ปลายปี 2555
ฉันที่อายุสามสิบต้นๆ
ตัดสินใจลาออกจากงาน
กลับไปอยู่บ้านเกิด
วิถี : พอเพียง : ที่ 3
เห็ดเพิ่งเป็นของเล่นใหม่ของพวกเราเมื่อไม่นานมานี้เอง
ฉันกับพี่ธีร์ช่วยกันค้นหาแหล่งขายเชื้อเห็ดในอินเตอร์เน็ต จากนั้นเราก็ขับรถไปซื้อเชื้อ ในโรงเพาะเห็ดที่ใกล้บ้านที่สุด
เห็ดที่พวกเราซื้อมาปลูก จะเป็นเห็ดที่ไม่ต้องดูแลมากนัก แค่ทิ้งไว้เฉยๆ และรดน้ำวันละครั้งสองครั้งก็กินได้
ครั้งแรกเราลองปลูกเห็ดนางรมก่อน
ทำเพิงเพาะเล็กๆ อยู่ใต้ต้นมะม่วงข้างบ้าน ..ความจริงไม่ถึงกับจะเรียกได้ว่าเป็นโรงปลูกเห็ด ดูเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมมากกว่า ..เราไม่อยากลงทุนกันเยอะ คิดว่าถ้าต้องลงทุนเยอะๆ ก็ควรซื้อกินดีกว่า
เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมาก ที่ได้เฝ้าดูเห็ดเติบโตจากตุ่มเล็กๆ แผ่ออกเป็นเห็ดดอกใหญ่
หลังจากประสบความสำเร็จจากเห็ดนางรม ฉันก็เริ่มหัดเพาะเห็ดฟาง
ไม่มีเห็ดไหนจะอร่อยเทียบเท่ากับเห็ดเก็บสดๆ
เพราะนอกจากจะได้เห็ด.สดของจริงแล้ว มันยังทั้งกรอบ กรุบ เด้ง แล้วก็หวาน
หลักๆ แล้วบ้านฉันจะปลูกข้าว พืชไร่พวกอ้อย มันสำปะหลัง และปลูกยางพารา
แต่นอกจากพืชผลหลักแล้ว เราก็ยังปลูกผักและผลไม้ รวมถึงปลูกพืชพวกถั่ว มัน ฟักทอง แตงโม แตงไทย มะเขือเปราะ มะเขือเทศ พริก ในช่วงพักดินหรือช่วงที่พืชผลหลักยังไม่โต
ฤดูที่บ้านเราหารายได้พิเศษจากผักได้มากที่สุดจะเป็นหน้าหนาว
เพราะอากาศเราได้
อย่างต้นผักชีหอม ถ้าฤดูอื่นอาจโตได้มากสุดไม่เกินฝ่ามือนัก แต่ถ้าลมหนาวโบกโบยมาเมื่อไหร่ ผักชีบ้านเราสามารถโตเกินฟุตได้สบายๆ เลย
กว้างตุ้งกับคะน้าเองก็เหมือนกัน ถ้าอากาศร้อน ต้นมักจะเล็กแคระ แต่ถ้าเทพแห่งความหนาวมา ต้นผักเหล่านี้จะกรีดกรายตัวเองขึ้นเป็นต้นใหญ่ ยายสามารถตัดแขนงกับดอกผักไปขายทำเงินได้หลายรอบเลย ..และถ้าอยากกินผัดผัก ต้นอวบใหญ่อย่างนี้ เด็ดมาแค่สามต้นก็ผัดกินอิ่มแล้วอ่ะ
ฉันมีเคล็ดลับในการผัดผักสดๆ พวกนี้ให้อร่อยขึ้นกว่าปกติ ..คือแทนที่จะตัดๆ ผัดๆ เลย ฉันจะดึงก้านใบผักออกจนหมด เหลือไว้แค่ลำต้นกับปลายยอดอ่อน จากนั้นใช้มีดลอกเปลือกนอกของลำต้นผักออก จนเหลือแค่ใจกลางขาวๆ ข้างใน ก้านใบผักเองก็ทำคล้ายกัน คือค่อยๆ ใช้มีดเลาะเปลือกนอกออก
กว่าจะได้ผัดผักแต่ละจาน ใช้เวลาค่อนข้างนานทีเดียว ..แต่นี่ล่ะคือศิลปะของการกิน คือเสพของที่ประณีตและพิถีพิถัน
ถ้าเราลอกเปลือกนอกออก ความเหนียวแข็งของผักจะหายไป เหลือแต่ความกรุบๆ
อธิบายไม่ถูก แต่เวลาเคี้ยว ฟินมากเลยล่ะ กินทีเดียวคิดถึงไปอีกสามวัน ..โดยเฉพาะใจกลางของลำต้นคะน้า ..เพราะงั้นคะน้า ถ้าปลูกกินเอง ฉันจะเลือกพันธุ์ก้านโตๆ มาปลูก จะได้กินลำต้นได้จุใจหน่อย (แต่ถ้าปลูกขาย ต้องปลูกพันธุ์ที่ใบใหญ่ๆ เพราะคนนิยมซื้อแบบนี้กัน)
ปกติแล้วฉันเป็นคนที่ชอบทานผัดผักกวางตุ้งมากๆ แต่ก็มีบ้างเหมือนกันที่ฉันเกิดเบื่อกวางตุ้งผัดน้ำมันหอยแบบไทยๆ ถ้าอารมณ์นี้เกิด ฉันจะประยุกต์ผัดแบบญี่ปุ่นแทน คือผัดกับโชยุ และใส่น้ำตาลกับงาคั่วลงไปเล็กน้อย
ผักอาจดูไม่ใช่ของที่มีราคาค่างวดมากมาย แต่ถ้าค่อยๆ ขาย ค่อยๆ รวบรวมทีละห้าบาทสิบบาทหลายๆ บาทเข้าด้วยกัน รู้ตัวอีกที ผักพวกนี้ก็สามารถทำให้เรามีเงินก้อนใหญ่ได้เหมือนกันนะ
สุภาษิตที่ว่า ที่ดินเป็นเงินเป็นทอง เป็นขุมทรัพย์ล้ำค่า มันคงเป็นแบบนี้เอง
ทุกครั้งที่ฉันหว่านเมล็ดปลูกพืชผัก
สิ่งที่อยู่ในหัวฉันไม่ใช่ภาพของต้นผักที่กำลังค่อยๆ โต
แต่เป็นรูปเมนูต่างๆ ที่ผักชนิดนั้นๆ สามารถทำได้
อย่างปลูกถั่วพู ฉันก็จะนึกถึงไข่เจียวถั่วพูขึ้นมาเป็นอย่างแรก
ถั่วพูที่เอามาทำกับข้าวอร่อย จะเป็นถั่วพูที่ฝักยังอ่อนๆ อยู่ เพราะจะไม่มีกลิ่นเหม็นเขียวเหมือนฝักโตๆ และก็ต้องเป็นถั่วที่เด็ดจากต้นสดๆ แล้วเอามาทำอาหารเลย ถึงจะอร่อยจริง
เคยมีคนพูดไว้ว่า พอผักถูกเก็บจากต้น ความหวานกับความสดกรอบในเนื้อผักจะเริ่มค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ
คงมีแต่เกษตรกรกับผู้ที่ปลูกผักกินเองเท่านั้น ที่จะมีโอกาสได้ลิ้มรสชาติผักที่อร่อยจริงๆ
ติดตามการอัพเดทได้ที่เฟสเพจของเราค่ะ
นางมารยูคาริ
https://www.facebook.com/nangmarnyukari
ขอหยุด "ชีวิต" ที่ความ "พอเพียง" #ตอน 3
ฉันที่อายุสามสิบต้นๆ
ตัดสินใจลาออกจากงาน
กลับไปอยู่บ้านเกิด
วิถี : พอเพียง : ที่ 3
เห็ดเพิ่งเป็นของเล่นใหม่ของพวกเราเมื่อไม่นานมานี้เอง
ฉันกับพี่ธีร์ช่วยกันค้นหาแหล่งขายเชื้อเห็ดในอินเตอร์เน็ต จากนั้นเราก็ขับรถไปซื้อเชื้อ ในโรงเพาะเห็ดที่ใกล้บ้านที่สุด
เห็ดที่พวกเราซื้อมาปลูก จะเป็นเห็ดที่ไม่ต้องดูแลมากนัก แค่ทิ้งไว้เฉยๆ และรดน้ำวันละครั้งสองครั้งก็กินได้
ครั้งแรกเราลองปลูกเห็ดนางรมก่อน
ทำเพิงเพาะเล็กๆ อยู่ใต้ต้นมะม่วงข้างบ้าน ..ความจริงไม่ถึงกับจะเรียกได้ว่าเป็นโรงปลูกเห็ด ดูเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมมากกว่า ..เราไม่อยากลงทุนกันเยอะ คิดว่าถ้าต้องลงทุนเยอะๆ ก็ควรซื้อกินดีกว่า
เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมาก ที่ได้เฝ้าดูเห็ดเติบโตจากตุ่มเล็กๆ แผ่ออกเป็นเห็ดดอกใหญ่
หลังจากประสบความสำเร็จจากเห็ดนางรม ฉันก็เริ่มหัดเพาะเห็ดฟาง
ไม่มีเห็ดไหนจะอร่อยเทียบเท่ากับเห็ดเก็บสดๆ
เพราะนอกจากจะได้เห็ด.สดของจริงแล้ว มันยังทั้งกรอบ กรุบ เด้ง แล้วก็หวาน
หลักๆ แล้วบ้านฉันจะปลูกข้าว พืชไร่พวกอ้อย มันสำปะหลัง และปลูกยางพารา
แต่นอกจากพืชผลหลักแล้ว เราก็ยังปลูกผักและผลไม้ รวมถึงปลูกพืชพวกถั่ว มัน ฟักทอง แตงโม แตงไทย มะเขือเปราะ มะเขือเทศ พริก ในช่วงพักดินหรือช่วงที่พืชผลหลักยังไม่โต
ฤดูที่บ้านเราหารายได้พิเศษจากผักได้มากที่สุดจะเป็นหน้าหนาว
เพราะอากาศเราได้
อย่างต้นผักชีหอม ถ้าฤดูอื่นอาจโตได้มากสุดไม่เกินฝ่ามือนัก แต่ถ้าลมหนาวโบกโบยมาเมื่อไหร่ ผักชีบ้านเราสามารถโตเกินฟุตได้สบายๆ เลย
กว้างตุ้งกับคะน้าเองก็เหมือนกัน ถ้าอากาศร้อน ต้นมักจะเล็กแคระ แต่ถ้าเทพแห่งความหนาวมา ต้นผักเหล่านี้จะกรีดกรายตัวเองขึ้นเป็นต้นใหญ่ ยายสามารถตัดแขนงกับดอกผักไปขายทำเงินได้หลายรอบเลย ..และถ้าอยากกินผัดผัก ต้นอวบใหญ่อย่างนี้ เด็ดมาแค่สามต้นก็ผัดกินอิ่มแล้วอ่ะ
ฉันมีเคล็ดลับในการผัดผักสดๆ พวกนี้ให้อร่อยขึ้นกว่าปกติ ..คือแทนที่จะตัดๆ ผัดๆ เลย ฉันจะดึงก้านใบผักออกจนหมด เหลือไว้แค่ลำต้นกับปลายยอดอ่อน จากนั้นใช้มีดลอกเปลือกนอกของลำต้นผักออก จนเหลือแค่ใจกลางขาวๆ ข้างใน ก้านใบผักเองก็ทำคล้ายกัน คือค่อยๆ ใช้มีดเลาะเปลือกนอกออก
กว่าจะได้ผัดผักแต่ละจาน ใช้เวลาค่อนข้างนานทีเดียว ..แต่นี่ล่ะคือศิลปะของการกิน คือเสพของที่ประณีตและพิถีพิถัน
ถ้าเราลอกเปลือกนอกออก ความเหนียวแข็งของผักจะหายไป เหลือแต่ความกรุบๆ
อธิบายไม่ถูก แต่เวลาเคี้ยว ฟินมากเลยล่ะ กินทีเดียวคิดถึงไปอีกสามวัน ..โดยเฉพาะใจกลางของลำต้นคะน้า ..เพราะงั้นคะน้า ถ้าปลูกกินเอง ฉันจะเลือกพันธุ์ก้านโตๆ มาปลูก จะได้กินลำต้นได้จุใจหน่อย (แต่ถ้าปลูกขาย ต้องปลูกพันธุ์ที่ใบใหญ่ๆ เพราะคนนิยมซื้อแบบนี้กัน)
ปกติแล้วฉันเป็นคนที่ชอบทานผัดผักกวางตุ้งมากๆ แต่ก็มีบ้างเหมือนกันที่ฉันเกิดเบื่อกวางตุ้งผัดน้ำมันหอยแบบไทยๆ ถ้าอารมณ์นี้เกิด ฉันจะประยุกต์ผัดแบบญี่ปุ่นแทน คือผัดกับโชยุ และใส่น้ำตาลกับงาคั่วลงไปเล็กน้อย
ผักอาจดูไม่ใช่ของที่มีราคาค่างวดมากมาย แต่ถ้าค่อยๆ ขาย ค่อยๆ รวบรวมทีละห้าบาทสิบบาทหลายๆ บาทเข้าด้วยกัน รู้ตัวอีกที ผักพวกนี้ก็สามารถทำให้เรามีเงินก้อนใหญ่ได้เหมือนกันนะ
สุภาษิตที่ว่า ที่ดินเป็นเงินเป็นทอง เป็นขุมทรัพย์ล้ำค่า มันคงเป็นแบบนี้เอง
ทุกครั้งที่ฉันหว่านเมล็ดปลูกพืชผัก
สิ่งที่อยู่ในหัวฉันไม่ใช่ภาพของต้นผักที่กำลังค่อยๆ โต
แต่เป็นรูปเมนูต่างๆ ที่ผักชนิดนั้นๆ สามารถทำได้
อย่างปลูกถั่วพู ฉันก็จะนึกถึงไข่เจียวถั่วพูขึ้นมาเป็นอย่างแรก
ถั่วพูที่เอามาทำกับข้าวอร่อย จะเป็นถั่วพูที่ฝักยังอ่อนๆ อยู่ เพราะจะไม่มีกลิ่นเหม็นเขียวเหมือนฝักโตๆ และก็ต้องเป็นถั่วที่เด็ดจากต้นสดๆ แล้วเอามาทำอาหารเลย ถึงจะอร่อยจริง
เคยมีคนพูดไว้ว่า พอผักถูกเก็บจากต้น ความหวานกับความสดกรอบในเนื้อผักจะเริ่มค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ
คงมีแต่เกษตรกรกับผู้ที่ปลูกผักกินเองเท่านั้น ที่จะมีโอกาสได้ลิ้มรสชาติผักที่อร่อยจริงๆ
ติดตามการอัพเดทได้ที่เฟสเพจของเราค่ะ
นางมารยูคาริ
https://www.facebook.com/nangmarnyukari