January Effect คือ ความเชื่อที่ว่าตลาดหุ้นมักที่จะวิ่งขึ้นในช่วงเดือนมกราคม โดยเป็นผลกระทบจากการ ซื้อหุ้นของเหล่ากองทุนในช่วงต้นปี
แล้วตลาดหุ้นไทยหล่ะ ?
ถ้าเราไปดูข้อมูลย้อนหลัง 11 ปี จะพบว่า
ปี 2556 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน +5.91%
ปี 2557 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน -1.88%
ปี 2558 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน +5.58%
ปี 2559 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน +1.01%
ปี 2560 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน +2.23%
ปี 2561 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน +4.17%
ปี 2562 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน +4.98%
ปี 2563 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน -4.16%
ปี 2564 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน +1.22%
ปี 2565 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน -0.53%
ปี 2566 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน -0.16%
จะเห็นได้ว่า 11 ปี ย้อนหลัง ตลาดหุ้นไทยจะให้ผลตอบแทนเป็นบวกถึง 7 ครั้ง จากทั้งหมด 11 ครั้ง แสดงให้เห็นว่า หุ้นมีแนวโน้มสูงที่จะขึ้นในเดือนมกราคม (ปรากฏการณ์ January Effect)
แต่ ในปี 2568 !! จะเป็นปีแรกที่ “เม็ดเงินกองทุนรวมหุ้นระยะยาว” หรือ LTF ประมาณ 2.40 แสนล้านบาท สามารถ “ขาย” ได้ทั้งหมด
แล้วเดือน มค. ปีหน้านี้ เพื่อนๆคิดว่า Set จะบวกมั๊ยนะ จะวิ่งไปในทิศทางไหนกันบ้างครับ
[มาเดากันเล่นๆ] จริงหรือไม่ ? ทฤษฎีที่ใครๆ ก็บอกว่า“หุ้นจะขึ้น” ในเดือนมกราคม
แล้วตลาดหุ้นไทยหล่ะ ?
ถ้าเราไปดูข้อมูลย้อนหลัง 11 ปี จะพบว่า
ปี 2556 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน +5.91%
ปี 2557 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน -1.88%
ปี 2558 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน +5.58%
ปี 2559 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน +1.01%
ปี 2560 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน +2.23%
ปี 2561 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน +4.17%
ปี 2562 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน +4.98%
ปี 2563 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน -4.16%
ปี 2564 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน +1.22%
ปี 2565 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน -0.53%
ปี 2566 เดือนมกราคม ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน -0.16%
จะเห็นได้ว่า 11 ปี ย้อนหลัง ตลาดหุ้นไทยจะให้ผลตอบแทนเป็นบวกถึง 7 ครั้ง จากทั้งหมด 11 ครั้ง แสดงให้เห็นว่า หุ้นมีแนวโน้มสูงที่จะขึ้นในเดือนมกราคม (ปรากฏการณ์ January Effect)
แต่ ในปี 2568 !! จะเป็นปีแรกที่ “เม็ดเงินกองทุนรวมหุ้นระยะยาว” หรือ LTF ประมาณ 2.40 แสนล้านบาท สามารถ “ขาย” ได้ทั้งหมด