อีกหนึ่งตัวอย่างมนุษย์แม่ที่เลี้ยงลูกแบบไม่มีจิตสำนึกต่อส่วนรวม

วันนี้พาลูกไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ตอนที่กำลังนั่งรอพบหมออยู่นั้น ก็มีแม่ลูกสองท่านนึง ซึ่งคงจะพาลูกมาหาหมอเช่นกัน โดยคนแม่นั่งคุยโทรศัพท์อยู่ ส่วนลูกทั้งสอง คนเล็กน่าจะประมาณ 6-7 ขวบ คนโตก็คงประมาณ 9-10 ขวบ นี่คือสิ่งที่เด็กทั้งสองทำ ขึ้นไปยืนกระโดดอยู่บนเก้าอี้นวมที่ใช้สำหรับนั่งรอหมอ ขึ้นไปโดยที่ไม่ได้ถอดรองเท้า โดยที่คนเป็นแม่ซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ ไม่ได้ห้ามปราม ตักเตือนลูกตัวเองเลย ตามภาพค่ะ



เด็กสองคนนี้เล่นกระโดดอยู่แบบนี้นานพอสมควร โดนที่มนุษย์แม่ท่านนั้นไม่ได้สนใจที่จะห้ามลูกตัวเองเลย นั่งมองลูกตัวเองเฉยพร้อมคุยโทรศัพท์ไป โดยที่ไม่ได้รู้สึกร้อนรู้สึกหนาวอะไรกับเรื่องนี้ เราเข้าใจเลยว่าทำไมเด็กพวกนี้ โดยเฉพาะคนโตที่น่าจะสิบขวบแล้วถึงได้กล้าทำอะไรแบบนี้ ซึ่งจริงๆเด็กรุ่นนี้น่าจะพอรู้แล้วว่าอะไรควร อะไรไม่ควร ที่เด็กเป็นแบบนี้ นั่นคงเพราะมนุษย์แม่แบบนั้นคงไม่เคยสอนลูกว่าทำตัวให้น่ารักยังไงในที่ส่วนรวม เพราะแม่เองก็ยังไม่รู้จักคำว่าจิตสำนึกส่วนรวมเลย แล้วจะเอาอะไรมาสอนลูก

คือมันไม่ใช่แค่เรื่องของอะไรควรไม่ควรอย่างเดียว แต่มันเป็นเรื่องของความสกปรก เชื้อโรคด้วย ลูกคุณกระโดดเสร็จแล้วจากไป แล้วคุณไม่คิดบ้างเหรอ ลูกคนอื่นไม่รู้มานั่ง มาเล่นต่อจากลูกคุณ แล้วจะเป็นยังไง เด็กตัวเล็กๆ ที่เค้ายังไม่รู้ตรงไหนสะอาด ตรงไหนสกปรกมาเล่นต่อตรงนั้น หัวสมองของมนุษย์แม่แบบนี้คงจะคิดไม่ได้

และนี่คือสภาพหลังจากที่เด็กสองคนนั้นจากไป


ปล. หลังจากมนุษย์แม่ผู้นั้นพาลูกทั้งสองจากไป สักพักมีครอบครัวฝรั่งครอบครัวนึงเข้ามา มีพ่อแม่ ลูกสองคน อายุประมาณ 3 ขวบกับ 5 ขวบ น่าจะได้ เด็กทั้งสองขึ้นไปยืนกระโดดบนเก้าอี้นวมตรงนั้นเหมือนกัน แต่สิ่งที่ต่างกันคือ เด็กทั้งสองถอดรองเท้าออกก่อนที่ขึ้นไปยืนกระโดด โดยที่พ่อกับแม่ไม่ต้องบอก และกระโดดไปได้แค่ 2-3 ที พ่อบอกให้ลงมานั่ง เด็กทั้งสองก็มานั่งเรียบร้อย ไม่ลุกขึ้นไปกระโดดอีก นี่แหละนะความแตกต่างของเด็กที่พ่อแม่สั่งสอน กับเด็กที่พ่อแม่ไม่สั่งสอน มันเป็นแบบนี้นี่เอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่