นิยายออนไลน์ รูมเมทร้ายกับยัยน่ารัก บทที่ 5

บทที่ 5 แล้วฝากด้วยนะคะ ติดตามอ่านย้อนหลังตามลิ้งค์ข้างล่างค่า
บทที่ 1 http://ppantip.com/topic/34309672
บทที่ 2 http://ppantip.com/topic/34312776
บทที่ 3 http://ppantip.com/topic/34318241
บทที่ 4 http://ppantip.com/topic/34324517
-----------------------------------------------------------

บทที่ 5: วิถีเพลย์บอย

    “เกี๊ยว”

    “อืมมมมม~”

    “เกี๊ยว”

    “หืมมม”

    “ตื่นได้แล้ว” ฉันสะดุ้งสุดตัว ก่อนที่หัวของฉันจะชนเข้ากับหัวของกรเข้าอย่างจัง

    “โอ๊ยกร ฉันขอโทษที แล้วฉันมาอยู่ในท่านี้ได้ยังไงเนี้ย” เอิ่ม...คือฉันอยู่ในท่าที่ซบไหล่ของกร อยู่ทำให้เมื่อฉันสะดุ้งจึงชนเข้ากับหัวของเค้า และฉันว่าเค้าจะต้องเมื่อยมากแน่ๆ เลยเพราะมันไม่ใช่ท่าที่สบายเลยสักนิด

    “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันคุยเล่นอยู่กับเธอดีๆ เธอก็เงียบไปเฉยเลย สุดท้ายก็ต้องปล่อยให้เธอยืมไหล่ฉันหลับไป เลยตามเลยอ่ะนะ ฮ่าๆ”

    “ตายแล้วนี่มันกี่โมงแล้วเนี้ย นายต้องเมื่อยมากแน่ๆ”

    “ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้ก็จะเที่ยงคืนล่ะ งั้นกลับกันเถอะเดี๋ยวฉันไปส่งเอง”

    “แล้วงานล่ะฉันหลับไป ฉันค้าง 2 งานสุดท้ายไว้”

    “ไม่ต้องแล้วฉันจัดการให้หมดแล้วล่ะ จริงๆ มันไม่น่ารับน้องใหม่ด้วยงานเยอะขนาดนี้อยู่แล้ว กลับกันเถอะ”

    “อืม” ฉันได้แต่เดินตามกรออกไปที่รถของเค้า ส่วนรถของนากรนั้นเป็นบิ๊กไบค์พอกรขึ้นคร่อมรถตัวเองเท่านั้นแหละราศรีดีกรีความเป็นประเอกเรื่องผู้หญิงข้าใครอย่าแตะลอยมาแตะหน้ากรทันที จริงๆนายนี่ก็ดูตัวใหญ่เหมือนกันนะ ตอนที่นั่งทำงานกันฉันไม่ได้สังเกตเลย

    “ขึ้นมาสิ”

    “อื้ม” ฉันปีนขึ้นไปซ้อนท้ายรถของกร และด้วยความที่เบาะบิ๊กไบค์ของกรเทไปข้างหน้ามาก ทำให้ฉันต้องไปกองรวมอยู่กับกร เค้าขำเล็กๆ ก่อนที่จะใส่หมวกกันน็อค

    “คราวหน้าสงสัยต้องเอามาเผื่อด้วย” ฉันได้ยินเสียงงึมงำจับใจความไม่ได้มาจากกร

    “นายว่าอะไรนะกร”

    “ไม่มีอะไรๆ” เมื่อสิ้นเสียง นายกรก็ออกรถไป ดีจังจะเกี๊ยวไม่ต้องเสียเงินค่ารถด้วย

    ไม่นานนักกรก็ขี่รถเลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าคอนโด โดยประจวบเหมาะกับที่รถสปอร์ตคันนึงที่กำลังตามหลังมาด้วยความเร็วที่มากพอสมควร ทำให้กรเสียหลักเล็กน้อยแต่ก็ประครองรถเอาไว้ได้ แต่เรื่องไม่จบแค่นั้นน่ะสิอยู่ๆ ประตูรถสปอร์ตคันนั้นก็เปิดออกมา หืมมมม~ นายพีท อะไรจะเหมาะเจาะขนาดนั้น ท่าทางเอาเรื่องแล้วก็เมามากด้วยสิ ยังไม่ทันขาดคำฉันกับกรลงมาจากรถไม่เท่าไหร่นายนั่นก็พูดขึ้น

    “นี่นายขี่รถเป็นรึเปล่าวะ ยิ้ม!” นายพีทหาเรื่องทันที

    “คุณเมามากแล้วรีบไปซะเถอะ คุณสิเป็นคนผิดผมขี่เลี้ยวของผมมาดีๆ” กรตอบกลับแบบคุณชาย

    “ไอ้นี่นิ มันน่าโดนนัก” นายพีทไม่พูดเปล่าปล่อยหมัดออกมาด้วย ฉันจะทำไงดีๆๆ ขว้างไว้ก่อนแล้วกัน

    ‘อึก’ ไม่ต้องเดากันเลย ดีนะนายเจ้าของห้องเมา ไม่งั้นหมัดคงรุนแรงกว่านี้แต่ก็ทำเอาแขนฉันเคล็ดเหมือนกัน แล้วก็เหมือนนายพีทจะได้สติ

    “เธออ…. ยัยเกี๊ยวเน่านิ” หึ้ย! ไอ้ผู้ชายปากมาก และก่อนที่นายนั่นจะพูดอะไรต่อ แล้วก็ก่อนที่กร ซึ่งขณะนี้มองหน้านายพีทอย่างหาเรื่อง ดูๆ แล้วพร้อมที่จะเข้าชาร์จนายพีทกลับในทันทีที่พีททำร้ายฉัน ก็มีผู้หญิงสาวสวยแต่งตัวหวาบหวิวคนนึงลงมาจากรถสปอร์ตฝั่งคนขับ

    “อุ้ย! พี่พีทเป็นอะไรรึเปล่าคะ เชอร์รี่ต้องขอโทษพวกคุณด้วยนะคะพอดีพี่พีทเมามากไปหน่อย”

    “เอ่อ.. ไม่เป็นไรค่ะ คุณมาดูคนของคุณเถอะคะ พวกเราไม่เป็นไร” ฉันรีบตัดบท กรมองทางฉันด้วยความสงสัย แต่ยังไงตอนนี้ฉันยังไม่อยากให้ใครรู้ว่าฉันมีรูมเมทเป็นผู้ชาย ยัยเชอร์รี่อะไรนั่นก็รีบจัดการลากอีตาพีทขึ้นรถไปเหมือนเดิมแล้วก็ออกรถไป แต่กรก็ยังคงมองฉันด้วยแววตาสงสัย

    “เธอเป็นอะไรรึเปล่า แล้วนี่เค้ารู้จักเธอได้ยังไง เธอเพิ่งเข้ากรุงเทพไม่ใช่เหรอ” เอาแล้ว

    “อ่อ วันที่ฉันย้ายเข้าน่ะ ฉันเจอกับเค้าพอดี อีตานี่ฉันไม่ได้รู้จักอะไรมากหรอก”

    “ดีแล้ว ฉันว่านายนั่นไม่ค่อยน่าไว้ใจ” ฮือๆ ขอโทษนะกรผู้แสนดี

    “ดึกแล้วนายกลับเถอะ ขอบใจมากนะ” ฉันยิ้มหวานให้เค้าแทนคำขอบคุณอีกครั้ง กรหยุดนิ่งมองฉันไปแป๊บนึงก่อนที่จะยื่นมือมายีที่หัวของฉัน แล้วจึงออกรถไป เฮ้อออ อย่างน้อยเค้าก็ไม่สงสัยอะไร เอาล่ะต้องขึ้นไปจัดการนายพีทซะหน่อยแล้ว เอ่อ..ว่าแต่เพื่อนสาวนายพีทนี่คืนนี้จะค้างที่นี่มั้ยนะ

    เป็นไปอย่างที่คาดไว้ ฉันแอบย่องเปิดประตูเข้ามาในห้อง แล้วก็พยายามทำเสียงให้เงียบที่สุด และเดินไปที่ห้องของตัวเอง แอบได้ยินเสียงแปลกๆ มาจากทางห้องอีตานั่นเหมือนกันนะ แต่ฉันไม่อยากจะจินตนาการเท่าไหร่ นี่คงเป็นเพื่อนที่นายนั่นหมายถึง และพามาบ่อยๆ สินะ แล้วที่ว่ามีหลายคน นั่นหมายความว่าฉันต้องทนรู้เรื่องแบบนี้ของนายไปอีกนานแสนนานเลยเหรอเนี้ย

    เช้าวันต่อมา...

    โอ๊ยตาย ตื่นสายจนได้! ในที่สุดก็เช้า นี่ฉันต้องไปทำงานอีกแล้วเหรอเนี้ย ยังดีนะที่วันนี้วันศุกร์พอดี (วันที่ 1 วันเริ่มงานเป็นวันพฤหัส) ฉันรีบไปอาบน้ำดีกว่าเดี๋ยวจะไปทำงานสายซะได้ หวังว่าผู้หญิงคนนั่นคงไปแล้วนะ ฉันจะได้ไม่ต้องคิดมาก ว่าแล้วเริ่มอาบน้ำเลยดีกว่า

    “เชอร์รี่จ๋า พี่อาบน้ำด้วยสิครับ”

    หึ้ย! ไอ้ตาพีท ไอ้อันธพาล แล้วยังบ้ากามอีก! จะตอบอะไรมันดีเนี้ย

    “เชอร์รี่ เงียบทำไมเมื่อคืนเราไม่เงียบขนาดนี้นะ”

    จะเสร็จแล้วๆ อย่าพังประตูเข้ามานะตาพีทททท ฉันรีบอาบน้ำปานจรวดเหมือนคราวแรกที่เราเจอกันก่อนที่จะ…. อ้าวเห้ย! ฉันลืมเอาผ้าขนหนูเข้ามาในห้องน้ำด้วย ซวยแล้วเรา

    “พีท”

    “ว่าไงคะ เชอร์รี่ จะให้พี่เข้าไปแล้วเหรอ”

    “คือ ฉันเอง เกี๊ยว”

    “ว่าไงนะ แหน่ะพูดอะไรทะลึ่งกับพี่อ่ะเชอร์รี่”

    “ไอ้บ้า เกี๊ยวเองโว้ยยยยยยยยย!” ฉันทนไม่ไหวแล้ว อิโรคจิต ไอ้วิปริต!

    “อ้าวเธอ ยังไม่ไปทำงานอีกเหรอเนี้ย”

    “เออสิ นายมาหื่นอยู่หน้าห้องน้ำอยู่ได้ ฉันจะออกไปได้ยังไง”

    “งั้นก็ออกมาซะสิ เสียอารมณ์หมด”

    “ฉันก็จะออกหรอกแต่ถ้าไม่ติดว่า….”

    “อะไรเล่า!”

    “ลืมผ้าขนหนูโว้ย! เอ่อ...พีท นายหยิบให้หน่อยสิ”

    นายนั่นไม่ได้ตอบฉัน ฉันเลยได้แต่ยืนรอนายพีทอยู่ที่ด้านหลังประตูห้องน้ำในสภาพที่.. เอิ่มช่างเถอะติดเรทพูดมากไม่ดี

    “มาแล้ว ยื่นแขนออกมาสิ” เสียงนายนั่นดังขึ้นหลังจากหายไปสักพัก ฉันจึงยื่นมือออกไป ซึ่งก็ได้รับผ้าขนหนูยอมรับเลยว่าอายมาก ชีวิตนี้ไม่เคยต้องเปลือยแล้วอยู่ใกล้ผู้ชายขนาดนี้มาก่อน แต่เดี๋ยวนะนี่มันไม่ใช่ผ้าขนหนูฉันนิ

    “นี่มันไม่ใช่ของฉันนิ”

    “เออสิ ของฉันเองแหละก็ฉันเข้าไปหาในห้องเธอแล้วไม่เจอนิใช้ๆ ไปเถอะน่าฉันไม่รังเกียดเธอหรอก”

    “แต่ฉันรังเกียดนิ”

    “ยัยเกี๊ยวเน่า จะใช้ไหม ไม่งั้นก็เดินเปลื้อยออกมา ฉันโอเคกับเรื่องนี้นะ”

    “โถ่ เอ้ย! ใช้ก็ได้!” โอ๊ยยย ฉันได้แต่ยอมนายนั่นเพราะไม่มีทางเลือก เมื่อฉันนุ่งผ้าเช็ดตัวแล้วจึงเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ  ซึ่งนายนั่นยังคงอยู่ที่เดิม หึ้ยย~ ฉันต้องอยู่ในสภาพกึ้งเปลือยต่อหน้าอิตานี่เหรอเนี้ย

    “อืม ซ่อนรูปนะ”

    “ตาบ้ามองอะไร หันไป”

    “ค่อยหายสงสัยหน่อย” นายนั่นพูดแปลกๆ แล้วก็เลิกคิ้วเป็นท่าประจำที่ทำกวนประสาทฉันตั้งแต่เจอหน้ากัน

    “สงสัยอะไรย่ะ”

    “ก็สงสัยว่านี่น่ะของเธอจริงหรอ” นายพีทพูดพลางชูชุดชั้นในของฉันแล้วโบกไปมา อ้ายยยย! นายนั่นทำอย่างนี้ได้ไง กวนประสาทฉันอีกแล้ว
“เอาคืนมาเดี๋ยวนี้นะ”

    “ก็เอาผ้าเช็ดตัวฉันมาคืนก่อนสิ”

    “ไอ้บ้า โอ๊ย!” ขณะที่ฉันกำลังแย่งชุดชั้นในของฉันจากนายพีทอยู่นั่น นายพีทเกิดชนเข้ากับแขนที่เมื่อคืนฉันพลาดโดนนายนั่นต่อยซะได้ ซึ่งตอนนี้มันก็เป็นสีม่วงๆ คล้ำๆ แล้วด้วย ฮึก..เจ็บ

    “เธอไปโดนอะไรมาน่ะ”

    “นี่นายจำอะไรไม่ได้เลยเหรอไง” แต่ก่อนที่ฉันจะได้พูดอธิบายต่อถึงความอันธพาลของนายพีท ประตูห้องก็เปิดออกพร้อมน้องเชอร์รี่คนสวยที่ตอนนี้เครื่องสำอางค์เริ่มจางหมดแล้ว จนพูดคำว่าสวยได้ไม่เต็มปาก เอิ่ม...

    “นั่นพี่พีทกำลังทำอะไรคะ แล้วนี่เธอ! คนเมื่อคืนนิ” ยัยนั่นจ้อง และชี้มาที่ฉันอย่างเอาเรื่อง

    “เอ่อ นั่นเชอร์รี่เหรอ” ตาพีทพูดออกมา ทำหน้าตาเหมือนไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองเห็น ฉันแอบฮา

    “ก็ใช่สิคะ พี่อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นมาให้เชอร์รี่ฟังเดี๋ยวนี้!” รี่จ๋ายิ่งเธอใส่อารมณ์ เธอยิ่งดูน่ากลัวนะ

    “เอากุญแจห้องที่แอบหยิบไปคืนฉันมา” พีทพูดด้วยเสียงเรียบๆ ส่วนเชอร์รี่ก็ทำตามอย่างว่าง่าย คงเพราะนายนั่นดูจริงจังล่ะมั้ง

    “ทำไมพี่ทำกับเชอร์รี่อย่างนี้ เมื่อคืนนี้พี่ยังต่อยยัยนั่น แล้วก็อยู่กับเชอร์รี่ทั้งคืนเลยนี่คะ”

    “....” อีตาพีทยืนนิ่งเงียบท่าทางกำลังครุ่นคิด และไม่ได้ตอบอะไรน้องเชอร์รี่สุดสวย

    “ต่อไปนี้เชอร์รี่จะไม่เชื่อใจผู้ชายหล่อๆ แบบนี้อีกแล้ว กี่คนก็เป็นอย่างนี้ ส่วนเมียพี่มันก็โรคจิตทั้งๆ ที่รู้ว่าเมื่อคืนเชอร์รี่อยู่นี่ก็ยังทนได้ บ้า บ้าที่สุด!” แล้วเชอร์รี่ก็ทำตัวดราม่าขั้นสุดก่อนเก็บของออกไป เอ่อ… ฉันงงใครเมียใครย่ะ!

    “นายไม่ไปตามเธอเหรอ” ฉันถามหลังจากเชอร์รี่หนีออกไปสักพัก

    “ไม่ล่ะ คืนเดียวก็พอแล้ว” นายนั่นพูดพลางส่งชุดชั้นในคืนฉัน ก่อนที่จะจับแขนฉันมาดูที่รอยช้ำอีกครั้ง

    “เมื่อคืนนี้ฉันชกเธอเหรอ” นายนั่นพูดพลางมองที่แขนฉัน

    “ก็ใช่น่ะสิ แต่ช่างมันเถอะ”

    "ช่างมันได้ยังไง ไหนฉันดูหน่อยซิ" พีทพูดพลางลูบรอยช้ำที่แขนฉัน เค้าดูกังวลและคิดมากกับรอยนั้นจริงๆ

    "เอ่อ นายปล่อยฉันสักทีสิ" ฉันพูดพลางดึงแขนตัวเองออกจากมือของนายพีท ก่อนที่จะรีบเดินเข้าห้องนอนของฉันไป ฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไงกับเหตุการณ์นี้ ทำไมน่ะเหรอ ก็นอกจากที่ฉันจะกึ่งเปลือยอยู่ขณะนั้น แต่สิ่งที่ทำให้ฉันกังวลกลับเป็นสายตาของนายนั่นที่มองฉัน และท่าทางที่ดูเหมือนห่วงใยนั่นล่ะที่ทำให้หัวใจของฉันกลับเต้นแปลกๆ ไปด้วยน่ะสิ นี่ฉันเป็นอะไรไปนะ

    “นี่เธอเป็นอะไรรึเปล่า” โอ้ยนายนั่นยังมาตะโกนอยู่หน้าประตูฉัน ใจนี่ก็เต้นเบาๆ หน่อยสิ

    “ไม่มีอะไร ออกไปจากหน้าห้องฉันซะ”

    “ไม่ได้ห่วงอะไรหรอก แต่แค่จะมาถามว่าทำชุดชั้นในที่ตกตรงนี้น่ะไม่เก็บเหรอ”

    ฉันรีบเปิดประตูไปทันที นายนั่นกำลังยืนชูชุดชั้นในด้วยท่าทางกวนๆ เหมือนเดิม จ้าหล่อจ้า

    “เอามานี่” ฉันวิ่งเข้าไปดึงชุดชั้นในคืนในทันที นายนั่นยิ้มออกมาก่อนที่จะพูด

    “รีบๆ แต่งตัวซะเดี๋ยวฉันจะทนไม่ไหวเอาได้”

    “ไอ้บ้าโรคจิตได้ทุกที่ทุกเวลาสินะ!” ฉันด่าอิตาพีทก่อนที่จะรีบเข้าห้องนอน และปิดประตูห้องทันที

    “ใครบอกฉันโรคจิต นี่เค้าเรียกว่าวิถีเพลย์บอยตั้งหาก” นายนั่นตะโกนผ่านประตูห้องที่ปิดสนิทของฉัน ก่อนที่จะหัวเราะเสียงดัง และเดินห่างออกจากประตูไป

    ปั๊ดโถ่เอ้ยเช้านี้ประสาทเสียจริงๆ แล้วเอ๊ะ! จะไปทำงานทันมั้ยล่ะเนี้ย ลืมไปเลย

    ‘ติ๊ดๆๆๆ’ เสียงโทรศัพท์ฉันดังขึ้น

    “ฮัลโหล ใครคะ”

    “กรเองนะ เห็นว่ายังไม่ลงมาสักที เลยโทรมาตามป่วยรึเปล่า” เอ๊ะ กรเหรอ

    “อ้าวนี่นายอยู่ข้างล่างนี่เหรอ ฉันตื่นสายน่ะวันนี้”

    “งั้นรีบลงมานะ ฉันมารอรับเธอพอดีเป็นทางผ่านฉันน่ะ”

    “อื้ม ขอบใจนะ” อ้ายยย ยังมีกรผู้น่ารักเพื่อนร่วมงานฉันอยู่ แต่ทำไมนะ! ทำไมถึงได้น่ารักกับฉันจัง ช่างเถอะไม่คิดและก็ทางผ่านเค้านิ รีบแต่งตัวและไปทำงานดีกว่าเดี๋ยววันนี้จะสายไปมากกว่านี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่