♥ ♥ .. จอมใจเจ้าบัลลังก์ .. ♥ ♥ [ 8 : องค์หญิงผู้สาปสูญ ]

กระทู้สนทนา

☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼


☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼

อ่านตอนก่อนหน้านี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[ขอบคุณ :ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต]



☼ ☼ 8 :: องค์หญิงผู้สาปสูญ ☼ ☼


                  

                  ทางด้านหมู่บ้านเทพเจ้า...

                  เฉินชงหมิงสองพี่น้องกำลังถกเถียง ถึงสาเหตุที่หลันเหลยทิ้งจดหมายไว้แล้วจากไป โดยเฉพาะเฉินชิงหยุนสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา  เดินไปเดินมาบ่นพึมพำอย่างหงุดหงิด

                  “  หลันเหลยจู่ๆ ก็จากไป   คงต้องเป็นเพราะคนแซ่เหวินบีบบังคับนางอย่างแน่นอน  คนผู้นี้ปากกับใจว่าคนละอย่าง มันไม่พอใจหลันเหลยไม่สนใจมัน ไยต้องกลั่นแกล้งพลัดพรากเราสองคนด้วย... ”

                  เฉินชงหมิงเอ่ยเตือน

                  “ อาหยุน อย่าวู่วามเที่ยวเดาส่งเดชสิ ข้าคิดว่าฮั่นกุนคงมิใช่คนอย่างนั้น...”

                  เฉินชิงหยุนหันขวับมาร้องบอกอย่างฉุนเฉียว

                  “ ข้าจะไปตามหาหลันเหลย ถามนางให้รู้เรื่อง ว่านางถูกบังคับหรือไม่ ถ้าเหวินฮั่นกุนทำอะไรหลันเหลยของข้า ข้าจะเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด .... ”

                  กล่าวจบสะบัดหน้าออกมา เฉินชงหมิงเรียก “ อาหยุน ” คิดห้ามปราม พลันบ่าวไพร่ก็เข้ามารายงานว่า ที่ห้องโถงมีสองพ่อลูกคู่หนึ่งมารอพบประมุขบ้านเทพเจ้า

                  เฉินชงหมิงออกไปที่ห้องโถง พบว่าคนทั้งสองก็คือชายกลางคนผู้พกพากระบี่ดำ กับบุตรสาวนั่นเอง  ทันทีที่พบเห็นกระบี่ดำที่สะพายหลัง ชายหนุ่มชะงักใช้ความคิดเล็กน้อย ค่อยยิ้มพลางประสานมือกล่าวว่า

                  “ ที่แท้เป็นเทพกระบี่พระกาฬ หวังสงอิงที่เลื่องลือ ผู้อาวุโสให้เกียรติมาเยือนถึงบ้านเทพเจ้า ขออภัยที่ผู้เยาว์มิทันได้ต้อนรับอย่างสมเกียรติ.... ”

                  หวังสงอิงกล่าวเสียงราบเรียบ

                  “ บุรุษหนุ่ม เจ้าคือ..?. ”

                  “ ผู้เยาว์ เฉินชงหมิง เป็นคุณชายใหญ่แห่งบ้านเทพเจ้า... ”

                  “ ที่แท้เป็นคุณชายใหญ่แห่งบ้านเทพเจ้า บิดาเจ้าล่ะ... ”

                  “ ท่านพ่อกำลังฝึกวิชา ช่วงนี้ไม่ออกมาพบผู้คน จึงให้ผู้เยาว์ออกมาต้อนรับผู้อาวุโสแทน หวังว่าผู้อาวุโสคงไม่ถือสา... ”

                  “ คุณชายใหญ่กล่าวถ่อมตนไปแล้ว.... ”

                  เฉินชงหมิงเชิญสองพ่อลูกนั่งลงดื่มน้ำชา ค่อยกล่าวว่า

                  “ บ้านเทพเจ้าของเรา ส่งเทียบเชิญไปทั่วบู๊ลิ้ม นี่ยังมีอีกหลายวันจึงจะถึงวันงาน นับว่าท่านผู้อาวุโสได้มาถึงเป็นบุคคลแรกทีเดียว.... ”

                  เด็กสาวที่ติดตามหวังสงอิงมาโพล่งขึ้น

                  “ ใครบอกท่านว่า เรามาเรื่องงานชุมนุมบู๊ลิ้ม... ”

                  เฉินชงหมิงงงงันวูบ

                   “ โกวเนี้ยท่านนี้คือ... ?”

                  หวังสงอิงหันไปปรามบุตรสาวอย่าเสียมารยาท ค่อยแนะนำต่อเฉินชงหมิง ว่านางชื่อ หวังอี้หลิง จากนั้นกล่าวว่า

                  “ พวกเรามาที่นี่มิใช่เพราะเรื่องงานชุมนุมบู๊ลิ้ม แต่เรามาตามหาคนผู้หนึ่ง.... ”

                  “ หาคน ? ผู้ใดหรือ ? ”

                  “ เป็นเด็กสาวนางหนึ่ง นางอายุประมาณสิบห้าสิบหกปี รูปร่างส่วนสูงเกือบเท่า ๆ กับบุตรีของเรา นางรูปโฉมงดงามน่ารักมาก ....ฟังว่านางพักอยู่ในบ้านเทพเจ้า..... ”

                  เฉินชงหมิงอึ้งไปวูบ ในใจแม้พอคาดเดาได้ แต่ยังคงเลียบเคียงถามอย่างระมัดระวัง

                  “ นางชื่ออะไร ? ”

                  “ ข้าไม่ทราบ ...แต่ท่านคงรู้จักนางกระมัง... ”

                  “ หากข้าคาดเดามิผิด นางคงเป็นคนเดียวกับสหายของข้า  สหายหญิงของข้าคนนี้ยังเยาว์วัยนิสัยค่อนข้างซุกซน  มิทราบที่แท้นางไปล่วงเกินอันใดผู้อาวุโส ... หากนางไปก่อเรื่องอันใดไว้ ข้าพเจ้ายินดีชดใช้ค่าเสียหาย และขอขมาต่อท่านแทนนางจะได้หรือไม่..... ”

                  อี้หลิงรับฟังจนแย้มยิ้มกล่าวว่า

                  “ ดูท่านางคงมีความสำคัญต่อคุณชายใหญ่ไม่น้อย สินะ.... ”

                  หวังสงอิงส่ายหน้าหันมาดุเบาๆ

                  “ อย่าเสียมารยาท ”

                  ค่อยหันมาทางเฉินชงหมิง รีบกล่าวว่า

                  “ คุณชายใหญ่อย่าได้เข้าใจผิด เรากับนางมิได้มีเรื่องบาดหมางใดกัน เพียงรูปโฉมของนางคลับคล้ายกับบุตรสาวสหายข้าคนหนึ่ง  ข้าจึงอยากจะได้พบหน้าสนทนาสักครั้ง เพื่อว่าบางทีนางอาจเป็นบุตรสาวสหายที่หายสาบสูญไปคนนั้นก็ได้....... ”

                  เฉินชงหมิงฉุกใจคิด ส่งเสียงอืมในคอเบาๆ กล่าวว่า

                  “ มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ.. งั้นก็ช่างบังเอิญยิ่งนัก  หลันเหลยเองก็เป็นกำพร้า บิดานางถูกพรรคบัวขาวฆ่าตาย ตั้งแต่นางยังเล็กๆ ส่วนมารดาก็ล้มป่วยเสียชีวิต  ตลอดมานางอยู่ในความดูแลของปู่นาง นี่เป็นประวัติเคร่าๆ ของนางที่ข้าทราบมา... ”

                  หวังสงอิงสีหน้าปลาบปลื้มยินดี โพล่งว่า

                  “ งั้นก็คงไม่ผิดคนแน่...คุณชายใหญ่เมื่อครู่บอกท่านบอกว่า นางมีชื่อว่ากระไร ? ”

                  “ นางชื่อหลันเหลย...ซิมหลันเหลย.. ”

                  หวังสงอิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ครุ่นคิดในใจ

                  “ นางใช้แซ่ซิมหรือ ?.. ซิมหลันเหลย หรือว่าปู่นางคือ..ใช่..ต้องเป็นเขาแน่นอน.... ”

                  คำนึงถึงตรงนี้ ค่อยเบือนหน้ามากล่าวว่า

                  “ คุณชายใหญ่...ขอให้ข้าได้พบกับนางสักครั้งเถอะ.... ”

                  เฉินชงหมิงถอนใจ กล่าวอย่างผิดหวัง

                  “ ขออภัย.. นางจากไปตั้งแต่เมื่อเช้ามืด เพียงทิ้งไว้แต่จดหมายฉบับเดียวเท่านั้น ”

                  อี้หลิงโพล่งว่า

                  “ แต่เราเพิ่งพบนางในตัวเมืองเมื่อตอนสายๆ ของวันนี้เอง.... ”

                  เฉินชงหมิงพอฟังดวงตาทอประกายยินดี กล่าวว่า

                  “ งั้นก็แสดงว่านางอาจยังคงอยู่ภายในเมืองนี้...เวลานี้ข้าส่งคนออกไปตามหานางอยู่ หากผู้อาวุโสไม่รังเกียจ ก็พักอยู่ที่นี่ไปก่อนดีหรือไม่ หากมีข่าวของหลันเหลยจะได้แจ้งให้ท่านทราบ และถ้ายังไงก็จะได้อยู่ร่วมงานชุมนุมชาวบู๊ลิ้มกับพวกเราเสียด้วยเลย... ”

                  หวังสงอิงขบคิดเล็กน้อย จึงผงกศีรษะรับคำ

                  “ งั้นก็ต้องขอรบกวนคุณชายใหญ่แล้ว ”

                  

                  .................................



ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่