หลังจากอยู่เกาหลีมาได้ครึ่งเดือน ตอนนี้เริ่มคิดถึงอาหารไทยแล้วค่ะ
เมื่อวันก่อนออกไปซื้อผักที่ตลาดมา บวกกับค้นเจอพริกแกงเขียวหวานในตู้เย็นก็เลยคิดจะทำแกงเขียวหวานกิน
แต่พอค้นๆ ตู้เย็นแล้วมีแต่ปลาซาบะกับไส้กรอกแล้วก็สแปม จะเดินไปซื้อหมูหรือไก่ก็ขี้เกียจ ก็เลยมั่นหน้าทำต่อไป
มันคือที่มาของแกงเขียวหวานไส้กรอก เวอร์ชั่นตามมีตามเกิด ค่ะ^^
ส่วนประกอบ
- พริกแกงเขียวหวาน อันนี้ซื้อมาจากไทย เดาสุ่มเอาไม่รู้ว่าอันไหนอร่อย เพิ่งมารู้ตอนทำนี่แหละว่าสุ่มพลาดไปนิดนึง
- ไส้กรอก ไม่แน่ใจว่าเป็นไส้กรอกอะไร แต่ส่วนผสมหลักเป็นหมู แท่งนึงหนักประมาณเกือบขีด ที่จริงมีซุนแดในตู้เย็นด้วย(ไส้กรอกเลือด) แต่ไม่ใส่จะดีกว่า
- มะเขือม่วง ซื้อมาจากตลาดวันก่อน 2 ลูก 780 วอน (22 บาท) ใช้แค่ครึ่งลูกพอ
- ฟักทอง ซื้อมาวันก่อนเหมือนกัน ปกติลูกย่อมๆ ลูกละ 2000 วอน แต่ซื้อแบบที่หั่นแล้วมา ถาดละ 980 วอน เกือบๆ 30 บาท ใช้ 3 ชิ้น
- พริกหวาน อันนี้ลดราคา 3 ลูกพันวอน (ตกลูกละ 10 บาท) มันไม่ค่อยตึงกรอบแล้ว แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เอามาเสี้ยวนึงของลูก
- โหระพา ที่จริงคือปลูกไว้ แต่มันยังไม่โต ขืนเด็ดมาใช้ต้นคงตายแน่ อดใส่เลย
- นมข้นจืด ใช้นมสดก็ได้
- น้ำปลา น้ำตาล น้ำมัน ผงปรุงรส เอาที่สบายใจ
จัดการหั่นเตรียมไว้ให้เรียบร้อย ชอบแบบไหนก็หั่นแบบนั้น จะแกะสลักเป็นพระราชวังเคียงบกก็ได้ ไม่ขัดศรัทธา แต่วันนี้ไม่มีเวลา เอาไปเท่าที่เห็น
ตั้งกระทะเลยค่ะ หยดน้ำมันลงไปนิดหน่อย พอร้อนแล้วก็ใส่พริกแกงลงไป เราใส่ไปประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ เป็นคนกินเผ็ดนิดนึง ผัดไปผัดมาพอให้น้ำมันทำปฏิกริยากันเครื่องเทศ ส่งกลิ่นหอม
ปล.อย่าลืมเปิดเครื่องดูดอากาศ อาเจ้บ้านข้างๆ อาจมาเยี่ยมได้
เริ่มหอมแล้ว น้ำมันก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อนๆ
จากนั้นก็ใส่น้ำลงไปประมาณถ้วยครึ่งค่ะ เราผสมผงปรุงรสลงไปในน้ำแล้ว ซึ่งใครจะใช้น้ำเปล่าก็ได้ ใช้น้ำสต็อกก็ได้ ชิมดูอย่าให้เค็มมาก เราเกือบพลาดละ พริกแกงแอบเค็มนำมาเลย ไหนจะไส้กรอกอีก เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ
ใส่ฟักทองลงไปก่อนเพราะนางสุกยาก ที่จริงเอาไปเวฟให้สุกก่อนแล้วค่อยเอามาใส่ก็คงได้ แต่คิดไม่ถึงไง เลยใส่ลงไปก่อนเพื่อนเลย 5555
จากนั้นก็ตามด้วยไส้กรอก ไม่มีอะไรมากเค้าสุกมาอยู่แล้ว แต่ถ้าคั่วกับกะทะมาก่อนใส่ให้หนังตึงๆ อาจจะอร่อยกว่านี้
เริ่มหน้าตาเข้าเค้าแล้วมั้ยล่า
ใส่มะเขือม่วงลงไปเลยค้าบ
จากนั้นก็เติมนมข้นจืดลงไป แถวบ้านไม่มีกะทิขายค่ะ ต้นมะพร้าวก็ไม่มี แต่มีลูกมะพร้าวขายในซุปเปอร์นะ ครั้นเราจะไปซื้อมาขุดเองครั้นเองก็เกรงใจ เดี๋ยวจะแย่งซีนนางเอกแม่เบี้ย เอาเท่าที่มีละกัน
รอให้เดือดนิดนึง (เดือดในที่นี้หมายถึงแกงในกะทะ ไม่ใช้อารมณ์นะจ๊ะ // ใครๆ เค้าก็รู้มั้ยหร่อน) ปรุงรสด้วยน้ำตาล(ถ้าเป็นน้ำตาลปี๊บจะดีมาก แต่ไม่มีไง) น้ำตาลก็ดันหาน้ำตายทรายธรรมดาไม่เจอ เลยใส่น้ำตาลทรายแดงที่ไว้ทำขนมลงไปแทน หวานแหลมเชียว แต่หอมอร่อยดี
เติมพริกหวานลงไปได้เลยจ้า จากนั้นก็ชิมดู อ่อนเค็มน้ำปลา เอาให้กลมกล่อม แต่เราใส่นมลงไปรสชาติเลยจะนัวๆ มันๆ อยู่แล้ว สุดท้ายผิดไฟได้เลยค่ะ ใครมีโพระพาก็โรงลงไป มีพริกชี้ฟ้าก็ใส่ลงไปได้นะ
เสร็จแล้ว หน้าตาออกมาไม่เลวเลยเห็นมั้ย แต่เหมือนคาเรมากกว่า (เพราะใส่น้ำน้อยเลยข้นๆ)
เดชะบุญ!!! ลืมหุงข้าวค่ะ โอ๊ยยยย อยากจิร้องไห้ จะเดินไปซื้อข้าวแพคที่gs25 ก็ขี้เกียจ สุดท้ายเลยต้มเส้นสปาเก็ตตี้
ออกมาเป็นพาสต้าราดแกงแทน
แต่งด้วยแอพฯ เพื่อความเป็นฮิปสเตอร์(เหรอ??) อัพไอจีอวดแม่ที่บ้าน
รสชาติก็พอไปวัดไปวาได้อยู่ ถึงจะไม่อร่อยมาก แต่ก็แก้เหงาได้ดีทีเดียว
พอตอนเย็น หุงข้าวเรียวร้อยแล้ว แกงที่เหลืออีกครึ่งดูเหมือนจะข้นขึ้นมา(น่าจะเป็นเพราะฟักทอง) เลยตัดสินใจทำออมเล็ตลาวาใส่มอสซาเรลล่าชีสโปะข้าวแล้วราดด้วยแกงค่ะ (ชีสแอบเยิ้มออกมาด้วย)
ผลประกฏว่า มันดีมากกกกกกกกกกก แกงข้นๆ มันๆ แต่รสจัด มีผักหวานๆ และไส้กรอกเค็มๆ กินกับไข่นุ่มๆ รสอ่อนข้างในมีชีสกับข้าวสวยร้อนๆ มันดีงามมากกกก จานนี้เป็นฟิวชั่นในเมนูร้านได้เลยนะ(คิดเองเออเอง) ตอนกินกับพาสต้าก็ถือว่าโอเคแล้ว (อาจจะเป็นที่เส้น ถ้าใช้ลิงกวินี่น่าจะดีกว่าพาสต้า) แต่พอกินกับข้าวกับไข่ มันใช่อ่ะ มันคือคาเรแบบกลิ่นไทยเลย เลิฟฟฟฟ เมนูนี้มีซ้ำแน่ๆ กินกับสลัดผักกาดแก้วมะเขือเทศเปรี้ยวๆ ตัดเลี่ยนนะ จะงดงามมาก ขอแนะนำเลย
ยังไงลองไปทำกินกันดูนะคะ^^
มาทำแกงเขียวหวานไส้กรอก(เวอร์ชั่นตามมีตามเกิด)กันเถอะ
เมื่อวันก่อนออกไปซื้อผักที่ตลาดมา บวกกับค้นเจอพริกแกงเขียวหวานในตู้เย็นก็เลยคิดจะทำแกงเขียวหวานกิน
แต่พอค้นๆ ตู้เย็นแล้วมีแต่ปลาซาบะกับไส้กรอกแล้วก็สแปม จะเดินไปซื้อหมูหรือไก่ก็ขี้เกียจ ก็เลยมั่นหน้าทำต่อไป
มันคือที่มาของแกงเขียวหวานไส้กรอก เวอร์ชั่นตามมีตามเกิด ค่ะ^^
ส่วนประกอบ
- พริกแกงเขียวหวาน อันนี้ซื้อมาจากไทย เดาสุ่มเอาไม่รู้ว่าอันไหนอร่อย เพิ่งมารู้ตอนทำนี่แหละว่าสุ่มพลาดไปนิดนึง
- ไส้กรอก ไม่แน่ใจว่าเป็นไส้กรอกอะไร แต่ส่วนผสมหลักเป็นหมู แท่งนึงหนักประมาณเกือบขีด ที่จริงมีซุนแดในตู้เย็นด้วย(ไส้กรอกเลือด) แต่ไม่ใส่จะดีกว่า
- มะเขือม่วง ซื้อมาจากตลาดวันก่อน 2 ลูก 780 วอน (22 บาท) ใช้แค่ครึ่งลูกพอ
- ฟักทอง ซื้อมาวันก่อนเหมือนกัน ปกติลูกย่อมๆ ลูกละ 2000 วอน แต่ซื้อแบบที่หั่นแล้วมา ถาดละ 980 วอน เกือบๆ 30 บาท ใช้ 3 ชิ้น
- พริกหวาน อันนี้ลดราคา 3 ลูกพันวอน (ตกลูกละ 10 บาท) มันไม่ค่อยตึงกรอบแล้ว แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เอามาเสี้ยวนึงของลูก
- โหระพา ที่จริงคือปลูกไว้ แต่มันยังไม่โต ขืนเด็ดมาใช้ต้นคงตายแน่ อดใส่เลย
- นมข้นจืด ใช้นมสดก็ได้
- น้ำปลา น้ำตาล น้ำมัน ผงปรุงรส เอาที่สบายใจ
จัดการหั่นเตรียมไว้ให้เรียบร้อย ชอบแบบไหนก็หั่นแบบนั้น จะแกะสลักเป็นพระราชวังเคียงบกก็ได้ ไม่ขัดศรัทธา แต่วันนี้ไม่มีเวลา เอาไปเท่าที่เห็น
ตั้งกระทะเลยค่ะ หยดน้ำมันลงไปนิดหน่อย พอร้อนแล้วก็ใส่พริกแกงลงไป เราใส่ไปประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ เป็นคนกินเผ็ดนิดนึง ผัดไปผัดมาพอให้น้ำมันทำปฏิกริยากันเครื่องเทศ ส่งกลิ่นหอม
ปล.อย่าลืมเปิดเครื่องดูดอากาศ อาเจ้บ้านข้างๆ อาจมาเยี่ยมได้
เริ่มหอมแล้ว น้ำมันก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อนๆ
จากนั้นก็ใส่น้ำลงไปประมาณถ้วยครึ่งค่ะ เราผสมผงปรุงรสลงไปในน้ำแล้ว ซึ่งใครจะใช้น้ำเปล่าก็ได้ ใช้น้ำสต็อกก็ได้ ชิมดูอย่าให้เค็มมาก เราเกือบพลาดละ พริกแกงแอบเค็มนำมาเลย ไหนจะไส้กรอกอีก เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ
ใส่ฟักทองลงไปก่อนเพราะนางสุกยาก ที่จริงเอาไปเวฟให้สุกก่อนแล้วค่อยเอามาใส่ก็คงได้ แต่คิดไม่ถึงไง เลยใส่ลงไปก่อนเพื่อนเลย 5555
จากนั้นก็ตามด้วยไส้กรอก ไม่มีอะไรมากเค้าสุกมาอยู่แล้ว แต่ถ้าคั่วกับกะทะมาก่อนใส่ให้หนังตึงๆ อาจจะอร่อยกว่านี้
เริ่มหน้าตาเข้าเค้าแล้วมั้ยล่า
ใส่มะเขือม่วงลงไปเลยค้าบ
จากนั้นก็เติมนมข้นจืดลงไป แถวบ้านไม่มีกะทิขายค่ะ ต้นมะพร้าวก็ไม่มี แต่มีลูกมะพร้าวขายในซุปเปอร์นะ ครั้นเราจะไปซื้อมาขุดเองครั้นเองก็เกรงใจ เดี๋ยวจะแย่งซีนนางเอกแม่เบี้ย เอาเท่าที่มีละกัน
รอให้เดือดนิดนึง (เดือดในที่นี้หมายถึงแกงในกะทะ ไม่ใช้อารมณ์นะจ๊ะ // ใครๆ เค้าก็รู้มั้ยหร่อน) ปรุงรสด้วยน้ำตาล(ถ้าเป็นน้ำตาลปี๊บจะดีมาก แต่ไม่มีไง) น้ำตาลก็ดันหาน้ำตายทรายธรรมดาไม่เจอ เลยใส่น้ำตาลทรายแดงที่ไว้ทำขนมลงไปแทน หวานแหลมเชียว แต่หอมอร่อยดี
เติมพริกหวานลงไปได้เลยจ้า จากนั้นก็ชิมดู อ่อนเค็มน้ำปลา เอาให้กลมกล่อม แต่เราใส่นมลงไปรสชาติเลยจะนัวๆ มันๆ อยู่แล้ว สุดท้ายผิดไฟได้เลยค่ะ ใครมีโพระพาก็โรงลงไป มีพริกชี้ฟ้าก็ใส่ลงไปได้นะ
เสร็จแล้ว หน้าตาออกมาไม่เลวเลยเห็นมั้ย แต่เหมือนคาเรมากกว่า (เพราะใส่น้ำน้อยเลยข้นๆ)
เดชะบุญ!!! ลืมหุงข้าวค่ะ โอ๊ยยยย อยากจิร้องไห้ จะเดินไปซื้อข้าวแพคที่gs25 ก็ขี้เกียจ สุดท้ายเลยต้มเส้นสปาเก็ตตี้
ออกมาเป็นพาสต้าราดแกงแทน
แต่งด้วยแอพฯ เพื่อความเป็นฮิปสเตอร์(เหรอ??) อัพไอจีอวดแม่ที่บ้าน
รสชาติก็พอไปวัดไปวาได้อยู่ ถึงจะไม่อร่อยมาก แต่ก็แก้เหงาได้ดีทีเดียว
พอตอนเย็น หุงข้าวเรียวร้อยแล้ว แกงที่เหลืออีกครึ่งดูเหมือนจะข้นขึ้นมา(น่าจะเป็นเพราะฟักทอง) เลยตัดสินใจทำออมเล็ตลาวาใส่มอสซาเรลล่าชีสโปะข้าวแล้วราดด้วยแกงค่ะ (ชีสแอบเยิ้มออกมาด้วย)
ผลประกฏว่า มันดีมากกกกกกกกกกก แกงข้นๆ มันๆ แต่รสจัด มีผักหวานๆ และไส้กรอกเค็มๆ กินกับไข่นุ่มๆ รสอ่อนข้างในมีชีสกับข้าวสวยร้อนๆ มันดีงามมากกกก จานนี้เป็นฟิวชั่นในเมนูร้านได้เลยนะ(คิดเองเออเอง) ตอนกินกับพาสต้าก็ถือว่าโอเคแล้ว (อาจจะเป็นที่เส้น ถ้าใช้ลิงกวินี่น่าจะดีกว่าพาสต้า) แต่พอกินกับข้าวกับไข่ มันใช่อ่ะ มันคือคาเรแบบกลิ่นไทยเลย เลิฟฟฟฟ เมนูนี้มีซ้ำแน่ๆ กินกับสลัดผักกาดแก้วมะเขือเทศเปรี้ยวๆ ตัดเลี่ยนนะ จะงดงามมาก ขอแนะนำเลย
ยังไงลองไปทำกินกันดูนะคะ^^