♥ ♥ .. จอมใจเจ้าบัลลังก์ .. ♥ ♥ [ 4 : ประมุขคนใหม่แห่งพรรคมาร ]

กระทู้สนทนา







พลุโอ่งบทที่  4 : ประมุขคนใหม่แห่งพรรคมาร พลุโอ่ง


                

                 หลันเหลยวิ่งกลับมายังเรือนที่พัก เหวินฮั่นกุนก็ตามเข้ามาด้วยคาดคั้นถามเรื่องที่นางออกไปพบคนชื่อ "พี่ตงลิ้ม " ในศาลเจ้าร้าง

                 " ถ้าเจ้าไม่เล่าความจริงออกมา.. ข้าจะไปฟ้องบอกอาจารย์ "

                 " ก็เชิญไปฟ้องเลยซี่ ...ไปบอกอาจารย์ด้วยเลยก็ได้ว่า ข้าแอบออกไปพรอดรักกับผู้ชายที่นั่นทุกคืน..."

                 " นี่เจ้า..."

                 เหวินฮั่นกุนโกรธจนหน้าเขียวคล้ำ " ไร้ยางอายจริงๆ..พูดออกมาได้ไง..."

                 " แล้วไง.. "

                 " บอกมานะ.. มันเป็นใคร ? "

                 " เขาจะเป็นใครก็ไม่เกี่ยวกับท่าน "

                 เด็กสาวยื่นหน้าเข้ามา ลอยหน้าร้องสวนตอบเขาอย่างคึกคะนอง

                 " ฮึ..อย่างน้อยเขาก็ดีกว่าท่าน น่ารักกว่าท่าน.. แล้วข้าก็ชอบเขามากกว่าท่าน.. . ทำไม อิจฉาเขาหรือ ที่เขาดีกว่าท่านตั้งมากมาย ใช่มั้ยๆ ? “

                 “ หยุดได้แล้ว ! ”

                 เหวินฮั่นกุนถูกนางก่อกวนยั่วโทสะจนสุดระงับ ยามลืมตัวถึงกับตวาดดังๆ ยื่นมือคว้าไหล่ของนางเขย่าโดยแรงคราหนึ่ง แล้วเหวี่ยงออกไป  

                 ร่างบางถึงกับหมุนคว้างไปฟุบกับเตียง เป็นเวลาเดียวกับที่ประตูเปิดกว้าง เหวินเอ้อเหนียงเข้ามาพอดี สีหน้าหญิงงามวัยกลางคนตระหนกตกใจอย่างยิ่ง กรากเข้ามาตบหน้าลงโทษลูกชายดังฉาดใหญ่

                 " เลวมาก...เจ้าทำอะไร... ทำไมทำกับคุณหนูแบบนี้..? "

                 หลันเหลยพอดิ้นรนลุกขึ้นมาได้ ก็ร้องไห้โฮวิ่งเข้าไปสวมกอดเหวินเอ้อเหนียง

                 เหวินฮั่นกุนขบริมฝีปากแน่น ก้มศีรษะต่ำเล็กน้อย ยืนนิ่งเป็นรูปปั้น...

                

                 -------------------------

                

                

                 ในที่สุดคู่กรณีทั้งสองก็มานั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าให้ซิมฮงตัดสิน เหวินเอ้อเหนียงแค้นใจบุตรชายอย่างยิ่ง ร่ำร้องบอกให้ซิมฮงลงโทษแรงๆได้โดยไม่ต้องเห็นแก่หน้านาง

                 ซิมฮงถึงกับถอนใจ

                 " พวกเจ้าทั้งสองแม้ทะเลาะกันมาตั้งแต่เล็กๆ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนรุนแรงเท่าครั้งนี้มาก่อนเลย  ฮั่นกุน... ไหนเจ้าอธิบายมาก่อนสิ... ว่าเรื่องมันเป็นยังไงมายังไงกันแน่ ? "

                 เหวินฮั่นกุนสีหน้าราบเรียบเย็นชาไร้ความรู้สึกใด พอฟังอดเหลือบไปมองหลันเหลยแว่บหนึ่งมิได้ หากแต่ลังเลเล็กน้อย..หาได้กล้าเอ่ยปากออกมาไม่

                 หลันเหลยแค่นเสียงว่า

                 " ก็ฟ้องท่านปู่ไปเลยซี ... ว่าข้าออกไปพบผู้ชายมากลางดึก "

                 " หา..."

                 ผู้ใหญ่ทั้งสองถึงกับตกตะลึงกับคำพูดของเด็กสาว ซิมฮงหน้าเคร่งเครียดลง

                 " ไหนอะไรอธิบายรายละเอียดมาซิ "

                 เหวินฮั่นกุนได้แต่กล่าวช้าๆ

                 " เมื่อครู่ข้าเห็นนางทำลับๆล่อๆ ออกไปข้างนอกมืดๆค่ำๆ  ดังนั้นจึงแอบสะกดรอยตามออกไป ค่อยทราบว่านางออกไปหาคนผู้หนึ่งที่ศาลเจ้าร้าง..."

                 ซิมฮงหันขวับมาทางหลานสาว

                 " แล้วเจ้ามีคำแก้ตัวว่ากระไร … คนที่เจ้าไปหาที่ศาลเจ้าเป็นใคร ? "

                 หลันเหลยแสยะปากใส่เหวินฮั่นกุนคราหนึ่ง ค่อยยืดอกขึ้นเล่าทุกอย่างตามความเป็นจริง

                 " หลายวันก่อนข้าพบเห็นคนผู้หนึ่งถูกโจรภูเขาทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสจึงช่วยเขาไว้ พาไปรักษาตัวที่ศาลเจ้าร้าง แล้วข้าก็เอายา เอาอาหารไปให้เขาทุกคืน... ถ้าข้าไม่ช่วยเขาก็คงต้องตาย หรือว่า..ข้าช่วยคนก็มีความผิดด้วย ? "

                 ซิมฮงพอฟังต้องถอนใจ

                 " แล้วทำไมต้องทำปกปิดลับๆล่อๆ ? "

                 " ก็ท่านปู่สั่งพวกเราไว้ว่าไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับพวกชาวยุทธจักร ข้ากลัวท่านจะห้าม  ก็เลยต้องแอบช่วยเขาไว้..."

                 " ตอนนี้เขาอยู่ที่ใด ? "

                 " อาการเขาทุเลาลง จึงจากไปแล้ว..."

                 เหวินฮั่นกุนฟังนางเล่าออกมาถึงกับมองนางอย่างงุนงง ถามอย่างไม่เข้าใจ

                 " แล้วทำไมเจ้าไม่บอกให้ข้าฟังแบบนี้ตั้งแต่แรก ? "

                 หลันเหลยเมินหน้าใส่เขาไม่ยอมตอบ ซิมฮงกล่าวอย่างอ่อนอกอ่อนใจ

                 " เหลยเอ๋อ...ช่วยคนนั้นเป็นสิ่งดี ปู่เจ้าไม่ใช่คนใจดำอำมหิต  ที่จะนิ่งดูดายมองคนตายต่อหน้าโดยไม่ยื่นมือเข้าช่วย เพียงแต่เจ้าแอบช่วยคนไว้แบบนี้ อาจทำให้ใครเข้าใจผิดได้ บ้านเมืองมีจารีตประเพณี เจ้าเองก็โตเป็นสาวมิใช่เด็กแล้ว แอบออกไปเจอบุรุษกลางค่ำกลางคืนหาใช่เรื่องดีงามไม่ ไม่เพียงอาจมีอันตราย ทั้งยังอาจเสื่อมเสียชื่อเสียง  ไม่เพียงเท่านั้น...ฮั่นกุนเขาหวังดีต่อเจ้า..ทำไมเจ้าต้องไปยั่วโทสะให้เขาเข้าใจผิด..."

                 เด็กสาวกล่าวอย่างแค้นใจ

                 " เฮอะ...ในสายตาของเขา ข้าหลันเหลยมีอะไรดีสักอย่างบ้างหรือ... อธิบายไปก็เท่านั้น ใจเขาคิดเลยเถิดไปแล้ว พูดไปก็เหนื่อยปากเปล่า..."

                 เหวินฮั่นกุนหันมากล่าวอย่างละอายใจ

                 " หลันเหลย..ขอโทษนะที่เข้าใจเจ้าผิดไป "

                 หลันเหลยสะบัดหน้าเมินไปอีกทางอีกครั้ง  ไม่ยอมรับการขออภัย

                 ซิมฮงชมดูจนส่ายหน้า เมื่อเห็นว่าเรื่องราวทั้งหลายเกิดจากการเข้าใจผิดกัน จึงบอกให้ยุติเลิกแล้วต่อกันเพียงแค่นี้ ค่อยบอกให้ทุกคนกลับไปนอนพักผ่อนกันได้...

                

                 ------------------

ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่