วันนี้หลงทางมาค่อนข้างไกล มาแถวสะพานพุทธเลยครับ ไม่ได้มาแถวนี้ประมาณเกือบ 10 ปี นับตั้งแต่ออกจากวงการทำเพลงครับ



วันนี้มาทานอาหารที่ร้าน Mango Tree ถามว่ามาร้านนี้ได้ยังไง บอกเลยครับว่าใช้ google แล้วค้นหา ร้านอาหารย่านสะพานพุทธ แล้วมันก็ขึ้นลิงค์ของ Wongnai มาครับ ปรกติไม่ ค่อยเชื่อ website นี้เพราะเวลาไปร้านไหนที่มันมีป้ายแปะว่า Best of Wongnai คือส่วนใหญ่ จะไม่อร่อย และที่สำคัญ Best กันหลายร้านมากครับ สุดท้ายเลยตามใจรุ่นน้องที่เพิ่งอกหักมา ครับ ให้คนอกหักเลือก น้องเค้าก็เลือกร้าน Mango Tree มาครับ



สาวอกหักเลือกร้าน Mango Tree เพราะมีเมนู Promotion ของ Elite Table by Mekhong ครับ โดยส่วนตัวผมก็เคยไปทานอาหารของ Elite Table ที่จัดโดย Mekhong มาแล้ว 3ครั้ง ผมชอบที่เค้ามี Pairing อาหารกับเครื่องดื่มครับ วันนี้เลยสั่งชุดอาหารเย็นของ Elite Table ที่ร้าน Mango Tree ครับ



รายการอาหารของร้านนี้จะดูแตกต่างกับร้านอื่น ร้านอื่นเค้าจะมีเป็น Set ใหญ่เลยครับ ประมาณ อาหาร 3-5จาน พร้อมเครื่องดื่มสูตรเฉพาะของอาหารแต่ละจาน แต่ร้านนี้คงเป็นขนาดย่อม เลย มีอาหารให้ 2จาน พร้อมเครื่องดื่ม 1แก้วครับ รายการอาหารมีดังนี้ครับ



1.) Mekong on the River เป็น Espresso เย็น 1แก้วเล็กที่ผสม Mekong ลงไป พร้อมตีฟองนม แล้วโรยเมล็ดกาแฟลงไป นับว่าเป็นเครื่องดื่มกระตุ้นกระเพาะอาหาร และ refresh ร่างกายได้ดีเลยครับ เป็นที่ทราบกันว่าการเดินทางใน กทม ต้องฝ่าด่านรถติดหลายสาย ยิ่งผมมาจาก 5แยกลาดพร้าวเพื่อมาที่สะพานพุทธ ใช้เวลาเกือบ 2ชั่วโมงครับ ได้ Cocktail กาแฟเย็น แก้วนี้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมากครับ Cafeine กับเหล้ารัม ทำให้ร่างกายตื่นตัวได้ดี แต่ไม่เกินงามครับ



2.) พล่า Foie Glas เคล้าเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถ้าพูดถึง Foie Glas ก็ต้องนึกถึงซ้อสหรือของปรุงรสที่มีรสเปรี้ยว ถ้าไปตามร้านอาหารฝรั่ง  Foie Glas มักจะถูกเสิร์ฟพร้อมซ้อสรสเปรี้ยว อาธิ Clanburry Sauce หรือ Strawberry / Citrus Sauce หรือถ้าไปร้านอาหารญี่ปุ่น จะเจอ Sushi Foie Glas ที่ราดซ้อสข้นหวาน ทั้งนี้เพราะเนื้อตับห่านมีความมันไม่แพ้มันหมู เลยต้องหาซ้อสที่สามารถตัดความมัน แล้วน้ำพล่าแบบไทยนี่แหละครับ ที่ตัดรสเลี่ยนของ Foie Glas ได้เป็นอย่างดีครับ พ่อครัว ร้านนี้ผมยอมรับเลยว่าทอด Foie Glas ได้ดี ข้างนอกสุกเกือบกรอบ ข้างในนุ่มนิ่มละลายคาลิ้น ใน กรุงเทพฯ หาคนทอด Foie Glas ระดับนี้ได้ยากครับ เท่าที่นึกออกจะมีร้าน Don Giovanni, Bravo, Enkai, Daiki ครับ



3.) ข้าวซี่โครงหมูอบปรุงรสแบบลาบครับ ฟังดูธรรมดามากใช่มั้ยครับ แต่พอมาเสิร์ฟจริงๆ โอ้ววววว อึ้งครับ ถ้าคุณชอบซี่โครงหมูอบ หรือย่างของ Tony Roma ผมแนะนำเมนูจานนี้ เลยครับ เมนูนี้ต่างกับ Tony Roma ตรงที่เนื้อจะนุ่ม ยุ่ยกว่า แต่ไม่ชุ่มซ้อสจนเละครับ ซี่โครง หมูที่ย่างจนได้ที่แล้วคลุกด้วยเครื่องลาบ เสิร์ฟพร้อมแจ๋วสูตรของทางร้านครับ ส่วนข้าวของที่ ร้านนี้เสิร์ฟไม่อั้นเติมได้เรื่อยๆ ครับ ข้าวร้านนี้จะเป็นข้างกล้องผสมข้าวหอมมะลิครับ

จริงๆ แล้วสั่งมาแค่นี้คือแอบอิ่มนะครับ แต่ตอนเห็นรายการอาหารครั้งแรกคือคิดว่าไม่พอแน่ๆ ผมเลยสั่ง กุ้งแช่น้ำปลา (เป็นอีกเมนูที่ผู้หญิงไทยชอบอย่างไม่มีสาเหตุพอๆ กับส้มตำ), กุ้ง Lobster ย่างแกงแดง (เมนูแนะนำของทางร้าน), และ แกงคั่วสับปะรดกับลิ้นจี่ใส่หอยเชลล์ มาเพิ่มครับ



มาที่กุ้งแช่น้ำปลา กุ้งลวกพอสุกเนื้อนุ่มหวานจิ้มน้ำปลาให้พอมีรสเค็มและพอให้มี กลิ่นหอมพริก สด อร่อยแบบมาตราฐานสาวชอบครับ



เมนูแนะนำของที่ร้าน ร้านแนะนำมากครับ เพราะราคาแพงสุดครับ (2,980บาท) คุณพระ Lobster ใหญ่มาก เท่ากับแขนผู้ชายเลยครับ เนื้อ Lobster คลุกผงแกงแดงแล้วทอดกรอบ นำมาจัดเรียงในตัว Lobster อีกที เนื้อแน่น หวานกรุบกรอบมากครับ ตอนแรกที่เห็น ราคาก็ว่าแพง แต่พอเค้ามาเสิร์ฟ ผมว่าไม่แพงเลยครับ เพราะ Lobster ตัวใหญี่จริงจังครับ ทานสองคนได้สบายๆ



แกงคั่วสับปะรดหอยเชลล์ แกงแดงต้มกับกะทิโดยไม่ได้คั่วพริกแกงให้แตกมันก่อนแต่ต้มกับสับปะรดและลิ้นจี่ในน้ำกะทิ ทันที น้ำแกงหวานหอมละมุนลิ้นมากครับ ยิ่งลิ้นจี่ที่ดูดความหวานของกะทิพริกแกงเข้าไป พอกัดแล้วความหวานมันทะลักออกมา อร่อยๆจนลืมหอยเชลล์ไปเลยครับ



รายการเครื่องดื่มที่ผมแนะนำให้สั่งมาเพื่อ Pairing กับอาหารทุกจาน ผมขอแนะนำ Mekhong Thai Sabai (แม่โขงไทยสบาย) ครับ
เครื่องดื่ม Cocktail รสเปรี้ยวนำหวานตามนิดๆ จะช่วยปรับต่อมรับรู้รสภายในปากได้เป็น อย่างดี กลิ่นรัมอ่อนๆ ผสม Mint และมะนาว ทำให้รสชาติของอาหารทุกจานมีความอร่อยมาก ยิ่งขึ้นครับ ลองนึกตามนะครับ จิบ Thai Sabai แล้วอมไว้ในปาก 5วินาที แล้วค่อยทาน พล่า Foie Glas เข้าไปกลิ่นมะนาวและ Mint จะทำหน้าที่เสริมความเปรี้ยวอมหวานของน้ำพล่า ได้เป็นอย่างดี แล้วยิ่งมีกลิ่นหอมของ Rum จาก Mekhong เข้าไป จะยิ่งทำให้เกิดรสชาติ ที่กลมกล่อมมากยิ่งขึ้นครับ



ทานกับซี่โครงหมูย่างโรยเครื่องลาบแล้วจิ้มแจ่ว พอลิ้นเริ่มรับรู้รสเผ็ดจากแจ๋ว ให้จิบ Thai Sabai เข้าไป รสเผ็ดจะกลายเป็นความรู้สึกเย็นสดชื่นที่ปลายลิ้น พร้อมกลิ่นหอมของหมูย่าง พร้อมเครื่องเทศในปากที่จะส่งกลิ่นรัญจวนจนทำให้คุณสามารถทานหมูได้ทั้งตัวครับ



หากใครแวะมาแถวสะพานพุทธผมขอแนะนำร้าน Manga Tree ตรงท่าขึ้นเรือเลยครับ ทานข้าวที่ชั้น1 พอทานเสร็จแล้วก็ย้ายขึ้นชั้น2 จะเป็น Bar นั่งชิวๆ บรรยากาศแบบที่สาวๆ ชอบครับ


สรุปค่าอาหาร
Elite Table Dinner Set (2 Sets) 799 x2 = 1,598 บาท
กุ้ง Lobster ย่างแกงแดง 2,980 x1 = 2,980 บาท
แกงคั่วสับปะรดหอยเชลล์ 280 x1 = 280 บาท
กุ้งแช่น้ำปลา 350 x1 = 350 บาท
น้ำเปล่า 40 x2 = 80 บาท
น้ำมะม่วงปั่น 130 x1 = 130 บาท
Mekhong Thai Sabai 265 x1 = 265
รวม 5,683
VAT7% = 397.81
Service Charge 10% = 568.3
รวมทั้งหมด 6,649.11 บาท

WEBSITE : www.wongnai.com/evouchers/5507
เข้าไปตามลิงค์แล้วซื้อ Voucher ผ่าน Line Pay จะได้รับส่วนลดอีก 10% ครับ แต่ผมว่าถ้าจ่ายผ่าน AIS mPay ได้จะดีมาก เพราะทุกวันนี้ชีวิตผมส่วนใหญ่จะใช้ mPay แทนกระเป๋าเงินครับ ไม่ต้องเปิดบัญชีหลายอันเพื่อทำธุรกรรม แต่ mPay ตัวเดียวได้ทุกบัญชีเลยครับ