มีประสบการณ์แย่ ๆ ที่ได้รับจากตัวแทนประกันของบริษัทไทยประกันชีวิต มาแชร์ค่ะ..ไม่อยากให้ใครต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เลย
- ดิฉันและครอบครัวได้ทำประกันชีวิตกับบริษัทไทยประกันชีวิต เป็นจำนวนหลายฉบับค่ะ ผ่านตัวแทนคนหนึ่งจากสาขาชลบุรี
- จนมาถึงปี 2557 ตัวแทนได้มาเสนอขายประกันกับแม่ ค่าเบี้ยประกันสูงถึง ปีละ 150,000 บาท ซึ่งแม่ก็ได้ปฏิเสธว่าไม่มีเงินพอที่จะทำประกันเพิ่ม แต่ตัวแทนก็ขอร้องให้ช่วยซื้อประกัน และเสนอให้กู้เงินจากกรมธรรม์เล่มที่มีอยู่แล้วมาจ่ายกรมธรรม์เล่มใหม่ ด้วยความรำคาญแม่จึงยอมทำกรมธรรม์เล่มดังกล่าว
- ในปี 2558 เมื่อครบกำหนดจ่ายกรมธรรม์ แม่ไม่มีเงินพอที่จะจ่ายค่าเบี้ย (ตามที่คาดไว้) จึงแจ้งตัวแทนไปว่า จะขอยกเลิกกรมธรรม์โดยหยุดส่งค่าเบี้ย
- ตัวแทนประกันได้เสนอให้ เปลี่ยนประเภทกรมธรรม์จาก "ทรัพย์ปันผล 20/20" เป็น "ธนทวี 3/2" โดยให้เหตุผลว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นธนทวี 3/2 จะส่งเบี้ยแค่อีกปีเดียว และจะได้เงินทั้งหมดคืนในปี 60 แม่จึงตกลงที่จะเปลี่ยนประเภทกรมธรรม์
- เวลาผ่านไป ตัวแทนประกัน มาแจ้งว่า ได้เปลี่ยนประเภทกรมธรรม์เรียบร้อยแล้ว แต่เปลี่ยนเป็น "ธนทวี 15/6" พร้อมนำใบเสร็จ
ค่าใช้จ่ายจำนวนทั้งสิ้น 266,296 บาทมาให้ (ค่าเบี้ยคุ้มครองเปลี่ยนแบบ 24,346 เรียกผลต่างมูลค่าเงินสด 92,100 ค่าเบี้ย 149,850) ซึ่งแม่ไม่เคยรู้มาก่อน ว่าจะเปลี่ยนแบบเป็นธนทวี 15/6 และต้องมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบบอีกตั้งแสนกว่าบาท (150,000 ยังไม่มีเงินจ่ายต้องมาจ่าย 266,296 บาท....ซึ่งตัวแทนไม่เคยให้ข้อมูลใดๆกับลูกค้าเลย มารู้อีกทีเปลี่ยนประเภทกรมธรรม์เรียบร้อยแล้ว เป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว)
- เงินจำนวนดังกล่าว ตัวแทนได้นำมาจากการกู้เงินกรมธรรม์ของดิฉัน (ซึ่งดิฉันไม่เคยรับทราบและเซ็นยินยอมในเอกสารใดๆ) จำนวน 123,720 บาทและตัวแทนสำรองเงินตนเองจ่ายไปก่อน อีกจำนวนหนึ่ง ....(งงเลยค่ะ อยู่ๆมาเป็นหนี้บริษัทประกันและตัวแทนประกัน เพื่อกู้เงินไปซื้อประกันเพิ่ม)
- เมื่อดิฉันทราบเรื่องทั้งหมดก็ได้ไปร้องเรียนพฤติกรรมตัวแทน ที่บริษัทไทยประกันชีวิต สำนักงานใหญ๋ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 58 ที่ผ่านมา (โดยหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากบริษัท และไม่อยากให้ใครต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เหมือนตัวเอง)
- ในวันที่ 22 กันยายน 58 บริษัทไทยประกันชีวิต สาขาชลบุรี นัดให้ไปไกล่เกลี่ยกับตัวแทนประกันคนดังกล่าว โดยยื่นคำร้องขอคืนสภาพกรมธรรม์และคืนเงินกู้ทั้งหมดในปี 58 เข้ากรมธรรม์ฉบับเดิม
- เรื่องถูกส่งไปพิจารณาที่บริษัทไทยประกันชีวิตสำนักงานใหญ่
- หลังจากนั้น ดิฉันก็ติดตามความคืบหน้ากับบริษัทมาโดยตลอด จนได้คำตอบจากบริษัทไทยประกันชีวิตสำนักงานใหญ่ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 58 ว่า บริษัทไม่สามารถตัดสินได้ เนื่องจาก ลายมือชื่อจริงกับลายมือชื่อปลอมคล้ายกัน และตัวแทนก็ไม่ยอมรับความผิด (จริงๆแล้วลายมือชื่อทั้งสอง ไม่เหมือนกันเลยค่ะ ดูด้วยตายังรู้ว่าคนละลายมือ)
- ทางบริษัท ไทยประกันสำนักงานใหญ่จึงให้ดิฉันไปแจ้งความ เพื่อนำใบแจ้งความมาเป็นหลักฐานเพิ่มเติมประกอบการพิจารณา
ดิฉันจึงไปแจ้งความ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 58
- เวลาผ่านไปจนถึงวันนี้ วันที่ 7 มกราคม 59 ดิฉันโทรไปสอบถาม คำตอบที่ได้คือ เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา (น่าเศร้าอ่ะ บริษัทใหญ่ แต่กระบวนการพิจารณาช้ามาก ดิฉันซึ่งเป็นลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อนจากตัวแทนประกัน ร้องเรียนไปเกือบ 4 เดือน ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจากบริษัทเลย)
มีใครเคยเจอเรื่องประมาณนี้มั๊ยคะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ
มีประสบการณ์แย่ ๆ ที่ได้รับจากตัวแทนประกันของบริษัทไทยประกันชีวิต มาแชร์ค่ะ
- ดิฉันและครอบครัวได้ทำประกันชีวิตกับบริษัทไทยประกันชีวิต เป็นจำนวนหลายฉบับค่ะ ผ่านตัวแทนคนหนึ่งจากสาขาชลบุรี
- จนมาถึงปี 2557 ตัวแทนได้มาเสนอขายประกันกับแม่ ค่าเบี้ยประกันสูงถึง ปีละ 150,000 บาท ซึ่งแม่ก็ได้ปฏิเสธว่าไม่มีเงินพอที่จะทำประกันเพิ่ม แต่ตัวแทนก็ขอร้องให้ช่วยซื้อประกัน และเสนอให้กู้เงินจากกรมธรรม์เล่มที่มีอยู่แล้วมาจ่ายกรมธรรม์เล่มใหม่ ด้วยความรำคาญแม่จึงยอมทำกรมธรรม์เล่มดังกล่าว
- ในปี 2558 เมื่อครบกำหนดจ่ายกรมธรรม์ แม่ไม่มีเงินพอที่จะจ่ายค่าเบี้ย (ตามที่คาดไว้) จึงแจ้งตัวแทนไปว่า จะขอยกเลิกกรมธรรม์โดยหยุดส่งค่าเบี้ย
- ตัวแทนประกันได้เสนอให้ เปลี่ยนประเภทกรมธรรม์จาก "ทรัพย์ปันผล 20/20" เป็น "ธนทวี 3/2" โดยให้เหตุผลว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นธนทวี 3/2 จะส่งเบี้ยแค่อีกปีเดียว และจะได้เงินทั้งหมดคืนในปี 60 แม่จึงตกลงที่จะเปลี่ยนประเภทกรมธรรม์
- เวลาผ่านไป ตัวแทนประกัน มาแจ้งว่า ได้เปลี่ยนประเภทกรมธรรม์เรียบร้อยแล้ว แต่เปลี่ยนเป็น "ธนทวี 15/6" พร้อมนำใบเสร็จค่าใช้จ่ายจำนวนทั้งสิ้น 266,296 บาทมาให้ (ค่าเบี้ยคุ้มครองเปลี่ยนแบบ 24,346 เรียกผลต่างมูลค่าเงินสด 92,100 ค่าเบี้ย 149,850) ซึ่งแม่ไม่เคยรู้มาก่อน ว่าจะเปลี่ยนแบบเป็นธนทวี 15/6 และต้องมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบบอีกตั้งแสนกว่าบาท (150,000 ยังไม่มีเงินจ่ายต้องมาจ่าย 266,296 บาท....ซึ่งตัวแทนไม่เคยให้ข้อมูลใดๆกับลูกค้าเลย มารู้อีกทีเปลี่ยนประเภทกรมธรรม์เรียบร้อยแล้ว เป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว)
- เงินจำนวนดังกล่าว ตัวแทนได้นำมาจากการกู้เงินกรมธรรม์ของดิฉัน (ซึ่งดิฉันไม่เคยรับทราบและเซ็นยินยอมในเอกสารใดๆ) จำนวน 123,720 บาทและตัวแทนสำรองเงินตนเองจ่ายไปก่อน อีกจำนวนหนึ่ง ....(งงเลยค่ะ อยู่ๆมาเป็นหนี้บริษัทประกันและตัวแทนประกัน เพื่อกู้เงินไปซื้อประกันเพิ่ม)
- เมื่อดิฉันทราบเรื่องทั้งหมดก็ได้ไปร้องเรียนพฤติกรรมตัวแทน ที่บริษัทไทยประกันชีวิต สำนักงานใหญ๋ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 58 ที่ผ่านมา (โดยหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากบริษัท และไม่อยากให้ใครต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เหมือนตัวเอง)
- ในวันที่ 22 กันยายน 58 บริษัทไทยประกันชีวิต สาขาชลบุรี นัดให้ไปไกล่เกลี่ยกับตัวแทนประกันคนดังกล่าว โดยยื่นคำร้องขอคืนสภาพกรมธรรม์และคืนเงินกู้ทั้งหมดในปี 58 เข้ากรมธรรม์ฉบับเดิม
- เรื่องถูกส่งไปพิจารณาที่บริษัทไทยประกันชีวิตสำนักงานใหญ่
- หลังจากนั้น ดิฉันก็ติดตามความคืบหน้ากับบริษัทมาโดยตลอด จนได้คำตอบจากบริษัทไทยประกันชีวิตสำนักงานใหญ่ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 58 ว่า บริษัทไม่สามารถตัดสินได้ เนื่องจาก ลายมือชื่อจริงกับลายมือชื่อปลอมคล้ายกัน และตัวแทนก็ไม่ยอมรับความผิด (จริงๆแล้วลายมือชื่อทั้งสอง ไม่เหมือนกันเลยค่ะ ดูด้วยตายังรู้ว่าคนละลายมือ)
- ทางบริษัท ไทยประกันสำนักงานใหญ่จึงให้ดิฉันไปแจ้งความ เพื่อนำใบแจ้งความมาเป็นหลักฐานเพิ่มเติมประกอบการพิจารณา
ดิฉันจึงไปแจ้งความ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 58
- เวลาผ่านไปจนถึงวันนี้ วันที่ 7 มกราคม 59 ดิฉันโทรไปสอบถาม คำตอบที่ได้คือ เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา (น่าเศร้าอ่ะ บริษัทใหญ่ แต่กระบวนการพิจารณาช้ามาก ดิฉันซึ่งเป็นลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อนจากตัวแทนประกัน ร้องเรียนไปเกือบ 4 เดือน ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจากบริษัทเลย)
มีใครเคยเจอเรื่องประมาณนี้มั๊ยคะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ