สวัสดีปีใหม่ 2016 ปีลิงไฟ "ปีแห่งความรอบคอบ และระมัดระวัง"
As of 28 Dec 2015
https://www.bespokepremium.com/think-big-blog/2015-country-stock-market-performance/
ปีที่แล้วตลาดที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดคือ
1. จาไมก้า ให้ผลตอบแทน 92.62%
2. ลัตเวีย ให้ผลตอบแทน 44.13%
3. ฮักการี ให้ผลตอบแทน 43.68%
ดูเอาไว้ให้น้ำลายไหล !!! เพราะเป็นประเทศที่ไม่ได้อยู่ในแผนที่ลงทุนเลยครับ
ตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนติดลบมากสุดได้แก่
1. ยูเครน ให้ผลตอบแทน -38.11%
2. เปรู ให้ผลตอบแทน -34.18%
3. โคลัมเบีย ให้ผลตอบแทน -26.34%
ส่วนตลาดหุ้นชั้นนำ
1. สหรัฐอเมริกา ให้ผลตอบแทน 0.76%
2. เยอรมันนี ให้ผลตอบแทน 10.28%
3. ญี่ปุ่น ให้ผลตอบแทน 8.78%
- ตลาดหุ้นสหรัฐแทบจะไม่ไปไหน เนื่องจากการหมดมาตรการ QE และแรงกดดันว่า FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งปี 2015 จนในที่สุดได้ปรับขึ้นเมื่อเดือน ธค. 2015 ที่ผ่านมา 0.25%
- ส่วนตลาดหุ้นยุโรปและญี่ปุ่นให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก เพราะอานิสงฆ์ QE ยังมีอยู่
- ตลาดหุ้นไทยเอง ให้ผลตอบแทน -14.28% เนื่องจากผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเลียม ที่ขาดทุน Stock loss จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงมามาก
ในปีลิงไฟนี้เอง ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยดังนี้
1. ราคาน้ำมัน ที่ยังคงตกต่ำอยู่ อาจจะทำให้บริษัทน้ำมันเริ่มลดค่าใช้จ่าย Layoff พนักงาน รวมถึงอาจจะมีการผิดนัดชำระหนี้ ในบริษัทที่มีอัตราหนี้สินต่อทุนที่สูง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้
2. การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ต้องดูว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นถี่เพียงใด ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีการปรับเพิ่มขึ้นถึง 4 ครั้ง เท่ากับว่าปรับเพิ่มขึ้นไตรมาสละครั้งซึ่งส่วนตัวคิดว่ามากอยู่ เพราะการปรับขึ้นแต่ละครั้งจะต้องรอดูผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และภาคธุรกิจ ว่าตัวเลขจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่ว่าปรับขึ้นแล้วจะเห็นตัวเลขเลย ซึ่งคงต่อใช้เวลาสัก 3-6 เดือน กว่าผลกระทบจะกระจายไปยังจุดต่างๆ
3. หุ้นไทย ปีนี้คาดว่าเหมือนปีที่แล้ว จะหาปัจจัยบวก ยากเหลือเกิน เพราะกำไรบริษัทจดทะเบียนยังเป็นแรงกดดัน ทั้งจากกลุ่มปิโตรฯ กลุ่มสื่อสารที่ราคาประมูลออกมาสูงมาก และกลุ่มธนาคารที่กำไรน่าจะหดตัวและมีการกันสำรองมากขึ้น ตลาดหุ้นที่ 1,300 จุด P/E 16.9 เท่ามากกว่าค่าเฉลี่ย 1SD โดยหากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 13.2 เท่า ดัชนีจะอยู่ที่ 1,015 จุด
การลงทุนปีลิงไฟ ยังลงทุนใน Theme QE ได้คือยุโรปและญี่ปุ่น แต่ให้น้ำหนักการลงทุนน้อยกว่าปีที่แล้ว เพราะปีนี้ผลตอบแทนคงจะไม่ดีเท่าปีที่แล้ว และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ เพราะตลาดหุ้นดีมา 8 ปีแล้วจากวิกฤตซับไพรม์ปี 2008 ซึ่งปกติวิกฤตจะมาในรอบ 8-10 ปีครับ
2016 ปีลิงไฟ "ปีแห่งความรอบคอบ และระมัดระวัง"
As of 28 Dec 2015 https://www.bespokepremium.com/think-big-blog/2015-country-stock-market-performance/
ปีที่แล้วตลาดที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดคือ
1. จาไมก้า ให้ผลตอบแทน 92.62%
2. ลัตเวีย ให้ผลตอบแทน 44.13%
3. ฮักการี ให้ผลตอบแทน 43.68%
ดูเอาไว้ให้น้ำลายไหล !!! เพราะเป็นประเทศที่ไม่ได้อยู่ในแผนที่ลงทุนเลยครับ
ตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนติดลบมากสุดได้แก่
1. ยูเครน ให้ผลตอบแทน -38.11%
2. เปรู ให้ผลตอบแทน -34.18%
3. โคลัมเบีย ให้ผลตอบแทน -26.34%
ส่วนตลาดหุ้นชั้นนำ
1. สหรัฐอเมริกา ให้ผลตอบแทน 0.76%
2. เยอรมันนี ให้ผลตอบแทน 10.28%
3. ญี่ปุ่น ให้ผลตอบแทน 8.78%
- ตลาดหุ้นสหรัฐแทบจะไม่ไปไหน เนื่องจากการหมดมาตรการ QE และแรงกดดันว่า FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งปี 2015 จนในที่สุดได้ปรับขึ้นเมื่อเดือน ธค. 2015 ที่ผ่านมา 0.25%
- ส่วนตลาดหุ้นยุโรปและญี่ปุ่นให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก เพราะอานิสงฆ์ QE ยังมีอยู่
- ตลาดหุ้นไทยเอง ให้ผลตอบแทน -14.28% เนื่องจากผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเลียม ที่ขาดทุน Stock loss จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงมามาก
ในปีลิงไฟนี้เอง ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยดังนี้
1. ราคาน้ำมัน ที่ยังคงตกต่ำอยู่ อาจจะทำให้บริษัทน้ำมันเริ่มลดค่าใช้จ่าย Layoff พนักงาน รวมถึงอาจจะมีการผิดนัดชำระหนี้ ในบริษัทที่มีอัตราหนี้สินต่อทุนที่สูง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้
2. การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ต้องดูว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นถี่เพียงใด ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีการปรับเพิ่มขึ้นถึง 4 ครั้ง เท่ากับว่าปรับเพิ่มขึ้นไตรมาสละครั้งซึ่งส่วนตัวคิดว่ามากอยู่ เพราะการปรับขึ้นแต่ละครั้งจะต้องรอดูผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และภาคธุรกิจ ว่าตัวเลขจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่ว่าปรับขึ้นแล้วจะเห็นตัวเลขเลย ซึ่งคงต่อใช้เวลาสัก 3-6 เดือน กว่าผลกระทบจะกระจายไปยังจุดต่างๆ
3. หุ้นไทย ปีนี้คาดว่าเหมือนปีที่แล้ว จะหาปัจจัยบวก ยากเหลือเกิน เพราะกำไรบริษัทจดทะเบียนยังเป็นแรงกดดัน ทั้งจากกลุ่มปิโตรฯ กลุ่มสื่อสารที่ราคาประมูลออกมาสูงมาก และกลุ่มธนาคารที่กำไรน่าจะหดตัวและมีการกันสำรองมากขึ้น ตลาดหุ้นที่ 1,300 จุด P/E 16.9 เท่ามากกว่าค่าเฉลี่ย 1SD โดยหากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 13.2 เท่า ดัชนีจะอยู่ที่ 1,015 จุด
การลงทุนปีลิงไฟ ยังลงทุนใน Theme QE ได้คือยุโรปและญี่ปุ่น แต่ให้น้ำหนักการลงทุนน้อยกว่าปีที่แล้ว เพราะปีนี้ผลตอบแทนคงจะไม่ดีเท่าปีที่แล้ว และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ เพราะตลาดหุ้นดีมา 8 ปีแล้วจากวิกฤตซับไพรม์ปี 2008 ซึ่งปกติวิกฤตจะมาในรอบ 8-10 ปีครับ