แม่ของดิฉันตอนอายุประมาณ 58 ปี ได้ทำประกันแบบสะสมทรัพย์ ธนทวี 10/15 ทุนประกัน 100,000 บาท เบี้ยประกัน 18,000 บาท มีเงินปันผลปีแรก ๆ 4000 บาท (ดิฉันเคยอ่านแบบผ่าน ๆ เห็นว่าเป็นแบบไม่ถามสุขภาพ) ต่อมาท่านได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งปอด นับจากวันทำสัญญาเป็นเวลาประมาณ 1 ปี 8 เดือน พี่สาวของดิฉันซึ่งเป็นผู้รับผลประโยชน์ได้นำเอกสารกรมธรรม์ให้กับทางตัวแทนเพื่อทำการเคลมสินไหม ซึ่งปรากฏผลออกมาว่าบริษัทให้กรมธรรม์ของแม่ดิฉันเป็นโมฆียะ เนื่องจากมีการปิดบังข้อมูลและให้ไปรับเบี้ยที่เคยส่งไปแล้วคืนลบด้วยปันผลที่ทางบริษัทจ่ายมาเป็นเงิน รวมที่จ่ายคืนทั้งสิ้น 32,000 บาท
ดิฉันจึงโทรไปสอบถามกับตัวแทนว่าแม่ของดิฉันปิดบังข้อมูลอะไร เพราะแม่ยังไม่ได้ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งปอดก่อนที่ท่านจะทำกรมธรรม์ฉบับนี้ ทางตัวแทนตอบว่าแม่เคยเป็น เบาหวาน ความดัน ไขมัน มาก่อน ดิฉันจึงได้ถามตัวแทนว่าคุณไม่ได้ให้ข้อมูลแม่ดิฉันหรือสอบถามก่อนหรือ ตัวแทนตอบว่าถามแม่ดิฉันแล้วท่านตอบว่าไม่ได้เป็นอะไร ดิฉันไม่อาจปักใจเชื่อได้ เพราะคุณแม่ของดิฉันก็ไม่อยู่ให้ดิฉันถามอีกแล้ว ทางตัวแทนจะพูดอะไรก็ได้ คนอายุ 58 ปี 3 โรคที่ว่านี้เป็นโรคที่พบได้โดยส่วนใหญ่ในคนอายุเหล่านี้ แต่แม่ไม่เคยนอนโรงพยาบาลด้วยโรคเหล่านี้เลย เพียงได้ยามากินควบคุมหรือควบคุมอาหารเท่านั้น
ดิฉันคิดว่าทางบริษัทไม่ให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวดิฉัน และใช้ช่องทางกฏหมายที่ว่าเมื่อยังไม่ถึง 2 ปี สามารถยกเลิกกรมธรรม์ได้ ในขณะที่ดิฉันได้จ่ายกรมธรรม์ครบทั้งหมด 2 ปีเรียบร้อยแล้ว ดิฉันจึงต้องการที่จะร้องเรียน คปภ. โดยขอให้ตัวแทนขอคืนกรมธรรม์มาให้ดิฉัน เพื่อที่จะได้นำมาพิจารณาสัญญาอย่างละเอียด เนื่องจากเมื่อส่งกรมธรรม์ให้ตัวแทนไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร จึงไม่ได้ทำสำเนาหรืออ่านสัญญาโดยละเอียดก่อน ตัวแทนแจ้งว่าจะจัดการให้ แต่ก็มาแจ้งภายหลังว่าทางบริษัทไม่ให้กรมธรรม์คืนหรือแม้แต่สำเนาก็ไม่ให้ แต่ถ้าจะร้องเรียน คปภ. ก็ใช้เลขที่กรมธรรม์ร้องเรียนได้เลย ดิฉันจึงมีคำถามที่สงสัยหลายประเด็น
1. แม่ของดิฉันส่งเบี้ยปีละ 18,000 ซึ่งดิฉันถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับทุนประกัน ดิฉันจึงคิดว่าควรจะครอบคลุมความเสี่ยงของคนอายุ 58 ปี แล้วอีกทั้งผลประโยชน์เมื่ออายุเกิน 60 ปี แทบจะไม่มีอะไรเลย ถ้าบริษัทไม่คิดว่าจะรับความเสี่ยงนี้ได้ก็ไม่ควรให้ทำประกันตั้งแต่แรก
2. ทางตัวแทนบอกให้พี่สาวของดิฉันไปรับเงินคืนได้เลย เพราะเป็นคนละส่วนกันกับการร้องเรียน ดิฉันจึงอยากสอบถามว่าถ้าพี่สาวดิฉันไปรับเงินเบี้ยที่เคยจ่ายไปคืนแล้ว จะเป็นเหมือนกับการยอมรับการเป็นโมฆียะหรือไม่และจะมีผลต่อการร้องเรียนหรือไม่
3. บริษัทมีสิทธิไม่คืนกรมธรรม์หรือแม้แต่สำเนาให้ผู้รับผลประโยชน์มาพิจารณาหรือไม่ เพราะดิฉันต้องการพิจารณาสัญญาให้ละเอียดเพื่อดูว่าควรหรือไม่ที่จะร้องเรียนกับ คปภ.
ถึงแม้ว่าเมื่อร้องเรียน คปภ.แล้วดิฉันจะพ่ายแพ้ต่อบริษัทไทยประกันชีวิต ซึ่งทางกฏหมายเค้าอาจจะถูกหรือไม่ แต่ทางคุณธรรมและน้ำใจของบริษัทดิฉันรู้สึกผิดหวังมาก ไม่มีใครอยากตายเร็วหรอก ดิฉันอยากให้แม่อยู่อีก 10 ปี 20 ปี แต่ก็ทำทุกวิถีทางแล้วที่จะรักษาชีวิตแม่ของดิฉัน เงินแสนอาจจะไม่ได้มากมาย แทบไม่พอจะจัดงานด้วยซ้ำ แต่ก็ทำให้เห็นน้ำใจของบริษัทนี้ บริษัทของคนไทย ซึ่งตัวดิฉันเองก็เป็นลูกค้าเค้าอยู่อีก 2 กรมธรรม์ เฮ้อ ต่อไปนี้คงไม่กล้าทำประกันอะไรอีกแล้ว เพราะเค้ามีสิทธิยกเลิกกรมธรรม์เราภายใน 2 ปี หรืออาจมากกว่านั้นในหลาย ๆ กรณีที่เคยเจอมา ในขณะที่เราถ้าต้องการยกเลิกต้องทำภายใน 15 วัน หรือ 30 วันเท่านั้น ช่างแสนยุติธรรมเหลือเกิน
รบกวนเพื่อน ๆ ช่วยให้คำปรึกษากับดิฉันด้วยค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
ถ้าจะร้องเรียน คปภ. สามารถไปรับเบี้ยประกันที่ส่งไปแล้วคืนก่อนได้หรือไม่ เพราะบริษัทให้กรมธรรม์เป็นโมฆียะ
ดิฉันจึงโทรไปสอบถามกับตัวแทนว่าแม่ของดิฉันปิดบังข้อมูลอะไร เพราะแม่ยังไม่ได้ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งปอดก่อนที่ท่านจะทำกรมธรรม์ฉบับนี้ ทางตัวแทนตอบว่าแม่เคยเป็น เบาหวาน ความดัน ไขมัน มาก่อน ดิฉันจึงได้ถามตัวแทนว่าคุณไม่ได้ให้ข้อมูลแม่ดิฉันหรือสอบถามก่อนหรือ ตัวแทนตอบว่าถามแม่ดิฉันแล้วท่านตอบว่าไม่ได้เป็นอะไร ดิฉันไม่อาจปักใจเชื่อได้ เพราะคุณแม่ของดิฉันก็ไม่อยู่ให้ดิฉันถามอีกแล้ว ทางตัวแทนจะพูดอะไรก็ได้ คนอายุ 58 ปี 3 โรคที่ว่านี้เป็นโรคที่พบได้โดยส่วนใหญ่ในคนอายุเหล่านี้ แต่แม่ไม่เคยนอนโรงพยาบาลด้วยโรคเหล่านี้เลย เพียงได้ยามากินควบคุมหรือควบคุมอาหารเท่านั้น
ดิฉันคิดว่าทางบริษัทไม่ให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวดิฉัน และใช้ช่องทางกฏหมายที่ว่าเมื่อยังไม่ถึง 2 ปี สามารถยกเลิกกรมธรรม์ได้ ในขณะที่ดิฉันได้จ่ายกรมธรรม์ครบทั้งหมด 2 ปีเรียบร้อยแล้ว ดิฉันจึงต้องการที่จะร้องเรียน คปภ. โดยขอให้ตัวแทนขอคืนกรมธรรม์มาให้ดิฉัน เพื่อที่จะได้นำมาพิจารณาสัญญาอย่างละเอียด เนื่องจากเมื่อส่งกรมธรรม์ให้ตัวแทนไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร จึงไม่ได้ทำสำเนาหรืออ่านสัญญาโดยละเอียดก่อน ตัวแทนแจ้งว่าจะจัดการให้ แต่ก็มาแจ้งภายหลังว่าทางบริษัทไม่ให้กรมธรรม์คืนหรือแม้แต่สำเนาก็ไม่ให้ แต่ถ้าจะร้องเรียน คปภ. ก็ใช้เลขที่กรมธรรม์ร้องเรียนได้เลย ดิฉันจึงมีคำถามที่สงสัยหลายประเด็น
1. แม่ของดิฉันส่งเบี้ยปีละ 18,000 ซึ่งดิฉันถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับทุนประกัน ดิฉันจึงคิดว่าควรจะครอบคลุมความเสี่ยงของคนอายุ 58 ปี แล้วอีกทั้งผลประโยชน์เมื่ออายุเกิน 60 ปี แทบจะไม่มีอะไรเลย ถ้าบริษัทไม่คิดว่าจะรับความเสี่ยงนี้ได้ก็ไม่ควรให้ทำประกันตั้งแต่แรก
2. ทางตัวแทนบอกให้พี่สาวของดิฉันไปรับเงินคืนได้เลย เพราะเป็นคนละส่วนกันกับการร้องเรียน ดิฉันจึงอยากสอบถามว่าถ้าพี่สาวดิฉันไปรับเงินเบี้ยที่เคยจ่ายไปคืนแล้ว จะเป็นเหมือนกับการยอมรับการเป็นโมฆียะหรือไม่และจะมีผลต่อการร้องเรียนหรือไม่
3. บริษัทมีสิทธิไม่คืนกรมธรรม์หรือแม้แต่สำเนาให้ผู้รับผลประโยชน์มาพิจารณาหรือไม่ เพราะดิฉันต้องการพิจารณาสัญญาให้ละเอียดเพื่อดูว่าควรหรือไม่ที่จะร้องเรียนกับ คปภ.
ถึงแม้ว่าเมื่อร้องเรียน คปภ.แล้วดิฉันจะพ่ายแพ้ต่อบริษัทไทยประกันชีวิต ซึ่งทางกฏหมายเค้าอาจจะถูกหรือไม่ แต่ทางคุณธรรมและน้ำใจของบริษัทดิฉันรู้สึกผิดหวังมาก ไม่มีใครอยากตายเร็วหรอก ดิฉันอยากให้แม่อยู่อีก 10 ปี 20 ปี แต่ก็ทำทุกวิถีทางแล้วที่จะรักษาชีวิตแม่ของดิฉัน เงินแสนอาจจะไม่ได้มากมาย แทบไม่พอจะจัดงานด้วยซ้ำ แต่ก็ทำให้เห็นน้ำใจของบริษัทนี้ บริษัทของคนไทย ซึ่งตัวดิฉันเองก็เป็นลูกค้าเค้าอยู่อีก 2 กรมธรรม์ เฮ้อ ต่อไปนี้คงไม่กล้าทำประกันอะไรอีกแล้ว เพราะเค้ามีสิทธิยกเลิกกรมธรรม์เราภายใน 2 ปี หรืออาจมากกว่านั้นในหลาย ๆ กรณีที่เคยเจอมา ในขณะที่เราถ้าต้องการยกเลิกต้องทำภายใน 15 วัน หรือ 30 วันเท่านั้น ช่างแสนยุติธรรมเหลือเกิน
รบกวนเพื่อน ๆ ช่วยให้คำปรึกษากับดิฉันด้วยค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ