♥ ♥ .. จอมใจเจ้าบัลลังก์ .. ♥ ♥ [ 22 : ดินแดนใต้หุบเหวนิรนาม ]

กระทู้สนทนา

☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼



☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼ ☼

อ่านตอนก่อนหน้านี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้




พลุ☼ ☼ 22:: ดินแดนใต้หุบเหวนิรนาม ☼ ☼พลุ


                  

                  แสงอาทิตย์สาดลอดเข้ามาใต้ชะง่อนผา ภายในถ้ำสว่างขึ้นมาอีกครา  อวี้หลิงพอลืมตาตื่นขึ้นมาไม่พบเห็นเหวินฮั่นกุน ต้องรู้สึกตกใจอย่างยิ่ง รีบลุกขึ้นส่งเสียงร้องเรียกหา “ คุณชายเหวิน” อย่างตื่นตระหนก

                  พลันบังเกิดเสียงขานรับ

                  “ ข้าอยู่นี่ “

                  เห็นเหวินฮั่นกุนเดินเข้ามาจากอีกทางด้านหนึ่ง หญิงสาวจึงถอนใจอย่างโล่งอก

                  “ คุณชายเหวิน ท่านทำให้ข้าใจคอหายหมดเลย  จริงสิ...ตอนนี้อาการท่านเป็นอย่างไรบ้าง ? “

                  “ หายเป็นปกติแล้ว..”

                  อวี้หลิงอุทานดังฮ้า ร้องอย่างประหลาดใจ

                  “  อะไรจะรวดเร็วปานนั้น ? “

                  “  นั่นต้องขอบคุณโอสถทิพย์เม็ดนั้น นับว่าเป็นโอสถทิพย์สมชื่อจริงๆ “

                  “  โชคดีจริงๆ “

                  “  ใช่แล้ว.. แล้วแผลที่แขนของเจ้าล่ะ ? “

                  “  ไม่เป็นไร.. มันเฉี่ยวเนื้อเล็กน้อย เพียงแต่คงโดนน้ำเลยอักเสบนิดหน่อย “

                  “  แล้วยังปวดมากหรือไม่ ? “

                  “  ปวดแค่นี้ข้าทนได้  ขอบคุณที่เป็นห่วง “  

                  จากนั้นรีบเบี่ยงเบนเรื่องสนทนาไปอย่างอื่น

                  “ เมื่อครู่นี้ท่านหายไปไหนมา  ? “

                  เหวินฮั่นกุนมองแผลซึ่งพันผ้าไว้บนแขนของนางแล้วถอนใจไม่ซักถามต่ออีก  เหลียวมองไปรอบๆกล่าวว่า

                  “  ข้าตื่นขึ้นมาเลยลองเดินสำรวจดูทั่วๆ  พบว่าถ้าหากเราคิดจะออกไปจากที่นี่ คล้ายกับมีทางออกเพียงสองทาง “

                  “ สองทางใด ? “

                  “ ทางแรกคือทางที่เราเข้ามา “

                  “ ท่านหมายถึงทางน้ำ ? “

                  “  อืม... แต่กระแสน้ำเชี่ยวมาก  เจ้าเองก็ยังบาดเจ็บ  ข้าจึงไม่แน่ใจว่าเราจะโชคดีว่ายทวนฝ่ากระแสน้ำออกไปได้สำเร็จหรือไม่  เพราะดูแล้วมันอันตรายมาก  “

                  “  แล้วอีกทางหนึ่งเล่า ? “

                  เหวินฮั่นกุนชี้ไปทางด้านหลัง ซึ่งเขาเพิ่งเดินเข้ามาเมื่อสักครู่

                  “  ทางด้านนั้นมีอุโมงค์ยาวมากสายหนึ่ง เมื่อสักครู่ข้าเดินสำรวจไปได้ครึ่งทาง เห็นข้างหน้ามีแสงสว่างรำไร ไม่แน่ใจว่านั่นจะเป็นทางออกหรือไม่  ข้าเป็นห่วงเกรงเจ้าตื่นแล้วไม่เห็นข้าจึงรีบย้อนกลับมาก่อน ดังนั้นยังไม่ได้สำรวจไปจนถึงปากทางออก.. แล้วตอนนี้เจ้าพอลุกเดินไหวไหม ? “

                  อวี้หลิงเห็นเขาเป็นห่วงนางปานนี้อดปลาบปลื้มใจมิได้  แย้มยิ้มพลางกล่าวว่า

                  “  ข้าบาดเจ็บที่แขนไม่ได้บาดเจ็บที่ขาสักหน่อย ทำไมจะเดินไม่ไหว “

                  “  ดี...งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ..”

                  

                  ....................................

                  

                  แล้วก็จริงดั่งที่เหวินฮั่นกุนคาดคิดไว้  แสงสว่างรำไรนั้นคือปากอุโมงค์ซึ่งเป็นทางออกของถ้ำใต้ชะง่อนผาแห่งนี้ เพียงแต่มันเป็นเพียงทางออกจากถ้ำเท่านั้น หาใช่ทางกลับสู่โลกภายนอกไม่ !

                  เมื่อเดินออกจากปากอุโมงค์ ทั้งสองค่อยเข้ามาสู่ดินแดนอันลี้ลับ ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้โบราณนานาชนิด สภาพอันสงบและสงัด หญ้าเถาวัลย์รกครึ้มไร้ร่องรอยการถูกบุกรุก ดูไปนี้ที่แห่งนี้คล้ายกับไม่เคยมีผู้คนจากภายนอกย่างกรายเข้ามาเป็นเวลาช้านาน

                  หนุ่มสาวทั้งสองต้องใช้กระบี่ถางฟันต้นหญ้าเถาวัลย์เพื่อเบิกเป็นทางเดิน ฝ่าไปเรื่อยๆ ในที่สุดค่อยพบเจอว่าข้างหน้าปลูกกระท่อมโดดเดี่ยวเอาไว้หลังหนึ่ง

                  น่าประหลาด.. ณ กลางดินแดนที่ไร้ร่องรอยผู้คนอยู่อาศัย ไฉนกลับมีกระท่อมปลูกอยู่ได้ ?

                  หรือว่าสถานที่แห่งนี้เคยมีคนอยู่อาศัยมาก่อน ?

                  กระท่อมหลังน้อยปลูกสร้างด้วยดินเหนียวยังคงมีสภาพผนังและหลังคากระเบื้องดินเผาที่สมบูรณ์ ข้าวของเครื่องเรือนเครื่องใช้ภายในบ้านยังมีอยู่ครบถ้วน เพียงแต่ถูกวันเวลากล้ำกรายจนปกคลุมด้วยหยากไย่และฝุ่นหนา  นี่ย่อมแสดงว่าได้ถูกทิ้งร้างไว้ไม่ต่ำกว่าสิบปีแล้ว

                  ทั้งสองช่วยกันสำรวจในบ้านและรอบๆบ้าน มิเพียงไม่พบผู้คน กระทั่งหลุมศพหรือโครงกระดูกก็หาได้มีทิ้งไว้ไม่

                  อวี้หลิงอดกล่าวมิได้ว่า

                  “  ที่นี่คล้ายเป็นดินแดนใต้หุบเหว  ดูท่า..ทางออกจากถ้ำใต้ชะง่อนผาที่จะออกสู่โลกภายนอก ไม่ได้มีถึงสองทาง หากแต่มีเพียงทางเดียวเท่านั้นคือทางน้ำที่พวกเราเข้ามาในตอนแรก...”

                  “  อืม..”

                  เหวินฮั่นกุนเพียงส่งเสียงรับเบาๆในลำคอ  มองไปรอบๆแล้วพึมพำ

                  “  ที่นี่เงียบสงบน่าอยู่จริงๆ.. เป็นที่ที่เหมาะสมจริงๆ “

                  อวี้หลิงถามอย่างสงสัย

                  “  เหมาะสมอันใด ? “

                  “  เจ้าดู.. กระท่อมใต้หุบเหวแห่งนี้สงบเงียบ เปลี่ยวร้างไร้ผู้คนรบกวน มิหนำซ้ำพื้นดินต้นไม้ใบหญ้ารอบๆก็ดูอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การอยู่อาศัย  ข้าอยากใช้ที่นี่หลบเร้นกายชั่วคราว เพื่อฝึกเพลงกระบี่ที่เหลือ  ...”

                  หากกล่าวถึงตอนท้าย ก็หันหลับมามองหน้านาง กล่าวช้าๆ

                  “  เพียงแต่.. ก่อนอื่น ข้าต้องส่งเจ้ากลับบ้านไปก่อน “

                  อวี้หลิงใจหายวาบ รีบโพล่งเสียงดังอย่างลืมตัว

                  “  ไม่นะ.. ข้า.. ข้ายังไม่อยากกลับไป  “





ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่