"..ถ้าเข้าใจได้ว่ากระเทยเป็นอนัตตาก็จะเข้าใจเรื่องอัตตาและอนัตตาได้ไม่ยากเลยไตรลักษณ์เป็นสามลักษณ์สามัญประจำบ้านครับ.."

กระทู้สนทนา
ผมเคยอ่านพบทรงกล่าวถึงไตรลักษณ์ของพราหมมีลักษณะทุกขัง ลักษณะอนิจจังและลักษณะเป็นอัตตา
ท่านจึงปรับของพราหมซะใหม่เป็นอนิจจังทุกขังและอนัตตา อัตตากับอะตอมมันก้คือกันในภาษาอินโดยุโรป
ในสัตว์ในคนก็เชื่อว่ามีวิญญาณอมตะเมื่อตายลงวิญญาณก็มิได้สูญหายไปด้วยแต่ย้ายไปหาร่างใหม่แทน
ในวัตถุก็เชื่อว่าอะตอมคือตัวตนที่แท้จริงของวัตถุแบ่งแยกต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

เรื่องความรู้ความเข้าใจของคนชาติอื่นเขาเรามาแปลเอาเองตามใจแบบไทยไม่ได้นะครับ
อย่างเรื่องเพศที่สามของกระเทยนี่เขาไม่มีอัตตาไม่มีกายเป็นแบบของตนเอง
จึงต้องแปลงเพศชายไปเป็นผู้หญิงและบ้างก็แปลงเพศหญิงไปเป็นชาย
ต่างจากคนทั่วไปที่เขามีอัตตาเป็นชายเป็นหญิงของตนเองตั้งแต่เกิด

อย่างนามรูปของขันธ์ห้านี่มีครบหมดสามลักษณะสามัญคืออนิจจัง ทุกขังและเป็นกระเทยคืออนัตตา
ลักษณะเป้นอนัตตาก็เพราะว่ารูปนั้นประกอบมาจากสิ่งที่มิใช่รูปได้แก่ดินน้ำลมไฟ
นามอย่างเเวทนาก็เช่นกันอาศัยสิ่งที่มิใช่เวทนาจึงเกิดขึ้น

ส่วนอนุปาทิเสสนิพพานธาตุนั้นก็มีลักษณะเป้นกระเทยคืออนัตตา
เนื่องจากไม่มีอัตตาของตนเองจึงทรงกล่าวว่าที่ๆกิเลสดับบ้างที่ๆไม่เกิดไม่ตายบ้างฯ
และไม่มีอัตตาแยกต่างหากไปจากภพเหมือนความเย็นก็ไม่มีอัตตาแยกต่างหากไปจากจากความร้อน
เพระความเย็นคือร้อนน้อยนั่นเองเเละพระนิพพานก็เช่นกันเป้นสภาวะที่วัฏฏะหยุดหมุนวน
ปุถุชนเหมือนคนตาบอดมองไม่เห็นแสงสว่างจากรูปได้แต่เอามือคลำเอาแล้วบอกว่ารูปนั้นมีแต่ความมืด
คนตาบอดยังรู้ว่าตนตาบอดส่วนปุถุชนจะถือดีว่าสิ่งที่ตนมองไม่เห้นไม่มีอยู่จริง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่