☼ ☼ 6 :: สู่หมู่บ้านเทพเจ้า ☼ ☼
เพื่อสะดวกในการเดินทางเฉินชงหมิงแนะนำให้หลันเหลยแต่งตัวปลอมเป็นชาย วันนี้ทั้งสามเข้ามาถึงในตัวเมือง หลันเหลยรู้สึกหิว จึงเอ่ยปากชวนทั้งหมดเข้าไปหาอะไรกินก่อน
เฉินชงหมิงเดินนำขึ้นบนร้านอาหารข้างถนนร้านหนึ่ง เหวินอั่นกุนไม่พูดอะไร ได้แต่สาวเท้าเดินติดตามไปเงียบๆ
หลันเหลยอย่างดีก็เคยแค่เข้าไปวิ่งเล่นอยู่ในหมู่บ้าน ไม่เคยเข้ามาในตัวเมืองใหญ่ๆ แบบนี้มาก่อน เมื่อมาถึงจีงอดรู้สึกตื่นตาตื่นใจมิได้ พลอยทำให้อารมณ์ของนางค่อยกลับสู่ความแจ่มใสอีกครา เฉินชงหมิงเห็นนางสีหน้าสดชื่นขึ้น ก็พลอยยิ้มแย้มอย่างยินดี
" ที่นี่เป็นเพียงหัวเมืองใหญ่เท่านั้น เปรียบกับที่เมืองหลวงแล้ว ที่โน่นจะใหญ่โตกว่านี้มาก วันหน้าถ้ามีโอกาสข้าจะพาท่านไปเที่ยวเมืองหลวง ดีหรือไม่ … "
" ดีๆ.. แล้วบ้านท่านไปทางไหนหรือ ? "
" ไปตามถนนสายนี้ พอถึงทางแยกก็เลี้ยวซ้าย ไปอีกไม่ไกลก็ถึงบ้านข้า… "
เอ่ยถึงตอนนี้ ผู้รับใช้ก็ยกอาหารเข้ามา หลันเหลยมองอาหารบนโต๊ะ ร้องเบาว่า
" น่ากินจัง.. "
เฉินชงหมิงคีบกับใส่ชามข้าวให้นางพลางกล่าวชวน
" ลองชิมดูสิ อาหารที่นี่อร่อยเลื่องชื่อทีเดียว… "
หลันเหลยคีบกับในชามใส่ปากแล้วผงกศีรษะ กล่าวว่า " จริงๆ ด้วย "
เฉินชงหมิงยิ้มอย่างพอใจ พอเหลียวหน้าไปอีกทาง เห็นเหวินฮั่นกุนนั่งมองตาขวางอยู่ จึงฝืนยิ้มกล่าวอย่างเอาใจ
" ฮั่นกุน…ท่านก็เชิญ.. "
เหวินฮั่นกุนไม่กล่าวกระไร คีบกับใส่ชามข้าวตนเอง ขณะจะส่งใส่ปากรับประทาน หลันเหลยพลันโบกมือปัดตะเกียบในมือของเขาจนกระเด็น ร้องว่า
" กินไม่ได้ "
เหวินฮั่นกุนตะลึงลานกับที่ ถลึงตาใส่นาง ขณะที่โทสะกำลังจะประดังขึ้น ก็เห็นหลันเหลยบ้วนกับข้าวในปากคายทิ้งลงบนพื้น
" อาหารเหล่านี้ มีพิษ ! "
เพิ่งขาดคำ ผู้คนที่นั่งกินอยู่ที่โต๊ะด้านข้าง พลันแสดงตัวขึ้น ชักกระบี่จู่โจมเข้าหาคนทั้งสาม เหวินฮั่นกุนค่อยสำนึกว่าเข้าใจนางผิดไป จึงเหลียวหน้าไปมองหลันเหลย ด้วยสายตาขอบคุณแว่บหนึ่ง จากนั้นชักกระบี่ในมือเข้าต่อสู้กับคนพวกนั้น
เฉินชงหมิงทางหนึ่งคุ้มกันหลันเหลย ทางหนึ่งต่อสู้ ผู้คนในร้านที่ไม่รู้ไม่เห็นกับเรื่องทั้งหลาย ต่างพากันแตกตื่นตกใจหนีลงมาข้างล่าง ปล่อยให้ข้างบนต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ทันใดนั้นพลันปรากฏผู้คนเจ็ดแปดคนพากันเร่งรุดขึ้นบนร้านอาหาร ผู้นำขบวนเป็นชายหนุ่มชุดเขียวหน้าตาคมคาย ...ย่อมเป็นเฉินชิงหยุน คุณชายรองแห่งหมู่บ้านเทพเจ้านั่นเอง !
คนหมู่บ้านเทพเจ้าขณะรุดมาถึง มือสังหารบนร้านก็ถูกกำหราบไปกว่าครึ่งแล้ว ที่เหลือจึงถูกจัดการต่อในชั่วอึดใจ ทั้งยังจับเป็นได้หนึ่งคน แต่ขณะจะคุมตัวสอบถาม คนผู้นี้กลับชิงเชือดคอฆ่าตัวตายเสียก่อน
เฉินชิงหยุน เฉินชิงหมิง สองพี่น้องพอพบหน้าล้วนรู้สึกปิติยินดี เฉินชงหมิงเป็นคนกลางแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน จากนั้นทั้งหมดค่อยเร่งรุดเดินทางกลับบ้านเทพเจ้า
...........................
หัวหน้าตึกมัจฉาจิวเพ้งได้รับรายงานพิราบด่วนความล้มเหลวจากบริวาร รู้สึกขุ่นเคืองใจอย่างยิ่ง ตกลงใจจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง พลันฮั่วตงลิ้มปรากฏกายขึ้น จิวเพ้งประสานมือทักทาย
" คารวะท่านประมุข… "
ฮั่วตงลิ้มถามเสียงราบเรียบ
" เรื่องที่ให้จัดการกับเฉินชงหมิง ไปถึงไหนแล้ว… "
" เรียนท่านประมุข เฉินชงหมิงได้รับการช่วยเหลือจากยอดฝีมือแปลกหน้า. ..ล้วน…โชคดีทุกครั้ง ในครั้งนี้บริวารจึงตัดสินใจจะออกไปจัดการด้วยตนเอง ขอท่านประมุขโปรดให้โอกาสอีกครั้ง… "
" ไม่ต้องแล้ว เฉินชงหมิงเมื่อกลับถึงหมู่บ้านเทพเจ้า การลงมือนับว่ายากเกินไป… "
" ท่านประมุข หรือว่าท่านกำลังมีแผนการใด? "
ฮั่วตงลิ้มกล่าวช้าๆ
" เท่าที่ข้าทราบ ขณะนี้หมู่บ้านเทพเจ้า ส่งเทียบเชิญจอมยุทธมาชุมนุมกันเพื่อรวมกำลังกัน กำจัดพรรคบัวขาวของเรา กำหนดงานชุมนุมวันที่สิบสามเดือนหน้า เพราะฉะนั้นเราต้องดักจัดการกับพวกมันระหว่างทาง เรื่องนี้ข้าเรียกให้สามหัวหน้าตึกไปจัดการแล้ว ส่วนท่านให้ตามไปสมทบอีกแรงหนึ่ง… "
หยุดเล็กน้อย ค่อยกล่าวต่อไปช้าๆ
" ยังมี ช่วงนี้ข้าจะเก็บตัวฝึกวิชาสักระยะหนึ่ง เรื่องราวในสำนักมอบให้สองผู้เฒ่าคุ้มกฏช่วยดูแล หากมีคำสั่งใด ข้าจะถ่ายทอดมากับสองผู้เฒ่าคุ้มกฎเอง… "
จิวเพ้งส่งเสียงรับคำ ฮั่วตงลิ้มค่อยหันกายสาวเท้าจากไป
………………………………………………………….
เฉินชงหมิงเมื่อกลับถึงบ้านก็ให้บ่าวไพร่พาเหวินฮั่นกุน และหลันเหลยไปยังเรือนรับรอง เฉินชงหมิง เฉินชิงหยุน เมื่ออยู่ด้วยกันตามลำพังสองพี่น้อง ผู้เป็นพี่ชายค่อยถามว่า
" วันก่อนท่านพ่อถูกลอบทำร้าย มิทราบอาการของท่านผู้เฒ่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง…"
เฉินชิงหยุนยิ้มเล็กน้อย กล่าวอย่างอัศจรรย์ใจ
" เรื่องนี้ท่านไม่ต้องกังวลใจ ท่านพ่อตอนแรกดูเหมือนบาดเจ็บสาหัสมาก แต่มิทราบได้รับโอสถทิพย์ใด ต่อมาอาการก็ทุเลาขึ้นเป็นลำดับอย่างรวดเร็ว ขณะนี้กำลังพักรักษาตัว อยู่ในห้องลับศิลา ฟังว่าจะฝึกพลังเทวะสยบฟ้าขั้นที่แปดต่อไป… "
" แล้วท่านอารองล่ะ? "
" อารองได้รับคำสั่งลับ ออกไปทำธุระอย่างหนึ่งข้างนอก ยังไม่มีกำหนดกลับ… "
เฉินลงหมิงขบคิด แล้วกล่าวว่า
" ข้าอยากไปเยี่ยมท่านพ่อ…. "
" ข้าต้องพาท่านไปแน่นอนอยู่แล้ว เพราะท่านพ่อสั่งไว้ว่า เมื่อท่านกลับมาถึงให้รีบไปพบท่านทันที "
…………………………………………
หลันเหลยเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นหญิงดังเดิม นั่งเท้าคางครุ่นคิดซึมเซาอยู่ในห้อง ยามนั้นบังเกิดเสียงเคาะประตู เด็กสาวผุดลุกขึ้น ร้องถาม
" พี่ชงหมิงหรือ? "
พลางเดินออกมาเปิดประตู กลับพบว่าอีกฝ่ายเป็นเหวินฮั่นกุน
" ผิดหวังสินะ ที่เป็นข้า? "
" มีธุระอะไร? "
" จะมาขอบคุณ เรื่องบนร้านอาหารวันนี้… "
" ไม่จำเป็น…เพราะข้าต้องทำอย่างนั้นอยู่แล้ว ขืนปล่อยให้ท่านตาย ข้าก็ไม่มีคนคอยคุ้มครองน่ะสิ… "
เหวินฮั่นกุนถอนใจกล่าวว่า
" นี่เจ้ายังไม่หายโกรธข้าอีกหรือ? "
หลันเหลยยกสองมือขึ้นกอดอก หันหลังให้เขา กล่าววาจา
" ยังไม่หาย มีอะไรมั้ย ! "
เหวินฮั่นกุนมีสีหน้าผิดหวัง เงียบงันชั่วขณะค่อยกล่าวเสียงแผ่วเบาราวพึมพำ
" ก็แค่ถามดูเท่านั้น "
แล้วหันกายเดินจากไป
หลันเหลยเลิกคิ้วหมุนตัวกลับมา ขยี้เท้ากล่าวอย่างขุ่นเคือง
" เจ้าหมีเถื่อนบ้า... เอ่ยง้อผู้อื่นบ้างสักคำ ก็ไม่ยอม "
………………………………………
♥ ♥ .. จอมใจเจ้าบัลลังก์ .. ♥ ♥ [ 6 : สู่หมู่บ้านเทพเจ้า ]
☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼
☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼
อ่านตอนก่อนหน้านี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[ขอบคุณ :ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต]
เพื่อสะดวกในการเดินทางเฉินชงหมิงแนะนำให้หลันเหลยแต่งตัวปลอมเป็นชาย วันนี้ทั้งสามเข้ามาถึงในตัวเมือง หลันเหลยรู้สึกหิว จึงเอ่ยปากชวนทั้งหมดเข้าไปหาอะไรกินก่อน
เฉินชงหมิงเดินนำขึ้นบนร้านอาหารข้างถนนร้านหนึ่ง เหวินอั่นกุนไม่พูดอะไร ได้แต่สาวเท้าเดินติดตามไปเงียบๆ
หลันเหลยอย่างดีก็เคยแค่เข้าไปวิ่งเล่นอยู่ในหมู่บ้าน ไม่เคยเข้ามาในตัวเมืองใหญ่ๆ แบบนี้มาก่อน เมื่อมาถึงจีงอดรู้สึกตื่นตาตื่นใจมิได้ พลอยทำให้อารมณ์ของนางค่อยกลับสู่ความแจ่มใสอีกครา เฉินชงหมิงเห็นนางสีหน้าสดชื่นขึ้น ก็พลอยยิ้มแย้มอย่างยินดี
" ที่นี่เป็นเพียงหัวเมืองใหญ่เท่านั้น เปรียบกับที่เมืองหลวงแล้ว ที่โน่นจะใหญ่โตกว่านี้มาก วันหน้าถ้ามีโอกาสข้าจะพาท่านไปเที่ยวเมืองหลวง ดีหรือไม่ … "
" ดีๆ.. แล้วบ้านท่านไปทางไหนหรือ ? "
" ไปตามถนนสายนี้ พอถึงทางแยกก็เลี้ยวซ้าย ไปอีกไม่ไกลก็ถึงบ้านข้า… "
เอ่ยถึงตอนนี้ ผู้รับใช้ก็ยกอาหารเข้ามา หลันเหลยมองอาหารบนโต๊ะ ร้องเบาว่า
" น่ากินจัง.. "
เฉินชงหมิงคีบกับใส่ชามข้าวให้นางพลางกล่าวชวน
" ลองชิมดูสิ อาหารที่นี่อร่อยเลื่องชื่อทีเดียว… "
หลันเหลยคีบกับในชามใส่ปากแล้วผงกศีรษะ กล่าวว่า " จริงๆ ด้วย "
เฉินชงหมิงยิ้มอย่างพอใจ พอเหลียวหน้าไปอีกทาง เห็นเหวินฮั่นกุนนั่งมองตาขวางอยู่ จึงฝืนยิ้มกล่าวอย่างเอาใจ
" ฮั่นกุน…ท่านก็เชิญ.. "
เหวินฮั่นกุนไม่กล่าวกระไร คีบกับใส่ชามข้าวตนเอง ขณะจะส่งใส่ปากรับประทาน หลันเหลยพลันโบกมือปัดตะเกียบในมือของเขาจนกระเด็น ร้องว่า
" กินไม่ได้ "
เหวินฮั่นกุนตะลึงลานกับที่ ถลึงตาใส่นาง ขณะที่โทสะกำลังจะประดังขึ้น ก็เห็นหลันเหลยบ้วนกับข้าวในปากคายทิ้งลงบนพื้น
" อาหารเหล่านี้ มีพิษ ! "
เพิ่งขาดคำ ผู้คนที่นั่งกินอยู่ที่โต๊ะด้านข้าง พลันแสดงตัวขึ้น ชักกระบี่จู่โจมเข้าหาคนทั้งสาม เหวินฮั่นกุนค่อยสำนึกว่าเข้าใจนางผิดไป จึงเหลียวหน้าไปมองหลันเหลย ด้วยสายตาขอบคุณแว่บหนึ่ง จากนั้นชักกระบี่ในมือเข้าต่อสู้กับคนพวกนั้น
เฉินชงหมิงทางหนึ่งคุ้มกันหลันเหลย ทางหนึ่งต่อสู้ ผู้คนในร้านที่ไม่รู้ไม่เห็นกับเรื่องทั้งหลาย ต่างพากันแตกตื่นตกใจหนีลงมาข้างล่าง ปล่อยให้ข้างบนต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ทันใดนั้นพลันปรากฏผู้คนเจ็ดแปดคนพากันเร่งรุดขึ้นบนร้านอาหาร ผู้นำขบวนเป็นชายหนุ่มชุดเขียวหน้าตาคมคาย ...ย่อมเป็นเฉินชิงหยุน คุณชายรองแห่งหมู่บ้านเทพเจ้านั่นเอง !
คนหมู่บ้านเทพเจ้าขณะรุดมาถึง มือสังหารบนร้านก็ถูกกำหราบไปกว่าครึ่งแล้ว ที่เหลือจึงถูกจัดการต่อในชั่วอึดใจ ทั้งยังจับเป็นได้หนึ่งคน แต่ขณะจะคุมตัวสอบถาม คนผู้นี้กลับชิงเชือดคอฆ่าตัวตายเสียก่อน
เฉินชิงหยุน เฉินชิงหมิง สองพี่น้องพอพบหน้าล้วนรู้สึกปิติยินดี เฉินชงหมิงเป็นคนกลางแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน จากนั้นทั้งหมดค่อยเร่งรุดเดินทางกลับบ้านเทพเจ้า
...........................
หัวหน้าตึกมัจฉาจิวเพ้งได้รับรายงานพิราบด่วนความล้มเหลวจากบริวาร รู้สึกขุ่นเคืองใจอย่างยิ่ง ตกลงใจจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง พลันฮั่วตงลิ้มปรากฏกายขึ้น จิวเพ้งประสานมือทักทาย
" คารวะท่านประมุข… "
ฮั่วตงลิ้มถามเสียงราบเรียบ
" เรื่องที่ให้จัดการกับเฉินชงหมิง ไปถึงไหนแล้ว… "
" เรียนท่านประมุข เฉินชงหมิงได้รับการช่วยเหลือจากยอดฝีมือแปลกหน้า. ..ล้วน…โชคดีทุกครั้ง ในครั้งนี้บริวารจึงตัดสินใจจะออกไปจัดการด้วยตนเอง ขอท่านประมุขโปรดให้โอกาสอีกครั้ง… "
" ไม่ต้องแล้ว เฉินชงหมิงเมื่อกลับถึงหมู่บ้านเทพเจ้า การลงมือนับว่ายากเกินไป… "
" ท่านประมุข หรือว่าท่านกำลังมีแผนการใด? "
ฮั่วตงลิ้มกล่าวช้าๆ
" เท่าที่ข้าทราบ ขณะนี้หมู่บ้านเทพเจ้า ส่งเทียบเชิญจอมยุทธมาชุมนุมกันเพื่อรวมกำลังกัน กำจัดพรรคบัวขาวของเรา กำหนดงานชุมนุมวันที่สิบสามเดือนหน้า เพราะฉะนั้นเราต้องดักจัดการกับพวกมันระหว่างทาง เรื่องนี้ข้าเรียกให้สามหัวหน้าตึกไปจัดการแล้ว ส่วนท่านให้ตามไปสมทบอีกแรงหนึ่ง… "
หยุดเล็กน้อย ค่อยกล่าวต่อไปช้าๆ
" ยังมี ช่วงนี้ข้าจะเก็บตัวฝึกวิชาสักระยะหนึ่ง เรื่องราวในสำนักมอบให้สองผู้เฒ่าคุ้มกฏช่วยดูแล หากมีคำสั่งใด ข้าจะถ่ายทอดมากับสองผู้เฒ่าคุ้มกฎเอง… "
จิวเพ้งส่งเสียงรับคำ ฮั่วตงลิ้มค่อยหันกายสาวเท้าจากไป
………………………………………………………….
เฉินชงหมิงเมื่อกลับถึงบ้านก็ให้บ่าวไพร่พาเหวินฮั่นกุน และหลันเหลยไปยังเรือนรับรอง เฉินชงหมิง เฉินชิงหยุน เมื่ออยู่ด้วยกันตามลำพังสองพี่น้อง ผู้เป็นพี่ชายค่อยถามว่า
" วันก่อนท่านพ่อถูกลอบทำร้าย มิทราบอาการของท่านผู้เฒ่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง…"
เฉินชิงหยุนยิ้มเล็กน้อย กล่าวอย่างอัศจรรย์ใจ
" เรื่องนี้ท่านไม่ต้องกังวลใจ ท่านพ่อตอนแรกดูเหมือนบาดเจ็บสาหัสมาก แต่มิทราบได้รับโอสถทิพย์ใด ต่อมาอาการก็ทุเลาขึ้นเป็นลำดับอย่างรวดเร็ว ขณะนี้กำลังพักรักษาตัว อยู่ในห้องลับศิลา ฟังว่าจะฝึกพลังเทวะสยบฟ้าขั้นที่แปดต่อไป… "
" แล้วท่านอารองล่ะ? "
" อารองได้รับคำสั่งลับ ออกไปทำธุระอย่างหนึ่งข้างนอก ยังไม่มีกำหนดกลับ… "
เฉินลงหมิงขบคิด แล้วกล่าวว่า
" ข้าอยากไปเยี่ยมท่านพ่อ…. "
" ข้าต้องพาท่านไปแน่นอนอยู่แล้ว เพราะท่านพ่อสั่งไว้ว่า เมื่อท่านกลับมาถึงให้รีบไปพบท่านทันที "
…………………………………………
หลันเหลยเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นหญิงดังเดิม นั่งเท้าคางครุ่นคิดซึมเซาอยู่ในห้อง ยามนั้นบังเกิดเสียงเคาะประตู เด็กสาวผุดลุกขึ้น ร้องถาม
" พี่ชงหมิงหรือ? "
พลางเดินออกมาเปิดประตู กลับพบว่าอีกฝ่ายเป็นเหวินฮั่นกุน
" ผิดหวังสินะ ที่เป็นข้า? "
" มีธุระอะไร? "
" จะมาขอบคุณ เรื่องบนร้านอาหารวันนี้… "
" ไม่จำเป็น…เพราะข้าต้องทำอย่างนั้นอยู่แล้ว ขืนปล่อยให้ท่านตาย ข้าก็ไม่มีคนคอยคุ้มครองน่ะสิ… "
เหวินฮั่นกุนถอนใจกล่าวว่า
" นี่เจ้ายังไม่หายโกรธข้าอีกหรือ? "
หลันเหลยยกสองมือขึ้นกอดอก หันหลังให้เขา กล่าววาจา
" ยังไม่หาย มีอะไรมั้ย ! "
เหวินฮั่นกุนมีสีหน้าผิดหวัง เงียบงันชั่วขณะค่อยกล่าวเสียงแผ่วเบาราวพึมพำ
" ก็แค่ถามดูเท่านั้น "
แล้วหันกายเดินจากไป
หลันเหลยเลิกคิ้วหมุนตัวกลับมา ขยี้เท้ากล่าวอย่างขุ่นเคือง
" เจ้าหมีเถื่อนบ้า... เอ่ยง้อผู้อื่นบ้างสักคำ ก็ไม่ยอม "
………………………………………