♥ ♥ .. จอมใจเจ้าบัลลังก์ .. ♥ ♥ [ 10: ถูกตราหน้า..ศิษย์ทรยศ ]

กระทู้สนทนา

☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼


☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼

อ่านตอนก่อนหน้านี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[ขอบคุณ :ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต]



☼ ☼ 10:: ถูกตราหน้า..ศิษย์ทรยศ ☼ ☼



                 เฉินชงหมิงเดินค้นหาเจี่ยคุนแทบทุกซอกทุกมุมของห้องใต้ดิน แต่ก็หาไม่พบ ต้องรู้สึกประหลาดใจสงสัยอย่างยิ่ง พึมพำ

                 “  เอ.. อารองหายไปไหนนะ  หรือว่าออกไปทำธุระข้างนอก ? “

                 ในความครุ่นคิด สองเท้าพาตนเองหวนกลับมายังห้องศิลาเมื่อครู่อีกครั้ง  เพิ่งก้าวพ้นประตูเข้ามา สายตาพอกวาดมองเห็นสภาพสยดสยองของน้องชาย  พริบตานั้นอากัปกิริยาทุกอย่างก็พลันชะงักค้าง รู้สึกมือเท้าเย็นเฉียบ หัวใจสั่นสะท้านปานจะขาดรอน   ยืนอึ้งตกตะลึงงุนงงราวไม่เชื่อสายตาตนเอง  

                 นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?

                 โดยไม่รู้ตัว.. เคลื่อนตัวเข้าไปหาร่างที่นั่งจมกองเลือดอยู่ข้างหน้าอย่างคนสติเลื่อนลอย  

                 ในใจมีแต่คำร่ำร้อง

                 ไม่จริง.. นั่นไม่ใช่อาหยุน..เป็นไปไม่ได้…!

              ทรุดเข่าลงข้างๆร่างไร้วิญญาณ ยื่นมือออกไปสัมผัสใบหน้าเย็นซีดที่ชะโลมเต็มไปด้วยคราบเลือด  คำตอบตรงหน้าพอแน่ชัด นี่คือเฉินชิงหยุนน้องชายของเขาจริงๆ น้ำตาระอุอุ่นก็ไหลรินลงนองหน้า

                 “ อาหยุน.. ใครทำร้ายเจ้า...ใครทำให้เจ้าเป็นแบบนี้ ? “

                 เฉินชงหมิงเขย่าร่างนั้นเรียกหา แต่เมื่อไร้คำตอบจากร่างที่อ่อนปวกเปียกนั้น  หัวใจของเขาก็เหมือนถูกบีบจนแทบแหลกสลาย มือยิ่งเขย่าแรงขึ้น แรงขึ้น ตะเบ็งเสียงเรียกดังกว่าเดิม

                 “  อาหยุน เจ้าตื่นขึ้นมา... อาหยุน... บอกข้าใครทำร้ายเจ้า ? ”

                 มันตายแล้ว... !

                 เขาบอกกับตัวเอง ทั้งที่ใจยังคงไม่อาจจะยอมรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้

                 ความเคลือบแคลงต่อการตายของบิดายังไม่ได้อธิบายให้เข้าใจ บัดนี้คนกลับถูกฆ่าตาย.. ชั่วชีวิตนี้เขาคงไม่สามารถแก้ตัวปรับความเข้าใจกับมันได้อีกแล้ว  หรือจะต้องให้มันพกพาความเข้าใจผิดระหว่างพี่น้องไปยังปรภพเช่นนี้ ?  

                 มือหนึ่งโอบร่างของอีกฝ่ายเข้ามากอด อีกมือเช็ดคราบเลือดบนใบหน้าให้น้องด้วยปลายนิ้วที่สั่นระริก ในใจทั้งปวดร้าวรันทด ทั้งหดหู่เวทนา  สุดท้าย..ปิดเปลือกตาให้มัน บอกเสียงสั่นเครือ

                 “  ฟังนะอาหยุน.. ข้าไม่ได้ฆ่าท่านพ่อ เจ้าอย่าโกรธข้าได้ไหม  ข้าให้สัญญา..  ข้าจะสืบหาคนที่ทำร้ายเจ้า และล้างแค้นให้เจ้า.. นอนตาหลับเถอะนะ..”

                 ดวงตาที่เหลือกโพลง..เพิ่งได้รับการปิดให้หลับพริ้ม เป็นเวลาเดียวกับที่ประตูห้องลับพลันถูกเปิดจากด้านนอก  ร่างคนสามคนก้าวพรวดพราดเข้ามา

                 เป็นเจี่ยคุน  หลิวเจิ้น และฉีเซียะ !

                 “ ท่านประมุข ! “

                 “ คุณชายรอง ! “

                 “ พวกเรา...มาช้าเกินไป “

                 ทั้งหมดพอเข้ามาก็ยืนตะลึงอยู่หน้าประตู  หลิวเจิ้น กับฉีเซียะพอได้สติค่อยถลาเข้าไป คุกเข่าลงข้างๆศพของเฉินเซ่าเทียน  ส่วนเจี่ยคุนเคลื่อนกายเข้ามาหยุดยืนเบื้องหน้าร่างสองพี่น้อง

                 เฉินชงหมิงระงับความเศร้าเสียใจอย่างช้าๆ เงยหน้าขึ้นมองเจี่ยคุนอย่างขอความช่วยเหลือ  

                 ณ เวลานี้จิตใจของเขาทั้งงุนงง  ทั้งคุมแค้น ทั้งเจ็บปวดรวดร้าว  เขารู้แต่เพียงว่า ..มีเพียงอารองผู้นี้เท่านั้น ที่เสมือนเป็นเสาหลักในใจของเขา  อีกฝ่ายเป็นคนเดียวในโลกนี้ที่เข้าใจเขา เป็นคนเดียวรับทราบความจริงทั้งหมด และสามารถช่วยอธิบายความบริสุทธิ์ของเขาต่อชนชาวโลกได้

                 เขาเงยหน้าขึ้นปากอยากจะร้องถาม อยากจะตัดพ้อ ว่าเมื่อครู่นี้อีกฝ่ายหายไปไหนมา

                 แต่เสียงเรียกหา “อารอง” เพิ่งหลุดพ้นริมฝีปาก  เขาก็พลันพบว่าปฏิกิริยาของอีกฝ่ายไม่ถูกต้อง !

                 ประกายตาซึ่งเคยอ่อนโยน เปี่ยมด้วยแววการุณย์เอ็นดู บัดนี้ปลาสนาการไปสิ้น สีหน้าของอารองในเวลานี้.. นิ่งขรึม สายตาทอแววตำหนิเย็นชา  มองเขาอย่างรังเกียจเคียดแค้น ราวกับเขาเป็นฆาตกรโหดโฉดชั่วก็ไม่ปาน

                 ฉีเซียะผละจากศพของประมุขบ้านเทพเจ้า หลั่งน้ำตานองหน้า ถาโถมเข้ามาราวหมายจะฉีกกระชากเลือดเนื้อ แต่เมื่อถูกเจี่ยคุนยื่นมือขวางไว้ จึงได้แต่ร่ำร้องดังๆอย่างโกรธแค้น

                 “  เฉินชงหมิง .. เจ้าสารเลว คิดไม่ถึง.. เจ้าฆ่าได้แม่กระทั่งพ่อบังเกิดเกล้า และน้องชายร่วมสายเลือด .. เจ้ามันสมควรตาย ! “

                 เฉินชงหมิงผุดลุกยืนขึ้นอย่างงุนงง ส่ายหน้าร้องปฏิเสธอย่างตกใจ

                 “  ไม่..ข้าไม่ได้ฆ่าพวกเขา “

                 หลิวเจิ้นปาดน้ำตา พลางกรากเข้ามาอีกคน กระชากเสียงว่า

                 “ เฮอะ..หลักฐานเห็นอยู่ทนโท่ เจ้ายังคิดแก้ตัวอีกหรือ...”

                 “  ใช่ “  ฉีเซียะร้องสนับสนุน  “ เจ้าลงมือสังหารท่านประมุข  คุณชายรองคงเข้ามาเห็นศพ จึงถูกเจ้าฆ่าปิดปากอีกคน  “

                 หลิวเจิ้นถอนใจ ก้มมองศพของเฉินชิงหยุนแล้วกล่าวอย่างเสียใจ

                 “  พวกเราผิดเอง.. พวกเราควรจะเข้ามาพร้อมกับคุณชายรอง  ไม่น่าปล่อยเขามาเองเพียงลำพัง  ... “

                 ในตอนท้าย ค่อยเบือนหน้าไปทางเจี่ยคุณ กล่าววิงวอน

                 “  ท่านอารอง.. ได้โปรดให้ความเป็นธรรมกับคุณชายรองด้วย... ล้างแค้นให้ท่านประมุขกับคุณชายรองด้วย... ”

                 เฉินชงหมิงถูกกล่าวหาจนสมองงุนงงเลอะเลือน  พริบตานั้นรู้สึกเหมือนถูกจับโยนใส่เข้าไปในม่านหมอกปริศนา   กระทั่งเขาเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วเขาจะเอาคำตอบอะไรไปอธิบายแก้ตัวต่อผู้อื่นได้ ?

                 การตายของบิดามีเพียงอารองที่รับรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร  แต่เวลานี้อีกฝ่ายกำลังมองเขาอย่างโทษตำหนิ ราวเข้าใจผิดคิดว่าเขาฆ่าเฉินชิงหยุนจริงๆก็ไม่ปาน  สายตาที่จิกมองมา เปรียบคล้ายค้อนเหล็กมหึมาทุบใส่ศีรษะของเขาจนในหัวลั่นอื้ออึงอล

                 “ อารอง.. โปรดฟังข้า...”

                 เขาคุกเข่าลงวิงวอน  หากแววตาของอีกฝ่ายยังคงแข็งกร้าวไม่ยอมอ่อนลง กล่าวเสียงเย็นชา

                 “  ชงหมิง...คิดไม่ถึง.. ข้ามองเจ้าผิดไปจริงๆ  ไม่อยากเชื่อว่าเจ้าจะอำมหิตเพียงนี้ “

                 “  ไม่.. อารอง..ข้าไม่ได้....”

                 “  ไม่ต้องแก้ตัวอีกแล้ว  ! “

                 เจี่ยคุนตวาดเสียงกราดเกรี้ยว  

                 นับตั้งแต่เล็กจนโต.. นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกอารองตวาดแบบนี้ ทำเอาชายหนุ่มถึงกับมือสั่นขาอ่อนระทวย งกเงิ่นทำอะไรไม่ถูก

                 “  ความบาดหมางระหว่างเจ้ากับอาหยุน  อาเซียะกับอาเจิ้นเล่าให้ข้าฟังหมดแล้ว  ข้าไม่อยากจะเชื่อ.. คิดไม่ถึงเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียว ทำให้เจ้าถึงกับลงมือฆ่าน้อง  ..สารเลว.. เจ้ามันไม่คู่ควรเป็นคนตระกูลเฉิน ข้าผิดหวังในตัวเจ้าจริงๆ...”

                 “  อารอง...”

                 เฉินชงหมิงครางอย่างปวดร้าว... แม้แต่อารอง...ผู้ที่เขาไว้ใจ รักและเคารพที่สุด เสมือนดังบิดาคนที่สองก็เข้าใจเขาเช่นนี้หรือ.. แล้วนี่.. เขาจะแก้ตัวอย่างไรได้อีก ?

                 “ จับกุมเจ้าศิษย์ทรยศผู้นี้ไว้ ! “

                 เจี่ยคุนออกคำสั่งเสียงเครียด  ขาดคำฉีเซียะและหลิวเจิ้นก็ถลันเข้าไปคว้าจับแขนเฉินชงหมิงไว้คนสะข้าง  คร่ากุมเขาไว้อย่างรวดเร็ว

                 คำศิษย์ทรยศ..จากปากของผู้เป็นยี่ซือเจ่ก (อารอง) สะกดเฉินชงหมิงจนเจ็บปวดขมขื่นใจแทบไม่มีเรี่ยวแรงดิ้นรนขัดขืน  หากยังคงเพ่งตามองอีกฝ่ายด้วยสายตาวิงวอนอีกครั้ง

                 “  อารอง.. ท่านเข้าใจผิด  โปรดฟังข้าอธิบาย  “

                 “  ไม่จำเป็น “

                 เจี่ยคุนตัดบทเสียงเย็นเฉียบ

                 “ ถ้าเจ้าอยากจะพูดอะไร อีกสักครู่ ก็ไปพูดอธิบายต่อเหล่าพี่น้องในสำนักที่ห้องโถงใหญ่ก็แล้วกัน   อาเซียะกับอาเจิ้น..คุมตัวมันออกไป ! “

                 ศิษย์ทั้งสองส่งเสียงรับคำ หิ้วปีกเฉินชงหมิงคนละข้าง ลากพาออกจากห้องลับ ในขณะที่เจียคุน ก้มลงอุ้มศพของเฉินชิงหยุนไปวางบนเตียงศิลาเคียงข้างกับศพเฉินเซ่าเทียน  จากนั้นค่อยทรุดนั่งลงอย่างสลดรันทด คร่ำครวญเบาๆ

                 “  โธ่.. พี่ใหญ่  อาหยุน...ไม่น่าเลย “

                

                 ......................................................



ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่