วันนี้ผมได้มาตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในกรุงเทพ
ซึ่งเป็นวันที่คนไข้เยอะพอสมควร และก็ทราบกันดีว่าที่นั่งสำหรับนั่ง
ในการรอตรวจนั้นก็มีไม่เพียงพอเช่นกัน และผมได้เห็นคนแก่ที่เจ็บป่วย
ยืนรอเพื่อตรวจกันหลายคน ผมก็สาดสายตาไปมองเก้าอี้ที่คนนั่งรอ
ก็พบว่ามีที่นั่งว่าอยู่สองที่ซึ่งอยู่ตรงกลางแถว (แถวนึงนั่งได้4ท่าน)
จึงเดินไปดูที่นั่งตรงนั้น ว่าทำไมคนส่วนใหญ่ไม่ไปนั่ง
ก็พบว่าป้าคนที่นั่งริมได้เอากระติกน้ำมาวางพร้อมกับ
ที่หูกระติกนั้นมัดถุงใส่น้ำแข็งไว้ หยดเต็มเก้าอี้ที่นั่งทั้งสองตัว
คาดว่าแกน่าจะไปนั่งตรงกลางแล้วเอากระติกขึ้นมาวาง
แล้วพอคนริมลุกออกไป แกก็ขยับไปตรงที่นั่งริม
ทำให้เก้าอี้ทั้งสองตัวเปียกน้ำจนนั่งไม่ได้ ผมจึงเดินไปห้องน้ำ
เพื่อไปเอากระดาษชำระมาเช็ดน้ำ
พอมาผมก็ให้ป้าแกเอากระติกออกแล้วเช็ดเก้าอี้เสร็จ
แฟนผมก็ได้ที่นั่งด้านหลังจึงเรียกผมไปนั่งด้านหลังแทน
สองที่ตรงที่ผมพึงเช็ดน้ำไปจึงไม่มีคนนั่ง ผมนั่งไปสักพัก
ก็ไม่มีใครไปนั่งข้างป้าแก ผมมองบรรยากาศรอบๆ
พบว่ามีแต่สายตาที่เอือมระอาป้าแก และมีคนบ่นให้แกได้ยิน
สักพักแกก็หันมองเก้าอี้ที่ผมพึงเช็ดน้ำแล้วแก็หยิบกระติกนั้นขึ้นมา
ไว้บนเก้าอี้แบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร ว่าน้ำมันหยดเลอะเทอะ และคนอื่นๆ
ที่ยืนรอก็ไม่สามารถเข้าไปนั่งได้ ผมเห็นแล้วรู้สึกเห้อ ทำไมป้าแกถึงไม่รู้สึกอะไรเลย
ทั้งที่มีคนหลายคนมองแกและต้องการที่จะนั่งหลายคน
สักพักคนที่นั่งแถวเดียวกับป้าที่นั่งริมตรงข้ามป้าก็ลุกออกไป
และมีป้าอีกคนนึงมานั่งแทนซึ่งป้าคนนี้หอบของกินมาเยอะพอสมควร
แกจึงเอาข้าวของของแกขึ้นมาวางที่นั่งตรงกลางฝังที่แกนั่ง
สรุปที่นั่งตรงกลางสองตัวนี้ก็ไม่สามารถให้คนที่ยืนรอมาใช้ประโยชน์ได้
นอกจากป้าสองคนนี้เอาไว้วางของที่ตัวเองขนมาทำเลอะเทอะ
เท่านี้ยังไม่พอ พอแกลุกไปเข้าห้องน้ำ แกก็จะเอาร่มในกระเป๋าแก
มาวางจองไว้แล้วลุกไปอย่างไม่สนใจสายตาคนอื่นที่ยืนรอ
โดยพฤติกรรมของป้าทั้งสองทำคล้ายๆกันพอลุกไปไหนก็จะมีสิ่งของมาวางจองไว้
ซึ่งเห้ย มันเป็นสมบัติส่วนรวมไม่ใช่หร๋อ ทำไมแกเห็นแก่ตัวกับแบบนี้
พอป้าที่ถือกระติกได้เข้าไปตรวจ แกลุกแบบไม่สนใจเก้าอี้ที่แกทำเลอะไว้
และทิ้งคราบน้ำที่เลอะเทอะไว้บนเก้าอี้ ทำให้คนอื่นๆที่จะมานั่งก็ไม่ได้นั่ง
สุดท้าย ผมขอให้พวกเราทุกๆท่านช่วยกันมีจิตสำนึกต่อสังคมต่อส่วนรวมให้มากกว่านี้
"เราจะต้องคิดก่อนเสมอว่าสิ่งที่เราทำจะไม่ทำให้คนอื่นหรือสังคมเดือดร้อน"
คนไทยเลิกเถอะครับ นิสัยแบบนี้
ซึ่งเป็นวันที่คนไข้เยอะพอสมควร และก็ทราบกันดีว่าที่นั่งสำหรับนั่ง
ในการรอตรวจนั้นก็มีไม่เพียงพอเช่นกัน และผมได้เห็นคนแก่ที่เจ็บป่วย
ยืนรอเพื่อตรวจกันหลายคน ผมก็สาดสายตาไปมองเก้าอี้ที่คนนั่งรอ
ก็พบว่ามีที่นั่งว่าอยู่สองที่ซึ่งอยู่ตรงกลางแถว (แถวนึงนั่งได้4ท่าน)
จึงเดินไปดูที่นั่งตรงนั้น ว่าทำไมคนส่วนใหญ่ไม่ไปนั่ง
ก็พบว่าป้าคนที่นั่งริมได้เอากระติกน้ำมาวางพร้อมกับ
ที่หูกระติกนั้นมัดถุงใส่น้ำแข็งไว้ หยดเต็มเก้าอี้ที่นั่งทั้งสองตัว
คาดว่าแกน่าจะไปนั่งตรงกลางแล้วเอากระติกขึ้นมาวาง
แล้วพอคนริมลุกออกไป แกก็ขยับไปตรงที่นั่งริม
ทำให้เก้าอี้ทั้งสองตัวเปียกน้ำจนนั่งไม่ได้ ผมจึงเดินไปห้องน้ำ
เพื่อไปเอากระดาษชำระมาเช็ดน้ำ
พอมาผมก็ให้ป้าแกเอากระติกออกแล้วเช็ดเก้าอี้เสร็จ
แฟนผมก็ได้ที่นั่งด้านหลังจึงเรียกผมไปนั่งด้านหลังแทน
สองที่ตรงที่ผมพึงเช็ดน้ำไปจึงไม่มีคนนั่ง ผมนั่งไปสักพัก
ก็ไม่มีใครไปนั่งข้างป้าแก ผมมองบรรยากาศรอบๆ
พบว่ามีแต่สายตาที่เอือมระอาป้าแก และมีคนบ่นให้แกได้ยิน
สักพักแกก็หันมองเก้าอี้ที่ผมพึงเช็ดน้ำแล้วแก็หยิบกระติกนั้นขึ้นมา
ไว้บนเก้าอี้แบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร ว่าน้ำมันหยดเลอะเทอะ และคนอื่นๆ
ที่ยืนรอก็ไม่สามารถเข้าไปนั่งได้ ผมเห็นแล้วรู้สึกเห้อ ทำไมป้าแกถึงไม่รู้สึกอะไรเลย
ทั้งที่มีคนหลายคนมองแกและต้องการที่จะนั่งหลายคน
สักพักคนที่นั่งแถวเดียวกับป้าที่นั่งริมตรงข้ามป้าก็ลุกออกไป
และมีป้าอีกคนนึงมานั่งแทนซึ่งป้าคนนี้หอบของกินมาเยอะพอสมควร
แกจึงเอาข้าวของของแกขึ้นมาวางที่นั่งตรงกลางฝังที่แกนั่ง
สรุปที่นั่งตรงกลางสองตัวนี้ก็ไม่สามารถให้คนที่ยืนรอมาใช้ประโยชน์ได้
นอกจากป้าสองคนนี้เอาไว้วางของที่ตัวเองขนมาทำเลอะเทอะ
เท่านี้ยังไม่พอ พอแกลุกไปเข้าห้องน้ำ แกก็จะเอาร่มในกระเป๋าแก
มาวางจองไว้แล้วลุกไปอย่างไม่สนใจสายตาคนอื่นที่ยืนรอ
โดยพฤติกรรมของป้าทั้งสองทำคล้ายๆกันพอลุกไปไหนก็จะมีสิ่งของมาวางจองไว้
ซึ่งเห้ย มันเป็นสมบัติส่วนรวมไม่ใช่หร๋อ ทำไมแกเห็นแก่ตัวกับแบบนี้
พอป้าที่ถือกระติกได้เข้าไปตรวจ แกลุกแบบไม่สนใจเก้าอี้ที่แกทำเลอะไว้
และทิ้งคราบน้ำที่เลอะเทอะไว้บนเก้าอี้ ทำให้คนอื่นๆที่จะมานั่งก็ไม่ได้นั่ง
สุดท้าย ผมขอให้พวกเราทุกๆท่านช่วยกันมีจิตสำนึกต่อสังคมต่อส่วนรวมให้มากกว่านี้
"เราจะต้องคิดก่อนเสมอว่าสิ่งที่เราทำจะไม่ทำให้คนอื่นหรือสังคมเดือดร้อน"