข์มาจากกิเลส ตัวอย่างอุบาสกรู้โทษของกิเลสตัณหาอยู่เดี๋ยวนี้แหละ เพราะสิ่งทั้งปวงเราไม่เข้าใจว่ามันมีโทษ เราก็ไม่อยากจะทิ้ง ต่อเมื่อเรารู้โทษมัน เราจึงจะทิ้ง


หรือจะหาวิธีทิ้งอย่างอุบาสกกำลังหาวิธีทิ้งอยู่เดี๋ยวนี้แหละ พอเรารู้โทษรู้ทุกข์แล้วอย่างนี้ เราก็ต้องรวมมรรคที่เรารวมในสติปัญญาไว้ทำลายเหตุแห่งทุกข์ คือกิเลส ตัณหาที่เป็นตัวไฟภายใน วิธีดับไฟภายในก็เหมือนกันกับวิธีดับไฟภายนอก คือให้นำสติปัญญาเข้ามากำกับที่ตรงไฟ ไฟภายในมันอยู่ที่ไหน มันอยู่ที่จิต

เราต้องระวังอย่าให้มันแลบลุกลามออกไปต่อเชื้อภายนอกเป็นอันขาด การออกต่อเชื้อออกอย่างไร มันให้จิตคิดไปต่ออารมณ์สัญญาให้เป็นไปตามความชอบของมัน  ไฟภายในมันลุกลามไปอย่างนี้

เราต้องดับด้วยสติระลึกรู้ก่อน ต่อไปสติปัญญาสอดส่องถึงโทษ หรือความทุกข์ที่กิเลสตัณหามันนำพาว่าให้ได้รับโทษอย่างไรบ้าง

พอมันจะออกต่อเชื้อก็ต้องทำอยู่อย่างนี้เสมอๆ อย่าให้มันได้เชื้อ เมื่อมีสิ่งกระทบจะทำให้ดีใจ เสียใจ จะเป็นรูป เสียง หรือสิ่งอื่นๆ ก็ดี เราอย่าดูสิ่งกระทบหมายความว่าอย่าไปสนใจที่เหตุการณ์หรือสิ่งกระทบ ให้ดูอยู่ที่จิต กิเลสเจ้านายเดิมของจิตมันจะสั่งจิตให้แสดงอย่างไรบ้าง จะให้รัก หรือจะให้ชัง เราต้องดูให้ดีๆ  เมื่อจิตเชื่อเจ้านายเก่าของมัน


เราก็ใช้กำลังของสติบังคับจิตไว้ก่อน ยึดไว้ให้ดี อย่าให้แสดงออกได้ ต่อจากนั้นไปก็ใช้กำลังของสติปัญญาสอดส่องถึงโทษของกิเลสตัณหาที่ทำให้จิตของเราไปสู่ภพต่างๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้รักสิ่งโน้น ทำให้ชังสิ่งนี้ เป็นเหตุให้เราพลัดพรากจากสิ่งที่เรารักมามากต่อมาก ทำให้สิ่งที่เรารักเราชอบใจจากเราไป เป็นเหตุให้เราร้องไห้ เป็นเหตุให้เราเสียน้ำตามามากต่อมากแล้ว


เมื่อยังยอมให้จิตของเรารับใช้เป็นเครื่องมือให้แก่กิเลสตัณหาก็จะต้องได้รับโทษทุกข์ หรือเสียน้ำตาอีกไม่มีที่สิ้นสุดลงได้ ให้ระลึกอยู่ย่างนี้เป็นเครื่องแก้ เมื่อจิตของเรารู้ตัวว่าได้รับทุกข์อย่างนี้มามากต่อมากแล้ว เมื่อรู้อย่างนี้จิตจะอ่อนลง ต่อไปจิตไม่ยอมเป็นเครื่องมือให้แก่กิเลสตัณหาอีกเลยก็อาจจะเป็นได้


เมื่อเป็นได้อย่างนี้แล้วเรียกว่าจิตรู้ ก็ให้ใช้สติปัญญาเข้ากำกับจิตให้ใกล้ชิดเป็นลำดับเข้าเหมือนอำมาตย์เข้าใกล้ชิดพระราชาคอยดักช่วยป้องกันรักษาอันตราย ช่วยอยู่เสมออย่างใกล้ชิด เมื่อเผลอก็คอยตักเตือนให้สติอยู่ตลอดเวลา พยายามให้ใกล้ชิดจนรู้จักอัธยาศัยใจคอซึ่งกันและกันดี และไว้เนื้อเชื่อใจกันและกันดีจนเป็นอันเดียวกัน รวมอยู่ด้วยกันได้จนไม่ระแวงใจกันอันนี้ฉันใด


การใช้สติปัญญาเข้าใกล้ชิดกับจิตก็ฉันนั้นเหมือนกัน พยายามใช้สติปัญญารวมกับจิต เรียกว่าสมังคีกัน ในอันดับที่สาม คือใช้สติปัญญาเข้ากับจิตได้ หรือพูดว่าไล่กิเลสตัณหาออกจากจิตได้ มัคคุเทศก์ผู้นำทางที่เป็นนายทางเก่าที่ทำให้จิตรับความทุกข์ยากลำบากมาแล้วนั้นออกไป หรือหมดไปแล้วก็เป็นโอกาสของสติปัญญาเป็นตัวมัคคุเทศก์ที่เป็นอริยมรรค ผู้นำทางของพระอริยเจ้ามาเป็นผู้นำจิตใจของเราต่อไป


อริยมัคคุเทศก์ที่นำพระอริยเจ้าไปไม่เคยที่จะทำให้พระอริยเจ้าทั้งหลายที่มีพระพุทธเจ้าเป็นประธานให้ได้รับความทุกข์ยากลำบากเลย เมื่ออริยมัคคุเทศก์มานำเราไปก็ไม่มีทางที่จะนำเราไปให้เป็นศัตรูกับเพื่อนมนุษย์ มีแต่จะทำให้เราเป็นกัลยาณมิตรกับเพื่อนมนุษย์ทั่วโลก ไฟคือเพลิงกิเลสและเพลิงทุกข์ สิ่งที่ทำให้เราเดือดร้อน วุ่นวาย วิ่งพลุกพล่าน กระเจิดกระเจิง อย่างคนที่มีเพลิงทุกข์เพลิงกิเลสอยู่นั้นไม่มีอยู่ในตัวเราแล้ว มีแต่ความเย็นสบาย อยู่ ณ สถานที่ใดก็สบาย จึงเรียกว่าผู้ไม่มีข้าศึก จึงเป็นผู้ไม่ทำความเดือดร้อนให้แก่ตนเองและผู้อื่น


มีแต่จะนำความเย็นใจมาให้ตนเองและคนอื่น เมื่อร่างกายแตกดับ อริยมัคคุเทศก์ก็นำเราไปสู่นิพพานไปอยู่กับพระพุทธเจ้า และพระอริยสาวกผู้ไม่วุ่น ปล่อยให้ชาวโลกที่กิเลสตัณหายังเป็นเจ้านายจิตใจอยู่ให้วุ่นไปตามเรื่อง เพราะพวกท่านทั้งหลายเหล่านั้นไม่เห็นโทษของมัน ยังเห็นว่ากิเลสตัณหามีคุณอยู่ อุบาสกเป็นผู้รู้โทษของกิเลสก็อยากทิ้งกิเลส จงกำจัดให้ได้ ดำเนินอย่างที่อาตมาแนะนำอยู่นี้เสมอจะหมดความวุ่น
--------------------------------------------------
คัดจาก หนังสือ พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย
ตอบปัญหาธรรม แก่อุบาสกผู้สงสัย
(ภาคที่หนึ่ง)
๑ พฤศจิกายน ๒๕๐๘ ณ วัดเขาสุกิม
--------------------------------------------------

น้อมใจ เผยแผ่เป็นธรรมทาน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่