นิยายออนไลน์ รูมเมทร้ายกับยัยน่ารัก บทที่ 4

บทที่ 4 แล้วฝากด้วยนะคะ ติดตามอ่านย้อนหลังตามลิ้งค์ข้างล่างค่า
บทที่ 1 http://ppantip.com/topic/34309672
บทที่ 2 http://ppantip.com/topic/34312776
บทที่ 3 http://ppantip.com/topic/34318241


-----------------------------------------------------------


บทที่ 4: Start!

    ฉันผ่านช่วงเวลา 2 คืนก่อนถึงวันเริ่มงานไปได้ด้วยดี การอยู่กับนายพีทช่วงวันธรรมดาในห้องคอนโดนี้ก็ไม่ได้ยากเย็นเท่าไหร่ เพราะนายนั่นก็ทำงานไม่ได้พูดคุยกันอยู่แล้วในช่วงเช้า แล้วกว่าที่นายนั่นจะกลับก็ดึกดื่นมากแล้ว ดังนั้นฉันก็สลบหลับไปก่อนทุกครั้ง ทำให้การมีรูมเมทก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่ฉันจะเริ่มงานแล้วด้วยเอาล่ะสู้ตายไปเลยยัยเกี๊ยว!

    “ขอโทษนะครับมาติดต่ออะไรรึเปล่าครับ”

    “อ่อ พอดีหนูเป็นพนักงานใหม่ที่นี่ค่ะไม่ทราบว่าต้องไปติดต่อทางไหนก่อนเหรอคะ พอดีวันนี้มาที่นี่เป็นวันแรก”

    “อ่อ งั้นตามพี่มาเลยนะ เราทำงานทีมเดียวกันแหละทางหัวหน้าได้บอกฝากเราไว้กับพี่แล้ว”

    “อ่อ ค่ะ” ฉันเดินตามพี่ผู้ชายหน้าตาน่ารักใจดีไปเรื่อยๆ ตั้งแต่เข้าเมืองมาก็มีพี่คนนี้ล่ะน๊าที่ดูเข้าท่าน่ารักกับฉัน และเป็นสุภาพบุรุษ งั้นขอให้ทั้งบริษัทมีแต่พี่น่ารักแบบนี้ด้วยเถอะ
    
    ฉันได้มารู้ที่หลังว่าพี่ชายน่ารักคนนั้นชื่อว่า ‘พี่ตง’ ซึ่งสาวๆ ก็คงต้องอกหักกันเป็นแถวเพราะพี่เค้าแต่งงานแล้ว พี่ตงเป็นหัวหน้าแผนกดีไซน์ที่ฉันจะเข้าไปทำงานวันนี้ โดยในทีมดีไซน์จากที่ฉันได้ยินที่พี่ๆ ภายในบริษัทเล่าให้ฟังคร่าวๆ นั่นจะมีสมาชิกทั้งหมด 3 คน หึหึ! ได้ยินไม่ผิดค่า ทีมนี้ก็จะมีหัวหน้าก็คือพี่ตง ตัวฉันที่เพิ่งเข้ามาใหม่ แล้วก็หนุ่มปริศนาอีกคนที่ตั้งแต่ฉันเข้ามาฉันก็ยังไม่ได้เจอกับเพื่อนร่วมงานของฉันคนนี้เลยขอให้เราเข้ากันได้ดีด้วยเถอะ

    “เราเลือกที่นั่งได้เลยนะเกี๊ยว นี่ก็โน๊ตบุคส่วนตัวที่พี่เตรียมไว้ให้ บรรยากาศในการทำงานเราก็อยู่กันสบายๆ อย่างงี้แหละนะไม่ต้องเกร็งมาก วันแรกก็นั่งเล่นดูอย่างอื่นไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปคุยกับคุณนิค แล้วจะกลับมาคุยกับเราอีกที”

    “ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” ฉันยิ้มตอบพี่ตง ก่อนที่พี่ตงจะเดินออกจากห้องทำงานของฝ่ายดีไซน์ไปที่ห้องของเจ้าของบริษัท ส่วนห้องทำงานที่นี่ดูอบอุ่นน่ารักมาก เราทั้ง 3 คนในทีมจะนั่งร่วมกันทำงานบนโต๊ะกลม โดยห้องจะเป็นห้องกระจกมองทะลุเห็นภายนอกที่เป็นสวนต้นไม้ตัดแต่ง และน้ำตกขนาดเล็กที่รายล้อมที่ทำงาน ทำให้บรรยากาศเหมือนกับอยู่ที่ร้านกาแฟเล็กๆ ในป่าที่อุดมสมบูรณ์

    ฉันเริ่มกิจกรรมขณะที่นั่งคนเดียวด้วยการเปิดเว็บไซต์ฟังเพลง ดูเอ็มวี ไปเรื่อยๆ ก็นะคงต้องรอว่าทางพี่ตงที่ได้ไปคุยกับเจ้าของบริษัทแล้วฉันจะได้รับงานอะไรบ้าง ว่าแล้วก็ฟังเพลงให้ผ่อนคลายก่อนดีกว่า

    “เธอ”

    “...เบอร์โทรอื่นจะได้ยินเสียงรอสาย แบบ แบบ แบบ ว่าให้รอ~~”

    “เธอ”

    “ แต่เบอร์นี้จะได้ยินเสียงใจบอกว่าาาาาา~~~~”

    “นี่ เธอ!”

    ‘โครมมมมมมมมม’ เสียงเก้าอี้ที่ฉันนั่งอยู่หงายหลังล้มลงไป ก็ด้วยความตกใจที่มีคนเรียกเสียงดังอ่ะนะ แต่ตัวฉันไม่ยักกะเจ็บตัวแต่กลับไปอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มนิรนาม นายหน้าตี๋ ผิวออกสีน้ำผึ้ง หน้าตาเกลี้ยงเกลา ฉันนิ่งอยู่นานในท่านั้นเราจ้องมองกันอยู่นาน ก่อนที่เค้าจะคลี่ยิ้มหวานเบาๆ โอ๊ย! เค้ายิ้มแล้วน่ารักจริงๆ เลย

    “ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”

    “มะ ไม่เป็นอะไร”

    “เธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เธอคงเป็นเพื่อนร่วมงานใหม่ฉันสินะ ฉันชื่อกรนะ ยินดีที่ได้รู้จัก”

    “อื้ม” ยินดีจ้ะ ยินดี แต่เปลี่ยนท่าทางการรู้จักกันหน่อยได้มั้ย เขิลไปหมดแล้ว ซึ่งเหมือนกับกรจะรู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่เค้าจึงคลายอ้อมกอด แล้วช่วยฉันจัดที่ จัดทางให้เรียบร้อย ก่อนที่พี่ตงจะรีบวิ่งมาดูสถานการณ์ เพื่อดูความเรียบร้อยซะอีก แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรนะ ฉันมีลางสังหรณ์ว่าชีวิฉันคงจะยุ่งเหยิงแน่ๆ หลังจากนี้…

    “งานทั้งหมดที่ต้องทำ และกำหนดการพี่ก็ได้เขียนใส่เข้าในปฏิทินออนไลน์ให้แล้ว ขอโทษทีนะเกี๊ยว มาวันแรกงานก็งานเข้าเลย ยังไงมีอะไรโทรหาพี่ได้ ไม่ก็ปรึกษาไอ้กร พี่ไปพบลูกค้าก่อนนะ”

    พี่ตงอธิบายงานแล้วก็รีบออกไปหาลูกค้าที่นัดไว้ทันที ปล่อยฉันทิ้งไว้กับนายกรสองต่อสอง เอออ ฉันเพิ่งจะมารู้ทีหลังว่ากร และฉันอายุเท่ากันก็คงไม่ต้องเกร็งกันมากเน๊อะ (ถ้าไม่นับเรื่องกอด) ณ ที่ทำงานก็จะมีคนอยู่อีกแค่ไม่กี่คนเพราะเป็นบริษัทเล็กๆ ส่วนที่เหลือก็จะเป็นฝ่ายติดต่อประสานงานลูกค้า ทำให้ต้องออกไปด้านนอกกันบ่อย ดังนั้นตอนนี้ก็เหมือนกับการต้องอยู่กับเพื่อนใหม่ที่กอดกันเมื่อกี้ตามลำพังล่ะนะ แล้วมาวันแรกงานก็กองท่วมหัวเลย ซึ่งหลายตัวที่ต้องทำให้เสร็จภายในวันนี้ด้วย เพราะต้องส่งต่อให้ลูกค้าดูก่อนที่ลูกค้าจะเดินทางไปต่างประเทศ โอ้วพระเจ้า!

    “เธอไม่เป็นอะไรนะ”

    “อืม ไม่เป็นไรหรอก เราว่างมานานแล้วตั้งแต่เรียนจบยุ่งบ้างก็ดีเหมือนกัน”

    “ฮ่าๆ แล้วเธอจะไม่มีเวลาให้ว่างอีกเลย”

    กร พูดพลางมองหน้าฉัน ฉันรู้สึกได้ถึงแววตาเอ็นดูแปลกๆ ที่ถูกส่งมาจากนายกรหน้าตี๋ เรานั่งทำงานกันต่อเงียบๆ นาฬิกาหมุนจากนาทีเป็นชั่วโมง จากชั่วโมงแรก เป็นหลายชั่วโมง งานค่อยๆ ทยอยเสร็จ แต่ก็ยังเหลือมากมายอยู่ดี

    “เกี๊ยว”

    “หืม”

    “เธอเอาข้าวมากินรึเปล่า”

    “เปล่าอ่ะ ทำไมเหรอ”

    “นี่ๆ” กรเอาปากกาเคาะที่หัวฉัน ฉันจึงเงยหน้าขึ้นไป สายตาของเราปะทะกันอีกครั้ง รอบนี้ฉันก้มหน้าหนีสายตาที่มีความหมายแปลกๆ ของกรก่อน แล้วจึงตอบคำถามเพื่อนร่วมงานคนนี้ของฉันไป

    “ทำไม”

    “ก็มันเที่ยงแล้ว เธอจะไม่กินอะไรเลยรึไง”

    “อ้าวเหรอ” ฉันรีบมองนาฬิกาที่ข้อมือตัวเอง เที่ยงแล้วจริงๆ ด้วย

    “งั้นไป ฉันพาเธอไปหาอะไรแถวนี้กินเอง”

    สิ้นเสียงพูดกรก็คว้าข้อมือฉันแล้วเดินดุ่มๆ ออกไปจากที่ทำงาน เราเดินออกห่างจากที่ทำงานได้สักพัก ก็ได้เจอกับร้านอาหารตามสั่ง กรเข้าไปทักเจ้าของร้านอย่างสนิทสนม ฉันจึงเดินมาหาที่นั่งภายในร้าน

    หลังจากสั่งอาหารเรียบร้อย กรก็จัดแจงเสิร์ฟน้ำ แล้วยังจะช่วยเสิร์ฟอาหารให้กับโต๊ะอื่นด้วย เค้าช่วยเก็บโต๊ะ และงานต่างๆ ในร้านอย่างแข็งขัน

    “น่ารักเน๊อะ พ่อหนุ่มคนนี้” ป้าเจ้าของร้านพูดขณะที่มาเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะฉัน โดยที่กรยังคงช่วยเก็บโต๊ะด้านหน้าร้านอยู่

    “ค่ะ เค้าทำประจำเลยเหรอคะ”

    “ใช่จ้ะ เห็นอยู่คนเดียวมาตลอด มีแฟนสักทีป้าก็ดีใจ”
    “เอ่อ หนูไม่..”

    “แฟนผมน่ารักใช่มั้ยครับ” กรมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ปากน่าตบมากมาถึงก็ทำให้คนอื่นเค้าเข้าใจผิดก่อนเลยนะย่ะ

    “ไม่ใช่ นะคะ หนูเป็นพนักงานใหม่ที่ทำงานบริษัทเดียวกับกรค่ะ” ฉันรีบแก้ตัว

    “ฮ่าๆ เดี๋ยวอีกหน่อยก็เป็นนะป้ารอก่อน”

    ป้ายิ้มขำกับนายนั่น แล้วก็หันมาขอโทษฉันที่เข้าใจผิด ก่อนที่จะเดินออกไป ได้การแล้วฉันจึงตีแขนนายนั่นก่อนที่จะบ่นเรื่องที่กรพูดเล่นให้คนอื่นเข้าใจผิด ก็ฉันเสียหายนิน่า

    “นายนี่ทำคนอื่นเค้าเข้าใจผิดหมด”

    “เอาน่า กินเถอะ ทำคิ้วขมวดแบบนี้เดี๋ยวแก่เร็วนะ”

    “ชิ!” ฉันส่งเสียงด้วยความหมั่นไส้ก่อนที่จะจัดการอาหารที่อยู่ตรงหน้าอย่างรวดเร็ว เดี๋ยวต้องไปลุยต่อนี่นะ ส่วนกรก็จัดการอาหารตัวเองเช่นกัน เราไม่ได้มีคำพูดพูดกันมากนักบนโต๊ะอาหาร อาจเป็นเพราะเรายังไม่สนิทกัน หรือคงเป็นเพราะเรายังคงเขิลกับคำแซวของป้าเจ้าของร้านขายข้าวกันอยู่
งาน งาน งาน สุดท้ายฉัน และกรก็กลับมาจมอยู่กับงานจริงๆ นี่ก็เลยเวลาเลิกงานแล้วนะ แต่ด้วยความที่เรามีเวลาจำกัดในการส่งงานทำให้ต้องนั่งทำงานจนเลยเวลาแบบนี้ และไม่ได้มีวี่แววว่าจะหมดเลยด้วยซ้ำ

    “นี่อ่ะ” กรที่เดินออกหายไปที่ห้องครัวไม่กี่นาที เค้ากลับมาพร้อมกับโอวัลตินร้อนๆ ในมือ 2 แก้ว แล้วเค้าก็วางให้ฉันแก้วนึงก่อนที่จะกลับไปนั่งทำงานต่อที่ฝั่งตรงข้ามฉัน

    “เกี๊ยว” เค้าเรียกฉันอีกครั้ง

    “ว่าไง”

    “ฉันไปนั่งข้างๆ เธอได้มั้ย”

    “อืม มาสิ” ก็ไม่เป็นอะไรนะไหนๆ ที่นี่ก็เหลือกันแค่ 2 คน ฉันก็เริ่มกลัวความมืดเพราะแปลกที่แปลกทางแล้วจึงได้ตอบรับกรไป โดยไม่ได้คิดอะไร ซึ่งกรก็ย้ายข้าวย้ายของมานั่งข้างฉันโดยทันทีที่ฉันอนุญาติ ฉันยังคงทำงานต่อไป แต่ก็นั่งสังเกตเพื่อนใหม่ของฉันไปด้วย ท่าทางกรเป็นคนทำงานเก่งมาก เค้าใช้โปรแกรมได้คล่องแคล้วการลากเส้นตัดต่อดูชำนาญ คงเพราะว่าทำงานมานานล่ะมั้ง ฉันดูหง่อยไปเลยทีเดียว

    “เกี๊ยว เดี๋ยวตรงนี้ทำอย่างนี้นะ” กรพูดขึ้นตอนที่ฉันกำลังงงกับการใช้โปรแกรมอยู่ แล้วกรก็เข้ามาจับเม้าท์ที่ฉันจับอยู่ กลายเป็นว่ามือของเราโดนกันเล็กน้อย ก่อนที่ฉันจะปล่อยให้เค้าครองเม้าท์ของฉันอย่างอิสระ ซึ่งไม่รู้ว่าฉันมองอะไรผิดไปรึเปล่า แต่ฉันรู้สึกได้ว่าหน้าของกรแดงขึ้นเล็กน้อย

    “แบบนี้ เสร็จแล้ว”กรจัดแจงทำงานให้ฉันจนเสร็จ

    “ขอบใจนะ” ฉันหันไปยิ้ม และขอบคุณเค้าอีกครั้ง

    “อืม” นายนั่นไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่อมยิ้มเบาๆ แล้วรีบก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป ซึ่งพวกเราก็ทำงานกันต่อไปอีกหลายชั่วโมง มีหันกลับมาคุยพูดเล่นกันบ้าง ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเวลามันผ่านไปแล้วเท่าไหร่รู้แต่ว่ามันเป็นงานที่ฉันรัก เพื่อนร่วมงานก็ดี ฉันสนุกกับมัน แล้วก็….. zzzzzZZZZZ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่