บทที่ 7: วันที่เราป่วย
ฉันรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ตั้งแต่ขึ้นรถของพีทมาอาจจะเป็นเพราะว่าตากฝนนานไปหน่อย ส่วนพีทเค้าก็ยังคงมองฉันอย่างเป็นห่วง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพราะอย่างนี้รึเปล่าฉันถึงรู้สึกว่าอุณหภูมิในร่างกายนั้นกำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เฮ้อออ.. ตาเริ่มพร่าซะแล้วสิ
“เธอโอเครึเปล่า” พีทส่งเสียงถามขึ้นมาหลังจากที่เค้าเห็นฉันนั่งตัวงออยู่ที่เบาะข้างคนขับ
“ฉันรู้สึกหนาวนิดหน่อยน่ะ”
สิ้นเสียงที่ฉันพูดจู่ๆ อิตาพีทก็ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเอง โอ๊ยย..นี่นายจะหื่นไม่เลือกที่เลยรึไงนะ ฉันได้แต่เอามือปิดตาแล้วก็บ่นด่าเพื่อให้ตาโรคจิตหยุดการกระทำนี้ซะ
“นี่นายหื่นไม่เลือกที่เลยรึไง ฉันไม่มีแรงที่จะบ่นนายนะวันนี้”
“เงียบๆ เถอะน่า”
“นี่นายจะไม่หยุดใช่มั้ย ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วยแล้ว..”
‘ฟึบ’ นายนั่นโน้มตัวเข้ามาหาฉันด้วยร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าก่อนที่จะเอาเสื้อเชิ้ตที่ถอดออกมาคลี่ และห่มเข้าที่ตัวของฉัน เค้ายังคงค้างอยู่ตรงนั้นอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันก็ได้แต่มองหน้าเค้าอยู่อย่างนั้นก่อนที่จะตัดสินใจหันหนีจากการเผชิญหน้า ก็เพราะฉันรู้สึกว่าหัวใจของฉันมันกำลังจะระเบิดออกมาแล้วน่ะสิ
“ขอบใจ” ฉันปล่อยคำพูดออกมาเบาๆ และไม่ได้หันไปมองหน้าของนายพีท
“บอกแล้วไงให้เงียบๆ เดี๋ยวฉันจะหรี่แอร์ให้นะ จะหลับไปก่อนก็ได้ถึงที่คอนโดแล้วเดี๋ยวฉันปลุกเอง”
“อืม” ฉันตอบกลับไป โดยที่ไม่นานฉันก็เข้าสู่ห้วงนิทราตามที่ตานั่นบอก zzzZZZ...
ณ คอนโด Luxury Life..
ฉันตื่นขึ้นมาบนเตียงใหญ่ขนาด 6 ฟุตรู้สึกไม่คุ้นเคยกับเตียงนี้เลยธรรมดาห้องนอนฉันขนาดเตียงแค่ 3 ฟุตครึ่งนิ แล้วนี่เตียงใคร ฉันลืมตาขึ้นมาก่อนที่จะหันซ้ายหันขวาอย่างระมัดระวัง การตกแต่งภายในห้องนี้ก็เหมือนคอนโดของนายพีทนะ แล้วฉันใส่เสื้อใครอยู่เนี้ยนี่มันไม่ใช่เสื้อผ้าฉันนิ หรือว่ามัน..มันเป็นเสื้อของอิตาพีท!
ฉันรีบลุกพรวดขึ้นมา แต่..เอ๊ะ~โลกหมุนแปลกๆ ทำไมหัวมันหนักอย่างนี้นะ
‘แอ๊ดดดด’ เสียงประตูห้องถูกผลักออก พร้อมกับนายพีทที่เดินเข้ามา
“ตื่นแล้วเหรอ” นายพีทถามขึ้น
“นี่นาย! ใครเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันน่ะ โอ๊ะ~” ฉันลุกขึ้นขณะที่พูด แต่แล้วก็เหมือนกับโลกมันหมุนฉันหน้ามืดล้มลงไป แต่ก็นะตาพีทมาคว้าไว้ได้เหมือนเช่นเคย
“พูดมากอยู่ได้ นอนพักซะเถอะน่า” เค้าพูดก่อนที่จะจัดท่าให้ฉันนอนลงบนเตียงที่เดิม
“ฉันจะกลับไปนอนที่ห้องของฉัน” ฉันพูดก่อนที่จะขัดขืน แต่ก็ไม่สามารถสู้แรงตาล่ำบึ้กนี่ได้
“อย่าดื้อได้มั้ย แค่นี้ฉันก็ปวดหัวมากแล้วนะ” นายนั่นพูดพลางขมวดคิ้ว ฉันจึงหยุดดิ้น และเอามือไปแตะที่หน้าผากของพีท ตายแล้วตานี่ก็ตัวร้อนเหมือนกันนิ
“พีท.. นายก็ไม่สบายเหมือนกันนะ นายกินยารึยัง”
“ไม่ต้องห่วงฉันหรอกฉันแข็งแรงกว่าเธออยู่แล้วยัยเน่า นอนซะ”
“แต่..” แต่ฉันมีเหตุผลจำเป็นนะพีท ฟังก่อน..
“อะไรอีกล่ะ ดื้อจริงๆ เลย”
“ก็ ฉันหิวแล้วนิ” สิ้นเสียงที่ฉันพูดพีทก็หัวเราะออกมา ก่อนที่จะจูงมือฉันออกไปที่ครัว ทำไมตอนนี้พอเราสัมผัสกันมันช่างรู้สึร้อนแรงขนาดนี้นะ ฮ่าๆ ก็แน่ล่ะเปื่อยทั้งคู่
ที่ครัว..
“นายจะทำเองจริงๆ อ่ะ”
“เธอนั่งไปเถอะน่า”
“ฉันช่วยมั้ย”
“ยัยจุ้น เธอไปนั่งที่เคาเตอร์เลยไป” พีทพูดพลางชี้นิ้วไปยังเคาเตอร์ที่อยู่ตรงข้ามครัว
ฉันเดินไปนั่งที่เคาเตอร์อย่างว่าง่าย เพราะรู้สึกว่าตัวเองดื้อกับนายพีทมาสักพักแล้วอ่ะนะ ฉันก็เพิ่งรู้นะว่าพีทไม่ได้ทำเป็นแค่อาหารแช่แข็ง แล้วอีกอย่างแผ่นหลังของเค้าตอนนี้ก็ดูดีนะ ผู้ชายตอนทำอาหารนี่ดูน่ารักขึ้นจริงๆ
‘ติ๊ดๆๆๆ ๆ’ เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น ฉันจึงเดินไปรับโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะวางโทรทัศน์ ตายแล้วกรนิ สงสัยว่าจะรออยู่ข้างล่างนานมากแน่ๆ นี่ก็ใกล้เวลาจะเข้างานอีกแล้ว
“กร ตายแล้ว! ขอโทษทีนายฉันไม่สบายเมื่อคืนน่ะ นี่ยังไม่..” มือถือหลุดจากมือฉัน แล้วไปอยู่ที่ตาพีทซะงั้น
“วันนี้ยัยเกี๋ยวไม่ไปไข้ขึ้นหนัก เท่านี้นะ” พีทพูดจบก็กดวางสายกรไปทันที
“นี่นาย ทำอย่างนี้ไม่ได้นะเอาคืนมา” ฉันกระโดดๆ ตามมือพีทที่ชูสูงขึ้นเพื่อให้ฉันคว้าโทรศัพท์ไม่ได้
“วันนี้ฉันจะเก็บมือถือไว้ให้เธอเอง ไปกินข้าวเช้าได้แล้ว” พีทพูดก่อนที่จะดันฉันออก และเอามือถือฉันใส่กระเป๋ากางเกงของตัวเองไป นายนี่กวนจริงๆ วันนี้คงต้องเชื่อฟังนายใช่มั้ยคอยดูเถอะเดี๋ยวจะเอามือถือกลับมาให้ได้เลย
พีทจัดแจงทำอาหารจนเสร็จเรียบร้อย เค้าทำข้าวต้มกุ้ง โดยเมื่อเสิร์ฟอาหารให้ฉันแล้ว พีทจึงเข้ามานั่งที่นั่งตรงข้ามกับฉัน เย้ๆ หิวแล้วหน้าตาน่ากินจัง จัดการเลยน๊า~
“กินเก่งจังเลยนะ” ตาพีทพูดขึ้นในตอนที่ฉันตักคำสุดท้ายเข้าปาก
“วันนี้นายมาแปลกนะ ทำดีกับฉันเป็นด้วย” ฉันพูดทันทีที่จัดการกลืนอาหารภายในปากเรียบร้อย
“ฉันว่าเธอไม่เคยสังเกตเลยตังหาก” ห่ะ! นายพีทพูดว่าอะไรนะ แต่ก่อนที่ฉันจะถามพีทอีกทีเพื่อความแน่ใจ ตาพีทตัวจริงก็กลับมา
“นี่ยัยเน่า กินเสร็จก็จัดการจานกองนั้นด้วยล่ะ” โอ๊ย! จานที่กองไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วก็จานวันนี้ จะเป็นพระเอกให้พ้นวันไม่ได้เลยรึไงนะ ปวดประสาทจริงๆ ฉันจึงเดินนำจานชามที่กินเรียบร้อยแล้วของพวกเราไปไว้ที่อ่างล้างจานขณะที่กำลังจะลงมือจัดการกองภูเขาที่อยู่ตรงหน้านั้น พีทก็พูดขึ้นอีก
“ยัยเน่า” เรียกอย่างงี้อีกและ
“อะไรอีกล่ะ”
“อย่าลืมกินยาล่ะ ฉันวางไว้ตรงโต๊ะนี่นะ”
ฉันหันกลับไปมองยาที่นายพีทจัดไว้ให้บนโต๊ะอาหาร แล้วดันไปสบตาเข้ากับนายนั่นที่ยังคงยืนมองฉันอยู่
“อืม” ฉันตอบกลับเบาๆ ก่อนที่ตานั่นจะเดินหายเข้าไปในห้องนอน นี่จิตใจของฉันสั่นไหวกับเรื่องง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไงนะ แต่จะว่าไปแล้วพีทก็เป็นคนดีเหมือนกัน
หลังจากฉันจัดการภูเขาจานลูกนั้นเสร็จเรียบร้อย ก็กินยาตามที่นายพีทบอก ไม่นานก็รู้สึกว่าตัวเองดีขึ้นแล้ว ฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ยิ่งอาบก็ยิ่งคิดนะว่าตาบ้าพีทจะเห็นฉันไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว แต่ตอนนี้ช่างเถอะเดี๋ยวค่อยหาเรื่องนายนี่ต่อ ตอนนี้ก็คงเหลือแค่ต้องพักผ่อนอีกนิดหน่อยล่ะนะ ว่าแต่ว่าแล้วนายพีทที่สั่งให้ฉันกินยา แล้วเค้ากินยาบ้างรึยังนะ
‘ก๊อกๆ’ ฉันตัดสินใจเดินไปเคาะห้องนายพีท แต่กลับไม่มีเสียงตอบกลับออกมาเลย ถือวิสาสะเปิดเข้าไปเลยล่ะกัน
“นาย” ฉันส่งเสียงเมื่อเดินผ่านประตูเข้ามา แต่พีทก็ยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงอย่างนั้น
“พีท กินยารึยัง นายก็ป่วยเหมือนกันนะ” ฉันเดินเข้าไปใกล้ที่เตียงมากขึ้น เค้ายังคงหลับสนิทเหมือนเดิม แล้วฉันก็นึกขึ้นได้ เค้ายึดมือถือฉันไปนี่น่าเอามือถือคืนมาก่อนดีกว่า ฮิฮิ
ว่าแล้วฉันก็ค่อยๆ ล้วงเข้าไปใต้ผ้าห่ม แต่เอ๋~กระเป๋ากางเกงเค้าอยู่ตรงไหนนะ
ฉันยังคงควานหาอยู่แต่นายนั่นเกิดพลิกตัว แล้วมือของฉันก็ติดอยู่ที่ขาเค้าทำให้ฉันล้มลงไปที่เตียง ตอนนี้เราทั้งสองคนหันหน้าเข้าหากัน แล้วตาพีทก็ลืมตาขึ้น
“ที่เธอจับน่ะไม่ใช่กระเป๋ากางเกง เอามือออกไปเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวน้องฉันตื่น” ห่ะ! พีทตื่นอยู่ แล้วฉันจับอะไรนะ ฮืออออ~
“ตาบ้า ตื่นก็ไม่ตอบกินยารึยัง !@#$%^&*!@#$%^&*” แล้วปากของฉันก็ถูกปิดด้วยมือใหญ่ๆ ของนายนั่น
“นี่เธอจะไม่ให้ฉันพักบ้างเลยเหรอไง เงียบๆ เถอะ” เค้าพูดก่อนที่จะหลับตาอีกรอบ และก็กอดฉันแน่นขึ้น ฉันปล่อยให้เค้ากอดอยู่อย่างนั้นคงเพราะไม่อยากกวนนายนี่ล่ะมั้ง ซึ่งก็ไม่รู้เนิ่นนานเท่าไหร่ และคงจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาอีกนั้นล่ะที่ทำให้ฉันหลับไปอย่างนั้น หลับไปพร้อมกับเค้า zzzZZZ…
บ่ายๆ วันนั้น..
ฉันตื่นมาอีกทีท่าทางของตานั่นก็ยังคงเหมือนเดิม อึ้ย~นี่ฉันนอนให้ผู้ชายกอดเป็นชั่วโมงๆ เลยเหรอเนี้ย ลุกดีกว่ารู้สึกสบายตัวขึ้นล่ะ ฮึบ!
“นาย หิวอะไรมั้ยเดี๋ยวฉันหาอะไรให้กิน ตอบแทนมื้อเช้าของนาย” ฉันหันกลับไปถามพีทที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง แต่พีทก็แน่นิ่งไม่มีปฏิกริยาตอบกลับมา หรือว่าเค้าจะป่วยหนักนะ ลองแตะหน้าผากหน่อยดีกว่า
เมื่อฉันแตะที่หน้าผากเค้าก็ต้องตกใจ เพราะดูเหมือนไข้ของนายนี่จะไม่ลดลงไปเลย ฉันจึงออกไปซื้อโจ๊กที่หน้าคอนโด เพื่อเตรียมมื้อเที่ยงให้เค้า เอ่อ.. คืออย่างว่าอ่ะนะฉันไม่ใช่ผู้หญิงทำอาหารนี่น่า ก่อนที่จะขึ้นมาจัดโต๊ะเตรียมให้กับนายพีท แล้วจึงค่อยกลับเข้าไปที่ห้องนอนของนายพีทอีกครั้งเมื่อเตรียมการทุกอย่างเสร็จ ฉันสังเกตได้ว่าตอนนี้เหงื่อเม็ดใหญ่ๆ ผุดท่วมตัวเค้าไปหมด ทำไงดีๆ หาในอินเทอร์เน็ตก่อนก็แล้วกัน
เลื่อนๆ ไปก็มีแต่แนะนำให้ไปหาหมอ แต่ฉันจะแบกอิตานี่ยังไงล่ะ แล้วก็มีคำแนะนำว่า..เช็ดตัว! อันนี้ก็พอทำให้ได้นะ แต่..ฉันจะต้องโดนตัวนายนี่น่ะสิ ฉันเป็นผู้หญิงน๊า..แต่จากที่ดูก็คงไม่มีทางอื่นแล้วล่ะ ถือว่าช่วยๆ กันไปแล้วกันนะรูมเมท
ฉันจัดแจงเตรียมอ่างน้ำ และผ้าขนหนูขนาดเล็กซึ่งใช้ผ้าของฉันก็แล้วกัน ฉันหันไปที่เตียงอีกทีและค่อยๆ ปลดกระดุมของพีท ฮือๆ มือมันสั่น ไม่นานนักฉันก็ปลดจนถึงเม็ดสุดท้ายแล้วจึงเปิดเสื้อของเค้าออกทำให้เห็นแผงอกที่ขาวจั๊วะ เอิ่ม..ยัยเกี๊ยวอย่าเพิ่งหื่น ฉันบรรจงนำผ้าที่หมาดน้ำแล้วเช็ดที่หน้าของเค้า ก่อนที่จะซัก และไล่มาที่แขน หน้าอก และหน้าท้องของเค้า คนอะไรหุ่นดีชะมัด เอาล่ะข้างหน้าเสร็จแล้ว ต่อไปข้างหลังแล้วกัน ส่วนข้างล่างขอไม่ยุ่งนะ
ฉันพยายามดันให้เค้าตะแคงไปด้านข้างเพื่อที่ฉันจะได้ถอดเสื้อออกจากแขนเค้า และเช็ดหลังให้ได้อย่างสะดวก แต่ทว่าตัวนายนี่หนักมากดันยังไงก็ไม่ขยับเขยื้อน ทำไมผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเนี้ย
“ฮึบๆ” ขณะที่ฉันดันอยู่ จู่ๆ ร่างนายนี่ก็เคลื่อนตะแคงอย่างง่ายดาย เย้ๆ ทำได้แล้วเอาล่ะ..
“ฉันถอดเอง” อ่ะ..พีทพูดขึ้นมาก่อนที่เค้าจะขยับ และถอดเสื้อตัวเองออก โอ๊ยอายอ่ะตัวเอง~
“นายตื่นแล้วก็เช็ดเองสิ” ฉันพูดพลางส่งผ้าให้ ไม่กล้ามองหน้านายนี่เลย
“ก็ฉันไม่มีแรงนิ แล้วด้านหลังก็เช็ดไม่ถึงด้วย” นายพีทหันมาพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน หืมมม
“เออๆ ฉันทำให้ก็ได้หันไปๆ ตื่นแล้วก็กวนประสาทเลยนะ”
“ก็เธอมาดันๆ ฉันอยู่ได้ใครที่ไหนจะนอนได้ล่ะ” นายนั่นพูดอย่างกวนประสาท เออๆ ฉันผิดเอง
“เสร็จแล้ว!” ฉันพูดเมื่อเช็กหลังให้กับตาบ้านี่เรียบร้อย เฮ้อ..จะได้หมดช่วงเวลาอึดอัดแบบนี้ซะที ต้องมาเห็นผู้ชายเปลือยแล้วยังต้องเช็ดตัวให้อีก ฉันไม่เคยทำให้ใครเลยนะย่ะ
“เดี๋ยวสิ” พีทพูดพลางดึงฉัน ทำให้ต้องนั่งลงที่เตียงอีกครั้ง
“อะไรอีกเล่า” ฉันพูดตอบกลับแต่ไม่ได้มองหน้านายพีท
“เปลี่ยนเสื้อทำไม” พีทถามขึ้น
“ก็เช้าแล้วอาบน้ำเป็นเรื่องปกตินิ แล้วนี่ก็เสื้อฉัน อะไรของนายเนี้ย”
“ก็แค่ฉันคิดว่าเธอเหมาะที่จะใส่เสื้อของฉันมากกว่า” พีทพูดพลางจ้องหน้าฉัน ทำอย่างนี้กินฉันเลยมั้ยล่ะตาบ้า อารมณ์มันส่งผ่านช่างรุนแรงเหลือเกิน
“ออกไปกินข้าวได้แล้ว สำนึกบุญคุณซะบ้างนะ ฉันอุตส่าเช็ดตัวให้ไอ้พีทบ้า!” ฉันต้องด่าให้สำนึกบ้างแล้ว แต่ตานั่นดูไม่ได้สะทกสะท้านเลยที่เดียว
“ฉันก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอเหมือนกัน เป็นไงเราเจ๊ากันรึยัง ได้เห็นเหมือนกันเลย” ตานั่นตอบกลับพร้อมกับยิ้มทะเล้น
“อ่อ แต่เธอควรที่จะสำนึกบุญคุณฉันมากกว่านะ เพราะฉันถอดกางเกงให้เธอด้วย หรือเธอจะถอดของฉันบ้างล่ะ” นายนั่นพูดพลางจะปลดกางเกงตัวเอง
“อีตาบ้า! ฉันไม่คุยกับนายแล้วโว้ย” ฉันรีบวิ่งออกมาจากห้องอิตาวิปริตนั้นก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้น ฮือๆ งานนี้เกี๊ยวแพ้ เอาไว้โอกาสหน้านะฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้คนโรคจิต!
นิยายออนไลน์ รูมเมทร้ายกับยัยน่ารัก บทที่ 7
บทที่ 1 http://ppantip.com/topic/34309672
บทที่ 2 http://ppantip.com/topic/34312776
บทที่ 3 http://ppantip.com/topic/34318241
บทที่ 4 http://ppantip.com/topic/34324517
บทที่ 5 http://ppantip.com/topic/34331346
บทที่ 6 http://ppantip.com/topic/34340038
ป.ล. มาอัพอีกทีวันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม 2558 นะค๊า
-----------------------------------------------------------
บทที่ 7: วันที่เราป่วย
ฉันรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ตั้งแต่ขึ้นรถของพีทมาอาจจะเป็นเพราะว่าตากฝนนานไปหน่อย ส่วนพีทเค้าก็ยังคงมองฉันอย่างเป็นห่วง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพราะอย่างนี้รึเปล่าฉันถึงรู้สึกว่าอุณหภูมิในร่างกายนั้นกำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เฮ้อออ.. ตาเริ่มพร่าซะแล้วสิ
“เธอโอเครึเปล่า” พีทส่งเสียงถามขึ้นมาหลังจากที่เค้าเห็นฉันนั่งตัวงออยู่ที่เบาะข้างคนขับ
“ฉันรู้สึกหนาวนิดหน่อยน่ะ”
สิ้นเสียงที่ฉันพูดจู่ๆ อิตาพีทก็ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเอง โอ๊ยย..นี่นายจะหื่นไม่เลือกที่เลยรึไงนะ ฉันได้แต่เอามือปิดตาแล้วก็บ่นด่าเพื่อให้ตาโรคจิตหยุดการกระทำนี้ซะ
“นี่นายหื่นไม่เลือกที่เลยรึไง ฉันไม่มีแรงที่จะบ่นนายนะวันนี้”
“เงียบๆ เถอะน่า”
“นี่นายจะไม่หยุดใช่มั้ย ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วยแล้ว..”
‘ฟึบ’ นายนั่นโน้มตัวเข้ามาหาฉันด้วยร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าก่อนที่จะเอาเสื้อเชิ้ตที่ถอดออกมาคลี่ และห่มเข้าที่ตัวของฉัน เค้ายังคงค้างอยู่ตรงนั้นอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันก็ได้แต่มองหน้าเค้าอยู่อย่างนั้นก่อนที่จะตัดสินใจหันหนีจากการเผชิญหน้า ก็เพราะฉันรู้สึกว่าหัวใจของฉันมันกำลังจะระเบิดออกมาแล้วน่ะสิ
“ขอบใจ” ฉันปล่อยคำพูดออกมาเบาๆ และไม่ได้หันไปมองหน้าของนายพีท
“บอกแล้วไงให้เงียบๆ เดี๋ยวฉันจะหรี่แอร์ให้นะ จะหลับไปก่อนก็ได้ถึงที่คอนโดแล้วเดี๋ยวฉันปลุกเอง”
“อืม” ฉันตอบกลับไป โดยที่ไม่นานฉันก็เข้าสู่ห้วงนิทราตามที่ตานั่นบอก zzzZZZ...
ณ คอนโด Luxury Life..
ฉันตื่นขึ้นมาบนเตียงใหญ่ขนาด 6 ฟุตรู้สึกไม่คุ้นเคยกับเตียงนี้เลยธรรมดาห้องนอนฉันขนาดเตียงแค่ 3 ฟุตครึ่งนิ แล้วนี่เตียงใคร ฉันลืมตาขึ้นมาก่อนที่จะหันซ้ายหันขวาอย่างระมัดระวัง การตกแต่งภายในห้องนี้ก็เหมือนคอนโดของนายพีทนะ แล้วฉันใส่เสื้อใครอยู่เนี้ยนี่มันไม่ใช่เสื้อผ้าฉันนิ หรือว่ามัน..มันเป็นเสื้อของอิตาพีท!
ฉันรีบลุกพรวดขึ้นมา แต่..เอ๊ะ~โลกหมุนแปลกๆ ทำไมหัวมันหนักอย่างนี้นะ
‘แอ๊ดดดด’ เสียงประตูห้องถูกผลักออก พร้อมกับนายพีทที่เดินเข้ามา
“ตื่นแล้วเหรอ” นายพีทถามขึ้น
“นี่นาย! ใครเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันน่ะ โอ๊ะ~” ฉันลุกขึ้นขณะที่พูด แต่แล้วก็เหมือนกับโลกมันหมุนฉันหน้ามืดล้มลงไป แต่ก็นะตาพีทมาคว้าไว้ได้เหมือนเช่นเคย
“พูดมากอยู่ได้ นอนพักซะเถอะน่า” เค้าพูดก่อนที่จะจัดท่าให้ฉันนอนลงบนเตียงที่เดิม
“ฉันจะกลับไปนอนที่ห้องของฉัน” ฉันพูดก่อนที่จะขัดขืน แต่ก็ไม่สามารถสู้แรงตาล่ำบึ้กนี่ได้
“อย่าดื้อได้มั้ย แค่นี้ฉันก็ปวดหัวมากแล้วนะ” นายนั่นพูดพลางขมวดคิ้ว ฉันจึงหยุดดิ้น และเอามือไปแตะที่หน้าผากของพีท ตายแล้วตานี่ก็ตัวร้อนเหมือนกันนิ
“พีท.. นายก็ไม่สบายเหมือนกันนะ นายกินยารึยัง”
“ไม่ต้องห่วงฉันหรอกฉันแข็งแรงกว่าเธออยู่แล้วยัยเน่า นอนซะ”
“แต่..” แต่ฉันมีเหตุผลจำเป็นนะพีท ฟังก่อน..
“อะไรอีกล่ะ ดื้อจริงๆ เลย”
“ก็ ฉันหิวแล้วนิ” สิ้นเสียงที่ฉันพูดพีทก็หัวเราะออกมา ก่อนที่จะจูงมือฉันออกไปที่ครัว ทำไมตอนนี้พอเราสัมผัสกันมันช่างรู้สึร้อนแรงขนาดนี้นะ ฮ่าๆ ก็แน่ล่ะเปื่อยทั้งคู่
ที่ครัว..
“นายจะทำเองจริงๆ อ่ะ”
“เธอนั่งไปเถอะน่า”
“ฉันช่วยมั้ย”
“ยัยจุ้น เธอไปนั่งที่เคาเตอร์เลยไป” พีทพูดพลางชี้นิ้วไปยังเคาเตอร์ที่อยู่ตรงข้ามครัว
ฉันเดินไปนั่งที่เคาเตอร์อย่างว่าง่าย เพราะรู้สึกว่าตัวเองดื้อกับนายพีทมาสักพักแล้วอ่ะนะ ฉันก็เพิ่งรู้นะว่าพีทไม่ได้ทำเป็นแค่อาหารแช่แข็ง แล้วอีกอย่างแผ่นหลังของเค้าตอนนี้ก็ดูดีนะ ผู้ชายตอนทำอาหารนี่ดูน่ารักขึ้นจริงๆ
‘ติ๊ดๆๆๆ ๆ’ เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น ฉันจึงเดินไปรับโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะวางโทรทัศน์ ตายแล้วกรนิ สงสัยว่าจะรออยู่ข้างล่างนานมากแน่ๆ นี่ก็ใกล้เวลาจะเข้างานอีกแล้ว
“กร ตายแล้ว! ขอโทษทีนายฉันไม่สบายเมื่อคืนน่ะ นี่ยังไม่..” มือถือหลุดจากมือฉัน แล้วไปอยู่ที่ตาพีทซะงั้น
“วันนี้ยัยเกี๋ยวไม่ไปไข้ขึ้นหนัก เท่านี้นะ” พีทพูดจบก็กดวางสายกรไปทันที
“นี่นาย ทำอย่างนี้ไม่ได้นะเอาคืนมา” ฉันกระโดดๆ ตามมือพีทที่ชูสูงขึ้นเพื่อให้ฉันคว้าโทรศัพท์ไม่ได้
“วันนี้ฉันจะเก็บมือถือไว้ให้เธอเอง ไปกินข้าวเช้าได้แล้ว” พีทพูดก่อนที่จะดันฉันออก และเอามือถือฉันใส่กระเป๋ากางเกงของตัวเองไป นายนี่กวนจริงๆ วันนี้คงต้องเชื่อฟังนายใช่มั้ยคอยดูเถอะเดี๋ยวจะเอามือถือกลับมาให้ได้เลย
พีทจัดแจงทำอาหารจนเสร็จเรียบร้อย เค้าทำข้าวต้มกุ้ง โดยเมื่อเสิร์ฟอาหารให้ฉันแล้ว พีทจึงเข้ามานั่งที่นั่งตรงข้ามกับฉัน เย้ๆ หิวแล้วหน้าตาน่ากินจัง จัดการเลยน๊า~
“กินเก่งจังเลยนะ” ตาพีทพูดขึ้นในตอนที่ฉันตักคำสุดท้ายเข้าปาก
“วันนี้นายมาแปลกนะ ทำดีกับฉันเป็นด้วย” ฉันพูดทันทีที่จัดการกลืนอาหารภายในปากเรียบร้อย
“ฉันว่าเธอไม่เคยสังเกตเลยตังหาก” ห่ะ! นายพีทพูดว่าอะไรนะ แต่ก่อนที่ฉันจะถามพีทอีกทีเพื่อความแน่ใจ ตาพีทตัวจริงก็กลับมา
“นี่ยัยเน่า กินเสร็จก็จัดการจานกองนั้นด้วยล่ะ” โอ๊ย! จานที่กองไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วก็จานวันนี้ จะเป็นพระเอกให้พ้นวันไม่ได้เลยรึไงนะ ปวดประสาทจริงๆ ฉันจึงเดินนำจานชามที่กินเรียบร้อยแล้วของพวกเราไปไว้ที่อ่างล้างจานขณะที่กำลังจะลงมือจัดการกองภูเขาที่อยู่ตรงหน้านั้น พีทก็พูดขึ้นอีก
“ยัยเน่า” เรียกอย่างงี้อีกและ
“อะไรอีกล่ะ”
“อย่าลืมกินยาล่ะ ฉันวางไว้ตรงโต๊ะนี่นะ”
ฉันหันกลับไปมองยาที่นายพีทจัดไว้ให้บนโต๊ะอาหาร แล้วดันไปสบตาเข้ากับนายนั่นที่ยังคงยืนมองฉันอยู่
“อืม” ฉันตอบกลับเบาๆ ก่อนที่ตานั่นจะเดินหายเข้าไปในห้องนอน นี่จิตใจของฉันสั่นไหวกับเรื่องง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไงนะ แต่จะว่าไปแล้วพีทก็เป็นคนดีเหมือนกัน
หลังจากฉันจัดการภูเขาจานลูกนั้นเสร็จเรียบร้อย ก็กินยาตามที่นายพีทบอก ไม่นานก็รู้สึกว่าตัวเองดีขึ้นแล้ว ฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ยิ่งอาบก็ยิ่งคิดนะว่าตาบ้าพีทจะเห็นฉันไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว แต่ตอนนี้ช่างเถอะเดี๋ยวค่อยหาเรื่องนายนี่ต่อ ตอนนี้ก็คงเหลือแค่ต้องพักผ่อนอีกนิดหน่อยล่ะนะ ว่าแต่ว่าแล้วนายพีทที่สั่งให้ฉันกินยา แล้วเค้ากินยาบ้างรึยังนะ
‘ก๊อกๆ’ ฉันตัดสินใจเดินไปเคาะห้องนายพีท แต่กลับไม่มีเสียงตอบกลับออกมาเลย ถือวิสาสะเปิดเข้าไปเลยล่ะกัน
“นาย” ฉันส่งเสียงเมื่อเดินผ่านประตูเข้ามา แต่พีทก็ยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงอย่างนั้น
“พีท กินยารึยัง นายก็ป่วยเหมือนกันนะ” ฉันเดินเข้าไปใกล้ที่เตียงมากขึ้น เค้ายังคงหลับสนิทเหมือนเดิม แล้วฉันก็นึกขึ้นได้ เค้ายึดมือถือฉันไปนี่น่าเอามือถือคืนมาก่อนดีกว่า ฮิฮิ
ว่าแล้วฉันก็ค่อยๆ ล้วงเข้าไปใต้ผ้าห่ม แต่เอ๋~กระเป๋ากางเกงเค้าอยู่ตรงไหนนะ
ฉันยังคงควานหาอยู่แต่นายนั่นเกิดพลิกตัว แล้วมือของฉันก็ติดอยู่ที่ขาเค้าทำให้ฉันล้มลงไปที่เตียง ตอนนี้เราทั้งสองคนหันหน้าเข้าหากัน แล้วตาพีทก็ลืมตาขึ้น
“ที่เธอจับน่ะไม่ใช่กระเป๋ากางเกง เอามือออกไปเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวน้องฉันตื่น” ห่ะ! พีทตื่นอยู่ แล้วฉันจับอะไรนะ ฮืออออ~
“ตาบ้า ตื่นก็ไม่ตอบกินยารึยัง !@#$%^&*!@#$%^&*” แล้วปากของฉันก็ถูกปิดด้วยมือใหญ่ๆ ของนายนั่น
“นี่เธอจะไม่ให้ฉันพักบ้างเลยเหรอไง เงียบๆ เถอะ” เค้าพูดก่อนที่จะหลับตาอีกรอบ และก็กอดฉันแน่นขึ้น ฉันปล่อยให้เค้ากอดอยู่อย่างนั้นคงเพราะไม่อยากกวนนายนี่ล่ะมั้ง ซึ่งก็ไม่รู้เนิ่นนานเท่าไหร่ และคงจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาอีกนั้นล่ะที่ทำให้ฉันหลับไปอย่างนั้น หลับไปพร้อมกับเค้า zzzZZZ…
บ่ายๆ วันนั้น..
ฉันตื่นมาอีกทีท่าทางของตานั่นก็ยังคงเหมือนเดิม อึ้ย~นี่ฉันนอนให้ผู้ชายกอดเป็นชั่วโมงๆ เลยเหรอเนี้ย ลุกดีกว่ารู้สึกสบายตัวขึ้นล่ะ ฮึบ!
“นาย หิวอะไรมั้ยเดี๋ยวฉันหาอะไรให้กิน ตอบแทนมื้อเช้าของนาย” ฉันหันกลับไปถามพีทที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง แต่พีทก็แน่นิ่งไม่มีปฏิกริยาตอบกลับมา หรือว่าเค้าจะป่วยหนักนะ ลองแตะหน้าผากหน่อยดีกว่า
เมื่อฉันแตะที่หน้าผากเค้าก็ต้องตกใจ เพราะดูเหมือนไข้ของนายนี่จะไม่ลดลงไปเลย ฉันจึงออกไปซื้อโจ๊กที่หน้าคอนโด เพื่อเตรียมมื้อเที่ยงให้เค้า เอ่อ.. คืออย่างว่าอ่ะนะฉันไม่ใช่ผู้หญิงทำอาหารนี่น่า ก่อนที่จะขึ้นมาจัดโต๊ะเตรียมให้กับนายพีท แล้วจึงค่อยกลับเข้าไปที่ห้องนอนของนายพีทอีกครั้งเมื่อเตรียมการทุกอย่างเสร็จ ฉันสังเกตได้ว่าตอนนี้เหงื่อเม็ดใหญ่ๆ ผุดท่วมตัวเค้าไปหมด ทำไงดีๆ หาในอินเทอร์เน็ตก่อนก็แล้วกัน
เลื่อนๆ ไปก็มีแต่แนะนำให้ไปหาหมอ แต่ฉันจะแบกอิตานี่ยังไงล่ะ แล้วก็มีคำแนะนำว่า..เช็ดตัว! อันนี้ก็พอทำให้ได้นะ แต่..ฉันจะต้องโดนตัวนายนี่น่ะสิ ฉันเป็นผู้หญิงน๊า..แต่จากที่ดูก็คงไม่มีทางอื่นแล้วล่ะ ถือว่าช่วยๆ กันไปแล้วกันนะรูมเมท
ฉันจัดแจงเตรียมอ่างน้ำ และผ้าขนหนูขนาดเล็กซึ่งใช้ผ้าของฉันก็แล้วกัน ฉันหันไปที่เตียงอีกทีและค่อยๆ ปลดกระดุมของพีท ฮือๆ มือมันสั่น ไม่นานนักฉันก็ปลดจนถึงเม็ดสุดท้ายแล้วจึงเปิดเสื้อของเค้าออกทำให้เห็นแผงอกที่ขาวจั๊วะ เอิ่ม..ยัยเกี๊ยวอย่าเพิ่งหื่น ฉันบรรจงนำผ้าที่หมาดน้ำแล้วเช็ดที่หน้าของเค้า ก่อนที่จะซัก และไล่มาที่แขน หน้าอก และหน้าท้องของเค้า คนอะไรหุ่นดีชะมัด เอาล่ะข้างหน้าเสร็จแล้ว ต่อไปข้างหลังแล้วกัน ส่วนข้างล่างขอไม่ยุ่งนะ
ฉันพยายามดันให้เค้าตะแคงไปด้านข้างเพื่อที่ฉันจะได้ถอดเสื้อออกจากแขนเค้า และเช็ดหลังให้ได้อย่างสะดวก แต่ทว่าตัวนายนี่หนักมากดันยังไงก็ไม่ขยับเขยื้อน ทำไมผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเนี้ย
“ฮึบๆ” ขณะที่ฉันดันอยู่ จู่ๆ ร่างนายนี่ก็เคลื่อนตะแคงอย่างง่ายดาย เย้ๆ ทำได้แล้วเอาล่ะ..
“ฉันถอดเอง” อ่ะ..พีทพูดขึ้นมาก่อนที่เค้าจะขยับ และถอดเสื้อตัวเองออก โอ๊ยอายอ่ะตัวเอง~
“นายตื่นแล้วก็เช็ดเองสิ” ฉันพูดพลางส่งผ้าให้ ไม่กล้ามองหน้านายนี่เลย
“ก็ฉันไม่มีแรงนิ แล้วด้านหลังก็เช็ดไม่ถึงด้วย” นายพีทหันมาพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน หืมมม
“เออๆ ฉันทำให้ก็ได้หันไปๆ ตื่นแล้วก็กวนประสาทเลยนะ”
“ก็เธอมาดันๆ ฉันอยู่ได้ใครที่ไหนจะนอนได้ล่ะ” นายนั่นพูดอย่างกวนประสาท เออๆ ฉันผิดเอง
“เสร็จแล้ว!” ฉันพูดเมื่อเช็กหลังให้กับตาบ้านี่เรียบร้อย เฮ้อ..จะได้หมดช่วงเวลาอึดอัดแบบนี้ซะที ต้องมาเห็นผู้ชายเปลือยแล้วยังต้องเช็ดตัวให้อีก ฉันไม่เคยทำให้ใครเลยนะย่ะ
“เดี๋ยวสิ” พีทพูดพลางดึงฉัน ทำให้ต้องนั่งลงที่เตียงอีกครั้ง
“อะไรอีกเล่า” ฉันพูดตอบกลับแต่ไม่ได้มองหน้านายพีท
“เปลี่ยนเสื้อทำไม” พีทถามขึ้น
“ก็เช้าแล้วอาบน้ำเป็นเรื่องปกตินิ แล้วนี่ก็เสื้อฉัน อะไรของนายเนี้ย”
“ก็แค่ฉันคิดว่าเธอเหมาะที่จะใส่เสื้อของฉันมากกว่า” พีทพูดพลางจ้องหน้าฉัน ทำอย่างนี้กินฉันเลยมั้ยล่ะตาบ้า อารมณ์มันส่งผ่านช่างรุนแรงเหลือเกิน
“ออกไปกินข้าวได้แล้ว สำนึกบุญคุณซะบ้างนะ ฉันอุตส่าเช็ดตัวให้ไอ้พีทบ้า!” ฉันต้องด่าให้สำนึกบ้างแล้ว แต่ตานั่นดูไม่ได้สะทกสะท้านเลยที่เดียว
“ฉันก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอเหมือนกัน เป็นไงเราเจ๊ากันรึยัง ได้เห็นเหมือนกันเลย” ตานั่นตอบกลับพร้อมกับยิ้มทะเล้น
“อ่อ แต่เธอควรที่จะสำนึกบุญคุณฉันมากกว่านะ เพราะฉันถอดกางเกงให้เธอด้วย หรือเธอจะถอดของฉันบ้างล่ะ” นายนั่นพูดพลางจะปลดกางเกงตัวเอง
“อีตาบ้า! ฉันไม่คุยกับนายแล้วโว้ย” ฉันรีบวิ่งออกมาจากห้องอิตาวิปริตนั้นก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้น ฮือๆ งานนี้เกี๊ยวแพ้ เอาไว้โอกาสหน้านะฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้คนโรคจิต!