อ่านตอนที่แล้ว
บทที่ 2 : หมีเถื่อน กับ ลิงเผือก
ชายป่าทางด้านทิศใต้ บัดนี้ได้กลายเป็นลานประลองฝีมือชั่วคราวไปเสียแล้ว...
หลันเหลยใช้เชือกที่ฟั่นจากเถาวัลย์คาดรัดหน้าผาก ยืนกอดอกประจันหน้ากับฟางอี้
หลังจากปะทะคารมกันหอมปากหอมคอก่อนลงมือต่อสู้กันจริงจัง ฟางอี้คราแรกคิดหย่อนฝีมือให้นาง หากแต่กลับ ถูกนางเตะใส่จนทรุดลง ก้นกระแทกจ้ำเบ้ากับพื้น กระตุ้นโทสะของมันจนต้องลุกขึ้นวาดลวดลายของเพลงมวยอ่อนหัด ซึ่งเพิ่งร่ำเรียนมาจากครูฝึกที่บิดาเชิญมาสอนที่บ้านเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา
หลันเหลยเหยียดยิ้มมุมปากอย่างมิสะทกสะท้าน พอได้ทีเห็นช่องทางก็ปล่อยหมัดซึ่งไร้กระบวนท่าใดๆ ต่อยใส่จนฟางอี้ล้มลุกคลุกคลานไปอีกครั้ง สุดท้ายก็ถูกเซี่ยวถูเซี่ยวหลงรีบถลันเข้าไปหิ้วปีกพาวิ่งหนี ล่าถอยจากไป
พวกเด็กๆเหล่าสมาชิกหัวเราะชอบใจ บางคนคว้าก้อนหินซัดไล่หลัง
" ฮ่ะ ฮ่ะ..คราวนี้มันคงเข็ดหลาบไปอีกนาน ไม่กล้ามาแกล้งพวกเราอีกแล้ว..."
หลันเหลยมือกอดอกยืดอกยิ้มอย่างสะใจ
ทันใดนั้นที่ด้านหลังพลันบังเกิดเสียงกระแอมไอเบาๆ
ทั้งหมดหันขวับไปมอง แลเห็นเหวินฮั่นกุนมิทราบมายืนหน้าเคร่งเครียดอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อใด พริบตานั้นแม่เสือสาวผู้ทระนงถึงกับคอหด รีบโบกมือบุ้ยปากต่อลูกน้องเหล่าลิงทะโมนทั้งหลาย ไล่พวกมันรีบกลับบ้านไป
พวกเด็กๆต่างรู้จักเหวินฮั่นกุนว่าเป็นคนดุ ดังนั้นไม่ว่าผู้ใดก็มิกล้าอยู่ยุ่งเกี่ยวด้วย
ชั่วอึดใจเหมือนฝูงผึ้งบินแตกฮือกันไปคนละทิศละทางอย่างรวดเร็ว
หลันเหลยปลดเถาวัลย์ที่คาดหน้าผากลงมาช้าๆ หันมายิ้มฝืนๆพลางปัดฝุ่นบนเสื้อผ้า เหวินฮั่นกุนเดินเข้ามาถามเสียงราบเรียบ
" ทำไมวันนี้ถึงได้มอมแมมเอาขนาดนี้ ? "
" มอมแมมยังไงมันก็หน้าของข้า...เกี่ยวอะไรกับพี่ด้วยหรือ ? "
" ไป๊..กลับบ้าน..."
กล่าวพลางคว้าแขนเด็กสาวจอมซนลากพาเดิน เด็กสาวสะบัดแขนร้องโวยวายลั่น
" โอย..ปล่อยข้า... คนนะไม่ใช่วัวไม่ใช่ลา ..ไม่ต้องลากจูงกันแบบนี้หรอกนะ...."
-----------------
เหวินเอ้อเหนียงผู้เป็นมารดาของเหวินฮั่นกุน ปราดแรกที่ได้เห็นสภาพของหลันเหลย ต้องอุทานออกมาอย่างตกใจ แต่สองสามอึกใจต่อมา ก็เปลี่ยนเป็นหัวร่อด้วยความเอ็นดู
" คุณหนู...นี่ไปทำอะไรมา..? "
เหวินฮั่นกุนเม้มปากอย่างหมั่นไส้ แค่นเสียงว่า
" ไปชกต่อยกับลูกชายผู้ใหญ่บ้านมา..."
" ตายแล้ว... โถ..คุณหนู..แล้วนี่..นี่เจ็บที่ไหนรึเปล่า ? "
" เฮอะ..คนเจ็บเป็นฝ่ายโน้น ไม่ใช่ฝ่ายเราหรอก..."
เขาตอบให้แทน
" โอย..งั้นก็โล่งอกไปนะ..."
มิคาด..หลันเหลยพลันร่ำร้องโวยวายปนออดอ้อน
" ใครบอกล่ะ..ข้าเจ็บไปหมดทั้งตัวเลย..ป้าเหวิน...ช่วยข้าด้วยนะ..."
เหวินเอ้อเหนียงรีบปลอบ
" อ้าวเจ็บตรงไหน... คุณหนูของป้า เราเป็นผู้หญิงไปมีเรื่องกับเขาทำไม "
" เปล่า.. ข้ามิได้เจ็บเพราะโดนฟางอี้ทำร้ายเอาดอก แต่ว่า..เป็นพี่ฮั่นกุนน่ะสิ เขาทั้งฉุดทั้งลากข้าไม่ปรานีกันเลย ต่อหน้าเพื่อนข้าตั้งเยอะตั้งแยะ เขายังขู่ข้าด้วยล่ะ..ว่าต่อไปถ้าข้าซนอีก เขาจะตีข้าให้ตายเลย...ป้าเหวินท่านต้องจัดการพี่เขาให้ข้านะ... ข้าไม่ยอมด้วยจริงๆ..."
ในเสียงร่ำร้องยังขยี้เท้าเบาๆ แบะปากถลึงตาใส่คู่กรณีอย่างเอาเรื่อง
เหวินฮั่นกุนฟังจนอ้าปากค้าง
" นี่..นี่..แม่ตัวดี..."
เหวินเอ้อเหนียง หันมาทำหน้าดุใส่บุตรชาย
" ฮั่นกุน...ดูพูดกับน้องแบบนี้ได้ยังไง เจ้านี่ทำเกินไปแล้วจริงๆนะ..."
" ท่านแม่.. แต่ว่านาง..."
" ไม่ต้องแก้ตัวหรอกนะ...ยังไม่รีบขอโทษคุณหนูอีก ? "
เหวินฮั่นกุนแค้นใจจนพูดอะไรไม่ออก สะบัดหน้าผละออกไปทันที
เหวินเอ้อเหนียงพึมพำ "ลูกคนนี้ " ในลำคออย่างอ่อนอกอ่อนใจ ค่อยหันมากอดหลันเหลยพลางลูบหลังปลอบโยน
" โถ...น้องยังเล็กอยู่มาเอาเรื่องเอาราวกับน้องได้ไง ไม่ต้องกลัวนะคุณหนู... ทีหลังถ้าฮั่นกุนรังแกคุณหนูอีก ป้าจะจัดการให้เอง...."
-----------------------
เหวินฮั่นกุนน้อยใจมารดา เดินฮึดฮัดมาหลบนั่งอยู่คนเดียวริมลำธาร ซัดก้อนหินลงน้ำระบายความขุ่นเคืองในอก ทันใดพลันบังเกิดเสียงเรียกหา
" ฮั่นกุน...ไม่เป็นไรใช่ไหม ? "
บุรุษหนุ่มหันขวับไปมอง เห็นด้านหลังมิทราบยืนไว้ด้วยชายสูงวัยชุดเทาผู้หนึ่งตั้งแต่เมื่อใด คนผู้นี้มีร่างสูงโปร่ง เค้าใบหน้าเที่ยงธรรมการุณย์ บุคลิกสง่าน่าเลื่อมใส
ที่แท้เป็นปู่ของหลันเหลย นามซิมฮง นั่นเอง
เหวินฮั่นกุนรีบลุกขึ้นยืน ค้อมศีรษะเล็กน้อยอย่างนอบน้อม ส่งเสียงเรียก " อาจารย์ " ซิมฮงยิ้มอย่างอ่อนโยนกล่าวช้าๆ
" เหลยเอ๋อถูกแม่เจ้าตามใจจนเสียเด็ก แต่นางรักของนางขนาดนั้น ข้าเองก็พูดอะไรไม่ออก ข้ารู้ว่าเจ้ารู้สึกลำบากใจ..."
เหวินฮั่นกุนยิ้มเล็กน้อย สั่นศีรษะกล่าวว่า
" หามิได้อาจารย์.. ข้าไม่ถือสานางนานหรอก..."
" งั้นก็ดี... เหลยเอ๋อไม่มีใครอีกแล้วนอกจากข้า หากสักวันหนึ่งข้าเป็นอะไรไป ข้าคงต้องขอฝากนางไว้กับเจ้า ..เจ้าต้องช่วยดูแลน้องให้ดี..."
บุรุษหนุ่มผงกศีรษะรับคำ ซิมฮงยิ้มออกมา ยื่นมือตบไหล่ศิษย์รักเบาๆ
" ถึงเวลากินข้าวแล้ว...ไปเถอะไปกินข้าวกัน แม่เจ้ากำลังรอเจ้าอยู่..."
-------------------------
♥ ♥ .. จอมใจเจ้าบัลลังก์ .. ♥ ♥ [ 2 : หมีเถื่อน กับ ลิงเผือก ]
อ่านตอนที่แล้ว
ชายป่าทางด้านทิศใต้ บัดนี้ได้กลายเป็นลานประลองฝีมือชั่วคราวไปเสียแล้ว...
หลันเหลยใช้เชือกที่ฟั่นจากเถาวัลย์คาดรัดหน้าผาก ยืนกอดอกประจันหน้ากับฟางอี้
หลังจากปะทะคารมกันหอมปากหอมคอก่อนลงมือต่อสู้กันจริงจัง ฟางอี้คราแรกคิดหย่อนฝีมือให้นาง หากแต่กลับ ถูกนางเตะใส่จนทรุดลง ก้นกระแทกจ้ำเบ้ากับพื้น กระตุ้นโทสะของมันจนต้องลุกขึ้นวาดลวดลายของเพลงมวยอ่อนหัด ซึ่งเพิ่งร่ำเรียนมาจากครูฝึกที่บิดาเชิญมาสอนที่บ้านเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา
หลันเหลยเหยียดยิ้มมุมปากอย่างมิสะทกสะท้าน พอได้ทีเห็นช่องทางก็ปล่อยหมัดซึ่งไร้กระบวนท่าใดๆ ต่อยใส่จนฟางอี้ล้มลุกคลุกคลานไปอีกครั้ง สุดท้ายก็ถูกเซี่ยวถูเซี่ยวหลงรีบถลันเข้าไปหิ้วปีกพาวิ่งหนี ล่าถอยจากไป
พวกเด็กๆเหล่าสมาชิกหัวเราะชอบใจ บางคนคว้าก้อนหินซัดไล่หลัง
" ฮ่ะ ฮ่ะ..คราวนี้มันคงเข็ดหลาบไปอีกนาน ไม่กล้ามาแกล้งพวกเราอีกแล้ว..."
หลันเหลยมือกอดอกยืดอกยิ้มอย่างสะใจ
ทันใดนั้นที่ด้านหลังพลันบังเกิดเสียงกระแอมไอเบาๆ
ทั้งหมดหันขวับไปมอง แลเห็นเหวินฮั่นกุนมิทราบมายืนหน้าเคร่งเครียดอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อใด พริบตานั้นแม่เสือสาวผู้ทระนงถึงกับคอหด รีบโบกมือบุ้ยปากต่อลูกน้องเหล่าลิงทะโมนทั้งหลาย ไล่พวกมันรีบกลับบ้านไป
พวกเด็กๆต่างรู้จักเหวินฮั่นกุนว่าเป็นคนดุ ดังนั้นไม่ว่าผู้ใดก็มิกล้าอยู่ยุ่งเกี่ยวด้วย
ชั่วอึดใจเหมือนฝูงผึ้งบินแตกฮือกันไปคนละทิศละทางอย่างรวดเร็ว
หลันเหลยปลดเถาวัลย์ที่คาดหน้าผากลงมาช้าๆ หันมายิ้มฝืนๆพลางปัดฝุ่นบนเสื้อผ้า เหวินฮั่นกุนเดินเข้ามาถามเสียงราบเรียบ
" ทำไมวันนี้ถึงได้มอมแมมเอาขนาดนี้ ? "
" มอมแมมยังไงมันก็หน้าของข้า...เกี่ยวอะไรกับพี่ด้วยหรือ ? "
" ไป๊..กลับบ้าน..."
กล่าวพลางคว้าแขนเด็กสาวจอมซนลากพาเดิน เด็กสาวสะบัดแขนร้องโวยวายลั่น
" โอย..ปล่อยข้า... คนนะไม่ใช่วัวไม่ใช่ลา ..ไม่ต้องลากจูงกันแบบนี้หรอกนะ...."
-----------------
เหวินเอ้อเหนียงผู้เป็นมารดาของเหวินฮั่นกุน ปราดแรกที่ได้เห็นสภาพของหลันเหลย ต้องอุทานออกมาอย่างตกใจ แต่สองสามอึกใจต่อมา ก็เปลี่ยนเป็นหัวร่อด้วยความเอ็นดู
" คุณหนู...นี่ไปทำอะไรมา..? "
เหวินฮั่นกุนเม้มปากอย่างหมั่นไส้ แค่นเสียงว่า
" ไปชกต่อยกับลูกชายผู้ใหญ่บ้านมา..."
" ตายแล้ว... โถ..คุณหนู..แล้วนี่..นี่เจ็บที่ไหนรึเปล่า ? "
" เฮอะ..คนเจ็บเป็นฝ่ายโน้น ไม่ใช่ฝ่ายเราหรอก..."
เขาตอบให้แทน
" โอย..งั้นก็โล่งอกไปนะ..."
มิคาด..หลันเหลยพลันร่ำร้องโวยวายปนออดอ้อน
" ใครบอกล่ะ..ข้าเจ็บไปหมดทั้งตัวเลย..ป้าเหวิน...ช่วยข้าด้วยนะ..."
เหวินเอ้อเหนียงรีบปลอบ
" อ้าวเจ็บตรงไหน... คุณหนูของป้า เราเป็นผู้หญิงไปมีเรื่องกับเขาทำไม "
" เปล่า.. ข้ามิได้เจ็บเพราะโดนฟางอี้ทำร้ายเอาดอก แต่ว่า..เป็นพี่ฮั่นกุนน่ะสิ เขาทั้งฉุดทั้งลากข้าไม่ปรานีกันเลย ต่อหน้าเพื่อนข้าตั้งเยอะตั้งแยะ เขายังขู่ข้าด้วยล่ะ..ว่าต่อไปถ้าข้าซนอีก เขาจะตีข้าให้ตายเลย...ป้าเหวินท่านต้องจัดการพี่เขาให้ข้านะ... ข้าไม่ยอมด้วยจริงๆ..."
ในเสียงร่ำร้องยังขยี้เท้าเบาๆ แบะปากถลึงตาใส่คู่กรณีอย่างเอาเรื่อง
เหวินฮั่นกุนฟังจนอ้าปากค้าง
" นี่..นี่..แม่ตัวดี..."
เหวินเอ้อเหนียง หันมาทำหน้าดุใส่บุตรชาย
" ฮั่นกุน...ดูพูดกับน้องแบบนี้ได้ยังไง เจ้านี่ทำเกินไปแล้วจริงๆนะ..."
" ท่านแม่.. แต่ว่านาง..."
" ไม่ต้องแก้ตัวหรอกนะ...ยังไม่รีบขอโทษคุณหนูอีก ? "
เหวินฮั่นกุนแค้นใจจนพูดอะไรไม่ออก สะบัดหน้าผละออกไปทันที
เหวินเอ้อเหนียงพึมพำ "ลูกคนนี้ " ในลำคออย่างอ่อนอกอ่อนใจ ค่อยหันมากอดหลันเหลยพลางลูบหลังปลอบโยน
" โถ...น้องยังเล็กอยู่มาเอาเรื่องเอาราวกับน้องได้ไง ไม่ต้องกลัวนะคุณหนู... ทีหลังถ้าฮั่นกุนรังแกคุณหนูอีก ป้าจะจัดการให้เอง...."
-----------------------
เหวินฮั่นกุนน้อยใจมารดา เดินฮึดฮัดมาหลบนั่งอยู่คนเดียวริมลำธาร ซัดก้อนหินลงน้ำระบายความขุ่นเคืองในอก ทันใดพลันบังเกิดเสียงเรียกหา
" ฮั่นกุน...ไม่เป็นไรใช่ไหม ? "
บุรุษหนุ่มหันขวับไปมอง เห็นด้านหลังมิทราบยืนไว้ด้วยชายสูงวัยชุดเทาผู้หนึ่งตั้งแต่เมื่อใด คนผู้นี้มีร่างสูงโปร่ง เค้าใบหน้าเที่ยงธรรมการุณย์ บุคลิกสง่าน่าเลื่อมใส
ที่แท้เป็นปู่ของหลันเหลย นามซิมฮง นั่นเอง
เหวินฮั่นกุนรีบลุกขึ้นยืน ค้อมศีรษะเล็กน้อยอย่างนอบน้อม ส่งเสียงเรียก " อาจารย์ " ซิมฮงยิ้มอย่างอ่อนโยนกล่าวช้าๆ
" เหลยเอ๋อถูกแม่เจ้าตามใจจนเสียเด็ก แต่นางรักของนางขนาดนั้น ข้าเองก็พูดอะไรไม่ออก ข้ารู้ว่าเจ้ารู้สึกลำบากใจ..."
เหวินฮั่นกุนยิ้มเล็กน้อย สั่นศีรษะกล่าวว่า
" หามิได้อาจารย์.. ข้าไม่ถือสานางนานหรอก..."
" งั้นก็ดี... เหลยเอ๋อไม่มีใครอีกแล้วนอกจากข้า หากสักวันหนึ่งข้าเป็นอะไรไป ข้าคงต้องขอฝากนางไว้กับเจ้า ..เจ้าต้องช่วยดูแลน้องให้ดี..."
บุรุษหนุ่มผงกศีรษะรับคำ ซิมฮงยิ้มออกมา ยื่นมือตบไหล่ศิษย์รักเบาๆ
" ถึงเวลากินข้าวแล้ว...ไปเถอะไปกินข้าวกัน แม่เจ้ากำลังรอเจ้าอยู่..."
-------------------------