[CR] ด่างทับทิมใช้ล้างผักแล้วสะอาดปลอดภัยจริงหรือ ? เปลี่ยนมาล้างผักด้วยผงล้างผัก “คาร์บอนกรีน” กันเถอะ!

สวัสดีครับพี่น้องชาวพันธุ์ทิพย์ทุกท่าน ในช่วงนี้เป็นช่วงเทศการถือศีลกินเจของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน
ซื่งเราจะงดการบริโภคเนื้อสัตว์กันไช่ไหมครับ ผักผลไม้จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เรานิยมซื้อรับทานกัน

เมื่อเราซื้อมาแล้ว ก่อนที่เราจะนำมาบริโภค เราต้องล้างผักกันก่อน เพราะผักที่ซื้อมาจากท้องตลาดนั้น
เราไม่รู้เลยจริงๆ ว่า จะสด สะอาด ปราศจากสารเคมีอไรบ้าง

ดังนั้น ผมจริงลองเข้ามาเสริทในอินเตอร์เน็ตเพื่อหาวิธีการล้างผักที่ถูกต้อง แล้วก็ค้นพบว่าวิธีการล้างผักด้วยด่างทับทิมนั้น
จะช่วยลดประมาณของสารพิษตกค้างได้ประมาณ 35-43% เท่านั้น แล้วโทษของด่างทับทิมนั้นมีอยู่มาก
ถ้าหากใช้ในบริมาณที่มากเกินไป หรือถ้าละอองกระเด็นเข้าตา ก็อาจจะทำให้ตาบอดได้ !!!


รูปด่างทับทิม

เท่านั้นแหละครับจึงทำให้ผมรู้สึกว่า ความเชื่อที่ว่าการล้างผักด้วยด่างทับทิมที่เรามีติดตู้ยาที่บ้านนั้น ไม่ค่อยจะโอเคสักเท่าไหร่
คิดเล่นๆ ว่า สมมติว่าเราล้างผักด้วยด่างทับทิมไม่สะอาดพอ แบบว่ามีด่างทับทิมตกค้างอยู่ในผักที่เราล้าง
แทนที่เราจะลดสารตกค้าง กับกลายเป็นการเพิ่มสารตกค้างเข้าไปโดยไม่รู้ตัว (ขนาดเข้าตา ตายังบอดได้ Facepalmร้องไห้)

ผมจึงหาข้อมูลต่อไปว่า วิธีล้างผักผลไม้วิธีไหนที่จะลดสารพิษที่เจือปนให้เหลือน้อยที่สุด ผมได้ทำการสรุปเป็นตารางเพื่อให้เข้าใจง่ายๆ ได้ดังนี้ครับ


(ที่มา : วิธีการล้างผักผลไม้ให้ปลอดภัย/ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล http://goo.gl/BehCdu , เทคนิคล้างผัก-ผลไม้ลดสารพิษ http://goo.gl/frPoEz )

จะเห็นได้ว่า การล้างผักในแต่ละวิธี ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดนั้นไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะด่างทับทิมที่ตอนแรกคิดว่า
วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ให้ค่าความสะอาดเพียง 35-43 เปอร์เซนต์เท่านั้น
วิธีที่น่าจะสะอาดที่สุดนั่นก็คือ ล้างด้วยเบกกิ้งโซดา ซึ่งในตรางจะเห็นว่าสามารถลดปริมาณสารพิษลงได้ถึง 90-95% เลยทีเดียว

ผมจึงลองเสริทเบกกิ้งโซดาว่าสามารถหาซื้อได้ที่ไหนบ้าง แล้วดันไปเสริทเจอกับผงล้างผักชื่อ “Carbon Green”
ซึ่งมีไว้สำหรับเพื่อล้างผักผลไม้โดยเฉพาะ ที่สำคัญเจ้า Carbon Green นั้นผลิตจากโซเดียมไบคาร์บอเนตหรือเบกกิ้งโซดานั่นเอง
แล้วยังมีส่วนผสมของถ่านกัมมันต์ ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยดูดซับกลิ่นดิน กลิ่นคลอลีน สารพิษ และสารอินทรีย์ต่างๆ
ที่ตกค้างอยู่ในผักผลไม้ของเราอีกด้วย ได้ฟังแค่นี้แล้วจึงไม่รอช้า เลยตัดสินใจสั่งมาลองใช้จำนวน 1 ชุด เป็นยังไงลองมาดูกันครับ ^ ^


Carbon Green ราคาชุดละ 125 ข้างในจะบรรจุเป็นซองเล็กๆ จำนวน 20 ซอง


ซองเล็กๆ ที่บรรจุอยู่ในถุงครับ หารดูแล้วราคาเฉลี่ยซองละ 6.25 บาทเท่านั้น

เรามาลองดูวิธีใช้กันครับอมยิ้ม36อมยิ้ม36


วันนี้ผมจะมาล้างผักคะน้า ถั่วฝักยาว ผักชี แล้วก็ฝรั่งกับแอปเปิ้ลครับ


วิธีใช้ก็ให้ฉีกซองแล้วเทใส่น้ำประมาณ 10 ลิตร


จากนั้นคนจนผงคาร์บอนกรีนละลายน้ำจนหมด


สังเกตุว่าจะเหลือแต่ถ่านสีดำๆ อยู่ในน้ำแทน ตัวถ่านกัมมันนี้จะไม่ละลายน้ำนะครับ


จากนั้นก็ให้นำผักผลไม้มาแช่


ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีสำหรับผักที่มีสารพิษน้อย
และ 30 นาทีสำหรับผักที่มีสารพิษเยอะ เช่น คะน้า ถั่วฝักยาว กวางตุ้ง เป็นต้น


เมื่อครบกำหนดเวลา ให้นำผักผลไม้ขึ้นจากน้ำ


ส่วนน้ำที่ใช้ล้าง ในคู่มือบอกไว้ว่า ให้เทน้ำทิ้งลงท่อระบายน้ำได้เลยครับ เพราะผงถ่านที่เหลือจากการล้างผัก
มันยังจะช่วยดูดซับกลิ่นจากท่อระบายน้ำของเรา และสามารถย่อยสลายเองได้อีกด้วย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


จากนั้นให้ล้างผักผลไม้ของเราด้วยน้ำสะอาดอีก 2-3 รอบให้เม็ดถ่านกัมมันต์ออกจนหมด ก็เป็นอันเสร็จครับผม

*********************************************************************************

ข้อสังเกตุ
- ผักผลไม้ที่ล้างด้วย Carbon Green จะดูสะอาด ไม่มีกลิ่นแปลกปลอมอื่นๆ ติดมาเลย
- ผักผลไม้ดูสดขึ้นมาก ดูน่ารับประทาน
- สะดวก ง่าย ไม่ยุ่งยาก

หวังว่าเพื่อนๆ จะลองนำเอาไปใช้กันนะครับและหวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย
ขอบคุณสำหรับทุกๆ คนที่เข้ามาอ่านครับ ขอบคุณครับเยี่ยม
ชื่อสินค้า:   คาร์บอนกรีน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่