สัมมาสมาธิ ในพระพุทธศาสนา ไม่ใช่ ฌาน

ขออนุญาต ชี้ให้ดูหลักฐานจากพระสูตร แบบสั้นๆ นะครับ
ว่า สัมมาสมาธิ ในพระพุทธศาสนา ไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่า ฌาน เมื่อพิจารณาในแง่ของ องค์ฌาน

    [๒๕๓]  พระผู้มีพระภาคจึงได้ตรัสดังนี้ว่า  ดูกรภิกษุทั้งหลาย  ก็สัมมาสมาธิของพระอริยะ
อันมีเหตุ  มีองค์ประกอบ  คือ  สัมมาทิฐิ  สัมมาสังกัปปะสัมมาวาจา  สัมมากัมมันตะ  สัมมา
อาชีวะ  สัมมาวายามะ  สัมมาสติ  เป็นไฉนดูกรภิกษุทั้งหลาย  ความที่จิตมีอารมณ์เป็นหนึ่ง
ประกอบแล้วด้วยองค์  ๗  เหล่านี้แล  เรียกว่า  สัมมาสมาธิของพระอริยะ
  อันมีเหตุบ้าง  มีองค์
ประกอบบ้าง  ฯ

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=14&A=3724&Z=3923&pagebreak=0

พระพุทธดำรัสจาก มหาจัตตารีสกสูตร ระบุว่า สัมมาสมาธิของพระอริยะ หมายถึง
ความที่จิตมีอารมณ์เป็นหนึ่ง ประกอบแล้วด้วยองค์  ๗ (หมายถึง องค์มรรคที่เหลือ เช่น สัมมาทิฐิ เป็นต้น)

ซึ่งเมื่อพิจารณาเทียบกับองค์ฌาน ไม่ว่าจะเป็นตามนัยพระสูตร หรือ อภิธรรม จะพบว่า
ไม่อาจระบุตรงๆ ได้ว่า สัมมาสมาธิของพระอริยะ คือ ฌานใด เนื่องจากมีองค์ฌานเพียงหนึ่งเดียวคือ เอกัคคตา
ซึ่งหลักฐานที่สามารถยืนยันเรื่องนี้ได้ก็คือ พระอริยบุคคล สายวิปัสสนายานิก ที่ไม่ได้ฌานใดๆเลย นั่นเอง


อนุโมทนา ครับท่าน







ปล.

ฌาน ๔
๑. มีองค์ ๕ (วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา)
๒. มีองค์ ๓ (ปีติ สุข เอกัคคตา)
๓. มีองค์ ๒ (สุข เอกัคคตา)
๔. มีองค์ ๒ (อุเบกขา เอกัคคตา);

ฌาน ๕
๑. มีองค์ ๕ (วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา)
๒. มีองค์ ๔ (วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา)
๓. มีองค์ ๓ (ปีติ สุข เอกัคคตา)
๔. มีองค์ ๒ (สุข เอกัคคตา)
๕. มีองค์ ๒ (อุเบกขา เอกัคคตา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่