-----------------------------------------------------------
บทที่ 3: ข้อตกลง
“ทางนี้” ทันทีที่ลิฟถ์เปิดออกมาที่ชั้น 25 นายเจ้าของห้อง หรืออิตาโรคจิตก็บอกให้ฉันเดินตามเค้าไปโดยที่เค้าลากกระเป๋าของฉันนำอยู่ไม่ไกลนัก ซึ่งฉันก็ทำอะไรไม่ได้มากยังไงก็ต้องพึ่งพาอิตานี่สินะ มาถึงขั้นนี้แล้วก็ได้แต่เดินคอตกกอดเป้ตัวเองเดินตามเค้าไปอย่างว่าง่าย
“ถึงแล้ว นี่ล่ะห้องผม”
“ขอบคุณย่ะ” ฉันก้มเดินสอดตัวเข้าไปทางช่องประตูที่อิตาเจ้าของห้องเอาแขนยันไว้ ภายในห้องเป็นคอนโดที่ตกแต่งอย่างเรียบหรูออกโทนสีขาว เทา ดำ ผู้ชายจริงๆ ในห้องตรงส่วนที่รับแขก นอกจากชุดโซฟารับแขก พร้อมทีวี และโฮมเทียเตอร์แล้วนั้น ยังมีเครื่องออกกำลังกายอีกมากมาย อย่างน้อยก็รู้อย่างนึงอ่ะนะว่านายนี่ท่าทางจะคลั่งการออกกำลังกายอยู่มากพอสมควร
“ผมเตรียมสัญญา ไว้แล้วคุณไปนั่งรอตรงโซฟานั่นก่อนแล้วกัน ทำเหมือนเป็นห้องตัวเองเลยนะยังไงคุณก็มาเป็นรูมเมทอยู่แล้ว แล้วก็ไม่ต้องกลัวผมไม่ได้โรคจิตอย่างที่คุณว่าหรอก อีกอย่างตัวผมชื่อว่าพีทนะครับ”
“เอ่อ ค่ะ”
“ไม่คิดจะแนะนำตัวหน่อยเหรอ”
“เกี๊ยวค่ะ!” ฉันเผลอตะโกนออกไปด้วยความตื่นเต้นไปหน่อย โอ๊ย! ทำไมมีแต่เรื่องให้อับอายอย่างนี้นะ อิตานั่นไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ขำน้อยๆ และปรายตามองฉัน นั่นมันยิ่งทำให้ฉันมองหน้าอิตานี่ไม่ติดเข้าไปใหญ่
“นี่คือสัญญาที่ผมเขียนขึ้น มันดูไม่เป็นทางการเท่าไหร่ แต่ก็ครอบคลุมสิ่งที่ผมต้องการ และให้อิสระกับคุณที่จะมาแบ่งเช่าห้องของผม ลองอ่านดูนะคุณเกี๊ยว” นายนั่นยักคิ้วแล้วทำหน้ายียวนใส่ฉัน ฉันรับกระดาษสัญญามา มันไม่เป็นทางการจริงๆ แหละมีกฎแค่ 11 ข้อ คร่าวๆ คือข้อความยินยอมการจ่ายเงินค่าเช่า แล้วก็ช่องเซ็นต์ลายเซ็นต์เท่านั้น
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อตกลงการอยู่ร่วมกันที่คอนโด Luxury Life ห้อง 2524
1. จ่ายค่าเช่าไม่เกินวันที่ 5 ของทุกๆ เดือนในราคา 2,500 บาท วันที่อาจเกินกว่านี้ได้หากมีปัญหา แต่ต้องเข้ามาคุยกับเจ้าของห้องเพื่อเลื่อนกำหนดจ่ายเงิน
2. ห้ามทำของใช้ภายในห้องพักเสียหาย หากเกิดมีความเสียหายกับของใช้ภายในห้องอันเกิดจากรูมเมทผู้อาศัยร่วม จะต้องมีการชดใช้ค่าเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นด้วยจำนวนเงิน หรือการทำงานบ้านชดใช้
3. เจ้าของห้องจะไม่มีการยุ่งเกี่ยวกับผู้ที่เป็นรูมเมทในเรื่องของเพศสัมพันธ์ หรือการล่วงเกินผู้ที่เป็นรูมเมทโดยเด็ดขาด
4. เจ้าของห้องจะไม่เข้ายุ่งเกี่ยวกับของใช้ส่วนตัวของผู้ที่เป็นรูมเมท ยกเว้นเมื่อได้รับอนุญาติจากผู้ที่เป็นรูมเมทแล้ว
5. จากข้อที่ 3 และ 4 ในทางกลับกันผู้ที่เป็นรูมเมทก็จะต้องปฏิบัติตามกฎข้อที่กล่าวในทิศทางเช่นเดียวกับเจ้าของห้อง เช่นเดียวกัน
6. การทำงานความสะอาดห้องในส่วนของห้องที่ใช้ส่วนกลางจะมีการสลับการทำความสะอาดเป็นรายสัปดาห์ และในห้องนอนจะแยกกันทำความสะอาดโดยผู้ที่เป็นเจ้าของห้องนอนนั่นเอง
7. เนื่องจากเจ้าของห้องมีเพื่อนมาเยี่ยมเยือนบ่อยครั้ง ผู้ที่เป็นรูมเมทต้องรับให้ได้กับการเยี่ยมเยือนของเพื่อนของเจ้าของห้อง โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น
8. สำหรับการมาเยี่ยมเยือนของเพื่อนของฝ่ายผู้ที่เป็นรูมเมทสามารถมาได้ตามดุลยพินิจของผู้เป็นเจ้าของห้อง
9. ค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆ อาทิเช่น ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าอินเทอร์เน็ต ฯลฯ จะมีการจัดเก็บแบบหาร 2 ทั้งสิ้น
10. เนื่องจากกฎทั้ง 9 ข้อที่ได้กล่าวข้างต้นเกิดจากดุลยพินิจของเจ้าของห้องแต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นเจ้าของห้องจึงมีแนวคิดให้ผู้ที่จะเข้ามาเป็นรูมเมทนั้น สามารถเขียนกฎเพื่อความเสมอภาค ได้ที่ข้อที่ 11 แล้วสามารถเพิ่มเติมได้ในช่วงที่กำลังทำสัญญาเท่านั้น
11. กฎที่ทางรูมเมทผู้เข้าพักตั้งขึ้น:...........................................................................................
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“จากที่ฉันอ่านก็โอเคนะ ฉันก็ไม่ได้เรื่องมากอะไร ขอเพิ่มกฎแค่อีกข้อเดียวเท่านั้นแหละ” ในหัวฉันตอนนี้นอกจากกฎข้อ 3 แล้วฉันก็คิดได้อยู่เรื่องเดียวเท่านั้น เพราะคงจะหาหอพักที่เพียบพร้อมขนาดนี้ไม่ได้ที่ไหนแล้ว และคงเลือกไว้ใจใครไม่ได้แล้วนอกจากนายพีทเจ้าของห้องคนนี้
“ว่ามาได้ ฉันยอมรับได้ทุกอย่างเหมือนกัน” พีทได้พูดตอบออกมาทันที
“ฉันจะให้พ่อแม่ของฉันรับรู้เรื่องการมาอยู่แล้วมีรูมเมทเป็นผู้ชายไม่ได้ เรื่องนี้ต้องห้ามไม่ให้พ่อแม่ฉันรู้ และถ้าเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง นายต้องช่วยฉันทำทุกทางเพื่อให้พ่อ กับแม่ของฉันไม่สงสัยในการมาอยู่ร่วมกับนาย”
“ตกลง เรื่องแค่นี้ง่ายมาก แล้วบ้านเธอก็อยู่ไกลซะขนาดนั้นพ่อแม่เธอคงไม่ได้มากันง่ายๆ หรอก”
สิ้นเสียงการตกลงของนายนั่นฉันแค่หยักไหล่เป็นสัญลักษณ์ยอมรับข้อตกลงทุกอย่างกับนายนี่ แล้วจึงได้ทำการเซ็นต์ชื่อลงในกระดาษสัญญาแผ่นนั้น เราทั้ง 2 จับมือกันเป็นอันเสร็จสิ้นการเซ็นต์สัญญา “ห้องเธออยู่ทางนี้” นายพีทลากกระเป๋าของฉันไปที่ห้องที่อยู่ฝั่งซ้ายมือ ฉันเดินผ่านส่วนที่เป็นหน้าต่างยาวเห็นถึงวิวในกรุงเทพฯ ในตอนฝนตกนี่ก็สวยไปอีกแบบนะ
“อ๊ะ!”
“อีกแล้วนะเธอ ยัยเซ่อเอ้ย”
ด้วยความที่ฉันมองวิวที่หน้าต่างเพลินไปหน่อยทำให้เดินตามแต่ไม่ได้ทันมองว่าอิตาพีทนั่นหยุดเดินเมื่อไหร่ ทำให้ฉันชนเค้ากับแผงอกเค้าเต็มๆ อีกครั้งเฮ้อ..สงสัยต้องไปทำบุญบ้างล่ะ ต่อไปจะได้ไม่ต้องมาซุ่มซ่ามใส่อิตานี่อีก
“ขอโทษ”
“พอ วันนี้เธอพูดขอโทษฉันมากี่รอบแล้วเนี้ย อ่ะเก็บของซะ ถ้ามีอะไรสงสัยล่ะก็ ฉันอยู่ตรงครัวล่ะกัน”
“อืม” ฉันไม่ได้พูดอะไรต่อได้แต่ตั้งใจเก็บของของตัวเอง ห้องฉันก็โอเคนะ ดูเรียบๆ ดูดีกว่าหอที่ฉันดูในอินเทอร์เน็ตหลายๆ ที่เลยตอนนี้ปัญหาเดียวของฉันก็คงจะเป็นความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ กับเจ้าของห้องที่แสนจะโรคจิตล่ะมั้งล่ะมั้งเนี้ย
ของที่ฉันติดมาด้วยก็ไม่ได้มีอะไรมากมายทำให้เก็บของเสร็จไปได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อไม่มีอะไรให้ทำในห้องนอนแล้ว เอาล่ะฉันตัดสินใจจะออกไปเจออิตาพีทที่ครัวยังไงเราก็ต้องอยู่ด้วยกันอีกนานอ่ะนะ รู้จักกันไว้ก็คงไม่เสียหายแล้วอีกอย่างฉันก็อยากจะแก้ไขความสัมพันธ์แย่ๆ กับรูมเมทของฉันด้วย
ขณะที่ฉันเดินออกมานั้น ฉันก็สังเกตได้ว่านอกจากวิวสวยที่มองได้ผ่านหน้าต่างกระจกหน้าบานใหญ่ตรงทางเดิน และห้องรับแขกที่มีการจัดตกแต่งสวยงานตามท้องเรื่องแล้ว สิ่งที่ขัดแย้งในห้องนี้ที่ฉันค้นพบอยู่ในส่วนของห้องครัวที่แม้จะมีของใช้ครบครันดูโมเดิร์ททันสมัย แต่มันติดอยู่ที่ว่า..
“อ่ะเธอมาก็ดีแล้ว ฉันอุ่นอาหารเผื่อเธอ ไม่ต้องห่วงนะฉันไม่คิดเงินเพิ่มหรอก” นายพีทพูดพลางดันกล่องอาหารแช่แข็งที่อุ่นแล้วส่งมาให้ทางฉัน
“นี่นายไม่คิดที่จะทำความสะอาดจานกองนั้นหน่อยเหรอ” ตรงหน้าของฉันตอนนี้นอกจากผู้ชายหน้าหล่อเจ้าของห้องนี้แล้ว ยังมีกองจานชามที่ไม่ได้ล้างวางกองอยู่ในส่วนของอ่างล้างจาน แค่เห็นคราบ และสัมผัสกลิ่นแล้ว ฉันก็เริ่มเวียนหัวแล้วละอย่าว่าแต่อาหารแช่แข็งที่นายนั่นพยายามยัดเยียดให้ฉันกินเลย แค่มองกองจานพวกนั้นฉันก็ทำใจอยู่ห้องนี้ต่อไม่ได้อีกแล้ว
“อ่า อีกเรื่องที่ฉันไม่ได้บอกเธอ สัปดาห์นี้เธอเริ่มทำความสะอาดนะ ยังไงกินเสร็จก็ทำความสะอาดด้วยล่ะ หึๆ แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว เดี๋ยวฉันจะทำผิดกฎข้อ 3 ซะตั้งแต่วันแรก”
นายนั่นไม่ยอมให้ฉันได้ต่อปากต่อคำคืน ก็รีบชิ่งออกไปจากครัวโดยทันทีที่พูดจบ ปั๊ดโถ่เอ้ย!
หลังจากที่นายนั่นปล่อยให้ฉันยืนอึ้งอยู่ในครัว และฉันต้องทำการดึงสติกลับมาเพื่อทลายกองจานที่อยู่ให้ครัวจนหมดสิ้นแล้ว ทีนี้ก็จะเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดนั่นคือ ฉันต้องเดินออกจากห้องครัวนี้เพื่อไปอาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้าเนี้ยสิ!
ฉันได้ย่องกลับไปที่ห้องเพื่อหยิบเสื้อผ้าใหม่ และผ้าเช็ดตัวที่ห้องตัวเองก่อนที่จะเดินไปหานายเจ้าของห้องที่นอนอย่างสบายอยู่ที่โซฟากลางห้องนั้น
“นายๆ”
“พีท”
“โอเค นายพีทททททห้องน้ำนี่อยู่ทางไหนเหรอ”
“เปลี่ยนตรงนี้ก็ได้”
“จะบ้าเหรอไง”
“ไม่บ้า ฮ่าๆ ไปทางนู่นๆ ใกล้ๆ ห้องนอนฉัน เธอเห็นประตูไหม แต่อย่าเผลอเข้าไปในห้องฉันล่ะ”
“โอเคขอบใจย่ะ!” หลังจากฉันขอบใจนายนั่นเรียบร้อย ฉันก็รีบเดินเพื่อที่จะไปให้ถึงห้องน้ำให้เร็วที่สุด ฉันจะได้ทำการอาบน้ำชำระร่างกาย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวๆ กล้าๆ เพราะมีผู้ชายแปลกหน้าอยู่นอกห้องน้ำเนี้ยแหละนะ
“ยัยเกี๊ยว” นายนั่นตะโกนขึ้นมา เสียงเหมือนจะอยู่หน้าห้องน้ำนี่เลยล่ะ ทำไงดีฉันถอดเสื้อผ้ากำลังอาบน้ำอยู่ด้วยสิ
“อะ..อะไร!”
“ฉันอาบด้วยสิ”
“อีตาบ้า จะบ้ารึไงไหนเขียนกฎดีมาบ้าบออะไรอีกเนี้ย @$#%^$@##$$#^%^%”
“พอๆ ยัยนี่ฉันอุตส่ารีบกลับมาจากบ้านสาวเพื่อเปิดห้องให้เธอ จะไปทำงานสายแล้วรีบๆ อาบเลยแล้วกัน”
“แล้วใครให้นายมานั่งทำตัวลามกอยู่หน้าห้องน้ำล่ะย่ะ”
“ก๊อกๆ ก๊อกๆๆๆๆๆ”
“จะเสร็จแล้วๆ หยุดกวนสักที” นายนั่นทำการกวนฉันด้วยการทำเสียงก๊อกแก๊กอยู่ที่หน้าประตู โอ๊ย! ฉันกำลังแต่งตัวแล้วรอหน่อยไม่ได้เลย ฉันต้องรีบแต่งตัว เมื่อเสร็จแล้วจึงเปิดประตูออกไปเผชิญหน้ากับนายนั่น
“เสร็จแล้ว! พอใจรึยัง”
“ว้า! ผู้หญิงอะไรอาบน้ำเร็วจัง อดอาบด้วยกันเลย” นายนั่นบ่นอุบแล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป โดยที่นายนั่นนุ่งผ้าขนหนูแค่ผืนเดียวปิดช่วงล่างไว้ เอ๊ะเดี๋ยวนะ! นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว! ทำไมฉันต้องเจออะไรอย่างนี้ด้วยเนี้ย นี่เพิ่งวันแรก แล้วต่อไปฉันจะทำยังไงทำไมตั้งแต่มาที่นี้ไม่มีอะไรถูกใจฉันเลยเนี้ย พระเจ้า!
“เธอแอบดูฉันอยู่หน้าห้องน้ำเหรอ”
“ไอ้บ้าใครเค้าจะไปดูนายย่ะ” สิ้นสุดคำพูดฉันรีบวิ่งกลับห้องทันที ใครจะไปรู้ล่ะเดี๋ยวนายนั่นออกมาจากห้องน้ำแบบไม่ใส่อะไรเลยทีนี้ล่ะก็คงไม่ต้องพูดกันอีกเลยตลอดการอยู่ที่นี่ ขอร้องล่ะอยู่กันดีดีบ้างไม่ได้เลยเหรอมายรูมเมท
นิยายออนไลน์ รูมเมทร้ายกับยัยน่ารัก บทที่ 3
บทที่ 1 http://ppantip.com/topic/34309672
บทที่ 2 http://ppantip.com/topic/34312776
บทที่ 3: ข้อตกลง
“ทางนี้” ทันทีที่ลิฟถ์เปิดออกมาที่ชั้น 25 นายเจ้าของห้อง หรืออิตาโรคจิตก็บอกให้ฉันเดินตามเค้าไปโดยที่เค้าลากกระเป๋าของฉันนำอยู่ไม่ไกลนัก ซึ่งฉันก็ทำอะไรไม่ได้มากยังไงก็ต้องพึ่งพาอิตานี่สินะ มาถึงขั้นนี้แล้วก็ได้แต่เดินคอตกกอดเป้ตัวเองเดินตามเค้าไปอย่างว่าง่าย
“ถึงแล้ว นี่ล่ะห้องผม”
“ขอบคุณย่ะ” ฉันก้มเดินสอดตัวเข้าไปทางช่องประตูที่อิตาเจ้าของห้องเอาแขนยันไว้ ภายในห้องเป็นคอนโดที่ตกแต่งอย่างเรียบหรูออกโทนสีขาว เทา ดำ ผู้ชายจริงๆ ในห้องตรงส่วนที่รับแขก นอกจากชุดโซฟารับแขก พร้อมทีวี และโฮมเทียเตอร์แล้วนั้น ยังมีเครื่องออกกำลังกายอีกมากมาย อย่างน้อยก็รู้อย่างนึงอ่ะนะว่านายนี่ท่าทางจะคลั่งการออกกำลังกายอยู่มากพอสมควร
“ผมเตรียมสัญญา ไว้แล้วคุณไปนั่งรอตรงโซฟานั่นก่อนแล้วกัน ทำเหมือนเป็นห้องตัวเองเลยนะยังไงคุณก็มาเป็นรูมเมทอยู่แล้ว แล้วก็ไม่ต้องกลัวผมไม่ได้โรคจิตอย่างที่คุณว่าหรอก อีกอย่างตัวผมชื่อว่าพีทนะครับ”
“เอ่อ ค่ะ”
“ไม่คิดจะแนะนำตัวหน่อยเหรอ”
“เกี๊ยวค่ะ!” ฉันเผลอตะโกนออกไปด้วยความตื่นเต้นไปหน่อย โอ๊ย! ทำไมมีแต่เรื่องให้อับอายอย่างนี้นะ อิตานั่นไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ขำน้อยๆ และปรายตามองฉัน นั่นมันยิ่งทำให้ฉันมองหน้าอิตานี่ไม่ติดเข้าไปใหญ่
“นี่คือสัญญาที่ผมเขียนขึ้น มันดูไม่เป็นทางการเท่าไหร่ แต่ก็ครอบคลุมสิ่งที่ผมต้องการ และให้อิสระกับคุณที่จะมาแบ่งเช่าห้องของผม ลองอ่านดูนะคุณเกี๊ยว” นายนั่นยักคิ้วแล้วทำหน้ายียวนใส่ฉัน ฉันรับกระดาษสัญญามา มันไม่เป็นทางการจริงๆ แหละมีกฎแค่ 11 ข้อ คร่าวๆ คือข้อความยินยอมการจ่ายเงินค่าเช่า แล้วก็ช่องเซ็นต์ลายเซ็นต์เท่านั้น
ข้อตกลงการอยู่ร่วมกันที่คอนโด Luxury Life ห้อง 2524
1. จ่ายค่าเช่าไม่เกินวันที่ 5 ของทุกๆ เดือนในราคา 2,500 บาท วันที่อาจเกินกว่านี้ได้หากมีปัญหา แต่ต้องเข้ามาคุยกับเจ้าของห้องเพื่อเลื่อนกำหนดจ่ายเงิน
2. ห้ามทำของใช้ภายในห้องพักเสียหาย หากเกิดมีความเสียหายกับของใช้ภายในห้องอันเกิดจากรูมเมทผู้อาศัยร่วม จะต้องมีการชดใช้ค่าเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นด้วยจำนวนเงิน หรือการทำงานบ้านชดใช้
3. เจ้าของห้องจะไม่มีการยุ่งเกี่ยวกับผู้ที่เป็นรูมเมทในเรื่องของเพศสัมพันธ์ หรือการล่วงเกินผู้ที่เป็นรูมเมทโดยเด็ดขาด
4. เจ้าของห้องจะไม่เข้ายุ่งเกี่ยวกับของใช้ส่วนตัวของผู้ที่เป็นรูมเมท ยกเว้นเมื่อได้รับอนุญาติจากผู้ที่เป็นรูมเมทแล้ว
5. จากข้อที่ 3 และ 4 ในทางกลับกันผู้ที่เป็นรูมเมทก็จะต้องปฏิบัติตามกฎข้อที่กล่าวในทิศทางเช่นเดียวกับเจ้าของห้อง เช่นเดียวกัน
6. การทำงานความสะอาดห้องในส่วนของห้องที่ใช้ส่วนกลางจะมีการสลับการทำความสะอาดเป็นรายสัปดาห์ และในห้องนอนจะแยกกันทำความสะอาดโดยผู้ที่เป็นเจ้าของห้องนอนนั่นเอง
7. เนื่องจากเจ้าของห้องมีเพื่อนมาเยี่ยมเยือนบ่อยครั้ง ผู้ที่เป็นรูมเมทต้องรับให้ได้กับการเยี่ยมเยือนของเพื่อนของเจ้าของห้อง โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น
8. สำหรับการมาเยี่ยมเยือนของเพื่อนของฝ่ายผู้ที่เป็นรูมเมทสามารถมาได้ตามดุลยพินิจของผู้เป็นเจ้าของห้อง
9. ค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆ อาทิเช่น ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าอินเทอร์เน็ต ฯลฯ จะมีการจัดเก็บแบบหาร 2 ทั้งสิ้น
10. เนื่องจากกฎทั้ง 9 ข้อที่ได้กล่าวข้างต้นเกิดจากดุลยพินิจของเจ้าของห้องแต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นเจ้าของห้องจึงมีแนวคิดให้ผู้ที่จะเข้ามาเป็นรูมเมทนั้น สามารถเขียนกฎเพื่อความเสมอภาค ได้ที่ข้อที่ 11 แล้วสามารถเพิ่มเติมได้ในช่วงที่กำลังทำสัญญาเท่านั้น
11. กฎที่ทางรูมเมทผู้เข้าพักตั้งขึ้น:...........................................................................................
“จากที่ฉันอ่านก็โอเคนะ ฉันก็ไม่ได้เรื่องมากอะไร ขอเพิ่มกฎแค่อีกข้อเดียวเท่านั้นแหละ” ในหัวฉันตอนนี้นอกจากกฎข้อ 3 แล้วฉันก็คิดได้อยู่เรื่องเดียวเท่านั้น เพราะคงจะหาหอพักที่เพียบพร้อมขนาดนี้ไม่ได้ที่ไหนแล้ว และคงเลือกไว้ใจใครไม่ได้แล้วนอกจากนายพีทเจ้าของห้องคนนี้
“ว่ามาได้ ฉันยอมรับได้ทุกอย่างเหมือนกัน” พีทได้พูดตอบออกมาทันที
“ฉันจะให้พ่อแม่ของฉันรับรู้เรื่องการมาอยู่แล้วมีรูมเมทเป็นผู้ชายไม่ได้ เรื่องนี้ต้องห้ามไม่ให้พ่อแม่ฉันรู้ และถ้าเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง นายต้องช่วยฉันทำทุกทางเพื่อให้พ่อ กับแม่ของฉันไม่สงสัยในการมาอยู่ร่วมกับนาย”
“ตกลง เรื่องแค่นี้ง่ายมาก แล้วบ้านเธอก็อยู่ไกลซะขนาดนั้นพ่อแม่เธอคงไม่ได้มากันง่ายๆ หรอก”
สิ้นเสียงการตกลงของนายนั่นฉันแค่หยักไหล่เป็นสัญลักษณ์ยอมรับข้อตกลงทุกอย่างกับนายนี่ แล้วจึงได้ทำการเซ็นต์ชื่อลงในกระดาษสัญญาแผ่นนั้น เราทั้ง 2 จับมือกันเป็นอันเสร็จสิ้นการเซ็นต์สัญญา “ห้องเธออยู่ทางนี้” นายพีทลากกระเป๋าของฉันไปที่ห้องที่อยู่ฝั่งซ้ายมือ ฉันเดินผ่านส่วนที่เป็นหน้าต่างยาวเห็นถึงวิวในกรุงเทพฯ ในตอนฝนตกนี่ก็สวยไปอีกแบบนะ
“อ๊ะ!”
“อีกแล้วนะเธอ ยัยเซ่อเอ้ย”
ด้วยความที่ฉันมองวิวที่หน้าต่างเพลินไปหน่อยทำให้เดินตามแต่ไม่ได้ทันมองว่าอิตาพีทนั่นหยุดเดินเมื่อไหร่ ทำให้ฉันชนเค้ากับแผงอกเค้าเต็มๆ อีกครั้งเฮ้อ..สงสัยต้องไปทำบุญบ้างล่ะ ต่อไปจะได้ไม่ต้องมาซุ่มซ่ามใส่อิตานี่อีก
“ขอโทษ”
“พอ วันนี้เธอพูดขอโทษฉันมากี่รอบแล้วเนี้ย อ่ะเก็บของซะ ถ้ามีอะไรสงสัยล่ะก็ ฉันอยู่ตรงครัวล่ะกัน”
“อืม” ฉันไม่ได้พูดอะไรต่อได้แต่ตั้งใจเก็บของของตัวเอง ห้องฉันก็โอเคนะ ดูเรียบๆ ดูดีกว่าหอที่ฉันดูในอินเทอร์เน็ตหลายๆ ที่เลยตอนนี้ปัญหาเดียวของฉันก็คงจะเป็นความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ กับเจ้าของห้องที่แสนจะโรคจิตล่ะมั้งล่ะมั้งเนี้ย
ของที่ฉันติดมาด้วยก็ไม่ได้มีอะไรมากมายทำให้เก็บของเสร็จไปได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อไม่มีอะไรให้ทำในห้องนอนแล้ว เอาล่ะฉันตัดสินใจจะออกไปเจออิตาพีทที่ครัวยังไงเราก็ต้องอยู่ด้วยกันอีกนานอ่ะนะ รู้จักกันไว้ก็คงไม่เสียหายแล้วอีกอย่างฉันก็อยากจะแก้ไขความสัมพันธ์แย่ๆ กับรูมเมทของฉันด้วย
ขณะที่ฉันเดินออกมานั้น ฉันก็สังเกตได้ว่านอกจากวิวสวยที่มองได้ผ่านหน้าต่างกระจกหน้าบานใหญ่ตรงทางเดิน และห้องรับแขกที่มีการจัดตกแต่งสวยงานตามท้องเรื่องแล้ว สิ่งที่ขัดแย้งในห้องนี้ที่ฉันค้นพบอยู่ในส่วนของห้องครัวที่แม้จะมีของใช้ครบครันดูโมเดิร์ททันสมัย แต่มันติดอยู่ที่ว่า..
“อ่ะเธอมาก็ดีแล้ว ฉันอุ่นอาหารเผื่อเธอ ไม่ต้องห่วงนะฉันไม่คิดเงินเพิ่มหรอก” นายพีทพูดพลางดันกล่องอาหารแช่แข็งที่อุ่นแล้วส่งมาให้ทางฉัน
“นี่นายไม่คิดที่จะทำความสะอาดจานกองนั้นหน่อยเหรอ” ตรงหน้าของฉันตอนนี้นอกจากผู้ชายหน้าหล่อเจ้าของห้องนี้แล้ว ยังมีกองจานชามที่ไม่ได้ล้างวางกองอยู่ในส่วนของอ่างล้างจาน แค่เห็นคราบ และสัมผัสกลิ่นแล้ว ฉันก็เริ่มเวียนหัวแล้วละอย่าว่าแต่อาหารแช่แข็งที่นายนั่นพยายามยัดเยียดให้ฉันกินเลย แค่มองกองจานพวกนั้นฉันก็ทำใจอยู่ห้องนี้ต่อไม่ได้อีกแล้ว
“อ่า อีกเรื่องที่ฉันไม่ได้บอกเธอ สัปดาห์นี้เธอเริ่มทำความสะอาดนะ ยังไงกินเสร็จก็ทำความสะอาดด้วยล่ะ หึๆ แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว เดี๋ยวฉันจะทำผิดกฎข้อ 3 ซะตั้งแต่วันแรก”
นายนั่นไม่ยอมให้ฉันได้ต่อปากต่อคำคืน ก็รีบชิ่งออกไปจากครัวโดยทันทีที่พูดจบ ปั๊ดโถ่เอ้ย!
หลังจากที่นายนั่นปล่อยให้ฉันยืนอึ้งอยู่ในครัว และฉันต้องทำการดึงสติกลับมาเพื่อทลายกองจานที่อยู่ให้ครัวจนหมดสิ้นแล้ว ทีนี้ก็จะเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดนั่นคือ ฉันต้องเดินออกจากห้องครัวนี้เพื่อไปอาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้าเนี้ยสิ!
ฉันได้ย่องกลับไปที่ห้องเพื่อหยิบเสื้อผ้าใหม่ และผ้าเช็ดตัวที่ห้องตัวเองก่อนที่จะเดินไปหานายเจ้าของห้องที่นอนอย่างสบายอยู่ที่โซฟากลางห้องนั้น
“นายๆ”
“พีท”
“โอเค นายพีทททททห้องน้ำนี่อยู่ทางไหนเหรอ”
“เปลี่ยนตรงนี้ก็ได้”
“จะบ้าเหรอไง”
“ไม่บ้า ฮ่าๆ ไปทางนู่นๆ ใกล้ๆ ห้องนอนฉัน เธอเห็นประตูไหม แต่อย่าเผลอเข้าไปในห้องฉันล่ะ”
“โอเคขอบใจย่ะ!” หลังจากฉันขอบใจนายนั่นเรียบร้อย ฉันก็รีบเดินเพื่อที่จะไปให้ถึงห้องน้ำให้เร็วที่สุด ฉันจะได้ทำการอาบน้ำชำระร่างกาย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวๆ กล้าๆ เพราะมีผู้ชายแปลกหน้าอยู่นอกห้องน้ำเนี้ยแหละนะ
“ยัยเกี๊ยว” นายนั่นตะโกนขึ้นมา เสียงเหมือนจะอยู่หน้าห้องน้ำนี่เลยล่ะ ทำไงดีฉันถอดเสื้อผ้ากำลังอาบน้ำอยู่ด้วยสิ
“อะ..อะไร!”
“ฉันอาบด้วยสิ”
“อีตาบ้า จะบ้ารึไงไหนเขียนกฎดีมาบ้าบออะไรอีกเนี้ย @$#%^$@##$$#^%^%”
“พอๆ ยัยนี่ฉันอุตส่ารีบกลับมาจากบ้านสาวเพื่อเปิดห้องให้เธอ จะไปทำงานสายแล้วรีบๆ อาบเลยแล้วกัน”
“แล้วใครให้นายมานั่งทำตัวลามกอยู่หน้าห้องน้ำล่ะย่ะ”
“ก๊อกๆ ก๊อกๆๆๆๆๆ”
“จะเสร็จแล้วๆ หยุดกวนสักที” นายนั่นทำการกวนฉันด้วยการทำเสียงก๊อกแก๊กอยู่ที่หน้าประตู โอ๊ย! ฉันกำลังแต่งตัวแล้วรอหน่อยไม่ได้เลย ฉันต้องรีบแต่งตัว เมื่อเสร็จแล้วจึงเปิดประตูออกไปเผชิญหน้ากับนายนั่น
“เสร็จแล้ว! พอใจรึยัง”
“ว้า! ผู้หญิงอะไรอาบน้ำเร็วจัง อดอาบด้วยกันเลย” นายนั่นบ่นอุบแล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป โดยที่นายนั่นนุ่งผ้าขนหนูแค่ผืนเดียวปิดช่วงล่างไว้ เอ๊ะเดี๋ยวนะ! นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว! ทำไมฉันต้องเจออะไรอย่างนี้ด้วยเนี้ย นี่เพิ่งวันแรก แล้วต่อไปฉันจะทำยังไงทำไมตั้งแต่มาที่นี้ไม่มีอะไรถูกใจฉันเลยเนี้ย พระเจ้า!
“เธอแอบดูฉันอยู่หน้าห้องน้ำเหรอ”
“ไอ้บ้าใครเค้าจะไปดูนายย่ะ” สิ้นสุดคำพูดฉันรีบวิ่งกลับห้องทันที ใครจะไปรู้ล่ะเดี๋ยวนายนั่นออกมาจากห้องน้ำแบบไม่ใส่อะไรเลยทีนี้ล่ะก็คงไม่ต้องพูดกันอีกเลยตลอดการอยู่ที่นี่ ขอร้องล่ะอยู่กันดีดีบ้างไม่ได้เลยเหรอมายรูมเมท